Secret 05 ขอโทษนะ
“บี๋ยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม”
“อืม” ฉันขานรับขณะที่นอนคว่ำอยู่บนเตียง ร่างกายไร้เสื้อผ้าเพราะก่อนหน้านี้เราทำเรื่องอย่างว่าบนเตียงด้วยกัน อาซานกำลังม้วนเส้นผมฉันเล่น
“เค้าจองร้านอาหารไว้แล้ว ไปกินข้าวกันนะ”
“…” เกิดคำถามในใจก็คือจองไว้ไปกับฉันหรือไปกับใคร ถ้าไปกับฉันแสดงว่าเขารู้ว่าจะต้องจบลงตรงที่ฉันยินยอมอยู่แบบนี้เหมือนเดิม
“บี๋ร้านนี้บี๋ชอบมากเลยนะ จะไม่ไปกับเค้าเหรอครับ” คำตอบคาใจก็เผยออกมา เขารู้ว่าทุกอย่างจะต้องลงเอยแบบนี้ไง
“…อืม ไปสิเค้าหิวแล้ว” ฉันพลิกตัวนอนหงาย ไม่ได้หิวนะ แค่ไม่อยากทะเลาะกันอีกก็เวลาอยู่ด้วยกันน้อยแสนน้อย ถ้ามัวแต่โกรธเขาฉันจะเอาเวลาไหนตักตวงความสุขล่ะ
“ครับ แต่งตัวกัน” อาซานก้มลงมาจูบดูดดื่มที่ริมฝีปากอวบอิ่มแล้วลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า ฉันจึงลุกใส่เสื้อผ้าบ้าง
อาซานก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่เขาชัดเจนอยู่แล้วเขาเคยบอกและบอกอยู่บ่อย ๆ ถ้าไม่อยากเสียใจก็อย่ารักเขา ฉันเองที่ห้ามความรู้สึกไม่เป็นทำให้รักเขาจนหมดใจ
“กินเยอะ ๆ นะบี๋ ตัวเล็กลงเรื่อย ๆ แล้ว เรียนก็หนักเค้าห่วงบี๋นะ” อาซานตักมันกุ้งมาวางในจานข้าวฉัน
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้ม ยิ้มที่ไม่ได้เต็มใจยิ้ม ถ้าแคร์กันจริงมีเหรอที่จะปล่อยให้ฉันเสียใจเรื่องเขา บางทีก็อยากเป็นคนที่ไร้ความรู้สึก อยากเป็นของเล่นที่ทำหน้าที่ถูกเล่นอย่างเดียว
“คืนนี้ไปนอนบ้านแซนไหม”
“ทำไมอะ” ฉันไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะไปค้างบ้านญาติ ฉันแสร้งทำตัวสดใสขณะที่อารมณ์หม่นหมองไม่ได้บ่อย ๆ หรอกนะ
“คืนนี้เค้าไปค้างด้วย”
“ค้างด้วย?”
“เดี๋ยวตอนดึกเค้าแอบเข้าห้องนอนบี๋ไง”
“ไม่เอาหรอก”
“ทำไม บี๋ไม่อยากนอนค้างกับเค้าเหรอ”
“อยาก แต่ช่วงนี้ทุกคนต่างยุ่ง อารมณ์เค้าก็ยังไม่ปกติเค้าไม่อยากเผยพิรุธ”
“...”
“...”
“...เค้ารู้นะว่าบี๋ไม่มีความสุขกับสิ่งที่เค้าทำอยู่ บางทีเค้าก็คิดนะว่าถ้าเราไม่เริ่มตั้งแต่แรกบี๋ก็ไม่ต้องเจ็บปวด แต่บี๋... เราสองคนเริ่มไปแล้ว เค้ายังอยากให้บี๋อยู่กับเค้า อยู่แบบนี้ตลอดไป เค้ารู้ว่าเค้าเห็นแก่ตัว”
“ใช่ บี๋เห็นแก่ตัว” เห็นแก่ตัวมาก “แต่บี๋ไม่ได้บังคับให้เค้าอยู่สักหน่อย เค้าเลือกเป็นของเล่นของบี๋เพราะว่าเค้ายังไปไหนไม่ได้ ถ้าเค้าไปได้เมื่อไหร่มันก็คงจะดี”
ติดตรงที่รักเขามากกว่าตัวเองทำให้ต้องอยู่แบบนี้
“ไม่ให้ไปไหนหรอกน่า เค้าก็ไม่มีบี๋ไม่ได้เหมือนกัน” น่าขำที่พูดนิดเดียวใจฉันก็เต้นโครมคราม ตลกดี อยากให้ฉันอยู่ในชีวิตแต่ว่าไม่ได้อยากชัดเจนกับฉัน
“ถือว่าเรายังต้องการกันเคปะ” ฉันแสร้งยิ้มให้เรื่องที่เรากำลังคุยจบลง ก็ถ้าพูดคุยต่อไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนให้ความสัมพันธ์ของเราชัดเจนขึ้น ในเมื่อไม่มีความชัดเจนก็ไม่จำเป็นต้องพูดเพื่อย้ำความเจ็บปวดที่ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจ
ตอนนี้เรายังต้องการกันและกันฉันก็จะอยู่ตรงนี้ต่อเพราะว่าฉันเลิกกับเขาไม่ได้
