บทย่อ
ช่วงนี้สงสัยดวงจะตก ก็จะอะไรล่ะ ฉันดันไปทำรถที่จะลงแข่งของ’เซน’เป็นรอยยาวเกือบครึ่งคัน ซวยชิบ! ยิ่งช่วงนี้จนๆอยู่นะเพ้นท์โว้ยย"เฮ้ย! ใจเย็นเว้ยไอ้เซน!" เสียงจากปากเพื่อนของเขาไม่สามารถหยุดผู้ชายที่กำลังบีบข้อมือแถมฉุดกระชากลากถูฉันเหมือนผักในตลาดสดนี่ได้สักนิ"นี่! ฉันเจ็บ!" ฉันทนความเจ็บไม่ไหวจนต้องตะโกนบอกเขาแข่งกับเสียงท่อและเสียงล้อรถในสนามแข่งรถ"หุบปาก!" เสียงทุ้มต่ำที่ตะคอกกลับมาทำให้ฉันสะดุ้งตัวโยนทันที ทำไมต้องตะคอกด้วย ตกใจหมดเลย!
บทนำ
@โต๊ะใต้ตึกคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยS
“นี่เพ้นท์ แกจะไม่ไปจริงเหรอวะ” เสียงเพื่อนสาวนามว่าขวัญกำลังนั่งทำหน้ามุ่ยเอาหัวมาถูแขนฉันอย่างกับแมว
ผลั่ก!
“ไม่ไป“ ฉันเอามือผลักหัวยัยขวัญออก ถูจนเลขจะขึ้นอยู่แล้วเหอะ
”พี่เจดูมันดิ นี่ขวัญชวนไปตั้งแต่เข้าเรียนจนนี่หมดคาบนานแล้วมันยังไม่ยอมไปด้วยเลยอะ!” ขวัญหันไปฟ้องผู้ชายหุ่นสมส่วน ผิวขาว หน้าหล่อตี๋ข้างๆ
”แกไปเป็นเพื่อนมันซะก็จบๆละเพ้นท์” พี่เจหันมาบอกฉันที่กำลังเก็บรายงานใส่กระเป๋าผ้าใบโปรด
”พี่เจก็ไปกับมันสิ”
“เออใช่! ไปดูผู้ชายหุ่นล่ำๆไงพี่ สนามนี้งานดีทั้งนั้นบอกเลย” ขวัญหันไปเกาะแขนพี่เจเขย่า ลืมบอกไปพี่เจเป็นเกร์น่ะ
”โอ้ยยย ฉันก็อยากไปอยู่หรอก แต่รายงานยังไม่เสร็จเลยเว้ย“
“แกจะอยากไปทำไมนักหนาวะ” ฉันหันไปถามขวัญที่กำลังเขย่าแขนพี่เจไม่เลิก
”เห็นผู้หญิงในห้องคุยกันเมื่อวานอะ บอกมีผู้ชายหล่อเต็มเลย”
“แรด!” ขวัญพูดยังไม่ทันจบ พี่เจก็พูดแทรกทันที
“ไรอะ เจ้ไม่ชอบผู้ชายหล่อๆล่ำๆกล้ามโตๆรึไง”
“เจ้อะไร เดี๋ยวตบปาก” พี่เจยกมือทำท่าจะตีปากขวัญจริงๆ ยัยขวัญมันเลยเอามือปิดปากไว้
”แกจะไปดูแค่ผู้ชายเนี่ยนะ มหาลัยก็มีมั้ง”
“มันไม่เหมือนกันเว้ยเพ้นท์ แกต้องไปสัมผัส”
”สัมผัสบ้าไรของแก”
“สัมผัสบรรยากาศไง ตื่นเต้นดีออก ฉันเคยไปกับเพื่อนแถวบ้านแต่วันนี้มันไม่ว่าง เลยต้องชวนแกเนี่ยไง” แล้วขวัญก็ส่งสายตาอ้อนวอนน่าสงสารเหมือนหมาน้อยมาให้
“เออ ไปก็ไป” ก็อยากจะรู้เหมือนกันไอ้ที่บอกตื่นเต้นนี่มันจะเป็นแบบไหน
@สนามแข็งรถ XX
บรื้น บรื้นน บรื้นนนน!
