EP 5 : น้องหยาหมากระเป๋า
“ถ้านายมาโดนตัวฉันอีกนายโดนดีแน่ มีอะไรว่ามาเร็ว ๆ”
“หึ ๆๆ ดุจริง ๆ พี่ไม่ได้มีอะไรหรอกแค่จะบอกว่าตอนแรกพี่คิดจะขอโทษให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยทำอย่างอื่น แต่ไม่ยกโทษให้ก็ทำควบคู่กันไปเลยแล้วกัน เดี๋ยวพี่จะขอโทษไปด้วยจีบปั้นหยาไปด้วย จีบจนกว่าจะยกโทษให้พี่เลยครับ”
“โอ้โห~ คิดว่าฉันจะหลงคารมนายเหรอ ตีหน้าใสในใจซาตาน พูดจาแบบปกติในชีวิตนายเถอะขอร้องอย่าพยายามพูดให้ดูดีแบบนี้เลยฉันไม่อินหรอก” ปั้นหยาแสลงหูค่ะ น้ำเสียงอบอุ่นทำเอาท้องไส้ปั้นหยาปั่นป่วน พูดอีกทีจะวิ่งไปขี้ให้ดู
“โอเคครับโอเค เอาเป็นว่าไม่ให้ไปส่งก็ไม่เป็นไร แต่พี่พูดจริงนะว่าพี่จะจีบน้อง เตรียมใจตกหลุมรักพี่ให้ดีล่ะ...น้องสิ่งปลูกสร้าง ไปก่อนนะครับคนดี” ไอ้พี่กราฟพูดไปยิ้มอารมณ์ดีไปด้วยก่อนที่จะเดินเก๊กหล่อเอามือขวาล้วงกระเป๋าเดินผิวปากไปขึ้นรถ แถมยังตบท้ายด้วยการลดกระจกแล้วมองฉันพร้อมกับเอานิ้วชี้แตะขมับแล้วก็ปัดมันออกจากหน้า เออนั่นแหละซิสจะเข้าใจไหมว่ามันทำท่ายังไงก็ช่างซิสเถอะนะคะหยาอธิบายไม่ถูกเพราะตอนนี้สิ่งเดียวที่ติดอยู่ในใจก็คือไอ้พี่กราฟมันเรียกฉันว่า...น้องสิ่งปลูกสร้าง
...สิ่งปลูกสร้างพ่อง!
ชื่อฉันออกจะเก๋ ปั้นหยามาจากเรือนปั้นหยา มาเรียกซะเสียขนาดนี้อย่าให้เจออีกนะไอ้กร๊วก!
#PANHYA END
#GRAPH TALK
“ว่าไงครับมึง หน้าบูดฉิบหาย แล้วเป็นส้นตีนไรรถมึงโดนยึดแล้วเหรอวันนี้ถึงเปลี่ยนคัน”
“ยึดพ่อง! กูแค่ไม่อยากใช้” แค่เดินเข้ามาในคณะตอนสาย ๆ ของอีกวันก็เจอไอ้ฟรังซ์เพื่อนสนิทของผมทักทายด้วยน้ำเสียงกวนส้นตีน
แล้วกูก็ไม่มีอารมณ์ใช้ด้วยครับคำพูดปั้นหยาแม่งทำผมอารมณ์เสียทั้งวันจนพาลมาถึงวันนี้ Ferrari สีเหมือนขี้ ปากดีฉิบหายผู้หญิงอะไรวะแต่ละคำที่พูดออกมานี่โคตรขัดกับหน้าตา หน้าสวยปากร้ายน่าจับมาจูบให้ปากแตกสักทีจะได้เข็ดหลาบ
“กูก็นึกว่าโดนไฟแนนซ์ยึด เห็นเอามาขับได้แค่วันเดียวก็ไม่เอามาแล้ว”
“กูจะขับ Ferrari หรือขับรถพ่อมึงมันก็เรื่องของกูเถอะไอ้เชี่ยฟรังซ์”
“ปากหมาสัส ๆ ว่าแต่เมื่อวานกลับค่ำเชียวนะครับมึง”
