- EP.4 STILL LOVE ทวงรัก - ทิ้งกลางห้าง
EP.4 STILL LOVE ทวงรัก
ตอน ทิ้งกลางห้าง
________________________________
"วันนี้ฉันจะไปดูหนังและก็ช้อปปิ้งต่อกับเพื่อนฉัน"ฉันพูดต่อทันทีอย่างไม่รีรอ
เพราะอยากให้วินด์เป็นฝ่ายถูกทิ้งซะบ้าง
ฟุ๊บ!! ยัยขิงดึงแขนของฉันเข้าไปหาเล็กน้อย
"แต่กูมีเรียนภาคค่ำ"มันกระซิบบอกข้าง ๆหูของฉันแต่วินด์เซอร์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็คงได้ยินอยู่ดี
"ก็โดดเรียนไปกับกูดิ"ฉันก็หยิกแขนยัยขิงไปเล็กน้อย
"กูเด็กทุนจะโดดเรียนยังไง?"นางก็กัดฟันตอบมาด้วยสีหน้าลำบากใจ
แต่จู่ ๆวินด์เซอร์ลุกขึ้นจากโต๊ะทันที
…
…..
"นี่นายจะกลับเลยงั้นเหรอ?"ฉันหันไปถามวินด์ด้วยน้ำเสียงเหวี่ยง ๆ
"เปล่า..จะเดินไปสั่งกาแฟ"เขาก็ตอบมาอย่างเรียบ ๆ
"ก็เห็นพวกเธอกระซิบกันยังไม่เสร็จ"วินด์ตอบอย่างหน้าตาย ๆ
ก่อนที่สายตาของเขา จะค่อย ๆลดระดับสายตา ลงมามองที่กระโปรงของฉันและเขาก็นิ่งไปสักพัก ซึ่งฉันก็รีบขยับเปลี่ยนขาที่นั่งไขว่ห้างอยู่ ให้กระโปรงมันดูสั้นมากยิ่งขึ้น เผื่อว่าเขาจะ..
"ไม่หนาวเหรอ?"เขาพูดขึ้นเบา ๆเพราะเมื่อตัดภาพมองไปทางยัยขิงที่ใส่ชุดนักศึกษา กระโปรงยาวถึงพื้น ผ้าใบ และมันยังใส่เสื้อคลุมคาร์ดิแกนซ้ำด้วยอีกชั้นนึง เพราะว่าแอร์ในร้านกาแฟก็เย็นจริง ๆ
"ไม่! ฉันร้อน"ฉันกอดอกตอบไปแบบลอยหน้าลอยตาทั้ง ๆที่หนาวปากแทบสั่นอยู่แล้ว
"..."เขาพยักหน้ารับอย่างไม่พูดอะไรต่อ
พร้อมกับเดินออกไปสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร์ทันที อย่างหน้าตาเฉย
…
…….
"มึงเห็นไหม?"ฉันหันไปถามยัยน้ำขิงทันทีที่วินด์เซอร์เดินออกไปจากโต๊ะ
"นี่ขนาดกูใส่ชุดนักศึกษารัดรูป กระโปรงก็สั้น ขนาดนี้แล้ว"
"ดูแฟนกูดิ!!"ฉันกระแทกเสียงและมองไปทางวินด์เซอร์ที่ยืนรอกาแฟหน้าเรียบนิ่งอยู่ไกล ๆ
"ไม่หึง ไม่หวงกูเลยสักนิด!"