“กินเสร็จไปเพนท์เฮ้าส์ก่อนนะ เค้ามีของจะให้บี๋” อาซานยิ้ม ยิ้มที่ทำใจฉันหวั่นไหว ทำไมถึงได้ชอบทุกอย่างที่เป็นเขาแบบนี้นะทั้งที่รู้ว่าเขาใจร้ายแต่ก็ยังรัก บางทีก็สงสัยนี่ฉันเข้าข่ายชอบให้ตัวเองเจ็บปวดหรือไง
“อะไร”
“ไปถึงเดี๋ยวรู้” แล้วเขาก็ยิ้มอีกรอบ
“ค่า ๆ งั้นเค้ารีบกินข้าวก่อนนะ”
“ไม่ต้องรีบ ค่อย ๆ กิน”
“อื้ม” อาหารที่ร้านเป็นอาหารโปรดที่ฉันชอบมาก แต่ว่าเรื่องที่ฉันเจอทำให้ฉันรู้สึกว่ารสชาติมันกร่อย ไม่เห็นอร่อยเลย
ทานอาหารเสร็จเรามาเพนท์เฮ้าส์ที่เราอยู่ด้วยกัน เข้ามาในห้องมันมีแค่กลิ่นของเราสองคน ฉันไม่เคยถามเขาว่าเคยพาใครมาที่นี่ไหม แต่เดาว่าเขาไม่พามาที่นี่แน่ คนอย่างเขามีที่พักหลายที่คงพาไปสักที่ซึ่งไม่น่าจะใช่ที่บ้านเขา บ้านเป็นพื้นที่ส่วนตัวนี่นาจะให้คนอื่นเข้าออกได้ยังไง เขาเองก็เป็นคนหวงพื้นที่ คนที่จะเข้าออกบ้านเขาได้มีแค่ญาติกันเท่านั้น ญาติยังไม่ค่อยอยากให้ไปเลย
“อะไร” ฉันเอ่ยถามหลังจากที่อาซานใส่สร้อยคอให้ เรียบหรูสวยดี
“สร้อยครับ เค้าสั่งทำมาให้บี๋ บี๋ชอบไหม” สร้อยเป็นรูปตัวเอส ถ้าเดาไม่ผิดเขาแค่อาศัยที่ชื่อเราเหมือนกัน ทำมาเพื่อให้ฉันรู้สึกดีขึ้น
“สวยดี” เหมือนเอามาจับจองให้รู้ว่าใครคือเจ้าของ นอกจากของเล่นฉันก็รับบทเป็นสัตว์เลี้ยงด้วยสินะ
“บี๋ใส่แล้วสวยมาก ๆ เลย เห็นไหมตัวเอสชื่อเค้าด้วย” ว่าแล้วเชียว อาซานมองผ่านกระจกเราสองคนสบตากันก่อนที่เขาจะนั่งซ้อนจากทางด้านหลังเกยคางที่ไหล่และกอดฉันไว้ เสียงทุ้มเอ่ย “เค้าคิดถึงบี๋ที่สุด”
“คิดถึงเหมือนกัน” คิดจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ทั้งที่รู้ว่าต้องใช้เขาร่วมกับคนอื่น รู้ว่าเขาคงทำแบบนี้กับอื่น เขาเอาใจคนอื่นเหมือนที่เอาใจฉัน เขาทำทุกอย่างกับคนอื่นเหมือนที่ทำกับฉัน
แต่ว่าทำไมยังรักเขามากขนาดนี้ เมื่อไหร่จะเลิกรักเขาเมื่อไหร่จะออกไปจากความสัมพันธ์ท็อกซิกได้สักที
“ร้องไห้อีกแล้ว” อาซานจับให้ฉันหันเข้าหาเขา ฉันมองหน้าเขาตรง ๆ อีกครั้ง ไม่สงสารฉันบ้างเลยหรือไง ทำไมถึงไม่มีแค่ฉันสักที
“ซนเหนื่อยจริง ๆ นะซาน ซนรู้ ซนรู้ว่าซนไม่ควรรักซาน ไม่ควรจริงจังกับความสัมพันธ์นี้ แต่หัวใจซนมันไม่ฟัง ซนรักซาน รักซานมากจริง ๆ ซาน... ซานมีแค่ซนไม่ได้เหรอ เราอยู่กันเงียบ ๆ ก็ได้ไม่ต้องเปิดตัวซนเลย แต่ขอแค่ซานมีแค่ซนนะ”
เขาเพียงทำหน้าเรียบนิ่งโน้มหัวฉันแนบอกแกร่งแล้วเอ่ยเพียงแค่ “ขอโทษนะ”
ขอโทษทั้งที่ฉันร้องไห้อ้อนวอนเหมือนคนบ้า “ไม่เอาคำขอโทษได้ไหม ซนจะไม่ไหวแล้วนะซาน รักซนไม่ได้เหรอ ซนไม่ดีตรงไหน ทำไมซานไม่รักซนบ้าง ทำไมใจร้ายกับซนแบบนี้”
“ขอโทษ” เขาเชยปลายคางฉันขึ้น สบตาฉัน “ขอโทษนะแสนซน”
“ฮึก ฮึก ฮือ...” คำขอโทษมันเป็นคำตอบของเขา คำตอบที่ชัดเจนที่สุด คำตอบที่ว่าเขาไม่สามารถทำตามคำขอของฉัน
“คนสวยของเค้าเลิกร้องไห้นะครับ” จบประโยคริมฝีปากร้อนผ่าวแนบประกบริมฝีปากฉัน ใบลิ้นของเขาค่อย ๆ แทรกเข้ามาในโพรงปาก ลิ้นของเขากวัดเกี่ยวกับลิ้นของฉัน เขาป้อนจูบรสหวาน ระหว่างที่จูบอย่างเร่าร้อนเริ่มต้นขึ้นได้สักพักอาซานอุ้มฉันขึ้น เดินมาที่เตียงนอนเขาวางฉันลงอย่างเบามือ เขาสอดมือเข้ามาในเสื้อ มือใหญ่ที่เรียวยาวบีบคลึงหน้าอกเบา ๆ
แล้วมันก็จบลงที่เรื่องใต้สะดือตามเคย