- EP.6 STILL LOVE ทวงรัก - เสียดายชีวิตโสด
EP.6 STILL LOVE ทวงรัก ♡
ตอน เสียดายชีวิตโสด
________________________________
"แล้วมึงรู้ได้ไง?"ฟาเรนเอ่ยถามขึ้นก่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็นของมัน
"พอดีกูขอไลน์พยาบาลเอาไว้ เผื่อมีอะไร.. (กัน) .."ไอ้คลินตอบพร้อมกับกระดกขวดเหล้ากรอกเข้าปากไปหนึ่งอึกใหญ่ ๆก่อนจะเช็ดมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ๆ
"เพื่อนเจ็บจะตายห่า"
"ยังมีอารมณ์ไปจีบพยาบาลอีกเนาะไอ้เวร"ไอ้ฟาเรนหันไปว่าให้มันแบบไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก
"ว่าแต่มึงมั่นใจเหรอว่า..พวกที่รุมกระทืบไอ้ไทม์มันจะมาที่นี่"ผมเอ่ยถามพวกมันไปเพราะมองไปรอบ ๆ ผับก็ยังไม่เจอคู่อริของเราเลยสักตัว
"กูมั่นใจ"ไอ้ฟาเรนพูดก่อนจะมองไปรอบ ๆผับด้วยสายตาที่เกรี้ยวกราดและพร้อมที่จะล้างแค้นให้เพื่อนมากที่สุด เพราะไอ้ฟาเรนเนี่ย มันบ้าเลือดและก็อารมณ์ร้อนที่หนึ่งของกลุ่มเราเลยละ
"และกูก็รอฆ่ามันอยู่.."มันพูดอย่างเอาจริง ๆ
ถ้าจะให้เล่าคร่าว ๆสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับไอ้ไทม์ โซนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทของผมก็คือไอ้ไทม์มันถูกคู่อริเล่นสกปรก พวกมันเกือบห้าคนรุมกระทืบไอ้ไทม์ในลานจอดรถของคณะ ซึ่งในบรรดาพวกเราทั้งหมดไอ้ไทม์เป็นคนที่ไม่ค่อยมีเรื่องกับใครและไม่ค่อยสู้คนมากสักเท่าไหร่ และพวกมันเอาคนมารุมไอ้ไทม์ตอนที่มันเดินออกจากคณะมาคนเดียวอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวใด ๆ
ซึ่งในช่วงค่ำ ๆก็แทบจะไม่มีใครอยู่แถวนั้นแล้ว. กว่าพวกเราจะรู้เรื่อง ก็ตอนที่มีคนในคณะโทรมาบอกไอ้ฟาเรนนั่นและ
และถ้าพวกมันเปลี่ยนเป้าหมายจากไอ้ไทม์มาเป็นไอ้ฟาเรนน่าจะดีกว่านี้เพราะไอ้ฟาเรนมันปากดีและบ้าพลัง คนที่เจ็บหนักอาจจะเป็นฝั่งตรงข้ามมากกว่า
ซึ่งคู่อริของกลุ่มผมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือนักศึกษามหาลัยเดียวกันกับผมแต่คนละคณะ เพราะพวกมันคือเด็กบริหารปีสี่ ส่วนสาเหตุที่ไม่ถูกกันก็เกิดจากสาเหตุง่าย ๆเลย ก็คือพวกมันแพ้พนันเราตอนงานแข่งรถครั้งใหญ่
มันเสียรถหรูราคาหลายล้านให้เราเกือบทั้งหมด มูลค่าก็ราว ๆ 10กว่าล้านได้
แน่นอนว่ามันเจ็บใจหนัก จนแทบกระอักเลือด แน่นอนว่าพวกมันคงแค้นมากและหาทางจัดการเราไม่ได้เลยเล่นทีเผลอตอนที่ไอ้ไทม์อยู่ตามลำพัง เพราะในบรรดาพวกเราทั้งหมดคนที่ดูอ่อนแอเรื่องต่อสู้มากที่สุด ก็คือไอ้ไทม์
IRENE PART
@ Your Night
ทันทีที่ฉันเดินเข้ามาในผับแน่นอนว่าคนแรกที่ฉันมองหาจะเป็นใครไปได้นอกจากแฟนห่วย ๆของฉัน และแน่นอนว่าภาพที่เห็นก็คือโต๊ะของวินด์เซอร์และเพื่อน ๆถูกรายล้อมไปด้วยเด็กเสิร์ฟนมโต ใส่ชุดที่แทบจะเรียกว่าบิกินีเลยก็ว่าได้
"ชุดฉันดูธรรมดาไปเลยจริง ๆพอเจอยัยพวกนี้เข้าไป"ฉันมองที่สาว ๆพวกนั้นอย่างถอนหายใจ
แต่ที่มันน่าโกรธไปกว่านั้นก็คือ..กำลังมีสาวนมโตคนหนึ่งชงเหล้ายื่นให้แฟนของฉันอย่างยิ้มระรื่น หน้าอกกระเด้งไปกระเด้งมา ถึงแม้ว่าวินด์จะนั่งหน้านิ่งแต่ฉันก็ไม่ชอบอยู่ดี ที่มีผู้หญิงคนอื่นมายืนอ่อย ๆแฟนของตัวเอง
"ที่ชอบมาผับ เพราะแบบนี้สินะ!!"ฉันจ้องมองไปที่โต๊ะโซนวีไอพีของพวกเขาที่เป็นโซฟาสีดำสนิท
"มึงโอเคป่าววะ?"ยัยน้ำขิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆเห็นฉันหยุดนิ่งก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
"โอเค"ฉันหันไปเหยียดยิ้มกับขิง
ฉันกำหมัดแน่นก่อนจะเดินลากแขนของยัยขิงเข้าไปในผับอย่างไม่รีรอใด ๆอีก
"ฉันเห็นวินด์ชัดเจนแต่เขาไม่เห็นฉัน"สายตาของฉันยังคงมองตรงที่โต๊ะของพวกเขาและกำหมัดแน่น
"แต่อีกไม่นานหรอก เขาจะได้เห็นฉันแบบชัด ๆ...แน่นอน!"ฉันกระแทกเสียงพูดขึ้นอย่างเจ็บใจสุด ๆ ฉันพูดกับยัยน้ำขิง ทั้ง ๆสายตายังไม่ละจากโต๊ะนั้นเลยแม้แต่วินาทีเดียว
"อิไอร์ มึงโกรธวินด์อะได้"ยัยขิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆขยับเข้ามาพูดข้าง ๆหูของฉัน
"แต่มึงจะบีบแขนกูให้หักเลยไหมล่ะ?"
"โทษที ๆ..กูแม่งของขึ้นว่ะ!."ฉันก็ยอมปล่อยแขนยัยน้ำขิงไปทันทีและรีบขอโทษเพื่อนตัวเอง
"ทิ้งกูกลางห้าง เพื่อมาแดกเหล้ากับเพื่อนต่อ!"ฉันพูดออกไปอย่างเจ็บใจไม่หาย.
"ครั้งนี้วินด์ก็ทำเกินไปจริง ๆ ตอนนี้กูเข้าใจความรู้สึกของมึงแล้ว"ยัยน้ำขิงบีบไหล่ของฉัน
"และคืนนี้กูจะไม่ห้ามมึงเลยสักคำ ถ้ามึงอยากจะประชดให้วินด์รู้สึกซะบ้าง"ก่อนที่เราจะหันมามองหน้ากัน พร้อมกับยิ้มอย่างรู้กัน
"วันนี้กูจะหาแฟนใหม่ต่อหน้าวินด์เซอร์เนี่ยแหละ เผลอ ๆจะหาหลาย ๆคนด้วย"ฉันเอ่ยออกไปอย่างรู้สึกแย่เป็นทวีคูณ นอกจากแฟนของฉันจะไม่มีเวลาให้ ไม่ให้ความสำคัญอะไรแล้ว
วินด์ไม่เคยหึงไม่เคยหวงฉันเลย หรือความจริงเขาไม่เคยรู้สึกอะไรเลย
และเราก็แค่คบกันไปแบบตกกระไดพลอยโจน เพียงเพราะแค่คำพูดที่ไม่ทันได้คิดของฉันในวันนั้น...
"อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าฉันมีคนอื่น เขาจะพูดได้ยาวที่สุดกี่ประโยค"ฉันพูดพร้อมกับก้าวเท้าเดินสับขาเดินตรงเข้าไปในผับพร้อมกับยัยน้ำขิง ซึ่งเราทั้งสองคนก็ดึงดูดสายตาของหนุ่มที่ชอบท่องราตรีภายในผับอยู่ไม่น้อย ฉันที่สวมชุดเดรสสีดำรัดรูปสั้นกว่ากระโปรงนักศึกษาเมื่อเช้านั้น ส่วนยัยน้ำขิงมาในชุดเกาะอกสีขาว กระโปรงหนังสีดำซึ่งก็เข้าธีมฉันแบบสุด ๆ ถึงยัยนี้จะเป็นเด็กทุนเรียนดี แต่ไม่หมายความว่านางติ๋มอย่างที่คนอื่น ๆคิดหรอกนะ
คำนิยามของเด็กทุนไม่จำเป็นต้องจืดชืด แว่นหนา แต่งตัวเชยเสมอไป. เพราะว่าเด็กทุนที่เรียนเก่งแต่แซ่บครบเครื่องก็มีอยู่ไม่น้อย
และยัยน้ำขิงก็คือเด็กทุนสุดแซ่บที่แรงไม่ต่างจากฉันเท่าไหร่ แน่นอนถ้ายัยนี้เฉิ่มจืดชืด เวลาเรียนกับเวลานอกมหาลัย จึงต่างกันอย่างสิ้นเชิง และน้ำขิงคงไม่มีทางกลายมาเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉัน อย่างทุกวันนี้ ถ้าไลฟ์สไตล์ของเราไม่ไปในทางเดียวกัน
"ไปโต๊ะประจำนิเทศแล้วกัน"
"เพื่อนเราน่าจะมาเยอะ" ฉันหันไปบอกกับยัยขิงก่อนจะเดินไปยังโต๊ะประจำของคณะนิเทศ โดยปกติคณะของฉันมีแต่คนชอบเที่ยวกลางคืนกันทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่คณะของเราจะมีโต๊ะเพียงพอไว้รองรับคนในคณะของเรา
และคนในคณะของฉันส่วนใหญ่ ก็สนิทกันเกือบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะรุ่นพี่รุ่นน้อง ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเราเรียนในมหาลัยเอกชนที่ค่าเทอมแพงที่สุดในประเทศ เลยทำให้จำนวนของนักศึกษามีไม่ได้มากสักเท่าไหร่ ทุกคนก็เลยค่อนข้างจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้วและยิ่งถ้าอยู่คณะเดียวกันก็แทบจะไม่ต้องแนะนำตัวกันเลย...
ฉันกับยัยขิงเดินตรงไปที่โต๊ะคณะใจกลางผับหน้าดีเจที่ทำเลดี
อย่างไม่รีรอ..
"พอได้เจอดาวคณะนิเทศแล้ว รู้สึกว่าคืนนี้มันดีกว่าทุกคืนที่ผ่านมาจังเลยอะ"หนุ่มเพลย์บอยประจำคณะ เอ่ยทักขึ้นมาทันทีที่ฉันก้าวเข้ามาในอาณาเขตโต๊ะของชาวนิเทศ
"งั้นเหรอ?"ฉันหันไปมองหน้าของเขาทันที
พอมองหน้าดี ๆฉันก็นึกออกทันทีว่าเขาคือ..แมทธิวนิเทศปีสอง ว่าที่นักแสดงหน้าใหม่ช่องโฟร์
"ใส่ชุดนี้แล้วเธอเซ็กซี่กว่าชุดนิสิตอีกนะ"เขาพูดและมองฉันด้วยแววตาที่หยาดเยิ้ม
"พูดอีกทีซิว่า.."ฉันเดินเข้าไปหยุดที่หน้าของเขาและเอามือเชยปลายคางของเขาขึ้นช้า ๆ
"ฉัน...แค่เซ็กซี่อย่างเดียวเองเหรอ?"ฉันขยับใบหน้าไปใกล้หนุ่มหล่อหน้าหวานคนนั้น ก่อนจะมองจิกสายตาเข้าไปในดวงตาคู่นั้น
หนุ่มหน้าหวานคิ้วคมเข้ม มองตรงมาที่ใบหน้าของฉัน
"เธอสวย และก็สวยสะดุดตาของฉัน ตั้งแต่ก้าวแรกที่เธอเดินเข้ามาแล้วละ ...ไอรีน.."เขาพูดออกมาและมองฉันอย่างละเมียดละไมแทบจะกลืนกินฉันไปแล้วทั้งตัว และดูเหมือนว่าเขากำลังเมาได้ที่เลยทีเดียว
"พูดถูกใจดี!"ฉันหันไปมองกลุ่มเพื่อน ๆในโต๊ะที่หันมามองทางฉันกับแมทธิวเป็นตาเดียว
