2/1 หักหลัง
Fun lover's paradise
อานนท์มาถึงผับพร้อมกับมะนาวในเวลาหนึ่งทุ่มตรง หลังจากลงจากรถส่งกุญแจให้พนักงานชายคนหนึ่งเอารถไปเก็บให้แล้ว น้องมะนาวก็ควงแขนเขาแล้วเดินเข้าไปข้างใน บรรยากาศภายในร้านยังคงเต็มไปด้วยแสงสีเสียงเหมือนอย่างทุกวัน ร้านนี้แบ่งออกเป็นสองโซน โซนด้านล่างจะคุมโทนสีแดงดำ เฟอร์นิเจอร์เกือบทั้งหมดจะเป็นสีแดงเพื่อให้ความรู้สึกร้อนแรงเร้าใจ เหมาะกับลูกค้าที่ชอบดื่มชอบเต้นได้ปลดปล่อยความเครียดกันตรงนี้ ส่วนโซนด้านบนชั้นสองจะใช้โทนสีฟ้าขาวให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้มานั่งเล่นสบายๆ นอกบ้านซะมากกว่า
ถ้าลองเปรียบเทียบดูก็จะรู้สึกเหมือนสวรรค์กับนรก แต่ถึงจะให้อารมณ์แตกต่างกันอย่างไร พอจับมารวมกันกลับลงตัวอย่างน่าประหลาด สมาชิกทุกคนก็ค่อนข้างพึงพอใจกับการตกแต่งร้านสไตล์นี้
ลูกค้าที่มาเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นลูกคนมีเงินทั้งนั้น ส่วนพวกคนทำงานก็จะเป็นระดับเจ้าของกิจการหรือไม่ก็มีตำแหน่งสูงในบริษัทใหญ่ เพราะค่าสมาชิกค่อนข้างแพง มีทั้งแบบรายเดือนและรายปี แต่ก็แลกมากับการบริการที่น่าประทับใจ และความเอาใจใส่ลูกค้าทุกคนอย่างทั่วถึง
อานนท์เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะประจำด้านในสุดของชั้นหนึ่ง ซึ่งวันนี้กลุ่มเขามานั่งรวมตัวกันครบทุกคน น้องมะนาวที่เห็นเพื่อนๆ ของเขานั่งคอยท่ากระดกเหล้ากันเหมือนน้ำเปล่าอยู่ก่อนแล้วก็ยกมือไหว้อย่างเรียบร้อยอ่อนหวาน จนพวกมันผิวปากเอ่ยปากแซวไม่หยุด โดยเฉพาะไอ้ตุลย์ตัวแสบที่แซวน้องเขาให้ได้เขินอายหน้าแดงก่ำ เอาแต่หลบหน้าซบอกเขาอย่างขอความช่วยเหลือ
“หยุดแซวแฟนกูได้แล้ว จะแดกไหมเหล้าเนี่ย หรือจะเอาตีนกู” เสียงแหบห้าวข่มขู่เสร็จเสร็จก็วกกลับมาปลอบแฟนสาวให้หายเขิน แต่ก็ยังมิวายได้ยินเสียงเห่าเสียงหอนของพวกมันดังอยู่ใกล้ๆ
อานนท์เงยหน้าตวัดสายตาดุดันมองพวกมันเรียงตัว ขยับปากพูดแบบไร้เสียงว่า ‘ถ้าพวกมึงยังไม่เงียบอีก กูจะกระทืบให้แหกปากร้องไม่ได้เลย’ เพียงเท่านั้นพวกมันก็เงียบเสียงลงรีบคว้าเหล้ามากระดกอึกๆ ให้ปากไม่ว่าเห่าหอนอีก
“เอ่อ...วันนี้น้องมะนาวแต่งตัวเซ็กซี่มากเลยนะ ปกติพี่ไม่เคยเห็นเราในลุคนี้ พอได้เห็นแล้วรู้สึกตกตะลึงมาก ไม่คิดว่าน้องมะนาวจะสวยหยาดเยิ้มได้ขนาดนี้” ตุลย์ที่เงียบได้ไม่ถึงห้านาทีก็พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาตรงๆ ไม่ใช่ว่าน้องมะนาวแต่งตัวแบบนี้แล้วมันไม่สวยไม่ดีหรอกนะ แต่มันค่อนข้างเปิดเผยเนื้อตัวไปหน่อย ขัดกับลุคที่ผ่านๆ มาของน้องเขา
นี่ไอ้นนท์มันไม่รู้สึกแปลกๆ บ้างเหรอ
“อย่างนั้นหรือคะ” น้ำเสียงเศร้าๆ ของมะนาวทำให้ดวงตาคมกริบดุจใบมีดของอานนท์ตวัดไปมองไอ้เพื่อนตัวดีอย่างเชือดเฉือน
ใช่ว่าเขาจะไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของน้องมะนาว แต่เลือกที่จะไม่พูดไม่ตักเตือนเพราะเห็นว่ามันไม่ได้ดูโป๊จนเกินไป ผู้ชายทุกคนก็อยากเห็นผู้หญิงแต่งตัวสวยๆ กันทั้งนั้น โดยเฉพาะกับแฟนตัวเอง
“อย่าไปเก็บคำพูดของมันมาใส่ใจเลย มาเที่ยวผับจะให้แต่งชุดแม่ชีมารึไง แบบนี้แหละดีแล้ว พี่ชอบ” เสียงแหบพร่ากระซิบข้างใบหูของแฟนสาวอย่างเจ้าเล่ห์พลางขยิบตาแพรวพราวส่งให้ยั่วเย้าคนหน้าเศร้าให้กลับมายิ้มเขิน ก่อนที่อานนท์จะแสร้งถอนหายใจเบาๆ เปรยขึ้นเสียงอ่อนโยน “แต่ถึงพี่จะชอบ พี่ก็ชอบที่จะได้เห็นเพียงคนเดียว น้องมะนาวเล่นใส่มาเที่ยวผับแบบนี้ อยากให้พี่หึงตายเหรอครับ”
“แล้วสำเร็จไหมคะ”
“อะไรสำเร็จครับ”
“ก็ที่ว่าหึงมะนาว...”
