ตอนที่ 3
ป้าโรสกล่าวออกมาอย่างคนที่รู้จักชีวิตของฉันเป็นอย่างดี ก็แกอยู่บ้านติดกับฉันมานานหลายปี จึงไม่แปลกที่ป้าโรสจะรู้เห็นความเป็นไปทุกๆ อย่างในชีวิตของฉัน
“ฉันเข้าไปคุยกับป้าได้ไหมจ๊ะ”
จู่ๆ ฉันก็นึกอยากระบายความในใจ เพราะการได้พูดออกมาบ้างมันอาจทำให้ความอึดอัดใจทุเลาลง
“เข้ามาสิ”
ป้าโรสเดินมาเปิดประตูหน้าบ้าน รับฉันเข้ามานั่งคุยกับแกที่ศาลาไม้ริมน้ำใกล้สระบัว
บ้านป้าโรสหลังใหญ่กว่าบ้านฉันหลายเท่านัก เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ ทุกวันนี้แกอาศัยอยู่กับผัวฝรั่งแก่และป่วยด้วยโรคชรา มีชื่อว่า ‘ลุงจอห์น’ แก่มากจนทุกวันนี้แกต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นไปวันๆ
“นั่งก่อนสิ”
ป้าโรสเชื้อเชิญให้ฉันนั่ง แกคงเหงาไม่ต่างจากฉัน คนเรามีความเหงาต่างๆ กันไป
ป้าโรสเดินหายเข้าไปในบ้านแล้วกลับออกมาพร้อมกับเบียร์เย็นเฉียบสองกระป๋องที่ถืออยู่ในมือ
“ดื่มอะไรเย็นๆ ก่อน”
ป้าโรสเปิดเบียร์แล้วยื่นให้ฉัน
“โอ้ย... เดี๋ยวเมาจ้ะป้า... ขอน้ำเปล่าดีกว่า ฉันไม่เคยกินเบียร์”
ฉันส่ายหน้า
“โถ... แม่คุณ เบียร์แค่กระป๋องเดียวคงไม่ทำให้เมาหรอกน่ะ เปิดตัวเองกับโลกบ้างสินุช... อย่าเป็นผู้หญิงขี้กลัวนักเลย”
คำพูดของป้าโรสทำเอาฉันอึ้ง แกเหมือนกระจกเงาบานใหญ่ที่ช่วยสะท้อนความเป็นตัวตนของฉัน ทำให้ฉันฉุกคิดขึ้นมาว่าทุกวันนี้ฉันปิดตัวเองกับโลกภายนอกขนาดนี้เชียวหรือ
“ดื่ม... ”
ป้าโรสคะยั้นคะยอ ฉันยกเบียร์ขึ้นกระดกดื่ม อึกแรกรู้สึกว่ามันขมปร่าเหลือเกิน
ฉันสั่นหัวกับรสชาติของเบียร์ที่ไม่คุ้นเคย ครั้นพอยกขึ้นกระดกดื่มอีกครั้ง... ลิ้นก็เริ่มคุ้นเคยกับความขม
ฉันดื่มจนเบียร์พร่องไปค่อนกระป๋อง จากนั้นก็รู้สึกว่าร่างกายมีอาการกระชุ่มกระชวยขึ้นมาแปลกๆ คงเป็นเพราะว่ามีแอลกอฮอล์พลุ่งพล่านอยู่ในกระแสเลือดของฉัน
“เอ็งร้องไห้ทำไมวะ... ”
ป้าโรสเริ่มถามถึงที่มาของน้ำตา
“ฉัน... ”
ฉันนิ่งไปชั่วขณะ อยู่ในอาการชั่งใจว่าจะเล่าเรื่องพี่เดชให้ป้าโรสฟังดีไหม เพราะคิดว่ามันน่าอับอายเกินกว่าจะบอกเล่าให้ใครรู้
“อยากเล่าก็เล่า... แต่ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า เอาที่เอ็งสบายใจนะ”
ป้าโรสเอื้อมมือมาแตะที่ต้นแขนฉันเบาๆ เหมือนให้กำลังใจผู้หญิงด้วยกัน แววตาที่มองมาอย่างเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกัน ทำให้ฉันยอมเล่าความลับของพี่เดชให้แกฟังในที่สุด
และในทันทีที่เล่าจบ แทนที่ฉันจะได้เห็นท่าทางตกใจของป้าโรส ฉันกลับเป็นฝ่ายตกใจเสียเองกับคำพูดของแกที่เอ่ยออกมาว่า
“นึกว่าเรื่องอะไร... เมื่อก่อนป้าก็เคยหลงเข้าไปในวังวนราคะของกลุ่มสวิงกิ้งเหมือนกัน”
“เอ่อ... ”
ฉันอึ้งไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าจะมาได้ยินเรื่องพิเรนทร์แบบนี้จากปากของป้าโรสที่ฉันมองว่าแกเป็นผู้ใหญ่น่านับถือคนหนึ่ง
“อันที่จริงป้าไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ... โชคชะตาจับพลัดจับผลูให้เข้าไปในกลุ่มนรกนั่นจนได้ นี่ไงตัวการที่ทำให้ป้าได้รู้จักกับกลุ่มสวิงกิ้ง”
ป้าโรสชี้ไปยังสามีฝรั่งสูงวัยที่นั่งอยู่บนรถเข็นในห้องรับแขก
จากนั้นป้าโรสก็เล่าให้ฉันฟังว่าลุงจอห์นสามีแกมีรสนิยมทางเพศแบบชอบแลกผัวแลกเมีย
“เรื่องนี้เกิดขึ้นนานหรือยังจ๊ะป้า”
ฉันเริ่มซักไซ้ด้วยความอยากรู้
“ก็ตั้งแต่ตอนที่ป้าเป็นสาวๆ... ”
จากนั้นป้าโรสก็เล่าให้ฟังว่าตอนแรกๆ มันเริ่มจากกลุ่มเล็กๆ ในวงของเพื่อนสนิทที่มีรสนิยมตรงกัน
มันเริ่มจากคืนวันหนึ่งที่ลุงจอห์นชวนป้าโรสไปงานปาร์ตี้กับเพื่อนสนิท คืนนั้นทุกคนดื่มกันจนเมามาย และปิดท้ายด้วยการสลับห้องกันแลกคู่นอน
“แล้วทำไมป้ายอมล่ะคะ”
ฉันสงสัย
“ตอนแรกป้าก็ไม่คิดจะยอม แต่พอถึงตอนนั้นมันก็เลยตามเลย แล้วอีกอย่างป้ายอมรับว่าเมาด้วย”
“ป้าชอบมั้ย”
ฉันถามไม่อ้อม
“ตอนแรกก็รู้สึกผิด... มันตะขิตตะขวงในใจยังไงพิกล แต่พอมีครั้งที่สอง... ครั้งที่สามและต่อๆ มา ป้าก็รู้สึกสนุกกับมัน... ”
ป้าโรสเล่าอย่างเปิดอก แกหยุดไปชั่วขณะสั้นๆ ยกเบียร์ขึ้นดื่มกลั้วคอแห้ง จากนั้นก็เล่าต่อ