เพื่อนสนิท 8 (50%)
“ว่าไงแม่” นาวกดรับโทรศัพท์และกดเปิดสปีกเกอร์โฟน ฉันที่กำลังแต่งตัวต้องรีบอ้าปากพูดกับแม่ที่โทรเข้ามา
(นาวมันเข้ามาเอาเสื้อผ้า ไม่คิดจะกลับบ้านบ้างไง จะเสร็จเมื่อไหร่งานเอ็งน่ะ) นาวบอกแม่ว่าฉันค้างหอกี่วันกันเนี่ย ดูจากชุดแล้วหลายชุดอยู่นะ ยิ่งชุดนักศึกษานี่มาครบเลยอะ ฉันหลุบตามองนาว นาวชูนิ้วขึ้นมา 5 นิ้ว
“เสร็จก็กลับแหละแม่ ไม่อยากเดินทางบ่อยไง จะรีบทำรีบเสร็จแล้วกัน”
(เออ ถ้านาวหรือโมมันแวะบ้านก็บอกมันโทรเข้ามาหาแม่ก่อน แม่จะได้ทำกับข้าวไปให้ ไม่ต้องซื้อกินบ่อย ๆ มันเปลือง)
“จ้ะ ๆ เดี๋ยวบอกมันสองคนให้”
(เออ เอ็งก็ดูแลตัวเองดี ๆ ไปทำโพรเจกต์จบนะท่องไว้ด้วย ไม่ใช่ไปเที่ยว)
“จ้า จบแน่ ๆ จ้า”
(เออดี ๆ อ้อไอ้หัว) ดูเรียกฉันสิคะ ชื่อหัวหอมก็มาเรียกหัวเฉย ๆ เพราะหัวหอมมันยาวสำหรับแม่
“จ๋าแม่”
(ไอ้พี่หมาของเอ็งมันแวะเข้ามาที่บ้านเมื่อวานตอนเย็นแล้วถามหาเอ็ง เอ็งกลับไปคุยกับมันเหรอวะ ร้อยวันพันปีไม่เห็นมันจะโผล่หัวมา) พี่โคมไฟแวะเข้าไปหาแม่ทำไมนะ
จะมาทำไมไม่รู้ แต่อีกคน หึหึ ในลำคอแล้ว
“ก็เจอกันเลยคุยกันน่ะแม่ แล้วเขามาทำไมอะ”
(ไม่รู้เว้ย แม่บอกเอ็งไม่อยู่ มันก็เลยกลับ เห็นบอกว่าจะแวะมาใหม่)
“อ่อ จ้ะแม่”
(จะกลับไปคุยกันก็คิดดี ๆ เดี๋ยวมาร้องห่มร้องไห้ไม่เป็นอันทำอะไรอีก)
“โอ๊ยแม่ พูดเหมือนลูกสาวแม่สวยรึเกิน”
(เตือนไว้เว้ย เป็นห่วง เดี๋ยวจะมานั่งกินข้าวเคล้าน้ำตาอีก)
“จ้า ๆ งั้นแค่นี้นะแม่”
(เออ ดูแลตัวเอง)
“จ้า”
แม่วางสายไปแล้ว นาวจึงเอาโทรศัพท์มือถือของฉันไปกด
เพื่ออะไรไม่รู้ ไม่มีมารยาทเอาซะเลย ทั้งที่ต่อ ซึ่งเป็นแฟนของฉันยังไม่เคยมาทำอะไรแบบนี้
และเนื่องด้วยฉันไม่อยากจะทะเลาะ จึงปล่อยผ่านและแต่งตัวต่อให้เรียบร้อย
“คือไร?” จู่ ๆ ถามขึ้นมาขณะที่ฉันกำลังรวบผม
“อะไร?” บางทีนาวก็ควรพูดขยายความมากกว่านี้หน่อย ใช่ว่าฉันจะเข้าใจในสิ่งที่เขาอยากให้เข้าใจ
“เฮียไฟไปหามึงทำไม”
“อยู่ด้วยกันตลอดจะรู้มั้ย”
“ตอแหล”
“ไอ้นาว”
“เดือดทำไม พูดผิดตรงไหน ในเมื่อแบบนี้ไม่ได้เรียกอยู่ด้วยกันตลอด”
“แล้วจะเอาแบบไหนนาว มึงจะอะไรนักวะ สำหรับเรามันคืออะไรกันแน่ มึงพูดมาให้ชัดดิ๊ ที่มึงทำอยู่คืออะไร” ฉันยืนจ้องหน้าอย่างจริงจัง เริ่มจะปวดหัวกับนาวขึ้นทุกที ขนาดผ่านไปแค่ 2 วันเองนะคะ
“ไม่มีสถานะ รู้แค่อยากเอาต้องได้เอา ถ้าไม่อยากเอาแล้วก็ไปให้ไกล แค่นั้น” อืม เจ็บดี ความจริงคือไม่น่าถามแบบนี้ออกไปเลย ผิดที่ฉันถามออกไป
“งั้นกูก็จะคุยกับใครก็ได้”
“แล้วใครว่าอะไร อย่าพูดเหมือนสำคัญนักดิ รู้สึกเหมือนโดนประชดเลยว่ะ อยากคุยกับใครก็เชิญตามสบาย คุยได้ แต่อย่าเอา ถ้าอยากเอาคนอื่นมากนักก็รอกูเบื่อก่อน แล้วจะไปเอากับใครก็เชิญ”
“ไม่ต้องมาพูดหรอกว่ากูสำคัญตัวผิด เพราะกูรู้อยู่แล้วว่ากูไม่เคยสำคัญกับมึง รีบ ๆ เบื่อกูก็แล้วกัน เพราะมึงมันไม่เด็ดเลย กูอยากลองคนอื่น”
“อย่าชวนทะเลาะ” โยนโทรศัพท์มาให้ฉันพร้อมเสื้อกันหนาวสีเทา “เสื้อผ้าเอาไว้นี่ คืนนี้กลับมานอนบ้าน” ออกคำสั่งและเดินไปหยิบกุญแจรถ พร้อมกับเอาแซนวิชมายื่นให้ฉัน
“ไม่กิน”
“ดี จะได้ให้ไอ้โม่มันกิน” ชักแซนวิชกลับไปและคว้ามือของฉันเดินออกจากห้อง ไอ้โม่ที่ว่า หมายถึงหมาจรที่นาวเก็บมาเลี้ยง มันอ้วนมากเพราะถูกจับทำหมัน วัน ๆ มันก็กินและนอนอยู่ข้าง ๆ เฮียโอ