"ฉันชอบคนที่คิดและพูดออกมาตรง ๆ"ฉันเกาคางผู้ชายคนนั้นอย่างยั่วยวนก่อนจะเดินไปยืนร่วมโต๊ะกับเพื่อนปีสามของตัวเอง แต่สายตาของฉันก็ยังคงจ้องกลับไปยังหนุ่มรุ่นน้องคนนั้น ซึ่งเขาเองยังคงจ้องฉันกลับมาอย่างไม่ละสายตาไปทางอื่นเช่นกัน
"เหมือนว่าแฟนใหม่ฉันจะมาเร็วกว่าที่คิดนะ"ฉันหันไปบอกกับฉันน้ำขิงก่อนจะหันไปเล่นหูเล่นตากับรุ่นน้องปีสองคนนั้นต่อ
"สองสาวสวยดื่มไรกันดีครับ?"เสียงของเพื่อนผู้ชายปีสามเอ่ยถามทางฉันกับน้ำขิง
"ฉันขอเหล้าเข้มผสมโซดาแล้วกัน"ฉันเอ่ยตอบเพื่อนไป
"ส่วนฉันขอเหล้าผสมน้ำเปล่า"เสียงของยัยขิงหันไปบอกกับเพื่อนผู้ชายคนนั้น
"แต่โบ๊ทมึงไม่ต้องชงเหล้าให้กูเข้มมากนะ"ยัยขิงตะโกนบอกกับเพื่อนผู้ชาย ที่อยู่หัวโต๊ะติดกับถังน้ำแข็งและขวดเหล้า
____________________
อื้ออ ~ อื้ออ ~ (เสียงข้อความเตือนจากโทรศัพท์)
ข้อความจาก : แฟน
รีบออกไปจากที่นี่
____________________
ฉันเงยหน้าขึ้นไปเจอกับวินด์เซอร์ที่มองตรงมาทางนี้อยู่พอดี
"ตาไวกว่าที่ฉันคิดนะ"ฉันพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจและกดหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะยัดมันใส่กระเป๋าสะพายของตัวเองไปทันที
วินด์เซอร์ยังคงมองตรงมาที่ฉัน และก้มหน้าลงกับโทรศัพท์และพิมพ์อะไรบางอย่างต่อ
อื้ออ อื้ออ ~
อื้อออ อื้ออ ~
แต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร และมองผ่านเลยวินด์เซอร์ไปราวกับเขาไม่มีตัวตนในผับนี้
อยากให้ฉันรีบกลับงั้นเหรอ...ไม่มีทางซะหรอก!
"มาผับก็เมาดิ จะชงอ่อน ๆได้ไงอิขิง!"ฉันแย้งขึ้นมาทันทีที่ยัยขิงสั่งไปแบบนั้น
"แต่กูไม่ดื่มเหล้านานแล้ว กลัวเมาอะมึง"ยัยขิงหันมามองฉันตาปริบ ๆ
"เมาก็เมาดิ วันนี้กูกะจะเมาให้ซะใจไปเลย"
"จริงยัยไอร์ยัยน้ำขิง พักนี้ฉันไม่เห็นพวกแกมาเที่ยวนานแล้วนะเว้ย"เสียงยัยมดเพื่อนในคณะก็หันมาคะยั้นคะยอยัยน้ำขิงด้วยอีกคน
"นาน ๆทีจะได้ปลดปล่อยนะมึง"เสียงของเพื่อนผู้หญิงที่ในโต๊ะก็รีบเชียร์กันอย่างครึกครื้น
"มึงเรียนมาก็หนักแทบจะทุกวัน วันนี้เอาให้สุด ๆไปเลย"เพื่อนอีกคนก็เขย่าแขนของน้ำขิงเพื่อให้มันยอมคล้อยตามได้ในที่สุด
"ถ้ากูเมาแล้วใครจะแบกยัยไอรีนกลับล่ะ?"ยัยน้ำขิงโบ้ยมาทางฉันทันที
"อย่าเวอร์ บางครั้งกูก็เป็นคนแบกมึงกลับอิขิง"ฉันรีบแย้งขึ้นทันที
"เมาเลย เมาเลย เมากัน เมากัน "เสียงของพวกเพื่อน ๆในคณะ ต่างโห่เชียร์ให้เราดื่ม หลังจากที่แก้วเหล้าเข้ม ๆถูกส่งมาวางตรงหน้าของฉันและยัยน้ำขิง
"อะ ๆก็ได้"ยัยขิงก็ตอบมาเบา ๆ
"สักแก้วก็ได้ว่ะ"มันยิ้มเจื่อน ๆ
"อ้าวพร้อมไหมชาวคณะที่รักทุกคน..."เสียงของไอโบ๊ทและคนอื่นต่างพากันยื่นแก้วเข้ามาตรงกลาง เพื่อที่จะชงแก้วกับเราสองคนที่เพิ่งมาใหม่
ผลั่ก!! จู่ ๆฉันก็ถอยหลังไปชนเข้ากับแผ่นอกของใครอีกคน ซึ่งก็คือ..แมทธิวที่ค่อย ๆขยับตัว เข้ามา ๆ จนยืนอยู่ด้านหนังของฉันในตอนนี้อย่างตั้งใจ
"เอ้า..ชนนนน (เคร้ง~)"แล้วแก้วทุกใบก็ขยับเข้ามาชนกันตรงกลางโต๊ะทันที
แต่เหมือนว่าแมทธิวที่ยืนข้างหลังของฉันจะเนียนมายืนแนบชิดกับฉัน แทบจะสิงร่างของฉันอยู่แล้ว