บทที่ 8 ขอหมอดูหน่อยนะครับ
“คนทะลึ่ง! ถามบ้าถามบออะไร กลับไปเลยนะ!” หล่อนโวยพร้อมกับลุกขยับตัวห่างจากคนตัวโต
“ไม่ได้ทะลึ่ง แต่เป็นห่วงนะ ทำไมไม่ไปรักษา ฮึ! ทำไม? กลัวพี่ขนาดนั้นเชียวเหรอ น้อยใจ เสียใจนะเนี่ยที่เมียกลัวผัวแบบนี้ อีกอย่างเกาบ่อย ๆ มันไม่ดีด้วยนะ จิ๋มเป็นสิ่งที่เปราะบางและสวยงาม เราต้องดูแลทะนุถนอมให้ดี ไหนให้พี่ดูซิ” เอ่ยพลางขยับตามร่างเล็กไป และมั่นใจว่าเจ้าหล่อนขยับหนีไม่ได้แล้ว เพราะถ้าขยับอีกคือตก อีกอย่างลุกหนีก็ไม่ได้ ถ้าลุกเขาจะจับกดที่โซฟานี่แหละ
“ยะ...อย่านะ...อย่ามาทำแบบนี้นะ” หล่อนปัดมือใหญ่ที่เคลื่อนมาวางที่หน้าขาเธอออก พร้อมกับหนีบต้นขาตัวเองเข้าชิดกันอย่างหวาดกลัว
“พี่เป็นหมอนะตา ให้พี่ดูเถอะ พี่เป็นห่วงเรานะเนี่ย” น้ำเสียงของเขามันหนักแน่นจริงจังก็จริง แต่สายตาเจ้าเล่ห์ที่ส่งออกมามันน่าไว้ใจที่ไหนกันเล่า
“จะทำอะไร ไม่ ๆ ฉันไม่ถ่างขาให้คุณดูจิ๋มฉันอีกแล้ว ปากคุณบอกอย่างแต่ตาคุณมันฟ้องว่าไม่ทำแค่ดูเชื้อราของฉันแน่ ๆ” หล่อนส่ายหน้าแรง ๆ ปฏิเสธพร้อมลุกขึ้นยืนถอยหนี คนตัวโตเองก็ลุกขึ้นก้าวตามมาประชิดตัวต้องตาแบบไม่ทิ้งจังหวะให้คนตัวเล็กได้หายใจหายคอเลยก็ว่าได้
“พี่บอกตาว่าไง ถ้าลุกขึ้นเมื่อไรพี่จะปล้ำ ตาอยากให้พี่ปล้ำ ไม่เห็นต้องลีลาเยอะเลย”
"ว้าย!"
เรียวแขนแข็งแรงตวัดเกี่ยวเอวคอดมาปะทะอกแกร่ง แล้วเหวี่ยงร่างเล็กลงไปยังโซฟาตัวยาวที่เพิ่งลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ฉะ...ฉันยอมให้คุณดูเชื้อราในช่องคลอดก็ได้ แต่อย่าปล้ำฉันเลยนะ ฉันกลัว”
หล่อนบอกตรง ๆ เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสงวงช้างเผือกของชายหนุ่มในลิฟต์ในวันนั้น หล่อนก็เฝ้าฝัน นอนสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เห็น แต่ต้องตารับรู้และสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตมโหฬารของมันได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
นภสินธุ์จ้องมองคนตัวเล็กที่นอนสั่นกลัวตนอยู่บนโซฟา ใบหน้าของสาวเจ้านั้นบิดเบี้ยว คิ้วสวยขมวดชนกัน เขาก็พอจะเดาออกว่าเจ้าหล่อนกำลังใช้ความคิดอยู่ คนตัวโตเลยเอ่ยขึ้นทำลายความคิดของคนตัวเล็ก
“คุณคิดนานไปแล้วครับคนสวย”
“ฉันต้องคิดนาน อยู่ดี ๆ ก็เป็นเชื้อรา แล้วฉัน...”
“คิดมากเกินไปแล้วครับ ก็แค่เชื้อรา ผมมีวิธีรักษาที่ง่ายมาก เพียงแค่คุณให้ผมแยงรู เอ๊ย!...”
“หมอลามก” หล่อนสวนกลับทันที พลางเบือนหน้าหนีด้วยความขุ่นเคือง
“ผมเปล่าลามก แค่พูดตามความรู้สึกตัวเอง จริง ๆ นะ เพียงแค่คุณยอมให้ผมเข้าไปเติมเต็มรูที่แห้งแล้ง รูที่เหี่ยวแห้งของคุณรับรองหายและคุณจะได้ของแถมเป็นผมด้วย ได้ผมเป็นผัว เป็นพ่อของลูก ให้ผมรักษานะคุณ ผมอยากรักษาคุณมาก และได้ตอนนี้เลยยิ่งดี”
ตอนนี้มันนอกเวลางานและอยู่ในห้องพักของหญิงสาวแล้วเขาจะพูดจีบหล่อน จะพูดทะลึ่งลามกยังไงก็ได้ ก็เขาชอบและอยากได้หล่อนจนเนื้อตัวเต้น กินไม่ได้ นอนไม่หลับ หลับตาก็คิดถึงแต่กุหลาบงามสีหวานที่ตนได้เห็นเมื่อตอนตรวจครั้งแรกที่พบว่าเธอเป็นเชื้อราในช่องคลอดนั่นแหละ ดอกไม้งามของต้องตาช่างอวบอิ่มเย้ายวนชวนหลงใหล สีชมพูระเรื่อนั้นน่าขบเม้มเหลือเกิน
เจ้าหล่อนกัดฟันแน่นด้วยความฉุนจัด ใบหน้าสวยเห่อร้อนด้วยความโกรธ สาวเจ้าขยับกายที่นอนบนโซฟาลุกขึ้นพร้อมมือเล็กตวัดใส่ใบหน้าของคนทุเรศตรงหน้า
"ทุเรศ!"
เผียะ!
"โอ้ย! เจ็บนะตา พี่เจ็บนะ พี่อยากตรวจเราเฉย ๆ พี่บอกแล้วใช่ไหมพี่จะปล้ำ งั้นเชื้อราค่อยดูก็ได้ ตอนนี้พี่เอาตาเป็นเมีย เป็นแม่ของลูกก่อน”
"ว้าย!"
ร่างเล็กนอนล้มลงไปกับโซฟาตัวเดิมอีกครั้ง และครั้งนี้มีร่างใหญ่โตตามขึ้นมาทาบทับ ร่างน้อยพยายามดิ้นรนหนี แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อมือใหญ่นั้นจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอรวบขึ้นเหนือหัว ส่วนมืออีกข้างของเขาก็มาดึงเนกไทที่ผูกติดมาออกอย่างรวดเร็ว แล้วนำไปมัดข้อมือสาวเจ้าไว้
"กรี๊ดดดด ปล่อยฉันนะ คุณจะมาทำบ้า ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ ฉันจะแจ้งตำรวจจับคุณ”
“จับข้อหาอะไรมิทราบครับ ในเมื่อยังไงตาก็ต้องสมยอมพี่เผือกอยู่แล้ว” ผละออกมาตวัดปลายลิ้นสากเลียริมฝีปากตัวเองพร้อมกับปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออก เพียงเวลาไม่นานก็เหลือแต่กายเปลือยเปล่าล่อนจ้อน
"กรี๊ดดดด ชีเปลือย”
หล่อนกรีดร้องถีบขาแรง ๆ ด้วยความหวาดกลัว กลัวสิ่งที่แข็งขึงชูชันอยู่กลางกายบุรุษ เท้าน้อยถีบยันตัวเองให้ถอยหนี ตอนนี้มือก็ถูกมัดไว้ หล่อนกลัว กลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะตายเพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
“ชีเปลือยน่ะมีพุง แต่พี่มีซิกซ์แพ็กนะครับ ดูดี ๆ สิ พี่ออกกำลังกายตลอด หุ่นพี่ดีนะตา ดูสิครับ” เขาขยับกายคืบคลานไปยังโซฟาตัวยาวพร้อมดึงรั้งข้อเท้าของสาวเจ้าจับแยกกว้างออกแล้วดึงรั้งกลับมาหาตน