Say hi baby เมื่อรักมาทักทาย

114.0K · จบแล้ว
นญาดา
57
บท
4.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

อิพี่ตามเต๊าะดาวคณะฯคนนี้มานานมาก ถึงเวลาได้หม่ำก็เลยพาไปในรถเพราะว่ารีบ ยัยน้องเลิกกิจกรรมรับน้องตอนค่ำเดินมาเห็นรถโยกไม่หยุด ผีก็กลัว! อยากรู้ก็อยาก! ก็เลยตัดสินใจยื่นหน้าเข้าไปส่องตรงกระจกรถ ในรถกำลังจะสุด! นอกรถกำลังจะส่อง! เงยหน้าขึ้นมาป๊ะกันพอดี!!! เกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้..........ไปลุ้นกันค่าบบ

นิยายรักโรแมนติกนักศึกษาผู้หญิงเรียบร้อยหนุ่มเจ้าสำราญรักวัยรุ่นฟินๆแฮปปี้เอนดิ้งโรงแรม/มหาลัยตลก18+

EP 1 | ป๊ะกั๋น

@คณะศิลปศาสตร์

‘พลิ้ว~ บานาน่า~~ พลิ้วพลิ้ว~ บานาน่า~~’

เสียงร้องเพลงสันทนาการสำหรับกิจกรรมรับน้องดังไปทั่วทั้งลานกิจกรรมใต้ตึกคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอ็มยูที เหล่านิสิตนักศึกษาทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องเฟรชชี่กำลังเต้นกันอย่างสนุกสนานหลังจากผ่านการร่วมกิจกรรมกันมาเกือบทั้งวัน

เฟรชชี่ที่เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องใหม่ทุกคนจะต้องสวมเสื้อยืดสีดำและกางเกงวอร์มขายาวสำหรับถอดทิ้งได้ รุ่นพี่ย้ำนักย้ำหนาว่าถอดทิ้งไม่ใช่ถอดซักเพราะกิจกรรมในครั้งนี้อาจจะทำให้เสื้อสกปรกเลอะเทอะจนผลิตภัณฑ์ซักผ้าทุกยี่ห้อก็เอาไม่อยู่

แครอท ภริตา กิจกุลหรือชื่อเล่นพยางค์เดียวที่เธอแนะนำให้เพื่อนใหม่เรียกว่าแคร์กำลังเต้นอย่างสนุกสนานอยู่ในชุดที่ไม่สามารถบ่งบอกสีได้อย่างชัดเจนเพราะเธอผ่านกิจกรรมช่วงเช้ามาอย่างสมบุกสมบัน

ผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตยาวประมาณขอบชั้นในถูกรุ่นพี่จับมัดเป็นสามจุกคือช่อซ้าย ช่อขวาและช่อตรงกลางยังถูกติดด้วยกิ๊บรูปแครอทขนาดใหญ่ซึ่งเป็นกิ๊บที่เธอพกติดกระเป๋ามาด้วย

ใบหน้าขาวใสที่ไม่เคยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง ณ ตอนนี้ถูกวาดหนวดแมวสีแดงที่แก้มทั้งสองข้าง มีจุดสีดำวงใหญ่ตรงกลางหน้าผากซึ่งรุ่นพี่บอกไว้ว่าคือไฝเสน่ห์ แถมยังโดนวาดวงกลมสีดำที่ขอบตาทั้งสองข้างราวกับหมีแพนด้าบวกกับแครอทเป็นคนสายตาสั้นมาก แว่นตาหนาเตอะที่เธอสวมอยู่ตลอดเวลายิ่งทำให้เธอดูเหมือนคนสวมแว่นตาสองชั้น

ปลายจมูกโด่งรั้นแต้มจุดสีแดงเล็กๆ และริมฝีปากอวบอิ่มถูกฉาบด้วยลิปสติกสีแดงสดซึ่งเลยขอบปากจนเกือบถึงแก้ม รวมๆ สีสันที่อยู่บนใบหน้าสวยตอนนี้สรุปได้ว่าเธอไม่ควรเดินไปไหนคนเดียวในตอนกลางคืน

“แคร์มันๆ กว่านี้หน่อยดิวะ”

ลูกฟูกเพื่อนใหม่ที่เพิ่งทำความรู้จักกันที่โต๊ะลงทะเบียนในช่วงเช้าและเธอก็บังเอิญเรียนสาขาการโรงแรมเหมือนกันหันมาพูดกับคนตัวเล็กพลางเต้นร่อนเอวเป็นตัวอย่างความมันที่เธอกำลังพูดถึง

ลูกฟูกคือหญิงสาวที่มีหน้าตาตรงข้ามกับนิสัยอย่างลิบลับ ใบหน้าสวยเก๋ราวกับนางแบบแต่กลับมีนิสัยที่ห้าวหาญเกินผู้ชายบางคน เป็นคนพูดตรงๆ ไม่ชอบเห็นคนถูกรังแกหรือเอาเปรียบ

“นี่ก็ปวดเอวไปหมดแล้วแก”

“พลิ้วพลิ้วน่ะ รู้จักมั้ยคะ พลิ้วแบบนี้ค่ะ”

ข้าวตูเก้งสาววัยใสซึ่งเป็นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งทำความรู้จักเช่นกัน โดยชื่อเล่นเดิมของเขาคือ ‘ตู๋’ แต่เขามีความรู้สึกว่ามันแมนเกินไปแถมช่วงหลังๆ ก็มีคนทักว่าอัปมงคลจึงขอใช้โอกาสเข้ามหาวิทยาลัยเปลี่ยนชื่อเล่นใหม่เสียเลย

ข้าวตูเป็นเก้งที่ตัวเล็กผอมบาง ผิวขาวออร่าไม่ต่างไปจากเพื่อนสาวทั้งสองคนเพราะเธอเทคฮอร์โมนฯมาตั้งแต่อายุสิบสี่จึงทำให้ผิวพรรณดูดีไม่มีหนวดหรือปัญหาเสียงใหญ่มาให้กวนใจ

“พลิ้วยังไงอ่ะ แบบนี้เหรอ”

แครอทถามพร้อมกับพยายามขยับเอวตามข้าวตูซึ่งกำลังทำให้ดูเป็นตัวอย่างแต่สิ่งที่คนภายนอกมองมากลับเห็นพ้องต้องกันในใจว่าสภาพของเธอเหมือนป้ารำไทเก็กมากกว่า

“พอๆๆ ขอร้องอุจาดตามาก”

ลูกฟูกรีบเอ่ยห้ามเพราะทนมองไม่ไหว ส่วนข้าวตูได้แต่ยืนหัวเราะกับท่าทางของเพื่อนสาวจนท้องแข็ง

อาจจะเป็นเพราะแครอทมีส่วนสูงเพียงหนึ่งร้อยห้าสิบเก้าเซนติเมตรจึงทำให้เธอตัวเล็กกว่าเพื่อนอย่างลูกฟูกที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดและข้าวตู่เก้งคนเดียวในกลุ่มที่สูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร

บวกกับความขี้อาย ดูซื่อๆ ไม่มีพิษไม่มีภัยของเธอทำให้ลูกฟูกและข้าวตูรู้สึกเอ็นดูตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ทั้งคู่จึงชวนเธอมานั่งด้วยกันและจับกลุ่มเป็นเพื่อนกัน

“ฮิ้ววววววว~”

เสียงโห่ร้องพร้อมเสียงปรบมือดังสนั่นขึ้นอีกครั้งหลังจากจบกิจกรรมเต้นสันทนาการที่รุ่นพี่เตรียมมาให้

“น้องๆ ทุกคนกลับมานั่งเรียงแถวตามสาขาของตัวเองได้เลยค่าาาา”

รุ่นพี่สาวประกาศผ่านโทรโข่งที่ถืออยู่พร้อมกับส่งสัญญาณให้รุ่นพี่แต่ละสาขาเข้าไปช่วยดูน้องๆ ของตนเอง

การรับน้องครั้งนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อการละลายพฤติกรรม สร้างความคุ้นเคยระหว่างนักศึกษาใหม่ด้วยกันและรุ่นพี่ในคณะฯซึ่งเป็นการรับน้องอย่างสร้างสรรค์ทางคณบดีของคณะฯจึงอนุญาตให้จัดขึ้นได้

“เหนื่อยกันมั้ยค่าาาา~”

“ไม่เหนื่อยยย~”

“น้องๆ กินอะไรกันเข้าไปวะ พี่แมร่งโคตรเหนื่อยเลย”

รุ่นพี่สาวพูดพลางทำท่าทางหอบหายใจเรียกเสียงหัวเราะจากนักศึกษาใหม่ขึ้นมาได้เพราะทุกคนรู้ดีว่าตัวเองเหนื่อยมากแค่ไหนแต่ไม่มีใครกล้าตอบความจริงกลับไปน่ะสิ

“ตอนนี้ก็ใกล้ค่ำแล้วเนาะ ก่อนจะเลิกกิจกรรมวันนี้พี่มีรุ่นพี่ดาวเดือนของคณะฯเรามาแนะนำให้รู้จักด้วยค่าาา”

แปะ แปะ แปะ

เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับรุ่นพี่นักศึกษาชายหญิงสองคนเดินออกไปยืนอยู่ข้างหน้าลานกิจกรรม

“อุ้ย!น่ากินเวอร์”

ข้าวตูโน้มตัวลงมากระซิบกับกลุ่มเพื่อนสาวทันทีเมื่อเห็นเดือนคณะฯเดินมายืนอยู่ข้างหน้าเรียบร้อย

“สวัสดีครับ พี่ชื่อพี่เปานะครับเรียนอยู่ปีสามสาขาภาษาจีนเพื่อการสื่อสารเป็นเดือนคณะฯครับ”

ฮิ้ววววววว~

เสียงโห่ที่คาดว่าเป็นเสียงต้อนรับด้วยความปลื้มปริ่มจากสาวๆ ในคณะฯดังขึ้นทันทีที่เปาแนะนำตัวจบ

“ยินดีต้อนรับน้องๆ นักศึกษาใหม่ทุกคนนะครับ ขอให้มีความสุขและสนุกกับการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ครับ”

เปาพูดพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ลานกิจกรรมก่อนจะปะทะเข้ากับสาวน้อยที่เขากำลังมองหาและส่งยิ้มหวานมาให้

“แก~ พี่เค้าส่งยิ้มมาฉันด้วยอ่า”

ข้าวตูพูดพลางบิดตัวไปมาด้วยความรู้สึกเขินอายจนลูกฟูกต้องยื่นมือไปตรงหน้าก่อนจะดีดนิ้วเรียกสติ

เปาะ!

