เพื่อนสนิท6
“ไหนว่าจะค้างวะ” ดิ๊กมองหน้าฉัน ตอนนี้ฉันอยู่หอของน้ำขิง เวลาตอนนี้ก็ 20.30 น. เรามาทำโพรเจกต์เพื่อจบการศึกษา และตกลงกันไว้ว่าจะค้าง
แต่กลายเป็นฉันโดนข้อความขู่ว่า ‘อยากเอา’ ‘กลับบ้านกัน’ ฉันแกล้งทำเฉยไม่สนใจโนติที่หน้าจอ ข้อความที่สามจึงเด้งเข้ามา ‘อยากลองว่างั้น’
และนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฉันต้องอ้างกับเพื่อนว่าจะกลับบ้าน ซึ่งคนที่อาสาไปส่งก็คือไอ้อยากเอานั่นแหละค่ะ และกลับด้วยมอเตอร์ไซค์ของโม ตอนนี้โมมันก็เมาแล้ว ส่วนต่อแฟนของฉันเมาหลับไปเรียบร้อย
“ลืมบอกแม่ เอาไว้พรุ่งนี้แล้วกันนะ ยังไงวันนี้ก็ไม่ได้ทำต่ออยู่แล้ว” เล่นเมากันขนาดนี้ ยังไงก็ทำต่อไม่ได้ ยังดีที่เหลือเวลาอีกมากพอที่จะเถลไถลกันได้
“เออ ๆ ขี่รถดี ๆ อะไอ้นาว”
“เออ” นาวขานรับและเดินออกไปจากห้อง ฉันจึงเดินตามหลังนาว จะเข้าไปบอกน้ำขิงก็กลัวจะรบกวนนาง นางคุยกับแฟนอยู่ เดี๋ยวดิ๊กคงบอกแหละ
ระหว่างทางกลับบ้านฉันนั่งซ้อนท้าย และเราไม่ได้คุยอะไรกันเลย อย่างว่าแหละจะต้องคุยอะไรกัน ในเมื่อฉันรู้อยู่แล้วว่าจะเจอกับอะไร
ประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าเราจะถึงบ้านกัน ตลอดทางฉันเครียดมาก เครียดอะไรน่ะเหรอ ก็เรื่องที่ว่าจะนอนที่ไหนหลังจากที่เสียตัวให้นาวย่ำยีจนมันหนำใจ ในเมื่อบอกที่บ้านว่าทำโพรเจกต์ค้างที่หอเพื่อน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา นาวเลี้ยวรถเข้าจอดหน้าเซเว่นก่อนที่จะถึงบ้าน
“ไม่เข้า?” จอดรถได้ก็ถามฉัน ฉันไม่พูดเดินมานั่งที่เก้าอี้หน้าเซเว่น นาวมันก็เดินเข้าเซเว่นไป เข้าไปไม่นานนักก็เดินออกมา ฉันจึงเดินมาที่รถ เมื่อนาวขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ฉันจึงขึ้นบ้าง
แล้วไม่นานต่อจากนั้นก็ถึงบ้านนาว นาวเอารถเข้าทางหลังบ้าน และส่งสัญญาณให้ฉันเงียบ นาวคว้ามือของฉันไปจับและพาเดินขึ้นชั้นบน
“ไปอาบน้ำ” พอเราสองคนเข้ามาอยู่ในห้องได้แล้ว นาวก็ออกคำสั่งใส่ฉันพร้อมทั้งโยนผ้าเช็ดตัวมาคลุมหัว “เอาไม่ลง” ย้ำอีกครั้งด้วยคำพูดที่โคตรทุเรศ ที่ย้ำก็เพราะฉันยืนนิ่ง
และเมื่อนาวพูดแบบนี้มาฉันก็นั่งลงที่เก้าอี้ ดีซะอีก จะได้ไม่ต้องเอา “ถ้าให้กูพูดอีกรอบ มึงกับกูจะไปอยู่ในห้องน้ำด้วยกัน”
รอบนี้ฉันยอม เพราะไม่อยากจะอาบน้ำกับมัน คนอย่างมันไม่มีทางที่จะหยุดแค่อาบน้ำ
ฉันเข้าห้องน้ำ และอาบน้ำตามคำสั่งของนาว ยิ่งคิดว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ยิ่งเครียดจนอดที่จะร้องไห้ไม่ได้ ฉันเป็นแค่เด็กอายุ 18 ย่าง 19 เป็นแค่เด็กวัยรุ่นเท่านั้น เด็กวัยรุ่นที่ต้องพยายามอดทนต่อหน้าเพื่อน ต้องพยายามทำให้ทุกอย่างปกติทั้งที่ไม่มีอะไรปกติอีกต่อไป
นี่ฉันต้องอยู่ในสถานะนี้อีกนานแค่ไหนกันนะ
คงไม่นานหรอกมั้ง เดี๋ยวนาวมันก็เบื่อ ในเมื่อมันเป็นคนขี้เบื่อ และผู้หญิงของมันก็เยอะ ฉันคงต้องอดทนอดกลั้น และต่อหน้าเพื่อนต้องทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เดี๋ยวก็จบแล้ว อีกนิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น อดทนไว้หอม
“เสื้อผ้าวางที่เตียง” เมื่อฉันเปิดประตูห้องน้ำออกมา นาวมันเดินเข้าห้องน้ำต่อ โดยที่ดึงผ้าเช็ดตัวออกจากตัวฉัน มันน่าอายมากที่ฉันโป๊ต่อหน้ามัน แต่นาวมันไม่ได้สนใจฉัน เพราะตอนนี้นาวเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว
เสื้อผ้าที่ว่าคือชุดบอลของนาวนั่นแหละค่ะ ปัญหาคือฉันมีกางเกงในเสื้อชั้นในชุดเดียว แล้วคือฉันซักบิดหมาดไว้ในห้องน้ำ ลืมหยิบออกมาค่ะ
และที่บ้าไปกว่านั้น ไม่เข้าใจว่าซักทำไม ในเมื่อจะไปนอนไหนก็ยังไม่รู้เลย
หรือฉันจะโทรหาพี่แคล และพึ่งพาบ้านของเขาหลับนอนอีกสักคืนดีนะ คิดได้แบบนั้นฉันก็รีบใส่กางเกงบอลของนาว หลังจากที่ใส่เสื้อเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็มากดหาเฟซของพี่แคล เนื่องจากฉันไม่มีเบอร์ส่วนตัวของเธอ ฉันมีพี่แคลเป็นเพื่อนในเฟซ แต่จำไม่ได้ว่าเธอใช้ชื่อเฟซว่าอะไร ก็เลยต้องมาเลื่อนหา ดีที่ฉันไม่รับเพื่อนมั่วซั่ว รับเฉพาะคนที่รู้จัก เพื่อนในเฟซของฉันจึงมีแค่ 200 คนเท่านั้น
ในที่สุดฉันก็เจอ ฉันกดทักไปหาพี่แคล และต่อด้วยกดโทร แต่พี่แคลติดสายอื่นอยู่ ฉันกำลังจะกดโทรอีกรอบโทรศัพท์ก็โดนดึงออกไปจากมือของฉัน เงยหน้าขึ้นมองก็คือเจ้าของห้องไงคะ
นาววางโทรศัพท์ของฉันไว้ที่หัวเตียง จากนั้นก็ผลักฉันให้ล้มตัวนอนลงที่ฟูก และโน้มตัวเองลงมาคร่อมฉัน หอมแก้มฉันทั้งสองข้าง เริ่มไซ้ที่ซอกคอ มือสอดเข้ามาใต้เสื้อบีบที่หน้าอกของฉัน
“ที่ไอ้โมพูดเมื่อเช้าคือเรื่องจริง?” นาวมันเงยหน้าขึ้นมาถามฉัน พร้อมใบหน้าที่นิ่งขรึมไร้อารมณ์ความรู้สึก ฉันไม่ชอบจริง ๆ เดาทางไม่ถูก
“เรื่องอะไร”
“เฮียไฟ”
“อืม ไปค้างบ้านเขามา... อ๊ะ!” เมื่อฉันให้คำตอบนาวมันก็ก้มลงมากัดริมฝีปากของฉัน
“ตราบใดที่ยังเอากับกูอยู่ อย่าเที่ยวไปนอนกับใคร” พอได้ฟังฉันก็อึ้งไงคะ
คืออะไร? ทำไมดูถูกฉันแบบนี้ ไม่คิดจะถนอมน้ำใจฉันบ้างหรือไง
ฉันก็เพื่อนไหม
“พูดเหมือนไม่รู้จักกูเลย” ฉันตัดพ้อด้วยความน้อยใจ เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานเท่าไหร่ ทำไมถึงได้คิดแบบนี้กับฉัน คิดว่าฉันง่ายมากหรือไง
“ก็เคยคิดว่ารู้จักดี แต่พอรู้ว่ามึงรู้ทุกอย่างแต่ไม่คิดบอกกู แถมยังสมรู้ร่วมคิดอีก กูก็คิดได้ว่าที่ผ่านมากูคงรู้จักมึงไม่ดีพอ”
“มึงไม่เป็นคนกลางแบบกู มึงจะเข้าใจอะไร”
“กูไม่คิดหักหลังเพื่อนแล้วกัน”
“พอเถอะ พูดไปมึงก็ไม่คิดจะรับฟัง จะทำอะไรก็รีบทำ ถ้าไม่ทำก็ถอย กูจะได้กลับ” ป่วยการที่จะมาอธิบายให้คนที่ไม่คิดจะฟังเรา ในเมื่อเขาไม่คิดจะฟัง เพราะงั้นอย่าเสียเวลาเล่าจะดีที่สุด
“กลับไปนอนเอากับแฟนเก่ามึงอะนะ” นาวแสยะยิ้มเย้ยฉัน
“เกินไปนะนาว”
“น้อยไปด้วยหอม เอากับกูไม่พอหรือไง ถึงได้ถ่อไปนอนค้างกับแฟนเก่า เอากันมันส์เหมือนที่กูเอามึงมั้ยวะ ท่าไหนบ้าง คxยใหญ่เท่ากูมั้ย”
“กูเกลียดมึงนาว” คำพูดแดกดันทำให้ฉันเผลอลั่นคำนี้ออกไป
“กูก็เกลียดมึงหอม” หัวใจของฉันปวดหนึบทันทีที่ได้ยินคำพูดที่นาวสวนกลับมา น้ำตาของฉันเริ่มเอ่อคลอ “อย่ามาบีบน้ำตา กูไม่สงสารคนอย่างมึง เอาน้ำตาของมึงไปอ่อยไอ้ต่อกับแฟนเก่ามึงโน่น มารยามึงใช้ไม่ได้กับคนอย่างกู”
เพี้ยะ!
ฉันฟาดฝ่ามือลงที่ข้างแก้มของนาวเมื่อทนคำพูดดูถูกที่ออกจากปากของมันไม่ไหว
“หึ พูดความจริงทำเป็นรับไม่ได้” นาวมันแค่นขำและลุกออกจากตัวของฉัน ฉันเช็ดน้ำตาที่เอ่อล้น แต่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งไหล ฉันได้กลิ่นบุหรี่ และเสียงรินเหล้า อายุแค่นี้ติดเหล้าติดบุหรี่หนักเป็นว่าเล่น
นาวเดินกลับมาที่เตียงและดึงผ้าห่มที่อยู่ปลายเท้ามาห่มให้ฉันพร้อมทั้งออกคำสั่งที่ไม่น่าฟังสักนิด “อย่าคิดไปนอนเอากับใคร ถ้ายังเอากับกู ไม่ว่าจะไอ้ต่อหรือเฮียไฟหรือไอ้หน้าไหนก็ตาม รอกูเบื่อมึงก่อน แล้วจะไปถ่างขาให้ใครเอาก็เชิญ”
“งั้นก็รีบเอารีบเบื่อสิ กูจะได้ไปเอากับคนอื่นต่อ ลองร่านดูแบบผู้หญิงคนอื่นคงจะดี อื้อ...” เมื่อฉันพูดประชด นาวมันก็โน้มตัวลงมาปิดปากฉันด้วยการจูบ สอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากของฉันอย่างจาบจ้วง จูบฉันอย่างรุนแรง และดูดดึงริมฝีปากของฉันอย่างแรง
นาวไม่ใช่จูบแรก แต่ถ้าจูบแบบลึกซึ้งสอดแทรกแลกเปลี่ยนใบลิ้นนั้นนาวเป็นคนแรก
“หุบปากหมา ๆ แล้วหลับตานอนซะ อย่ามากวนประสาทให้กูอารมณ์เสียไปมากกว่านี้” ถอนจูบออกจากกันก็เอ่ยพ่นคำสั่งออกจากปากหมา ๆ ทันที
“ไม่นอน ถ้าไม่ทำก็ดีจะได้กลับ มันดึกแล้ว”
“มึงไม่ได้มีสิทธิ์เลือกนะหอม กูบอกให้นอนก็นอน อย่าพูดมาก เดี๋ยวกูก็พ่นควันใส่ปากแม่ง รำคาญ”
“เลว”
“ที่มึงทำเลวกว่านะหอม กูเชื่อใจมึงแค่ไหนคิดบ้างมั้ย”
“แล้วกูเชื่อใจมึงแค่ไหน ทำไมไม่ว่าตัวเองเลวบ้างที่มึงข่มขืนกู ถ่ายคลิปขู่กู ไม่เลวหรือไง”
“อยากทะเลาะว่างั้น?”
“พูดเหมือนตอนนี้เราดีกันเลยเนอะ”
“สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา”
“อะไร?”
“ลุกมากิน อย่ามาหาเรื่องทะเลาะ รำคาญ” นาวบ่นและเดินไปค้นถุงผ้าที่ได้มาตอนเข้าเซเว่น “มากิน จะได้เลิกอารมณ์เสีย” เอาของกินออกมาวางและหันมาสั่งฉัน
“ไม่กิน จะกลับบ้าน”
“หอม” มองหน้าฉันนิ่งมาก เหมือนพยายามใช้ความอดทน “มากินเร็ว ๆ อย่าให้พูดบ่อย”
สีหน้าบ่งบอกว่ารำคาญฉันมาก นาวเทเหล้าใส่แก้วแล้วกระดกดื่มรวดเดียว จากนั้นก็เดินเอาขวดเหล้าไปเก็บ เดินมานั่งลงที่พื้นห้องตรงที่เขาวางของกินเอาไว้ และก็ปรายตามามองฉัน
ฉันจึงต้องลุกขึ้นไปนั่งกินกับเขาด้วย
“นอนนี่นะ” เมื่อฉันตักสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาเข้าปากคำแรก นาวก็เอ่ยขึ้นลอย ๆ และตักของตัวเองกิน
ฉันไม่ได้ตอบกลับอะไรออกไป รีบกิน ๆ ให้หมด แล้วจากนั้นก็ขึ้นมานอนที่เตียงที่เดิม ไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรอยู่แล้ว และนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย
ฉันพยายามเลิกคิด พยายามข่มตาให้หลับ ซึ่งมันยากมากเชียวล่ะ
แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่เกินความสามารถของฉัน ในที่สุดฉันก็หลับ...