EP : 6
-มหาลัยวิทยาลัย-
“ฮาโหลว~ มินตราคนสวย” เสียงแมนนี่ที่เดินมากับมิลานตะโกนทักฉันที่นั่งรอพวกมันที่โต๊ะประจำของพวกเรา
“อื้อว่าไงพวกมึง มาช้าตลอดเลยนะ” ฉันยิ้มทักทายเพื่อนทั้งสองคนเหมือนอย่างเคย
“รถแม่งอย่างติดอ่ะ รู้งี้นะอยู่หอใกล้มอแบบมึงดีกว่า” มิลานนั่งลงแล้วบ่นตามประสามัน
“เออ ๆ อย่าบ่นน่าเดียวก็จบแล้ว อ่ะ กินซะกูซื้อไว้รอแล้ว” ฉันยื่นข้าวเหนียวหมูปิ้งเจ้าประจำของพวกเราให้มันสองคน ฉันอยู่หอใกล้มหาลัยเลยมีหน้าเตรียมเสบียงตอนเช้าให้เพื่อน ๆ ไม่งั้นสองคนนี้ไม่ได้กินข้าวเช้าแน่
“เลิศมากลูกสาวแม่” แมนนี่มองข้าวเหนียวหมูปิ้งของโปรดมันด้วยความพอใจแล้วรีบกินทันที ก่อนที่พวกเราจะขึ้นเรียน
หลังเลิกเรียนพวกเราก็มานั่งที่โต๊ะประจำเพื่อนั่งเม้าท์นั่งเล่นกันตามประสา
“มึง ๆ ใกล้ปิดเทอมแล้วนะไปเที่ยวทะเลกันดีไหม” อีแมนนี่เอ่ยชวนเพราะนี่ก็ใกล้จะปิดเทอมกันแล้ว เทอมหน้าก็ขึ้นปี 4 คงต้องแยกย้ายกันไปฝึกงาน ชีวิตนักศึกษาเริ่มสั้นลงไปทุกที
“เออดี ๆ ว่าแต่ไปทะเลไหนดีวะ ไปกระบี่ไหม ญาติกูมีบ้านที่นั่นติดหาดเลยนะ” มิลานยิ้มร่ารีบเสนอ เรื่องเที่ยวขอให้บอกโดยเฉพาะเที่ยวทะเลมิลานมันชอบมาก
“จริงไหมมึง ไป ๆๆ กูไปค่ะ ไปสองเสียงเพราะฉะนั้นอีมินมึงไม่ต้องออกเสียงแล้ว คะแนนเป็นเอกฉันท์” อีแมนนี่รีบตัดบท ฉันล่ะอ่อนใจกับมันจริง ๆ แล้วพวกมันสองคนก็เริ่มปฏิบัติการเสิร์จหาที่เที่ยว หาชุดโน่นนี่นั่น โดยที่มีฉันนั่งอือออกับพวกมันบ้างเป็นครั้งคราว
“มิน มิน อีมิน!”
“ฮะ! ว่าไงมีไร” ฉันสะดุ้งเมื่ออยู่ ๆ แมนนี่ก็ตะโกนเรียกฉันเสียงดัง
“มึงเป็นไรมินนั่งเหม่อมาทั้งวันแล้วนะ” มิลานพูดขึ้นแล้วมันสองคนก็จ้องหน้าฉัน จ้องแบบที่ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเลยทีเดียว
“เปล่าไม่มีไร เครียดเรื่องฝึกงานเทอมหน้าน่ะ”
“เฮ้อ! พวกเราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้วมินตรา มึงคิดว่ากูจะเชื่อไหม คนเก่งแบบมึงเนี่ยนะจะเครียดเรื่องฝึกงาน” มิลานพูดขึ้น
“อืม มึงทุกข์ใจอะไรตั้งแต่เช้ามิน บอกพวกกูได้ไหม” แมนนี่พูดขึ้นบ้าง นี่แสดงว่าพวกมันสังเกตอาการฉันมาตั้งแต่เช้าแล้วใช่ไหม ฉันเงยหน้าขึ้นสบตาพวกมันก็เห็นแววตาที่มีแต่ความห่วงใยของเพื่อนรักทั้งสองคนส่งมาให้ฉันทำให้น้ำตาที่พยายามกักเก็บไว้ทั้งวันไหลออกมาจนห้ามไม่อยู่
“เฮ้ย! มินมึงใจเย็นก่อน” มิลานรีบลุกมานั่งข้างฉันพร้อมกับแมนนี่ที่เอื้อมมือมาบีบมือฉันเหมือนกัน
พวกมันปลอบและปล่อยให้ฉันร้องไห้สักพักโดยที่ฉันไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว จนฉันควบคุมอารมณ์ได้เลยตัดสินใจเล่าเรื่องคืนนั้นให้พวกมันฟัง
“เลวชิบหาย ไอ้เหี้ย!”
