เพื่อนพี่ชาย 02 แต่งงานสิ(2)
ฉันเม้มปากแน่นตั้งท่าจะร้องไห้ บ้าหรือไงกัน รักก็ไม่รัก ความรักเป็นความรู้สึกแบบไหนฉันก็ไม่รู้จักอะไรขนาดนั้น ทุกวันนี้ฉันยังสับสนกับความรู้สึกของความรักอยู่เลย จู่ ๆ จะมาให้ฉันแต่งงานกับคนที่ไม่มีหัวใจไว้รักใคร ฉันไม่เอาด้วยหรอก
“ก็ดี ในเมื่อมึงพูดมาแบบนี้ ก็ให้แม่มึงมาคุยที่บ้าน กูจะโทรบอกพ่อแม่กูก่อน” พี่เบนซ์ยิ้มร้าย รอยยิ้มแบบนี้ฉันไม่ชอบเห็นมันบนใบหน้าของพี่ชาย พี่เบนซ์เวลาใจดีก็ดีอยู่หรอก แต่เวลาร้ายฉันบอกตามตรงว่าไม่อยากเข้าใกล้
“อืม” พี่เอิ๊กตอบ นี่ไม่มีใครถามความสมัครใจฉันเลยหรือไง “แต่น้องยังเด็กอยู่ กูจะให้แม่มาขอหมั้นน้องก่อนได้ไหม น้องเรียนจบค่อยแต่ง”
ไม่เห็นจะมีประโยชน์ตรงไหนเลย เหลือแค่ปีเดียวฉันก็จบแล้วนะ เออถ้าเรียนต่อก็ว่าไปอย่าง เรียนไปเรื่อย ๆ จะได้ไม่ต้องแต่ง ไม่สิ นี่ไม่ใช่ทางแก้ ถ้าฉันเรียนไปเรื่อย ๆ ก็คงจะถูกจับแต่งแล้วก็เรียนต่อ
นี่มันวันอะไรของฉัน พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกหรือยังไง ทำไมถึงเจอเรื่องแบบนี้
“กูจะมั่นใจได้ยังไงว่าระหว่างนี้มึงจะไม่เลิกกับน้องกู”
“เอาหลักประกันคำว่าเพื่อนไง” พี่เอิ๊กตอบเสียงเรียบ เดินลงมาจากห้องนิ่งยังไงตอนนี้สีหน้าพี่เอิ๊กก็ยังนิ่งเหมือนเดิม
“หึ ก็ดี เพราะน้องกูเสียหายเต็ม ๆ กูรักน้องสาวกูแค่ไหนมึงน่าจะรู้ดี” พี่เบนซ์แสยะยิ้มแล้วหันมามองหน้าฉัน “ขึ้นไปนอนได้แล้ว”
“ไม่สิ เบลไม่เห็นด้วย พวกพี่พูดเองเออเองกันหมด น้ากลอยคะ” เป็นครั้งแรกที่ฉันขอร้องผู้หญิงคนนี้เลยนะ
“เบลเสียหายแบบนี้ การตัดสินใจแบบนี้ถูกต้องแล้ว นี่ถ้าน้าไม่แวะเข้ามาคงไม่เห็นว่ามีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น เรากับพี่คงพากันปิดเงียบ” เธอดูสะใจด้วยซ้ำที่ตัวฉันเสียหาย ไม่น่าขอความช่วยเหลือจากเธอเลย นี่ฉันหมดสิ้นหนทางจนคิดขอร้องผู้หญิงคนนี้ได้ไงนะ
“ก็พูดเกินไปครับน้ากลอย น้องสาวผมเสียหาย ยังไงซะผมก็ไม่ให้น้องเสียหายฟรีหรอก” บางทีฉันก็นึกถึงเหตุผลที่พี่เบนซ์พยายามให้ฉันแต่งกับพี่เอิ๊กได้แล้ว ถ้าน้ากลอยไม่พูดฉันที่ยังอึน ๆ คงจะนึกไม่ออก
“ก็ดี ถ้าจะถามหาคนผิดก็เธอนะเบนซ์ เท่าที่ฉันรู้มาเอิ๊กก็ไม่ได้คิดจะคบใครอยู่แล้ว นี่คงเมาแล้วพลาดน่ะสิ” สายตาดูแคลนของน้ากลอยมองเหยียดพี่เอิ๊ก ก็จริงอย่างที่น้ากลอยพูด ใครต่อใครต่างรู้เรื่องพี่เอิ๊กกันทั้งนั้น
“ตรงนี้ก็แล้วแต่น้ากลอยจะคิดครับ แต่ผมขอให้น้ารู้ไว้ว่าไม่ว่าต้นตอจะเป็นยังไง ผมก็พร้อมรับผิดชอบน้องเบลครับน้ากลอย น้าสบายใจได้เลยครับผมจะดูแลน้องเบลอย่างดี” พี่เอิ๊กพูดพร้อมใบหน้าเรียบเฉยอีกตามเคย
“ก็ดีที่ยังมีความเป็นสุภาพบุรุษพอ และความจริงควรแต่งไปเลยไม่ต้องหมั้นยื้อเวลา ยัยเบลเสียหายไปแล้ว วันข้างหน้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมาก็มีแต่ยัยเบลที่เสียกับเสีย”
