บท
ตั้งค่า

- EP.1 STILL LOVE ทวงรัก - เราเลิกกันเถอะ

EP.1 STILL LOVE ทวงรัก

ตอน เราเลิกกันเถอะ

________________________

"สุขสันต์วันครบรอบสามเดือนของเรานะครับ"

"สุดที่รักของผม..."เสียงของผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนหวานและดูอบอุ่นท่ามกลางบรรยากาศร้านอาหารสุดโรแมนติกแห่งนี้ เสียงเพลงบรรเลงสไตล์คลาสสิคที่แสนไพเราะ ฉันถือกล่องนาฬิกาข้อมือแบรนด์หรูและก้มมองที่กล่องสีเขียวในมือ ก่อนจะเผลอยิ้มออกมากับความน่ารักของผู้ชายคนนั้น

"ขอบคุณนะคะ แม็กซ์เวลล์"

"ดอกไม้ของคุณ..สวยถูกใจฉันมากเลยค่ะ "หญิงสาวเอ่ยตอบไปอย่างบางเบาแก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อด้วยความเขินตามประสาคนที่ถูกเซอร์ไพรส์

"ผมดีใจที่คุณชอบนะครับ"

"เพราะรอยยิ้มของคุณมันทำให้ผมมีความสุข" ถ้อยคำหวานซึ้งกินใจของชายคนนั้น สร้างความประทับใจให้กับคนที่ฟังได้ไม่รู้ลืม

"ฉันรู้สึกว่า…ตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีจังเลยค่ะ.."

"ที่ได้เจอกับผู้ชายที่แสนดีและใส่ใจฉันมากแบบคุณ"

ฉันเผลอยิ้มออกมาเมื่อได้ฟังบทสนทนาที่แสนโรแมนติกเหล่านั้น เพียงแต่...ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นน่ะสิ

ฟุ๊บบบ..พนักงานเสิร์ฟชายคนหนึ่งเดินเข้ามา หยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะของฉัน ซึ่งอยู่ถัดจากโต๊ะของคู่รักแสนหวานนั้น มาหนึ่งโต๊ะ

"คุณผู้หญิงต้องการสั่งอาหารอะไรเพิ่มเติมไหมครับ?"

"พอดีทางครัวของเราใกล้จะปิดให้บริการแล้วน่ะครับ "พนักงานเสิร์ฟชายคนเดิมพูดขึ้นอย่างสุภาพ

"เช็คบิลเลยก็ได้" ฉันพูดก่อนจะหยิบบัตรเคดิต เครดิตวางลงบนโต๊ะ ด้วยใบหน้านิ่ง ๆ บนโต๊ะมีแค่เพียง มีเพียงแค่ไวน์ขวดเดียวและยังเพิ่งจะรินไปเพียงแค่ไม่กี่แก้วเท่านั้น

"ได้ครับ" พนักงานก้มหัวเพียงเล็กน้อย

จริง ๆ แล้วฉันเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ และร้านนี้ก็เป็นร้านอาหารโปรดของฉัน เมื่อเทียบกับร้านอาหารอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ในโซนมหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งนี้ ฉันเปิดกล่องนาฬิกาหรูเรือนนั้น บนหน้าปัดนาฬิกาเรือนหรู เข็มวินาทียังคงเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ นาฬิกาเรือนหรูได้บอกว่า…ขณะนี้ได้เลยเวลาเที่ยงคืนมาแล้ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ฉันนั่งโง่ ๆ รอใครอีกคนมานานถึง 5 ชั่วโมงเต็ม ๆ แล้ว โดยไม่มีวี่แววว่าเขาจะมา

หลังจากที่ฉันได้จ่ายเงินบิลค่าไวน์เสร็จสรรพ ฉันรีบก็ลุกจากโต๊ะสะพายกระเป๋าเตรียมจะได้เดินผ่านโต๊ะอาหารที่อยู่ข้าง ๆฉันโต๊ะนั้น ซึ่งชายหญิงคู่นั้นก็หันมามองทางฉัน และยิ้มให้อย่างเป็นมิตร เพราะว่าโต๊ะที่นั่งอยู่ติดกันมาก และมันก็ไม่แปลกถ้าฉันจะบังเอิญได้ยินบทสนทนาทั้งหมดของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

"Happy Anniversary กับพวกคุณทั้งคู่ด้วยนะคะ"