"ถ้าเป็นแฟนคนอื่นก็คงพูดอะไรแล้ว"
"นี่ผู้ชายคนอื่นมองกูตลอดทั้งทาง แต่วินด์กลับเมินเฉยแบบเนี่ย"ฉันระบายให้ยัยขิงฟังอย่างหัวเสีย
"วินด์อาจจะไม่อยากเปลี่ยนความเป็นตัวของมึงเองมั่ง?"ยัยขิงก็พยายามหาข้อแก้ตัวดี ๆให้กับแฟนจอมเย็นชาหมาดนิ่งของฉัน
"นี่มึงเพื่อนกูหรือเพื่อนวินด์?"ฉันถามกลับไปอย่างควันออกหู
"เพื่อนมึงไงค่ะ"ยัยขิงลูบไหล่ของฉันเบา ๆ
"ถ้ามึงอยากให้เขาหึง ให้เขาด่า เรื่องที่มึงแต่งตัวแรดๆแบบนี้"
"ก็แล้วทำไมมึงไม่บอกวินด์ไปตามตรงวะ ว่าต้องการให้เขาเป็นแบบไหน?"ยัยขิงก็มองฉันสลับวินด์เซอร์อยู่สักพัก
"เฮ่ออออ"ฉันถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
"เป็นแฟนกันนะเว้ย หึงหวงกันบ้าง"
"สนใจใส่ใจบ้างสิ"ฉันพูดออกไปอย่างตัดพ้อ
"เรื่องแค่นี้ควรรู้ได้เองปะ?"ฉันพูดอย่างพยายามข่มอารมณ์เอาไว้ในใจ
"อันนี้ก็ไม่รู้ว่ะ เพราะกูโสด"ยัยขิงเกาหัวอย่างไม่รู้ว่าควรจะให้คำปรึกษาฉันยังไง
"จิ!"ฉันก็จิ๊จ๊ะตอบยัยขิงไป
"แต่มีแฟนไม่ขี้หึงก็ดีแล้วป่าวว่ะ"
"หรืออยากได้หึงโหด ตามติดทุกฝีก้าวแบบยัยวิเวียนน้องรหัสมึงละ?"ยัยขิงเอียงคอและตั้งคำถามกับฉัน
"ก็ดีกว่า มีแฟนแล้วเหมือนไม่มี เปล่าวะ?"ฉันบ่น ๆ
"ไม่รู้แหละ วันนี้ไปดูหนัง ไปช้อปปิ้งด้วยไม่ได้นะ"ยัยขิงรีบพูดต่อรัว ๆ
"วันนี้กูโดดเรียนไม่ได้จริง ๆ"ขิงย้ำๆด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ
"คลาสหน้ากูมีพรีเซนงานหน้าห้อง ไม่เข้าเรียนไม่ได้"ยัยขิงวกกลับมาที่เรื่องเดิมทันที เมื่อเห็นว่าวินด์เซอร์กำลังถือกาแฟเดินกลับมาทางเรา
"อิขิง แล้วกูจะไปกับใครล่ะ?"ฉันถลึงตาใส่ยัยขิง
"ถ้าเพื่อนเธอไม่ว่าง"วินเซอร์วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ
"ก็ไปกับฉันสิ...ฉัน ว่าง~"เขาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆฉันอีกครั้ง พร้อมทั้งเอ่ยตอบขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย ๆ
"จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่เราดูหนังด้วยกัน"ฉันก็หันไปมองหน้าแฟนของตัวเองทันที
"ดูได้ยังไม่ถึงครึ่งเรื่อง"ฉันกระแทกเสียงใส่หน้าของวินด์เซอร์ไป
"นายก็ทิ้ง ให้ฉันดูคนเดียวจนจบเรื่องอยู่ดี"ฉันพูดตอบคนตรงหน้าอย่างเสียงแข็ง ๆ
"…"วินด์เซอร์ยังคงเอาแต่เงียบ
หลังจากที่ฉันเหวี่ยงไปอีกรอบ บรรยากาศทั้งโต๊ะก็เงียบกริบ จนกระทั่งยัยน้ำขิง ที่นั่งมองเราสลับไปสลับมาอยู่สักพัก นางก็ตัดสินใจพูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า...
"มึงไปดูหนัง ไปช้อปปิ้งกับวินด์เถอะน่า"ยัยน้ำขิงสะกิดแขนของฉันเบา ๆ
"เมื่อวานก็ไม่ได้ฉลองวันครบรอบด้วยกันไม่ใช่เหรอ?"
"วันนี้วินด์ก็มาหาแกถึงคณะเลยนะ"
"ถือว่าไปเดตกันชดเชยเมื่อวานก็แล้วกัน"ยัยขิงรีบหยิบกระเป๋าสะพายชาแนลของฉันยัดใส่มือ พร้อมกับพูดคะยั้นคะยอฉัน อย่างออกนอกหน้าให้ฉันไปกับวินด์ให้ได้
"ยัยน้ำขิง!"ฉันจ้องยัยเพื่อนรักอย่างเคือง ๆเพราะว่าฉันไม่อยากจะหายงอลวินด์ง่าย ๆแบบนี้ เขายังไม่พยายามง้อเลยสักนิด