“น้ากลอยคะ” อย่ามาเร่งรัดฉันนะ
“ทำไม น้าพูดผิดตรงไหน ไม่เชื่อก็รอถามพ่อเธอสิว่าคิดแบบเดียวกันไหม”
“เรื่องนั้นต้องพ่อกับแม่ตัดสินใจค่ะ น้ากลอยไม่ต้องมาตัดสินใจแทน”
“ยัยเบล” น้ากลอยไม่พอใจที่ฉันว่าเธอเป็นคนอื่น แต่เธอเป็นคนอื่นจริง ๆ นี่ ฉันไม่เคยมองเธอเป็นคนในครอบครัวและไม่คิดจะมองด้วย เธอมันคนเสแสร้ง
“ผมเห็นด้วยกับที่เบลพูด เรื่องนี้ให้พ่อแม่เราเป็นคนตัดสินใจดีกว่านะครับน้ากลอย” พี่เบนซ์พูดเสริม
“ดี ดีทั้งพี่ทั้งน้อง ฉันก็จะรายงานพ่อพวกเธอตามที่ฉันเห็นเหตุการณ์เหมือนกัน จะไม่ให้ขาดสักรายละเอียดเดียว”
“ตามสบายครับ ผมพร้อมรับผิดชอบน้องเบล และน้อมรับความผิดที่ทำ” ใช่ค่ะพี่เอิ๊ก มันผิดที่พี่เอิ๊กเลยนะ แต่ฉันก็ไม่ได้อยากให้พี่เอิ๊กมารับผิดชอบแบบนี้
“หึ หึ ก็โต ๆ กันแล้วนี่เนอะ ฉันมันคนนอกจะพูดอะไรได้” น้ากลอยตัดพ้อก่อนจะลุกเดินออกไป
“ดื้อไปนอน ที่เหลือพี่จัดการเอง”
“…” ฮึ่ม จัดการอะไรนี่มันเรื่องของฉันนะ ฉันควรมีส่วนรับรู้รับฟังและตัดสินใจทุกอย่างไม่ใช่เหรอ
“ไอ้ดื้อ!”
“ชิ” จ้องหน้าพี่เบนซ์ด้วยความโกรธก่อนจะตัดใจลุกขึ้นเดินหนีเข้าห้อง
เดินเข้ามาในห้องกลิ่นเหล้าที่มันคลุ้งยังฟุ้งอยู่เลย บนเตียงมีผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ที่มีคราบเลือดของฉันติดอยู่ เห็นภาพแล้วทำให้เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ผุด ผุด ผุดเข้ามาในหัว ฉันจึงดึงผ้าปูที่นอนออก เอาออก เอาออกไปซักให้หมดหรือไม่ก็ซื้อใหม่ไปเลยยิ่งดี
ให้ตายสิ จะเช้าอยู่แล้วฉันยังไม่ได้นอน และตอนนี้ก็นอนไม่หลับแล้วด้วย เกิดเรื่องขนาดนี้จะหลับได้ยังไง
การระบายอารมณ์ของฉันคือการสร้างแอคหลุมเอาไว้ด่าพี่ชายจอมบงการที่ชอบขู่ฉันอยู่ประจำ เอะอะอะไรก็ชอบขู่ว่าจะส่งไปอยู่กับแม่ถ้าหากฉันไม่อยู่ในโอวาท แต่ฉันที่ไม่อยากไปอยู่กับแม่และไม่อยากไปอยู่กับพ่อ ก็ต้องเลือกอยู่กับพี่ชายอยู่ดี สามสถานที่นี้ที่ที่น่าอยู่ก็คือที่บ้านนี้ หลังที่อยู่กับพี่ชายนี่แหละ อยู่กับพี่ชายสบายใจกว่าอยู่กับพ่อและแม่ อยู่กับพี่ไม่ต้องเป็นส่วนเกินของใคร
เชื่อเถอะว่าร้อยทั้งร้อยพอเพื่อนกลับไปหมดแล้วต้องขึ้นมาต่อว่าฉันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแน่ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่มาซักเอาความจริง ความจริงที่มันไม่มีประโยชน์ เพราะเขาได้ข้อสรุปก่อนจะฟังความจริง
ทว่าเมื่อลองคิดดูแล้วจะโทษพี่เอิ๊กอย่างเดียวก็ไม่ถูกเพราะถ้าเมื่อคืนนี้ฉันไม่เมาหรือเมาแล้วนอนกับเพื่อนที่หอ ถ้าหากฉันไม่ดึงดันจะกลับมานอนที่บ้านเพราะกลัวพี่ชายจะด่า เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
ต่อไปฉันจะเลิกแตะเหล้า แอลกอฮอล์ทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนไป