คนเจ้าเล่ห์ 2
“อาเป้งคะ คุณอา คุณอาคะ” รัมภาร้องเรียกเจ้าของบ้าน เธอเดินเข้ามาในบ้านมันเงียบกริบ คุณอามีฐานะดี แต่ทำไมถึงไม่จ้างแม่บ้าน ทำไมชอบอยู่คนเดียว ไม่เหงาหรือไง “คุณอาคะไข่เอาข้าวมาให้”
“น้องไข่” ชายหนุ่มเปิดประตูห้องเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มพราวเสน่ห์เสียงนุ่มอ่อนโยนเวลาเรียกผู้หญิงตรงหน้า
“คุณอา ไข่เอาข้าวมาให้ค่ะ นี่คุณอาทานยาหรือยังคะ” รัมภาถามด้วยความเป็นห่วง อนุวัฒน์ในสายตาเธอนั้นเขาคือคนดี คือคนที่คอยปกป้องเธออยู่เสมอ
“ยังเลยครับ คนดีช่วยอยู่เป็นเพื่อนอาได้ไหม อยู่คนเดียวแล้วรู้สึกกลัว” นึกแล้วก็ขำคำพูดตัวเอง อย่างเขานี่นะจะกลัว มีอะไรให้เขาต้องกลัวกัน
“ได้ค่ะ คุณอากินข้าวก่อนนะคะ เดี๋ยวไข่ไปจัดใส่จานให้” หญิงสาวฉีกยิ้มหวาน
“ครับ อารอที่โต๊ะนะ” คนเป็นอาน่ะยิ้มหวานยิ่งกว่า ไม่ได้เจอหลายวันยังสวยน่ารัก ทำใจเขาสั่นไหวเหมือนเดิม รัมภาเดินเข้าครัวไปแล้ว ทว่าอนุวัฒน์ยังคงยิ้มกว้างกระทั่งสายตาเผลอปะทะกับรูปถ่ายที่ติดผนังบ้านพอดี
‘ถ่ายรูปต้องยิ้มสิไอ้พี่ นี่พี่เป้งอุตส่าห์ย้ายมาอยู่ใกล้เรา ต้องดีใจสิ’ นุ่มนิ่มทักท้วงสามีขณะที่กำลังถ่ายรูปเพื่อติดผนังบ้านของอนุวัฒน์ ขนาดพระชอปที่ต้องสำรวมยังทำหน้ายิ้มแย้มด้วยเป็นรูปใบใหญ่ที่อนุวัฒน์จะติดโชว์
‘จะยิ้มทำไม กูจะทำหน้าแบบนี้แหละ พอมันเอารูปไปติดฝาบ้านหันมาเจอหน้ากูจะได้คิดว่าอย่าริอ่านกินลูกสาวกู อย่าริเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อน ไม่สิ มันจะกินใครก็ได้ แต่อย่ามากินไข่เจียวลูกสาวกู’
‘อะแฮ่ม เกรงใจพระชอปหน่อยเคลิ้ม’ อนุวัฒน์กระแอมเสียง
‘พระชอปชินแล้วไม่ถือสากู มึงน่ะจำใส่สมองมึงไว้อย่ามาเจาะไข่แดงลูกกู’
“โทษทีเคลิ้ม น้องไข่เกิดมาเพื่อกูว่ะ” เขาสบตากับบุคคลในรูปถ่ายเมื่อนึกถึงวันที่ถ่ายรูปหมู่ อนุวัฒน์พึมพำเบา ๆ แล้วเดินไปรอหญิงสาวที่โต๊ะอาหาร
“ทำไมไม่กินคะ”
“แขนอาน่ะสิไม่มีแรงเลย ไหล่ก็ปวดไปหมด หิวข้าวก็หิว ไม่รู้จะมีคนใจดีมาป้อนไหม” คนเจ้าเล่ห์หาทางหว่านล้อมหวังได้กะลิ้มกะเหลี่ยสาวน้อยในดวงใจให้มากที่สุด
“งั้นไข่ป้อนนะคะ” รัมภาเดินมานั่งเก้าอี้ข้างชายหนุ่ม คว้าถ้วยมาวางตรงหน้าและตักข้าวต้มร้อน ๆ ขึ้นมาเป่าก่อนจะจ่อที่ปากของอีกคน
ระหว่างที่อ้าปากกินข้าวจากช้อนที่หญิงสาวป้อน อนุวัฒน์ลอบมองใบหน้าสวยหวานของสาวน้อยไข่เจียวอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งหัวใจของเขาเต้นแรงเสมอ นี่แหละรักแรกพบตั้งแต่วันแรกที่เขาเห็นเธอลืมตาดูโลกและเธอในวันนั้นส่งยิ้มให้เขา
“ปีนี้อยากได้อะไรคะ” ข้าวคำสุดท้ายเคี้ยวหมดปากอนุวัฒน์ก็เอ่ยถามหญิงสาว
“หนูนึกว่าคุณอาลืม” รัมภาเอ่ยเสียงเศร้า เพราะปีนี้คุณอาของเธอต้องออกงานบ่อย สาว ๆ ข้างตัวก็เยอะกว่าปกติ ไม่ค่อยจะได้เจอเพราะเขาไม่กลับบ้าน เห็นได้แค่ทางทีวี วันเกิดที่จัดขึ้นเมื่อคืนเขาก็มาไม่ได้เพราะต้องเดินทางไปดูสินค้าที่ต่างจังหวัด ทำให้สาวน้อยไข่เจียวแอบน้อยใจ
“อาจะลืมวันสำคัญของคนดีได้ไงคะ คนดีของอาปีนี้อายุ 18 แล้ว อยากได้อะไรไหมบอกอามา อาจะหามาให้ ไม่ว่าน้องไข่อยากได้อะไรอาหาให้ได้ทั้งนั้น” มือใหญ่ลูบที่ศีรษะของหญิงสาวตัวน้อย ใบหน้าจิ้มลิ้มเวลาเธอยิ้มแล้วทำให้หัวใจคนมีอายุทำงานหนัก บางครั้งต้องท่องพุธโธด้วยกลัวหัวใจจะวายตายก่อนได้รักกับเธอ
“คุณอาทำงานให้น้อยลงได้ไหมคะ น้องไข่ไม่อยากเห็นคุณอาป่วยแบบนี้” สิ่งของที่ต้องการพ่อแม่สามารถหาให้เธอได้ แต่คุณอาที่นั่งตรงหน้าถ้าเจ็บป่วยขึ้นมาคงจะหาใครมาแทนที่ไม่ได้ แค่เพียงนึกคิดว่าโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนนี้ น้ำสีใสก็พร้อมไหลจากดวงตาคู่สวย
“นี่คือ…”
“สิ่งที่น้องไข่ขอจากคุณอาในปีนี้ค่ะ ช่วยทำงานให้น้อยลงกว่านี้สักหน่อยนะคะ” ไม่พูดเปล่ายื่นมือมาคว้ามือใหญ่ของเขาไปกุมไว้ เท่านั้นไม่พอยกมืออีกข้างขึ้นมาแตะหน้าผากของชายหนุ่มด้วย “นี่ไง ตัวรุม ๆ ด้วย อยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ ถ้าเกิดช็อกขึ้นมาจะแย่เอานะคะ”
“…” น้ำเสียงไพเราะเสนาะหู สีหน้าแสดงความห่วงใยจนเห็นได้ชัด แล้วแบบนี้เขาจะไม่ตกหลุมรักแม่สาวน้อยน่ารักคนนี้ได้ไง