"พวกคุณเป็นคู่ที่น่ารักมากเลยค่ะ" ฉันจึงตัดสินใจเอ่ยทักทายไปอย่างเป็นมิตรเพราะพวกเขาทั้งสองคนก็ดูหน้าคุ้น ๆ และก็คงเรียนมหาลัยเดียวกันกับฉันแน่ ๆ

"ขอบคุณนะคะ คุณไอรีน" ฝ่ายหญิงรีบเอ่ยตอบฉันอย่างยิ้มแย้ม ฝ่ายชายเองก็ยิ้มอย่างสุภาพเช่นกัน ฉันพยักหน้าเบา ๆก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น การที่พวกเขารู้จักฉันมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะว่าตัวฉันเป็นดาวมหาลัยปีก่อน ถือว่าในมหาลัยฉันก็มีชื่อเสียงอยู่บ้าง ทั้งด้านดีและด้านแย่ๆ

…..

ฉันเดินออกจากร้านอาหารสุดหรูที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของตัวเองมากนัก ตลอดทางเดิน.. ฉันได้แต่มองดูเงาของตัวเองที่เดินออกมาเพียงลำพัง เปล่าเปลี่ยว และเดียวดาย เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังก้องกังวานไปทั่ว มันยิ่งตอกย้ำความเหงาของฉันมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะเดินถึงรถของตัวเอง ก็มีเสียงฝีเท้าของใครอีกคนที่กำลังวิ่งตรงมาทางฉันอยู่พอดี

"..ไอร์~~" เสียงของใครบางคนก็เอ่ยเรียกชื่อของฉัน

และนั่นทำให้ฉันต้องชะงักฝีเท้าของตัวเองทันที แม้ว่าฉันจะไม่หันกลับไปมอง แต่ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่เรียกฉันคือใคร เขาคนนั้นเดินตรงเข้ามาหาฉันและหยุดตรงหน้าด้วยท่าทีหอบเหนื่อย

"..." ฉันจ้องหน้าของเขาด้วยความโกรธแค้นและกำหมัดแน่น

วินด์เซอร์ยังคงอยู่ในชุดเสื้อช็อปของคณะวิศวะ รอยสีดำเปื้อนเต็มใบหน้าของเขาไปหมด และกลิ่นน้ำมันอ่อน ๆผสมน้ำหอมเข้ม ๆ

ฉันมองวินด์เซอร์แบบหัวจรดปลายเท้าและทำได้แค่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น

"ขอโทษที่ฉันลืม / ขอโทษที่ลืม" ฉันหันกลับมาพูดสวนออกไปทันที วินด์เซอร์กำลังจะเอ่ยปากพูดแก้ตัว และนั่นทำให้เขาหยุดชะงักไปทันทีเช่นกัน

"……" ฉันกัดฟันกรอดอย่างพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด

"ลืมวันเกิด"

"……"

"ลืมวันครบรอบ"

"……"

"ลืมวันวาเลนไทน์"

"……"

"นายลืมนัดของฉันแทบจะทุกครั้งเลยได้ยังไงกันวินด์!" ฉันขึ้นเสียงกลับไปอย่างสุดจะอดทนแล้วกับคนไม่เอาไหนอย่างเขา

"……"

"และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันผิดหวังกับแฟนอย่างนาย!" ฉันตะโกนใส่หน้าเขาไปเพราะแทบจะทุกครั้งที่เขาทั้งลืมทั้งละเลยฉัน

"ฉันยุ่งเรื่องโปรเจคของคณะ" เขาเอ่ยตอบกลับมาด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง เขาไม่สะทกสะท้านอะไรเลยด้วยซ้ำ

"ถ้าไม่มาก็บอกฉันตั้งแต่แรกสิ"

"……"

"ฉันจะไม่นัด ไม่รอ ไม่หวังอะไรจากคนอย่างนาย!"

"……"

"นี่ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ โทรหาก็ไม่รับ"

"ฉันไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์" เขาพยายามจะอธิบายแต่ฉันก็แทรกขึ้นอย่างไม่รอฟังอะไรทั้งนั้น

"ถ้านายคิดว่าวันนี้มันไม่สำคัญ ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาลุกขึ้นมาแต่งหน้าแต่งตัว เตรียมชุดตั้งแต่เช้า แถมรองเท้าก็กัดอีก"ฉันโวยวายไปเรื่อยเปื่อยด้วยความโมโหวินด์เซอร์แบบสุดๆ

"…." คนตรงหน้าก็ทำแค่มองลงไปที่เท้าของฉัน เขาปล่อยให้ฉันคลั่งอยู่แบบนั้น โดยที่ตัวเองแค่ยืนมองนิ่งๆ