“อ้อ...หึงตายเลยครับ หึงจนอยากลากขึ้นห้องไปสำเร็จโทษเลยเนี่ย” ประโยคนี้อานนท์จงใจกระซิบบอกเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคนพร้อมกับลอบมองปฏิกิริยาคนข้างกายว่าจะมีท่าทีอย่างไร ก็เป็นเหมือนกับทุกที พอถูกเขาหยอกเย้าเข้าหน่อยก็เขินหลบหน้าหลบตาเขา ท่าทางน่ารักแบบนั้นทำเอาใจเขาสั่นไหว ชักเริ่มจะอยากทำตามที่พูดไว้แล้ว
“ไม่ได้ค่ะ พรุ่งนี้มะนาวมีสอบย่อย”
“เฮ้อ เสียดายจริงๆ มีของหวานมากองอยู่ตรงหน้าแต่กลับกลืนกินไม่ได้นี่ จะมีใครน่าสงสารได้เท่าพี่อีกไหม”
“พี่นนท์ไม่น่าสงสารหรอกค่ะ เพราะเดี๋ยวสอบเสร็จน้องมะนาวจะปลอบให้หายคิดถึง” มะนาวเคลื่อนริมฝีปากไปกระซิบข้างหูแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงหวานหยดปานน้ำผึ้ง ก่อนจะผละใบหน้าออกมาแล้วขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้คนถูกหยอดกลับนั่งกัดปากสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ สองมือกุมกันไว้แน่นราวกับจะห้ามปรามตัวเองไม่ให้เผลอทำตามใจอยาก
รู้ว่าถูกแกล้งก็ยังมีความหวังว่าจะได้แอ้มเนื้อหวานๆ ของน้องมะนาวให้หายคิดถึง ตลอดหนึ่งเดือนมานี้เขากับน้องมะนาวไม่ได้มีอะไรกันเลย เพราะน้องติดสอบบ่อย เขาเลยปล่อยให้อ่านหนังสือไป ถ้าเป็นไปได้วันนี้ก็อยากจะกกกอดน้องเขาบนเตียง แค่กอดไว้เฉยๆ ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาแล้ว
“กูว่าช่วงนี้น้องเขาขอตามมึงมาผับบ่อยขึ้นว่ะ มึงไม่รู้สึกแปลกๆ เหรอวะ”
“มึงยังไม่หยุดอีกเหรอวะไอ้ตุลย์ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ มึงสงสัยอะไรก็พูดมา อย่ามาพูดจากำกวมให้กูคิดเอง ขี้เกียจ”
“เออๆๆ มึงดูอย่างวันนี้ดิ น้องเขาเคยแต่งตัวแบบนั้นที่ไหนกันวะ แล้วเนี่ยน้องเขาขอตัวไปเข้าห้องน้ำแต่ละทีก็หายไปจะเป็นชั่วโมง จะขี้จะเหยี่ยวยังไงก็ไม่น่าจะนานขนาดนั้นเปล่าวะ”
“ไอ้เหี้ยตุลย์!! มึงพูดอะไรเกรงใจพวกกูที่นั่งอยู่ข้างๆ บ้าง จะแดกเหล้าให้หายเครียด ดันพูดซะกูกระเดือกเหล้าไม่ลง เวร!” ไอ้ฐิติกับไอ้ชยนว้ากใส่ไอ้ตุลย์ปากหมาพร้อมกันอย่างเคืองๆ แต่ถึงจะด่าจะว่ามันไปอย่างนั้นก็เห็นคว้าขวดเหล้ามากระดกดื่มอึกๆ ต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเอาคนถูกต่อว่าทำหน้าเอ๋อไปพักหนึ่ง ก่อนจะบ่นพึมพำเสียงเบาแล้วหันมามองหน้าเขาต่อ
“แล้วไง น้องเขาเป็นผู้หญิง อาจจะเสียเวลาเติมหน้าก็ได้”
“อย่าหลอกตัวเองไปหน่อยเลย ที่จริงมึงก็สงสัย กูดูออก”
ไอ้ห่านี่ก็รู้ทันกูจัง!
ใช่แล้วครับ ความจริงเขาก็สงสัยมาได้สักพักใหญ่แล้วว่าน้องมะนาวมีอะไรปิดบังเขารึเปล่า เพราะไม่ใช่แค่การแต่งตัวที่เปลี่ยนไป พฤติกรรมบางย่างที่แสดงออกในหลายต่อหลายครั้งก็ชวนให้เขาเกิดความระแวง เหมือนกับวันนี้...
ทั้งๆ ที่มีสอบพรุ่งนี้แต่กลับขอตามเขามาเที่ยวผับ มันดูขัดแย้งกับความเป็นจริง