PROLOGUE (1)
Rrrr Rrrr
เสียงเรียกเข้าจากสมาร์ตโฟนแผดร้อง ผ้าถูกหยิบขึ้นมาเช็ดมือที่เปื้อนไปด้วยน้ำมันเครื่อง ชายหนุ่มหยิบสมาร์ตโฟนมากดรับสาย “ครับผมคุณแอมป์”
คนที่โทรเข้ามาคือว่าที่เจ้าสาวที่เขารักมาก ๆ ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก เปลี่ยนสถานะเป็นแฟนตอนมัธยมต้น เป็นแฟนกันมา 8 ปี อีกไม่กี่วันทั้งคู่จะเปลี่ยนสถานะเป็นสามีภรรยาที่พร้อมจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
(ญาติเจ้าของเบอร์นี้ใช่ไหมครับ) ทว่าเสียงที่ส่งมาเป็นผู้ชาย และเป็นเสียงที่ชายหนุ่มไม่คุ้นเคยเอาซะเลย
“ครับ นั่นใครพูด”
(เจ้าหน้าที่กู้ภัยนะครับ ตอนนี้เจ้าของเครื่องประสบอุบัติเหตุถูกรถชนอาการสาหัสที่ถนนสุขุมวิท เยื้องร้านเบเกอรี่)
“อะไรนะครับ” ชายหนุ่มหูดับชั่วขณะ เอาสมาร์ตโฟนออกจากข้างใบหูมาดูว่าใช่เบอร์ของคนรักจริงหรือไม่
(เช็กจากใบขับขี่นางสาวอาริสา มั่นคงธรรม ประสบอุบัติเหตุถนนสุขุมวิท เยื้องร้านเบเกอรี่เจ้าเอย รบกวนญาติรีบมาด้วยนะครับ)
ตุบ! สมาร์ตโฟนราคาสามหมื่นหล่นลงพื้น ชายหนุ่มตั้งสติก่อนจะคว้ากุญแจรถมอเตอร์ไซค์แล้ววิ่งมาขี่รถออกไปยังที่เกิดเหตุ ความว้าวุ่นเกิดขึ้นภายในใจ เขายังไม่คิดจะเชื่อเรื่องที่ได้ยินแม้คนที่โทรเข้ามาจะเอ่ยชื่อคนรักของเขา ภาวนาขอให้ไม่ใช่เรื่องจริง ขอให้เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด
ไม่กี่นาทีต่อมาชายหนุ่มเข้าใกล้จุดเกิดเหตุ การเกิดอุบัติเหตุทำให้การจราจรติดขัด รถที่ติดพร้อมเสียงรถกู้ภัยที่ดังทำให้ใจแทบหยุดเต้น เขาฝ่าดงรถติดด้วยการบิดมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปยังที่เกิดเหตุ จอดรถเรียบทางได้เขารีบลงจากรถ เดินเข้ามาในที่เกิดเหตุ รถของว่าที่เจ้าสาวอยู่ในที่เกิดเหตุ สภาพรถมอเตอร์ไซค์พังแทบเหลือแต่ซาก การ์ดแต่งงานกระจายเต็มท้องถนน ร่างที่กำลังโดนคนรุมล้อมอยู่ตรงนั้น ในระยะสายตาของเขาเขาจำได้ดีว่าเธอคือคนที่เขารักสุดหัวใจ เลือดสีแดงเข้มไหลเป็นทางตรงพื้นถนน กู้ภัยคนหนึ่งกำลังกดปั๊มที่หน้าอกของเธอ อีกคนกำลังใช้อุปกรณ์กรีดที่ลำคอเพื่อสอดท่อหายใจ ใบหน้าของเธอที่นอนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อนมีเลือดเปรอะเปื้อน เครื่องวัดชีพจรกำลังทำงาน กู้ภัยอีกคนหนึ่งกำลังรายงานเหตุการณ์ให้รถพยาบาลรับรู้พร้อมทั้งไลฟ์สดไปด้วย
“เราพยายามอย่างเต็มที่ทว่าตอนนี้ผู้บาดเจ็บไม่หายใจแล้วครับ รอแพทย์มายืนยันอีกครั้ง”
“หยุดปั๊มก่อน” กู้ภัยคนที่กำลังรายงานสถานการณ์สั่ง คนปั๊มหัวใจหยุดนิ่ง ทำให้เส้นที่เต้นขึ้นลงหน้าจอเครื่องวัดชีพจรกลายเป็นเส้นตรง “ครับ ไม่มีชีพจรแล้วนะครับ เราทำกันสุดความสามารถ แต่ผู้บาดเจ็บสาหัสมากจริง ๆ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ”
ชายหนุ่มที่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ถึงกับล้มลงกับพื้น ข้างกายของเขาคือการ์ดแต่งงานที่จะถึงวันงานในอีกสามอาทิตย์ เขาหยิบมันขึ้นมาดูพร้อมน้ำตาของความเสียใจ นานหลายนาทีที่ชายหนุ่มนั่งมองเธอที่ถูกเจ้าหน้าที่จัดแจงร่างไร้ลมหายใจ โดยที่เขาถูกสั่งห้ามเข้าใกล้ กระทั่งแพทย์มายืนยันการเสียชีวิต ผ้าขาวคลุมที่ร่างของว่าที่เจ้าสาวสุดที่รัก เขาถึงได้เดินเข้าไปหาร่างที่ไร้ลมหายใจ
เขาพาหัวใจที่แหลกสลายพร้อมมือสั่นเทาค่อย ๆ ขยับเปิดผ้าขาวออกจากใบหน้า เป็นเธอ เป็นเธอที่เขารักมากจริง ๆ
“แอมป์... แอมป์อย่าทิ้งเอิ๊กไปแบบนี้ดิ ไหนว่าเราจะไปฮันนีมูนที่ภาคเหนืออย่างที่แอมป์ฝันเอาไว้ไง ไหนว่าเราจะมีลูกด้วยกัน เลี้ยงลูกด้วยกัน ไหนแอมป์บอกเอิ๊กว่าลูกของของเราต้องเป็นเด็กที่น่ารักเราจะให้ความรักความอบอุ่นเขาอย่างเต็มที่ แล้วทำไมแอมป์มาทิ้งเอิ๊กไว้คนเดียว แล้วเอิ๊กจะทำยังไง จะ ทำ ยัง ไง แอมป์... เอิ๊กจะทำยังไง”
ชายหนุ่มร้องไห้โฮก่อนจะก้มลงกอดร่างไร้วิญญาณของว่าที่เจ้าสาวสุดที่รัก เขาร้องสะอื้นปานจะขาดใจตาย เรียกเธอเท่าไหร่เธอก็ไม่ขานรับ เธอไม่กลับมา ภาพครอบครัวสุขสันต์ที่ตั้งใจจะสร้างหายวับไปกับตา