“เสือก” ผมด่ามันกลับเพราะมันมาทำหน้าเหมือนรู้ทันผม
“ไม่เสือกได้ไงครับพี่กราฟไปจอดรถดักรอผู้หญิงขนาดนั้น ฮ่า ๆๆ”
“พูดมากไอ้เชี่ยฟรังซ์” ผมด่ามันพร้อมชูนิ้วกลางให้ รำคาญฉิบหายทำไมไม่เอาเวลาไปหลีผู้หญิงตามสันดานของมันวะ
“เอ้า! ไม่พูดมากได้ไงน้องปั้นหยาของกูเป็นผู้หญิงคนแรกในมหาลัยที่มึงหวังจับมาฟัดเลยนะครับ”
“จับมาฟัดส้นตีนอะไรยัยนั่นห่างไกลสเปคกู” ผมตอบไอ้ฟรังซ์ไปด้วยความรำคาญ หงุดหงิด ทุกสิ่งอย่างเพราะผมรำคาญคนพูดมาก ใครพูดมากกับผมผมจะอยากเตะปากขึ้นมาทันที
“ห่างไกลยังไงวะ สวยฉิบหาย สวยกว่าพวกนางแบบของมึงอีก หน้าตาน้องเขานี่ถ้าไม่บอกกูไม่มีทางคิดเลยนะครับว่าจะเรียนหมอ” เออสวยครับ หน้าไทย ๆ แต่มีความอินเตอร์เสียอย่างเดียว...
“หมากระเป๋าว่ะกูไม่ชอบ ปากอสรพิษด้วยผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้”
“ไอ้ควาย หมากระเป๋าเค้าเอาไว้เรียกไซต์มินิมาก ๆ น้องเขานี่น่าจะเกือบ 170 หมากระเป๋าตรงไหนของมึงไอ้ห่า”
“ต่ำกว่า 170 สำหรับกูคือหมากระเป๋า ควงไม่ลงว่ะ ขี้เกียจก้มหน้า” ผมยักคิ้วกวนส้นตีนให้มันแล้วก็เดินหนีไปหาข้าวกินทิ้งให้ไอ้ห่าฟรังซ์มันบ่นจิ๊จ๊ะส้นตีนอะไรของมันเรื่อยเปื่อยไปคนเดียว
“ไม่แดกเหรอมึง” ผมถือจานข้าวมาวางแล้วก็ถามมันที่นั่งเล่นโทรศัพท์
“แดก”
“รีบไปซื้อสิวะ อีก 10 นาทีขึ้นเรียนเดี๋ยวก็ไม่ทัน” ผมรำคาญไอ้ห่าฟรังซ์มาถึงก่อนแต่ลีลาไม่ยอมไปซื้อข้าว
“นี่ไงของกู” มันเงยหน้าแล้วก็พยักพเยิดหน้ามามาทางจานของผม เหอะ!
“ถุย ถุย ถุย!”
“โห่ไอ้ห่า กูไปซื้อเองก็ได้ไอ้ไร้น้ำใจ” หึ ๆๆ คิดจะมาเล่นกับกู กูรู้ทันสันดานมึงหมดแล้วครับ พอมันบอกว่าจานข้าวของผมเป็นของมันผมเลยแกล้งถุยน้ำลายใส่จาน มันไม่ได้ออกมาหรอกผมไม่ได้ซกมกขนาดนั้น แต่เห็นผมทำแบบนี้มันก็ไม่กล้ามากินแล้วครับ
“วันนี้มึงไปไหนไหมวะไอ้กราฟ” ตอนเย็นพอเรียนเสร็จผมกับไอ้ฟรังซ์ก็เดินลงมาที่ลานจอดรถ
“ไป” ผมตอบมันสั้น ๆ
“ไปไหนล่ะไอ้ห่า ตอบให้ครบมึงจะตายเหรอ”
“ไปหาหมอ”
“หมอหยา”
“เสือก” รู้ดีมากก็เอาคำนี้ไปเถอะมึง
“ฮ่า ๆๆ ถ้าไม่สนใจแล้วกูขอนะมึง อย่าไปทำอะไรน้องเขาก่อนล่ะ น้องเขาน่ารักเผื่อลองคบแล้วกูจะอยากหยุด”