ฉันยืนหน้ามุ่ยคิ้วขมวดอยู่ข้างยัยขวัญที่กำลังส่งเสียงเชียร์อย่างเมามัน รถยนต์หรูหลายคันกำลังแซงกันไปมาบนสนามด้านล่าง มีเหล็กกั้นระหว่างสนามกับที่นั่งคนดูเพื่อความปลอดภัย คนเยอะแยะเต็มไปหมด หายใจลำบากมากเว้ย
“ฉันไปเข้าห้องน้ำแปบนึง” ฉันสะกิดไหล่ขวัญ มันหันมาพยักหน้าแล้วหันกลับไปเชียร์ต่อ พอเดินออกจากพื้นที่แออัดได้ฉันก็มองหาป้ายทางไปห้องน้ำ แต่มันอยู่ตรงไหนวะ ลืมถามยัยขวัญอีก แล้วพอเดินตรงมาเรื่อยๆก็เป็นทางแยกซ้ายขวา
“ทางไหนวะเนี่ย“ บ่นอยู่คนเดียวก็คิดว่าน่าจะซ้าย เพราะขวาร้ายซ้ายดี
ปึก! ครืดดด
”หืออ?” เหมือนได้ยินเสียงแปลกๆฉันเลยหันไปมองทางซ้ายมือตัวเอง เชี่ยยย! ทันทีที่เห็นกิ่งไม้ไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่ท่าจะแข็งที่มาปักคาอยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุมขูดกับรถหรูสีดำยี่ห้ออะไรไม่รู้ รู้แค่ว่าน่าจะแพงหูฉีก ฉันก็ได้แต่อ้าปากค้างตกตะลึงด่าตัวเองในใจ
“เฮ้ย!“ ยังไม่ทันได้สติกลับคืนมาก็มีผู้ชายหน้าตาดี สูงขาวผมสีน้ำตาลอ่อน ท่าทางมีฐานะ ยืนตกใจอยู่ข้างหลังฉันจ้องรอยขูดตรงข้างรถหรูที่ฉันเป็นคนสร้างมันกับมือ ฉันยืนเหงื่อตกเลยทีเดียว
”เอ่อ คะ..คือ” เกิดมาเพิ่งเคยติดอ่างก็คราวนี้
”เธอตายแน่” นายคนหัวน้ำตาลอ่อนหันมามองหน้าฉันเลิ่กลัก
”ให้ไปเอารถ นานจังวะไอ้เต“ แล้วก็มีผู้ชายหล่อมาก มากจริงๆ ผิวขาวแถมยังหุ่นดีมีกล้ามเนื้อแน่นๆ นี่แค่ใส่เสื้อยืดสีดำยังรู้เลยว่ากล้ามแน่นขนาดไหน นายหัวน้ำตาลอ่อนที่เพิ่งรู้ว่าน่าจะชื่อเตหันไปหาคนที่มาใหม่ทันที
“พะ..พี่เซน” เตก็ติดอ่างเหมือนฉันทันที นี่อย่าบอกนะว่ารถที่ฉันสร้างรอยแผลไว้นี่รถเขา
“อะไรวะ“
“พี่เซน” ฉันยืนมองเตชี้นิ้วไปที่รถหรูด้วยดวงตาที่แทบถลน
“...” คนที่ชื่อเซนหันไปมองตามช้าๆ พอเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นหน้าตาก็ตึงขึ้นมาทันที บรรยากาศรอบตัวเขาทำไมมันน่าขนลุกจังวะ
“ผมไม่ได้ทำนะพี่ ยัยนี่ทำ” แล้วนิ้วชี้ก็ย้ายมาที่หน้าฉัน แอบสะดุ้งเล็กน้อย พอตั้งสติได้อีกครั้งฉันก็ยกมือขึ้นพนมกลางอกทันที
“ขอ..ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“เต” เขาเรียกชื่ออีกคนแต่กลับจ้องหน้าฉันอยู่อย่างนั้น สายตาที่มองมาเหมือนจะหั่นฉันไปให้น้องคิตตี้ตัวเงินตัวทองที่มหาลัยกินเลยอะ ขนลุกจนต้องเอามือขึ้นมาลูบแขนตัวเอง
“คะ..ครับพี่เซน”
“มึงเอารถไปไว้อู่”
”โอเคพี่”เตถอยรถออกไปด้วยความรวดเร็ว เหลือเพียงฉันที่กำลังยืนลูบแขนตัวเองป้อยๆ
พรึ่บ!