"งั้นฝากยัยไอร์ด้วยนะวินด์"ยัยขิงก็รีบหันไปฝากฉันกับวินด์เซอร์เสร็จสรรพอย่างไม่สนใจว่าฉัน มองจิกใส่มันจนตาแทบจะหลุดออกมา
ยัยน้ำขิงรีบก้มหน้าก้มตาเก็บหนังสือต่าง ๆเข้ากระเป๋าเรียนของตัวเองอย่างไม่รีรอ
"วันนี้นายคงไม่ทิ้งเพื่อนเรากลางโรงหนังอีกใช่ไหม?"หลังจากที่มันเก็บกระเป๋าเสร็จ ก็เงยหน้าถามวินเซอร์ไปแบบตรง ๆ
"ใช่ ไม่ทิ้งอยู่แล้ว"วินด์เซอร์หันมามองทางฉันนิ่ง ๆ
"ได้ยินแล้วนะ คุณไอรีน~~"ยัยน้ำขิงส่งยิ้มให้ฉันก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะทันที
"ไปเรียนก่อนนะ"ยัยขิงหันมาบอกกับฉัน
"เลิกเรียนแล้วโทรหากูด้วยนะ"ฉันก็เอ่ยบอกยัยขิงไปก่อนที่มันจะสะพายกระเป๋าเดินออกจากร้านกาแฟไป
และที่ดูเหมือนยัยขิงเรียนหนักกว่าฉันก็เพราะว่า ยัยนั่นเป็นต้องเรียนให้จบภายในสามปีครึ่ง จึงทำให้ต้องอัดหลาย ๆวิชาเป็นสองเท่าของฉัน
ในเทอม ๆเดียว
หลังจากที่แยกย้ายกับน้ำขิงเสร็จฉันก็เดินออกมากับวินด์เซอร์เพื่อที่จะตรงไปยังลานจอดรถทันที
"แล้วรถของนายละ จอดที่ไหน?"ฉันเอ่ยถามเพราะวินด์เดินตามหลังของฉันมาติด ๆ
"ฉันติดรถฟาเรนมา"เขาตอบกลับมาเบา ๆ
"เอากุญแจมาสิ"เขาเลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้าของฉัน
"อะ.."ฉันหยิบกุญแจรถให้กับวินด์เหมือนทุก ๆครั้ง
@โรงภาพยนตร์ FS
ฉันยืนมองดูโปสเตอร์หนังต่าง ๆ
จนไปสะดุดเข้ากับหนังใหม่ล่าสุดที่ขึ้นบนหน้าจอมอนิเตอร์ใหญ่กลางโรงหนัง
_______________
LOVE DIE รักสุดท้าย
"สำหรับบางคน อยู่ในความทรงจำ"
"อยู่ในหัวใจ"
"แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน"
"และนี่คือบทพิสูจน์รักแท้ด่านสุดท้ายของพวกเขาทั้งคู่"
"เมื่อความตายได้พรากคนรักไป และมอบคนใหม่กลับมาในร่างเดิม"
- ฉายพร้อมกันแล้วทั่วประเทศ -
_______________
"ดูเรื่องนี้แล้วกัน น่าจะโรแมนติกดี"ฉันชี้ไปที่หน้าจอมอนิเตอร์จอใหญ่นั่น
ฉันเลือกหนังรักโรแมนติกเรื่องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะเข้าโรงหนังวันนี้เป็นวันแรก
เป็นภาพพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากหนังสือนวนิยายขายดีอันดับหนึ่ง
ที่มีชื่อว่า LOVE DIE รักสุดท้าย ของผู้เขียนนามปากกว่า...อยู่ในโคมไฟ
"อื้ม"วินด์ก็พยักหน้าก่อนจะกดซื้อตั๋วจากตู้อัตโนมัติหน้าโรงหนังทันที
และนี่คือหนังเรื่องที่สอง ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีกับอีกสองวัน ที่ฉันกับวินด์คบกันมา
@ในโรงภาพยนตร์
-30 นาทีผ่านไป-
กับการที่นั่งดูหนังไปก็เอามือถูที่แขนและขาของตัวเองไปเรื่อย ๆเพื่อเพิ่มไออุ่นให้กับร่างกายของตัวเอง ที่ตอนนี้เย็นเฉียบแทบจะชาไปทั้งตัว เพราะว่า....
แอร์ในโรงหนังบ้านี่แหละ!! ไม่รู้ว่ามันเปิดให้หมีขั้วโลกเหนือมาอยู่หรือว่ายังไง ฉันเม้มปากแน่นทั้ง ๆที่สั่นไปทั้งตัว และพยายามไม่แสดงท่าทีว่าหนาว เพราะกลัววินด์เซอร์จะซ้ำเติมเอาเรื่องที่ฉันใส่เสื้อบางและกระโปรงที่สั้นแทบจะเห็นไปถึงข้างในตัวนี้
"...."ท่ามกลางความเงียบและหนังยังคงดำเนินเรื่องต่อไปเกือบจะถึงจุดพีคของเรื่องนี้..
ฟุ๊บ!!วินด์เซอร์ถอดเสื้อช็อปวิศวะตัวใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มของเขา คลุมให้ฉันทันทีทั้ง ๆที่สายตาของเขา ก็ยังคงมองตรงไปที่หน้าจอที่ฉายหนัง เหมือนไม่ได้สนใจอะไรนอกจากดูหนังต่อไป
ฉันรีบหันไปทำท่าจะคืนเสื้อให้กับเขา เพราะคิดว่าเขาต้องขำฉันในใจแน่ ๆเลยที่ฉันหนาวจนตัวสั่นเป็นเข้าขนาดนี้
"ใส่ไว้เถอะน่า"แต่วินด์รีบหันมาคว้าเสื้อของเขาและติดกระดุมให้ฉันแทบจะครบทุกเม็ด
เรายังคงดูหนังกันต่อไป โดยไม่มีการจับมือ อิงซบไหล่ หรือใด ๆเลย
เพราะถ้าฉันไม่เป็นคนเริ่ม วินด์เซอร์ก็เอาแต่นั่งนิ่ง ๆเป็นพระอิฐพระปูนอยู่แบบนี้
อื้อออ อื้อออ อื้อออ ~~ (เสียงโทรศัพท์สั่น) โทรศัพท์ของวินด์อยู่ในกระเป๋าข้างเสื้อช็อปวิศวะของเขา
และมันสั่นไม่ยอมหยุดเลย ฉันเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าก่อนจะกดตัดสายใส่ทันที
และหันมาดูหนังต่อ แต่ว่า
อื้อออ อื้อออ อื้อออ ~~ (เสียงโทรศัพท์สั่นกระเป๋าเสื้อ)
ฉันหันไปมองทางวินด์เซอร์ที่ยังคงมองตรงดูหนัง ฉันจึงแอบหยิบโทรศัพท์มาดูว่าใครมาขัดขวางความสุขของฉันหนักหนาเนี่ย และใช่
"ฟาเรนไฮท์!!"ฉันก้มหน้าจอโทรศัพท์ที่ยังคงโชว์เบอร์โทรของเพื่อนสนิทคนดีคนเดิมของวินด์เซอร์
อย่างฟาเรน หรือชื่อเต็มมันก็คือคุณชายฟาเรนไฮท์ นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเจ้าชู้และเอาผู้หญิงไม่เลือกนะ
ฉันจะคิดว่ามันแอบคิดอะไรกับแฟนของฉันแล้วนะ
"วันนี้วันของฉันย่ะ"ฉันกัดฟันพูดคนเดียวก่อนจะกดปิดโทรศัพท์ของวินด์เซอร์ไปทันที
…
…..
"นายว่าพระเอกเขาจะตายจริง ๆไหม?"ฉันรีบหันไปถามวินด์เซอร์อย่างเนียน ๆหลังจากที่ฉันแอบปิดโทรศัพท์ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ไม่น่าตาย"วินด์เซอร์ก็หันมาตอบฉันด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง
"พระเอกเขาแสดงให้เห็นชัดดีนะ"ฉันมองตรงไปที่แฟนของตัวเองนิ่ง ๆ
"ว่าเขารักนางเอกมาก ๆ"ฉันเอ่ยตอบไปขณะที่เราสองคนยังคงหันมามองหน้ากันท่ามกลางความมืดมิดในโรงหนัง
"งั้นเหรอ"วินด์ก็ทำแค่เพียงพยักหน้าเบา ๆ และหันไปดูหนังต่ออย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรในคำพูดของฉัน
หลังจากที่หนังจบลง เราก็เดินออกมาจากโรงหนังตามปกติ
"หนังสนุกดีนะ"
"สงสัยต้องไปหาซื้อหนังสือมาลองอ่านดูบ้างแล้วละ"ฉันหันไปบอกกับวินด์เซอร์หลังจากที่เราก้าวเท้าออกมาจากโรงหนัง
"สนุกจนร้องไห้เลยเหรอ?"วินด์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เพราะฉันดันบ่อน้ำตาแตกไปตอนฉากที่พระเอกป่วยเป็นหัวใจ
แถมหลังจากผ่าตัดยังลืมความรักที่มีต่อนางเอกไปจนหมดสิ้น
"ก็ฉันสงสารนางเอกนี่"ฉันพูดพลางปาดน้ำตาเบา ๆ
"ปกติฉันไม่ใช่คนเซนซิทีฟนะ แต่เรื่องนี้มันอินไปกับความรักของพวกเขาจริง ๆ"ฉันเอ่ยบอกกับวินด์เซอร์ไป แต่เหมือนว่าคนข้าง ๆฉันจะไม่อินกับอะไรเลยสักอย่าง เขาก็ฟังฉันสาธยายต่อไปอย่างไม่ขัด ไม่ออกความคิดเห็นใด ๆเลย จนเราทั้งคู่เดินออกมาถึงโซนด้านหน้าของโรงหนัง
"เออ..ฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะ"ฉันรีบรั้งแขนของวินด์เอาไว้ทันที
"พอดีตอนดูหนังฉันดื่มน้ำไปเยอะเลยอะ"ฉันชี้ไปที่ป้ายห้องน้ำหญิง และฝากกระเป๋าชาแนลคลาสสิคใบสุดรักพาดลงบนไหล่กว้าง ๆของวินด์ ก่อนจะถอดเสื้อคืนให้เขา ก่อนจะรีบเดินไปต่อคิวเข้าห้องน้ำทันที