EP : 11
“โอเค เดี๋ยวกูไปทักสามผัวของกูก่อน ไม่แน่นะคะเดี๋ยวอีกสักพักกูคงไลน์ตามให้มึงขึ้นไปข้างบน ช่วงนี้ผัวแอลของกูยิ่งชอบเลี้ยงเหล้ากูเป็นพิเศษอยู่ด้วย อิอิ” อีแมนนี่บอกฉันแล้วก็ยิ้มร่าเดินกรีดกรายขึ้นไปที่ชั้น VIP ทันที เหอะ! อีตุ๊ด อยากรู้จังถ้าได้รู้ว่าไอ้หนึ่งในสามผัวมโนของมันทำเลวไว้กับฉันแค่ไหนอีแมนนี่จะทำหน้ายังไง
ตอนนี้ฉันเริ่มไม่สนุกแล้วเพราะแค่ได้ยินชื่อไอ้โฉดนั่นอารมณ์ในใจก็คุกรุ่นทันที แล้วดูตอนนี้อีตุ๊ดมันทิ้งให้ฉันนั่งกร่อยอยู่คนเดียวมาจะสิบนาทีแล้วเนี่ย แต่ก็ยังดีที่มีผู้ชายเดินมาขอชนแก้วอยู่บ่อย ๆ ดีค่ะ ไม่ได้ระริกระรี้เรื่องผู้ชายอะไรหรอกนะคะ แต่พักหลังมานี้ฉันแค่รู้สึกสนุกกับการบริหารเสน่ห์เป็นพิเศษ
“อีมิขา ไปค่ะ” หลังจากที่หนุ่มหล่อคนล่าสุดเดินจากไปเสียงพญาตุ๊ดก็ดังขึ้นพร้อมความสดใสของมัน
“ไปไหน?” ฉันตะโกนถามแข่งกับเสียงเพลงทันที อยู่ดี ๆ ก็มาบอกให้ไป ไปไหนก็ไม่รู้ ไปที่ชอบ ๆ รึไงวะ
“ไปข้างบนค่ะ เร็วเลยเพราะวันนี้ผัวแอลกูเลี้ยง อิอิ” อีแมนนี่บอกพร้อมกับดึงมือฉันให้เดินตามมันแต่ฉันฝืนตัวเอาไว้ก่อน ข้างบนก็หมายถึงโซน VIP ไง อย่าบอกนะว่าจะไปนั่งกับพวกนั้น ฉันก็นึกว่ามันพูดเล่นซะอีก
“ไม่เอา กูไม่อยากไป” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธทันที เรื่องอะไรจะไปล่ะในเมื่อมีไอ้บ้านั่นอยู่ด้วย แค่ชื่อยังไม่อยากได้ยินเลยขืนให้นั่งร่วมโต๊ะฉันได้สติแตกพอดีสิ
“ทำไม ฟรีนะมึง ไปเถอะชะนีขา” อีแมนนี่หันมากล่อม แต่อาจจะไม่ใช่กล่อมเพราะพอมันพูดจบมันก็ใช้แรงควายของมันดึงฉันให้เดินตามทันทีโดยที่ไม่ได้สนใจว่าฉันจะฝืนตัวไม่ให้เดินไปตามแรงลากของมันแค่ไหน
“หวัดดีมิลาน อู้หู! ช่วงนี้ฮอตขึ้นเยอะเลยนะ” ฉันเดินหน้าบึ้งมาตามแรงลากของอีแมนนี่ด้วยความจำยอม พอขึ้นมาก็เจอความมืดนั่นแหละ เวลานี้ในผับมันมืดเป็นปกติ แล้วก็มีเสียงของเควินที่ดูจะเป็นผู้ชายที่มนุษยสัมพันธ์ดีที่สุดในกลุ่มเอ่ยทักขึ้นฉันเลยต้องจำใจยิ้มตอบเพราะไม่อยากเสียมารยาท
“อื้อ หวัดดีวิน” ฉันทักทายตอบแล้วนั่งลงข้างอีแมน เควินนั่งอยู่ด้านซ้ายด้านขวาเป็นออสตินที่นั่งกดโทรศัพท์อยู่ ส่วนฝั่งตรงข้ามก็เป็นแอลฟ่าที่กำลังนั่งนัวกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ เหอะ! จะอ้วก!
“หวัดดีมิลาน” ออสตินเงยหน้าขึ้นทักฉันเลยยิ้มตอบ ก่อนที่จะนั่งเชิดหน้าไม่สนใจไอ้บ้านั่นที่เหลือบตามามองฉันนิดหน่อยแล้วก็หันไปสนใจผู้หญิงข้าง ๆ ต่อ เหอะ! หล่อตายแหละไอ้กร๊วก แล้วผู้หญิงคนนั้นก็หันมามองฉันบ้าง
“อ้าว! มิลานเองเหรอจ้ะ” ผู้หญิงคนนั้นทักทายฉันพร้อมรอยยิ้มสวยซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกค่ะ พี่ฝ้ายรุ่นพี่ที่คณะแล้วตอนนี้ก็พ่วงตำแหน่งแฟนใหม่ของแอลฟ่านี่ไง ตายจริงเรียกแฟนใหม่ไม่ได้สินะเพราะกับฉันเรายังไม่ได้เปิดตัว ไม่มีใครรู้ก็หมายความว่าฉันไม่เคยมีแฟนเป็นคนเลวอย่างเขา
“สวัสดีค่ะพี่ฝ้าย” ฉันจำใจยกมือไหว้ยัยพี่ฝ้าย ทั้งที่ใจจริงไม่ได้อยากไหว้เลยสักนิดเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องผู้ชายหรอกนะคะแต่เป็นเรื่องนิสัยมากกว่า กลุ่มยัยพี่ฝ้ายนี่แรงมากทำตัวไม่น่าเคารพสุด ๆ ฉันกับอีแมนนี่แอบเบ้ปากใส่บ่อย ๆ เวลาเจอที่คณะ แล้วกลุ่มยัยเจ้นี่ออกจะเขม่นกลุ่มฉันด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน สงสัยเพราะพวกฉันสวยกว่ามั้ง
“มาเที่ยวเหรอจ๊ะ พี่เห็นในไอจีมิลานอัพรูปคู่หนุ่มหล่อที่ไปเที่ยวยุโรปเขาเป็นใครเหรอแฟนมิลานรึเปล่า หล่อมาก” อยู่ ๆ ยัยพี่ฝ้ายก็ถามฉันแถมถามยาวด้วยสิ ไม่ได้เคยสนิทชิดเชื้อกันเลยสักนิดเจอปั๊บถามเรื่องส่วนตัวทันทีสมัยนี้แรงอย่างเดียวไม่ได้นะคะมันธรรมดาไปต้องสอดรู้สอดเห็นและไร้มารยาทด้วยถึงจะครบรส
“เปล่าค่ะ” ฉันตอบไปสั้น ๆ เพราะไม่อยากพูดจาสนทนาอะไรกับนางมากแต่เหมือนนางจะยังไม่พอใจในคำตอบแสนสั้นที่อธิบายได้เข้าใจชัดเจนแล้วว่าฉันกับพี่ธามไม่ใช่แฟนกัน
“อ้าวเหรอ เห็นถ่ายรูปไปเที่ยวด้วยกันทุกวันพี่ก็นึกว่าเป็นแฟนน้องมิลานซะอีก” อีเจ้ฝ้ายอะไรนี่เมื่อไหร่จะหยุดพูดหยุดถามเรื่องส่วนตัวของคนที่รู้จักกันกันแค่ผ่าน ๆ สักทีวะ แล้วดูท่าทางนางถามฉันไปแสดงความเป็นเจ้าของแอลฟ่าไป กลัวคนไม่รู้เหรอว่าได้เสียเป็นผัวเมียกันแล้วนั่งเบียดแทบจะสิง