“ฝันไปเถอะไอ้ควาย” ผมบอกมันแค่นั้นแล้วก็ก้าวขึ้นรถก่อนที่จะเหยียบรถใส่หน้ามันด้วยความหมั่นไส้
-19.30 น.-
“เลิกเรียนค่ำมากครับเลยคุณหมอ”
“...เฮ้อ! มาจองเวรจองกรรมอะไรถึงหน้าคณะ” แค่เห็นหน้าผมปั้นหยาก็ถอนหายใจแรง ๆ ใส่หน้าผมพร้อมคำถามตีแสกหน้า เกิดมาผมยังไม่เคยเจอผู้หญิงปากดีใส่เลยสักครั้งอยากโกรธแต่ให้อภัยได้นิดหน่อยเพราะผมไปทำตัวถ่อยใส่เธอก่อน แต่ถ้าบ่อย ๆ คงต้องสั่งสอนยัยเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่ให้เข็ดหลาบกันบ้าง
“จองเวรอะไรพี่มารับไปกินข้าวครับปั้นหยา” ปากดีมาเท่าไหร่ผมจะหน้ามึนกลับเท่านั้น จะว่าไปผมไม่เคยหน้ามึนใส่ใครเลยนะครับแต่เจอปั้นหยาหมากระเป๋าแล้วต้องยอม ขืนไม่หน้ามึนใส่ผมคงแพ้ตั้งแต่ยังไม่ก้าวขาลงจากรถ
“หือ~ มารับฉัน?” ปั้นหยาทำตาโตเท่าไข่ห่านแล้วก็เอานิ้วชี้ตัวเอง มันต้องโอเวอร์อะไรขนาดนั้นวะ
“มารับหมามั้งน้อง ไปเร็วพี่หิวแล้ว” อยากชื่อหยาให้ออกเสียงเพี้ยนเป็นหมาง่ายเองทำไมวะ ปกติผมไม่ได้ปากหมาแบบนี้หรอก ผมจะเงียบ ๆ มากกว่า ถึงในใจจะคิดอะไรถ่อย ๆ แต่ก็ไม่ค่อยอยากพูดกับใครมาก พูดมากบ้างแค่กับไอ้ฟรังซ์ แต่กับยัยเด็กปากดีนี่ไม่รู้ทำไมถึงห้ามปากไม่ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน สงสัยคงเป็นเพราะเด็กมันยั่วครับ เด็กมันวอนตีน
“โอ้โห~ เชิญไปรับหมาตัวเมียที่อื่นเถอะจ้ะพ่อคุณ” ปั้นหยาเบ้ปากกรอกตามองบนให้ผมแล้วก็หันหลังเดินหนี คนอย่างผมไม่เคยให้ผู้หญิงเดินหนีก่อนซะด้วยสิ แบบนี้ต้องโดน
หมับ!
“ว้าย! เฮ้ย ๆๆๆ” ร้องไปเถอะเอาให้ลั่นไปทั้งมหาลัยเลยอีหนู หึ ๆๆ
#GRAPH END
#PANHYA TALK
“ว้าย! เฮ้ย ๆๆๆ” ฉันเดินถอยหลังสับขาด้วยความเร็วจนแทบจะหงายหลังล้มก้นจ้ำเบ้า เพราะอะไรรู้ไหมคะ กำลังคิดว่าไอ้กร๊วกนี่กระชากข้อมือฉันให้เดินตามใช่ไหม หึ ๆๆ ผิด! หรือกำลังคิดว่าไอ้กร๊วกนี่ล็อกคอฉันแล้วลากใช่ไหม หึ ๆๆ ผิด! ผิดเหมือนเดิมเพราะเรื่องจริงคือไอ้พี่กราฟมันกระชากเป้ที่หลังฉันแล้วดึงต่างหาก เขาดึงเป้ฉันแล้วลากฉันให้เดินถอยหลังตามเขาไปขึ้นรถ!
...ไอ้พี่กราฟ ไอ้เลว ไอ้ระยำ ไอ้หล่อเลวระยำ!!!!!!!!!