“เออเลว แม่งมันอยู่ไหนวะกูจะไปต่อยมัน เอาให้แม่งอายเกย์แบบกูเลยไอ้เหี้ย ด่าเหี้ยก็สงสารเหี้ย แม่งเอ้ย!” แมนนี่พูดแล้วมองหาออสตินจนฉันต้องห้ามเพราะเพื่อนของฉันทั้งสองดูโกรธแค้นแทนฉันมาก ฉันกลัวพวกมันไปอาละวาดใส่ไอ้สารเลวคนนั้นจนคนอื่นรู้เรื่องอุบาทว์พวกนั้น
“ช่างเถอะมึง คิดซะว่าเป็นเวรกรรมของกูแล้วกัน”
“โดนฟันแล้วทิ้งเนี่ยนะเวรกรรม มึงบ้าเหรอมิน ถ้ามึงสมยอมก็ว่าไปอย่างแต่นี่มันมาข่มขืนมึงนะมินตรา” แมนนี่ตะคอกฉันแต่ก็ไม่ได้เสียงดังทำให้ไม่มีใครได้ยิน
“เออมิน กูแม่งเกลียดมันว่ะได้เพื่อนกูแล้วทิ้งไอ้เหี้ย”
“พวกมึงช่วยกูแค่นี้ก็พอแค่บอกกูว่ากูต้องทำยังไงดี กูอยากลืม กูเจ็บ” ฉันถามพวกมันขึ้นมา ฉันอยากลืมจริงๆ นะ อยากลืมทุกเรื่องเกี่ยวกับออสตินไปให้หมดเลย
“เดี๋ยว! ตอนนี้กูโมโหมาก ขอกูตั้งสติแป๊บ” แมนนี่ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ฉันพูดอะไรแล้วมันก็นั่งสูดลมหายใจเข้าออกช้า ๆ พักใหญ่
“เอาล่ะ สติกูมาละ มึงฟังกู มึงไม่ต้องลืมอะไรทั้งนั้น มึงจะลืมให้มันได้ใจทำไม ต่อไปนี้มึงต้องทำให้มันเสียดาย ทำให้มันรักมึงหลงมึงอยากได้มึง แล้วก็อยากได้ไปเป็นเมียจริง ๆ ไม่ใช่คู่นอน”
“มึงจะให้มินมันทำแบบนั้นเพื่ออะไรวะ เพื่อให้ได้ผู้ชายเหี้ย ๆ แบบนั้นมาเป็นผัวแล้วมันก็ช้ำใจอีกเนี่ยนะ” มิลานเอ่ยแย้งขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจ ซึ่งฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
“เสือพอมันได้หยุดมันก็จะเป็นแมว ไอ้ตินมันไม่เคยนอนกับใครแล้วขอต่อ แต่มึงเป็นผู้หญิงคนแรกที่มันเอ่ยปากเองแสดงว่ามันติดใจมึง มึงมีอะไรที่แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น และมึงก็เคยบอกพวกกูแล้วว่าเป็นผู้หญิงต้องมีผัวคนเดียวอย่าได้แรดไปนอนกับใครไปทั่วมันไม่ดี เพราะฉะนั้นตอนนี้ถือว่ามึงมีผัวแล้วนะคะ ไปจับผัวมึงให้อยู่หมัด กูจะช่วยเอง” อีแมนพูดอย่างมั่นอกมั่นใจทำเอาฉันงงเป็นไก่ตาแตกทั้งที่เมื่อกี้ยังอยากไปต่อยออสตินอยู่เลย
ถึงมันจะเป็นเกย์แต่มันเป็นเกย์ที่ห่วงเพื่อนผู้หญิงมากนะคะ มันจะคอยบอกคอยเตือนพวกฉันเสมอว่าเกิดเป็นหญิงอย่าได้ทำตัวเป็นดอกไม้ริมทาง ต้องรักนวลสงวนตัว เที่ยวได้แรดได้แต่พรหมจรรย์ต้องรักษาให้ดี กลุ่มฉันเลยถือคติต้องมีผัวคนเดียวไปเลย แอบกระซิบนิดนึงอีแมนนี้ก็ยังบริสุทธิ์นะคะ ฮ่าๆๆ
“มึงคิดดีแล้วใช่ไหมแมนนี่ถึงแนะนำมัน” มิลานถามย้ำอีกครั้ง
“เออสิ มินมันก็รักไอ้ห่านั่น แล้วมึงก็อยากเกิดมามีผัวแค่คนเดียวไม่ใช่เหรอ มันเหี้ยแค่ครั้งเดียวก็ปล่อย ๆ ไป มึงทำให้มันรักได้มึงเชื่อกู”
“แล้วกูต้องทำยังไง” ฉันถามมัน คล้อยตามแล้วจริง ๆ ไม่ปฏิเสธสิ่งที่มันเสนอเลยล่ะค่ะ ฮ่าๆๆ
“ทำตัวให้แซบค่ะลูกสาว อย่าชายตามองมันแค่นั้นก็พอ” แมนนี่ยิ้มอย่างมาดมั่นพร้อมกับเอ่ยออกมา