“ก็กำลังดู ๆ กันอยู่น่ะค่ะ มิลค์ชอบศึกษาใจกันไปเรื่อย ๆ ไม่อยากคบใครง่าย ๆ อะไรที่มันได้มาง่าย ๆ มิลค์รู้สึกว่ามันไร้ค่า” ฉันตอบไปอย่างเหลืออด ไม่ชอบคุยกับผู้หญิงที่มีบุคลิกไม่จริงใจแบบนี้เลย แล้วก็เหมือนยัยเจ้นี่จะรู้ว่าฉันกระแนะกระแหนนางก็เลยจิกตาใส่ฉันเบา ๆ
#MILAN END
#ALPHA TALK
ผมนั่งฟังยัยงี่เง่าตอบฝ้ายด้วยความโมโห แม่งอยากลองดีกับผมรึไงวะถึงได้พูดแบบนั้น เลิกกับผมแค่เดือนเดียวก็ไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นสองต่อสองงั้นเหรอ ผมเพิ่งรู้ก็วันนี้ล่ะครับเพราะมิลานบล็อกผมทุกช่องทาง
อุตส่าห์เลี้ยงเหล้าแมนนี่บ่อย ๆ มอมจนเมาเพื่อจะหลอกถามเรื่องมิลานแต่ก็ไม่ค่อยสบโอกาสเพราะไอ้เควินกับไอ้ออสตินอยู่ด้วยทุกครั้ง พอวันนี้เห็นเธอมาเที่ยวใจผมแม่งเต้นจนแทบออกมากองอยู่ข้างนอก คิดถึงฉิบหาย คิดถึงจนอยากสลัดฝ้ายให้ออกไปไกล ๆ แล้วเข้าไปกอดเธอให้แน่นที่สุดเท่าที่ทำได้
“อู้ย~ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะพี่ฝ้าย ผู้มิลานงานดีเวอร์ โปรไฟล์ดีมาก~ ไม่นานค่ะรับรองเดี๋ยวก็เปิดตัว อิอิ” แมนนี่แม่งนั่งฉอเลาะกับไอ้เควินก็ดีอยู่แล้วเสือกมาชงทำไมวะ!
“จริงเหรอจ๊ะ ว่าแต่จะแซ่บเท่าแอลของพี่ได้รึเปล่า”
“อู้ย~ ผู้ชายมันมีดีแตกต่างกันไปค่าคุณพี่แต่รับรองไม่แพ้กันแน่นอนค่า งานดีเป๊ะเวอร์ค่ะ” แมนนี่ตอบฝ้ายมาทำให้ผมเริ่มโมโห ไอ้ห่านั่นมันเป็นใครวะ กล้ามายุ่งกับผู้หญิงของผมได้ไง
“อุ้ย! นั่นไงพูดถึงก็โทรมาเลย ไปค่ะลูกสาว ตรงโน้นเงียบไปรับสายว่าที่สามีเลยค่ะ” แมนนี่พูดขึ้นอีกหลังจากที่โทรศัพท์ของมิลานมีสายเข้า ส่วนยัยนั่นก็ยิ้มเขินให้แมนนี่แล้วก็เดินไปรับโทรศัพท์ทันทีโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่ามีสายตาของแฟนอย่างผมมองอยู่ มิลค์แม่ง!