“นะ..นายจะพาฉันไปไหน” ฉันถามทันทีที่เขาเดินมาจับข้อมือแล้วลากฉันให้เดินตามไปด้วย ใจฉันเต้นตุบๆเพราะความตื่นตะหนกตกใจกลัวโดนเอาไปฆ่าหมกป่า
“เดี๋ยวรู้เอง” พอมาถึงจุดที่ใช้สำหรับเช็กรถก่อนแข่งเขาก็ปล่อยข้อมือฉันทันที
“พาฉันมาที่นี่ทำไม”
“ไอ้คินยืมรถลงแข่งหน่อย” เขาไม่ตอบแต่หันไปพูดกับผู้ชายอีกคนที่กำลังตรวจเช็ครถอีกคันด้านข้างแทน
“แล้วรถมึงล่ะวะ เฮ้ย! แล้วคนสวยนี่ใคร” คนที่ชื่อคินเงยหน้าจากฝากระโปรงรถมาเจอฉันยืนอยู่ข้างๆเซนพอดี สนามนี้มันงานดีสมกับที่ยัยขวัญบอกจริงๆนั่นแหละ คัดหน้าตาหรือไงก็ไม่รู้
”รถอยู่อู่ส่วนยัยนี่ไม่รู้จัก แต่เป็นคนทำรถกูเป็นรอย”
“เฮ้ยยย จริงดิ คันนั้นมึงหวงมากไม่ใช่รึไง”
”เออ“
“แต่เป็นรอยก็ลงแข่งได้มั้ยวะ”
“แต่กูเปลี่ยนใจ เอารถมึงนี่แหละ”
“อะไรวะ เออๆ”
พอเซนรับกุญแจรถจากคินที่โยนมาได้ เขาก็ดึงข้อมือฉันแล้วลากให้เดินตามไปอีก
“เฮ้ย! ใจเย็นเว้ยไอ้เซน!” เสียงจากปากเพื่อนของเขาไม่สามารถหยุดผู้ชายที่กำลังบีบข้อมือแถมฉุดกระชากลากถูฉันเหมือนผักในตลาดสดนี่ได้
”นี่! ฉันเจ็บ!” ฉันทนความเจ็บไม่ไหวจนต้องตะโกนบอกเขาแข่งกับเสียงท่อและเสียงล้อรถในสนามแข่ง
”หุบปาก!” เสียงแหบทุ้มที่ตะคอกกลับมาทำให้ฉันสะดุ้งตัวโยน แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือเชิดหน้าใส่เล็กน้อย
”นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”
“สิทธิของเจ้าหนี้ไง ทำรถคนอื่นเสียหายจะไม่รับผิดชอบรึไง” เจอคำพูดแทงใจดำฉันถึงกับนิ่งไป
”ก็..ก็บอกค่าเสียหายมาสิ“
“บอกแน่ แต่ตอนนี้เธอต้องขึ้นไปนั่งบนรถ” เซนปล่อยข้อมือแล้วดันให้ตัวฉันเข้าไปนั่งข้างคนขับและพอรับรู้ได้ว่ารถคันนี้มันใช้สำหรับแข่งตาฉันก็เบิกกว้างทันที
“ฉันไม่นั่ง“ ฉันกำลังจะเปิดประตูออก เขาก็เดินมานั่งฝั่งคนขับพอดี
“ปอดแหกเหรอ” คำดูถูกที่พ่นออกมาจากปากของเซนทำให้ฉันชะงักเท้าที่กำลังก้าวออกจากรถ หัวเดือดปุดๆ นี่ท้าคนอย่างเพ้นท์เหรอยะ!
ปัง!
“เหยียบให้มิดไปเลย!” ปิดประตูรถเสร็จก็หันหน้าไปบอกเขาเสียงดัง
“หึ แล้วจะคอยดู”