"ฉันต้องกลับมานั่งถามตัวเองอีกครั้ง"

"……"

"ซ้ำ ๆย้ำ ๆ" ฉันทุบหน้าอกของตัวเองแบบแรง ๆด้วยอารมณ์

"……"

"ว่าถ้ามีแฟนแล้วเหมือนไม่มี ฉันจะมีไปทำไม? เราจะคบกันต่อไปทำไม?" ฉันพูดออกมาอย่างเสียงสั่นเครือ

"ไว้มาพรุ่งนี้อีกก็ได้นะ" เขาตอบมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

"แล้วพรุ่งนี้มันใช่วันสำคัญของเราเหรอไง?"

"……"

"วันครบรอบคือวันนี้ "

"……"

"ไม่ใช่พรุ่งนี้ ไม่ใช่เมื่อวาน!!" ฉันตวาดกลับไปเสียงดังลั่น

วินด์เซอร์เอาแต่ยืนมองหน้าฉันที่กำลังโวยวายใส่เขาอย่างไม่ตอบโต้ไม่เถียง ไม่พูดห่าอะไรเลยสักคำ

"นายไม่เคยให้ความสำคัญกับฉันเลย"

"ไม่เคยมีเวลาให้เลย" ฉันขึ้นเสียงกลับไปใส่เขาเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา จนเสียงแหบเพราะตะโกนออกไปเยอะมาก ๆ หลังจากที่เราสองคนเงียบกันไปสักพักใหญ่

"ถ้าจะเป็นแบบนี้.."

"……"

"เราก็เลิกกันเถอะ!"

ฟุ๊บ!!! ฉัน เขวี้ยงกล่องนาฬิกาสุดหรูใส่แผ่นอกของวินด์เซอร์ไปเต็มแรง

เขายังคงนิ่งไม่ตอบโต้ใด ๆ

"แม่งเอ๊ย!"

"มันเป็นวันครบรอบที่เฮงซวยสุดไปเลย!" ฉันโวยวายลั่น ก่อนจะถอดรองเท้าส้นสูงที่กัดนั้นหิ้วและเดินกระแทกเท้ากลับไปที่รถตัวเองทันที

นี่เราคบกันมาหนึ่งปีแล้ว..ไม่มีอะไรพัฒนาเลยในความสัมพันธ์ของเรา ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ฉันไม่รู้เลยว่าฉันยังสำคัญอยู่ไหม? หรือเอาจริง ๆฉันไม่ได้สำคัญมาตั้งแต่วันแรกที่คบแล้ว มีแฟนแต่กลับรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวมากกว่า มันน่าโมโหน่าน้อยใจไหมล่ะ?

@บนรถ

พอก้าวขึ้นรถตัวเองได้

ปัง! ฉันก็กระแทกปิดประตูอย่างเต็มแรงเพื่อระบายความโกรธให้เขาได้รับรู้ ก่อนจะเหยียบคันเร่งขับผ่านวินด์เซอร์อย่างไม่คิดจะหันกลับไปมองเลยสักนิดเพราะยิ่งมองหน้าเย็นชาของเขาก็ยิ่งเจ็บใจ

"นายเป็นแฟนที่แย่ที่สุดเลยวินด์!" ฉันสบถออกมาตลอดทาง

@คอนโด Univer

(คุยโทรศัพท์กับน้ำขิง)

"เรื่องรายงานเอาไว้ก่อน ว่าแต่...."

"ดินเนอร์วันครบรอบเป็นไงบ้างมึง?" เสียงของเพื่อนสนิทสาวของฉันเอ่ยทักขึ้นหลัง

"กินข้าวแล้วได้กินวินด์ยัง?" ยัยน้ำขิงโทรเข้ามาในตอนที่ฉันกำลังจะเปิดประตูเข้าคอนโดพอดิบพอดี

"เหอะ กินแห้วละสิไม่ว่า"

"กูก็ถูกทิ้งให้นั่งรอคนเดียวอีกตามเคยไง" ฉันเอ่ยตอบไปปลายสายไปด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงๆ

ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยล้าไปทั้ง ๆที่สะพายกระเป๋า LV และสวมใส่รองเท้าส้นสูงคู่เดิมที่กัดฉันมาทั้งวัน

"นี่กูแต่งหน้าแต่งตัวไปเพื่ออะไร?" ฉันบ่น ๆ พร้อมกับถอดรองเท้าออกอย่างเจ็บทั้งเท้าเจ็บทั้งใจ