“แอลเป็นอะไรอ่ะ ทำไมดูอารมณ์ไม่ค่อยดี” ฝ้ายที่นั่งยิ้มคุยกับแมนนี่แบบเฟค ๆ หันมามองผมแล้วก็ถาม แต่ผมไม่มีอารมณ์ตอบว่ะกำลังโมโห
“เปล่า” ผมตอบฝ้ายไปแล้วก็ยกเหล้าขึ้นกระดกอีกจนหมดแก้ว คงสงสัยใช่ไหมครับว่าทำไมผมไม่เรียกเธอว่าพี่ ไม่อยากเรียกหรอกครับ ได้กันแล้วให้มาเรียกพี่ผมรู้สึกว่าผมเป็นไก่อ่อนชอบกล
“อย่าดื่มหนักสิคะเดี๋ยวคืนนี้ต่อไม่ไหวน้า” ฝ้ายกระวิบข้างหูผมแต่ผมรู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร หึ! คนอย่างผมไม่มีทางเมาง่าย ๆ หรอกครับ ถ้าผมอยากเอาต่อให้กินเหล้าเพียวเป็นลิตรผมก็มีแรงเอาถึงเช้า แต่ถ้าไม่อยากต่อให้ยืนแก้ผ้าหรือนอนถ่างขาตรงหน้าผมก็ไม่เอา เหมือนตอนนี้ไงไม่อยากไม่มีอารมณ์อะไรทั้งนั้น
“วันนี้คงไม่ล่ะ” ผมตอบเธอไปอย่างไม่ใส่ใจทำให้ฝ้ายขมวดคิ้วทันที
“ทำไมล่ะ วันนี้เรานัดกันแล้วนะ หรือแอลเจอใครถูกใจแล้วจะควงไปสนุกต่อใช่ไหม” ฝ้ายถามด้วยความไม่พอใจ ยัยนี่จะเริ่มงี่เง่าแล้วใช่ไหมวะ ปกติผมไม่ควงคู่นอนนะครับแต่เห็นเธอไม่งี่เง่าผมก็เลยควงมาเที่ยวด้วยแค่นั้น เรามีข้อตกลงกันไว้ว่าจะควงเล่น ๆ นอนด้วยกันสนุก ๆ ไม่ผูกมัด ใครเจอคนที่ถูกใจก่อนก็ไปได้เลย
“อย่างี่เง่านะฝ้าย” ผมปรามเธอสั้น ๆ พร้อมด้วยแววตาที่บ่งบอกว่าผมไม่ชอบฝ้ายเลยปรับสีหน้าให้ดีขึ้น
“ขอโทษค่ะถ้างั้นผับปิดเราค่อยแยกกันเนอะ ฝ้ายยังอยากนั่งดื่มต่ออยู่เลย” ฝ้ายบอกผมพร้อมกับอ้อนแต่ผมไม่ได้สนใจการอ้อนของเธอหรอก แค่พูดง่าย ๆ เข้าใจอะไรง่าย ๆ ก็พอแล้ว
“อื้ม” ผมตอบไปแล้วก็หันไปสนใจกับเครื่องดื่มต่อ แล้วก็นั่งรอว่าเมื่อไหร่มิลานจะเดินกลับมาสักที คุยโทรศัพท์ห่าอะไรนักหนาวะนานฉิบหาย
“เดี๋ยวมานะ” ผมลุกขึ้นแล้วเอ่ยบอกทุกคนก่อนที่จะเดินออกมาทันที เดินมาตรงมุมหนึ่งที่เป็นทางไปบันไดหนีไฟเพราะมุมนี้จะไม่ค่อยมีเสียงเพลงดังรบกวน เวลาใครจะคุยกันหรือคุยโทรศัพท์จะชอบมาคุยตรงนี้ และยัยนั่นก็น่าจะมาตรงนี้เหมือนกัน
“ค่า ไว้พี่ธามกลับมาไทยมิลค์จะพามาเที่ยวนะคะ รับรองพี่ธามต้องชอบแน่นอนค่ะ” ผมนึกไว้แล้วไม่มีผิดว่ายัยนั่นต้องมาคุยโทรศัพท์ที่นี่ หึ! เสียงหวานเชียวนะ ว่าแต่ไอ้งั่งนั่นชื่อธามใช่ไหมอย่าให้กูเจอนะมึง
ผมเดินไปตามเสียงจนไปหยุดอยู่ใกล้เธอ มีเรื่องอยากคุยด้วยแล้วก็คุยกันนี้ให้รู้เรื่องไปเลยผมทนไม่ไหวแล้ว มิลานเองเหมือนจะรู้ตัวว่ามีคนยืนมองเธอเลยหันมามองแล้วพอเห็นว่าเป็นผมก็ก็จ้องหน้าผมนิ่ง
“ค่ะ ได้ค่ะพี่ธาม บายค่า” หึ! วางสายได้สักทีนะ หายหัวมาคุยกับไอ้ห่านี่แม่งเป็นสิบนาทีแล้ว
“...อ้อ พี่ธามคะ รีบกลับมานะคะ มิลค์อยากนอนกอดที่รักแล้ว คิดถึงกอดของพี่ธามที่สุดเลย~”