“ตื่นค่ะ ฉันว่าเขายิ้มให้ไอ้แคร์มากกว่า”

ไม่ใช่แค่ข้าวตูและลูกฟูกที่หันมามองทางแครอทแต่สาวๆ เกือบทั้งคณะฯก็มองมาทางเธอเช่นกัน

“เค้าเป็นรุ่นพี่ข้างบ้านอ่ะแก”

แครอทรีบตอบกลับไปตามความจริง เปาคือรุ่นพี่ข้างบ้านที่ชลบุรีของเธอจริงๆ ซึ่งเธอและเปาก็สนิทกันพอสมควรเพราะเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ

แม้เพื่อนทั้งสองจะหรี่ตามองเธออย่างจับผิดแต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อเสียงโทรโข่งจากข้างหน้าก็ดังขึ้นเสียก่อน

“สวัสดีค่ะ พี่ชื่อพี่ลดานะคะเรียนอยู่ปีสามสาขาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเป็นดาวคณะค่ะ ยินดีต้อนรับน้องๆ เข้าสู่คณะของเรานะคะถ้ามีอะไรอยากให้พี่ช่วยก็บอกพี่ได้เลยน้า”

โหหหหหหห~

เสียงของผู้ชายในคณะฯก็ดังขึ้นไม่แพ้กับเสียงสาวๆ เช่นกัน หลังจากการแนะนำตัวดาวเดือนคณะฯผ่านไป รุ่นพี่ก็ทำการนัดแนะวันเวลาสำหรับกิจกรรมต่อไปอีกราวๆ ยี่สิบนาทีก่อนจะปล่อยให้ทุกคนแยกย้ายกลับไปพักผ่อน

“พวกแกกลับกันยังไง”

ลูกฟูกเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองในขณะที่ตัวเองยังคงก้มหน้าก้มตาพิมพ์แชทสนทนาในโทรศัพท์

“ฉันจอดรถไว้หน้าอาคารจ้า” ข้าวตูตอบ

“แคร์จอดรถไว้ใต้อาคารอ่าาา~”

แครอทตอบเสียงหงอยพลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดลงเรื่อยๆ เธอไม่คิดว่ากิจกรรมวันนี้จะเลิกค่ำก็เลยไปจอดรถใต้อาคารแต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเดินลงไปเอารถคนเดียวนี่สิ

‘บรรยากาศวังเวงชะมัด’

“หล่อนไม่ต้องกลัวผีหรอกจ๊ะ สภาพพวกเราตอนนี้น่ะผีสิที่ต้องกลัว”

“เออจริง ฮ่าๆๆๆ”

ทั้งสามคนหันมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาเพราะแต่ละคนก็โดนสีวาดหน้าจนเละเทะ ทรงผมแปลกประหลาดแถมยังเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนยิ่งกว่าออกมาจากสนามรบ

เอ่ยร่ำลากันอีกสองสามคำแครอทก็เดินแยกออกมาเพื่อลงไปยังลานจอดรถใต้อาคาร เธอไม่แน่ใจว่าหลอดไฟที่ติดอยู่แค่สองสามดวงนั้นช่วยเพิ่มความสว่างหรือความหลอนกันแน่

“อ๊ะ!”

ขาเรียวหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นว่าลานจอดรถตอนนี้มีเพียงรถยนต์จอดอยู่สองคัน ซึ่งคันแรกคือรถเก่าๆ ของพ่อเธอที่ยกให้เธอไว้ใช้ขับกลับหอพักส่วนอีกคันคือรถสปอรต์สีดำที่กำลังโยกไปมาราวกับมีคนกระโดดอยู่บนหลังคา

‘ทะ...ทำไมรถมันโยกแบบนั้นล่ะ’

แม้ความกลัวจะเริ่มคืบคลานเข้ามาในใจแต่ความอยากรู้ก็ตีตื้นขึ้นมาไม่แพ้กันเพราะยิ่งยืนมองรถก็ยิ่งโยกแรงขึ้น

“เอาวะ!”

เรียกกำลังใจในตัวเองอีกเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ ก้าวขาไปหยุดยืนอยู่ข้างกระจกรถสปอร์ตที่ติดฟิล์มมืดสนิท

มือเรียวทั้งสองข้างค่อยๆ วางลงตรงกระจกรถก่อนใบหน้าสวยที่ตอนนี้ถูกแต่งแต้มจนเละทะจะก้มลงไปส่องจนเห็นภาพเหตุการณ์ภายในรถ

“เหี้ย!”

“กรี๊ดดดดดดดดด!”

sds