"ที่ทำทั้งหมดก็เพื่อที่จะสวยสะดุดตาในวันครบรอบของฉันกับตาทึ่มนั่นแท้ ๆ โคตรโมโหเลยว่ะ" ฉันบ่นให้เพื่อนซี้ฟังต่อ

"มึงยังไม่ชินอีกเหรอวะ?" น้ำขิงตอบกลับมาแบบขำ ๆ

"ไม่ชิน ไม่เคยชินสักครั้ง"

"และครั้งนี้กูก็บอกเลิกวินด์ไปแล้วด้วย" ฉันตัดพ้อไปอย่างโกรธจริง ๆ

"……"

"กูก็เลือกได้นะเว้ย!"

"ทำไมต้องมาทนอยู่กับคนเย็นชาแบบวินด์ด้วย" ฉันพูดไปอย่างรู้สึกหงุดหงิดในใจไม่หาย

"แต่ก็มีแค่วินด์คนเดียวไหมล่ะ ที่ทนนิสัยมึงได้อะ"

"อิขิงมีผู้ชายคนอื่นอีกตั้งเยอะที่ทนได้เหมือนกันแหละ"

"……"

"เพียงแต่ฉันไม่ได้เลือกเขาเท่านั้นเอง" ฉันเถียงกลับไปแม้ว่า เอาเข้าจริงๆแล้ว ฉันเพิ่งคบกับวินด์เป็นแฟนคนแรก ส่วนคนที่ผ่าน ๆมาแค่คนคุยเท่านั้น จริง ๆ ฉันก็ชอบตัวเองตอนโสดเหมือนกันนะ เพราะตอนนี้ถึงมีแฟนก็ไม่เห็นต่างจากตอนโสดเท่าไหร่เลย

เผลอ ๆเหงากว่านั้นด้วยซ้ำไป..

"จ่ะ แต่รอบบนี้เพื่อนขอเป็นรอยัลคานินนะ" ยัยน้ำขิงบ่นขึ้นเบา ๆ

"อะไรคือรอยัลคานินวะ?" ฉันเอ่ยถามไปแบบงง ๆ

"ก็อาหารหมาไง"

"เวลามึงเลิกกับวินด์ทีไร"

"นังขิงคนนี้ได้รับประทานอาหารหมาบ่อยจนจะหอนแล้วค่ะเพื่อนรัก"

"ยังรอบนี้รบกวนคุณไอร์เปลี่ยนยี่ห้อให้หน่อยนะคะ" ยัยน้ำขิงได้ทีก็พูดจาเหน็บแนมใส่ฉันทันที

"อิขิง!" ฉันแบะปากเล็กน้อย

"รอบนี้จริงจังแน่นอนย่ะ" ฉันตอบกลับไปเบา ๆ

"ก็เห็นพูดงี้ทุกรอบแหละ"

"พอแฟนสุดหล่อแสนเย็นชาของมึงมาง้อ"

"มึงก็ใจอ่อนทุกที.."มันบ่น ๆ

"แต่ครั้งนี้กูจริงจัง" ฉันพูดออกไปอย่างใจแข็ง..

ก๊อก ๆๆ ไม่นานเสียงเคาะประตูหน้าห้องของฉันก็ดังขึ้น

ก๊อก ๆๆ

"อิไอร์..ไอร์...ยังอยู่ในสายป่ะเนี่ย?" เสียงยัยขิงจากโทรศัพท์ยังคงเรียกหาฉันเหมือนเห็นว่าฉันเงียบไป

"ฮะๆยังอยู่ ๆ" ฉันขานตอบเพื่อนไปขณะที่มองตรงไปที่ประตูนั้น

"งั้นไว้เม้าท์มอยต่อวันพรุ่งนี้แล้วกัน เดี๋ยวกูต้องนอนแล้ว..พรุ่งนี้กูมีเรียนเช้า" น้ำขิงเอ่ยตอบกลับมาในโทรศัพท์

"โอเค ๆพรุ่งนี้กูเรียนบ่าย ๆเลย"

"ยังไงเดี๋ยวถึงมหาลัยแล้วโทรหามึงนะ" ฉันก็ตอบก่อนจะวางสายเพื่อนสนิทตัวเองไป

(จบการสนทนาทางโทรศัพท์)

ก๊อก ๆๆ

เสียงเคาะประตูหน้าห้องมันดังขึ้นเรื่อย ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel