Revenge เกมแค้นแสนรัก

100.0K · จบแล้ว
นญาดา
39
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอเข้ามาเพื่อแก้แค้นครอบครัวของเขา แต่เขากลับเป็นความใจดีเดียวบนโลกใบนี้ของเธอ

นิยายปัจจุบันประธานแก้แค้นพระเอกเก่งดราม่าโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นฟินๆ

บทนำ

“ระวัง!”

เสียงตะโกนดังมาจากข้างหลังก่อนจะตามมาด้วยการกระชากแขนจนทำให้ชายหนุ่มร่างหนาที่กำลังจะเดินข้ามถนนเซไปตามแรง ล้มลงคร่อมบนหญิงสาวร่างบางเจ้าของมือเรียวผู้ดึงแขนเขามานอนอยู่บนฟุตบาท

ปัง!

“โอ๊ย!”

โอบ กิจธาดาวงศ์ ร้องเสียงหลงเมื่อกระสุนเจาะเขาที่แขนข้างซ้าย

“พวกมันมาแล้ว รีบหนีก่อน” หญิงสาวเจ้าของดวงหน้าสวยหวานละมุนตาตั้งสติได้ก่อน จึงรีบลุกขึ้นแล้วจับฝ่ามืออุ่นวิ่งหนีเข้าตามตรอกซอกซอยอย่างชำนาญ

“คงตามมาไม่ทันแล้วล่ะ”

นับดาว อนิสตัน เบอร์เรล หยุดวิ่งพลางยืนหอบหายใจหนักหน่วง

“คุณเป็นอะไรมากมั้ยคะ” เธอเอ่ยถามร่างหนาตรงหน้าหลังจากที่ปรับลมหายใจให้กลับมาอยู่ในสภาวะปกติได้แล้ว

“คุณ!” นับดาวโบกมือไปมาตรงหน้าชายหนุ่มอีกครั้งเมื่อเขาเอาแต่จ้องหน้าเธอไม่วางตา

“อะ...อ่อ ไม่เป็นอะไรมากครับ” โอบตอบกลับเสียงติดๆ ขัดๆ ไม่ใช่เพราะความเหนื่อยที่ยังไม่จางหายแต่เป็นเพราะความตกใจที่เห็นหน้าของหญิงสาวต่างหาก

เรือนผมสีดำขลับเหยียดตรง คิ้วเรียวที่ถูกเสริมเติมแต่งแค่เล็กน้อย ดวงตาคู่สวยภายใต้แพขนตางอนยาว จมูกเชิดรั้นบ่งบอกถึงนิสัยดื้อดึงและความเซ็กซี่ของเธอคงจะอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มแสนเย้ายวนนั่น

เหมือน...เหมือนมากราวกับฝาแฝด

“แต่...คุณไม่ใช่ผู้ร้ายใช่มั้ยคะ”

“หน้าตาผมดูไม่น่าไว้วางใจเหรอครับ” เขาถามพลางมองหญิงสาวในชุดรับปริญญาด้วยสายตาที่อ่อนแสงลง

เพิ่งจะสังเกตว่าเธอพาเขาวิ่งหนีมาด้วยชุดนี้

“ฉันก็ต้องถามให้แน่ใจสิคะ เผื่อฉันช่วยโจรเอาไว้ ใครจะรู้”

นับดาวมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณาอีกครั้ง ผมสีน้ำตาลเข้มถูกเสยปาดด้วยเจลขึ้นไปจนเห็นหน้าผากกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาแต่เคร่งขรึมอยู่ในที เส้นคิ้วตรงเป็นแนวขวาง กรอบแว่นตาขนาดใหญ่ของเขาไม่อาจปิดบังดวงตาสุขุมนุ่มลึกเปี่ยมเสน่ห์ จมูกโด่งรับกับสันกราม ริมฝีปากอิ่มน้ำสุขภาพดี

ช่างเป็นใบหน้าที่มีเอกลักษณ์เห็นครั้งเดียวไม่มีทางลืมแน่

“หึ” เสียงหัวเราะในคอเบาๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา

“ดูเหมือนคุณจะไม่ใช่คนเบคาเทียนะ” เสียงหวานเอ่ยถามอีกครั้ง

ดูก็รู้ว่าเขามีเชื้อชาติเอเชียจากโทนผิวสีขาวเหลือง

“ครับ ผมมาทำธุระที่นี่”

แม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เขาเป็นคนต่างประเทศแต่กับถูกลอบยิงในเบคาเทีย ถ้าเธอไม่เห็นแสงเลเซอร์สีแดงบนศีรษะของเขา ป่านนี้คนร่างหนาคงนอนสมองไหลอยู่ข้างถนนไปแล้ว

“งั้นฉันจะพาคุณไปส่งที่โรงพยาบาลก็แล้วกันค่ะ”

นับดาวเลือกที่จะตัดบทพลางเดินนำเขากลับไปทางเดิม เธอไม่ชอบสุงสิงกับใครและคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องราวของผู้ชายตรงหน้าขนาดนั้น เธอแค่เข้ามาช่วยตามสัญชาตญาณเท่านั้น

“วันนี้เป็นวันรับปริญญาของคุณเหรอ” โอบทำลายความเงียบลงหลังจากที่นั่งรถของเธอมาสักพัก

“ค่ะ”

น่าแปลกที่เป็นวันรับปริญญาแต่หญิงสาวกับอยู่ตัวคนเดียว แถมยังมีเวลาว่างมาช่วยเขาและพาไปส่งโรงพยาบาลอีก วันดีๆ แบบนี้เขาไม่ต้องเลี้ยงฉลองกับครอบครัวหรอกเหรอ

“ยินดีด้วยนะครับ” เสียงทุ่มต่ำระรื่นหูทำเอาคนขับรถถึงกับหายใจสะดุด ก่อนจะเบนหน้ากลับมามองอีกฝ่ายที่กำลังยกยิ้มมุมปากบางๆ

“ขอบคุณค่ะ” เธอพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ เบนหน้ากลับมาสนใจถนนข้างหน้า

@โรงพยาบาลเมืองเปโดร

ที่นี่เป็นโรงพยาบาลประจำของรัฐเปโดร เมืองหลวงประเทศเบคาเทีย

“ถ้าคุณปลอดภัยแล้ว งั้นฉันขอตัวก่อนค่ะ” นับดาวหันหลังเดินออกมาแต่ก็ต้องชะงักเพราะเสียงเรียกจากข้างหลัง

“เดี๋ยวสิครับ” คนบาดเจ็บเอ่ยเรียกพลางเดินตามร่างบางมาด้วย

เธอมาส่งเขาที่โรงพยาบาล รอจนเขาทำแผลเสร็จแล้วจะขอตัวกลับโดยไม่ติดจะทำความรู้จักกันไว้เลยเหรอ

ปกติเขาไม่ใช่คนชอบวอแวกับใคร แต่สำหรับคนตรงหน้าเขากลับรู้สึกว่าไม่อยากปล่อยให้เธอผ่านไป

“มีอะไรคะ”

“ถ้าผมอยากจะขอช่องทางติดต่อคุณได้มั้ย”

“เพื่ออะไรคะ”

“ผมอยากจะขอบคุณที่...”

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ต่อให้เป็นคนอื่นฉันก็เข้าไปช่วยเหมือนกัน”

“เอ่อ...ผมโอบนะครับ”

ถึงจะไม่ได้ช่องทางติดต่อ ได้รู้ชื่อของเธอก็ยังดีเพราะหลังจากนั้นคงไม่ยากสำหรับคนอย่างเขาที่จะหาข้อมูลเองได้

“นับดาวค่ะ” ส่งรอยยิ้มบางๆ ที่แทบมองไม่ทันก่อนจะหันหลังเดินออกไป

“นับดาว” ริมฝีปากอิ่มน้ำทวนชื่อเธออีกครั้งพลางอมยิ้มบางๆ เมื่อนึกถึงดวงหน้าสวยหวานละมุนตาแต่กลับดูเย่อหยิ่งอยู่ในที

งานฉลองครบหนึ่งพันสาขาของธนาคารกิจธาดาหรือK-Bank ถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตในห้องจัดเลี้ยงโรงแรมดังกลางเมือง

ห้องบอลรูมของโรงแรมตกแต่งด้วยธีมสีทองและเงินเพื่อความเรียบหรู ด้านหน้างานมีการขอตรวจดูบัตรเชิญ แสดงให้เห็นถึงความพิเศษของแขกที่ต้องถูกเจาะจงเลือกมาเฉพาะเท่านั้น

กลิ่มหอมของดอกไม้นานาพันธุ์ที่ประดับในงานผสานเข้ากลับกลิ่นอาหารเลิศรสชวนยั่วน้ำลายสอ

“กว่ายี่สิบห้าปีที่ธนาคารกิจธาดาได้รับการสนับสนุนจากทุกท่าน จนปัจจุบันเรามีสาขาอยู่ในความดูแลถึงหนึ่งพันสาขาทั่วประเทศไทยและก้าวที่ยี่สิบหกของเรา ท่านจะได้พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เคแบงค์จะขอยกระดับการบริการที่เป็นมากกว่าธนาคารเพราะเราใส่ใจทุกท่านดุจญาติมิตรของตัวเอง”

เสียงปรบมือดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยง หลังจากที่นายภวัต กิจธาดาวงศ์ ผู้ก่อตั้งธนาคารกิจธาดากล่าวแถลงในพิธีเปิด

บรรยากาศในงานเลี้ยงเต็มไปด้วยความยินดีปรีดาทั้งของเจ้าภาพในการจัดงานและแขกที่ได้รับเชิญ ช่างแตกต่างกับบรรยากาศของบ้านทาวน์โฮมสองชั้นในเมืองเปโดรประเทศเบคาเทียเสียเหลือเกิน

โจนส์ มอร์แกน เบอร์เรล นั่งกำรีโมตโทรทัศน์อยู่บนรถเข็นวีลแชร์ที่ใช้สำหรับอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย

“อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้คุณภวัตประสบความสำเร็จคะ” เสียงนักข่าวในโทรทัศน์เอ่ยถาม ขณะสัมภาษณ์เจ้าภาพผู้จัดงานในวันนี้

“ครอบครัวผมครับ ก็คือภรรยาและลูกครับ” ฝ่ามือใหญ่ตบลงเบาๆ ตรงมือของภรรยาที่ควงแขนอยู่

มนทิรา กิจธาดาวงศ์ หันไปส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ผู้เป็นสามี

“และนี่คือภาพความสำเร็จครบรอบยี่สิบห้าปีของธนาคารกิจธาดา ภายใต้การบริหารของคุณภวัต กิจธาดาวงศ์ค่ะ”

ผู้ป่วยที่นั่งอยู่บนวีลแชร์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ มือข้างซ้ายกำที่พักแขนไว้แน่น สายตาอาฆาตแค้นเปี่ยมด้วยไอสังหาร รังสีอำมหิตแผ่ออกจากร่าง

‘ผมขอยกเลิกโครงการทั้งหมดที่ตกลงกันไว้ มันไม่มีประโยชน์อีกแล้ว’

ภาพความทรงจำในอดีตฉายชัดขึ้นตรงหน้า ความเจ็บแค้นที่ผ่านมาสิบหกปีไม่เคยจางหาย ยิ่งได้เห็นความสำเร็จของมันเขายิ่งทำใจยอมรับไม่ได้

‘ไม่นะ! คุณจะยกเลิกกลางคันแบบนี้ไม่ได้ ทุกอย่างกำลังจะสำเร็จ!’

เพล้ง!

รีโมตในมือถูกเขวี้ยงไปที่หน้าจอโทรทัศน์จนแตกละเอียดและดับลงทันที

“คุณโจนส์! เกิดอะไรขึ้นคะ” พยาบาลพิเศษรีบวิ่งเข้ามาในห้องนั่งเล่น

“ไอ้ภวัต! มึง!” ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างคับแค้น มือทั้งสองข้างกำขากางเกงแน่น

“พ่อ! ป้าฮันน่าพ่อเป็นอะไรคะ” นับดาวเปิดประตูบ้านเข้ามาเห็นสภาพของโทรทัศน์ที่หน้าจอแตกและมีควันลอยออกมาถึงกับชะงัก ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามานั่งตรงหน้าผู้เป็นพ่อ

“ป้าไม่ทราบเหมือนกันค่ะคุณนับ ป้าเตรียมอาหารค่ำอยู่ในครัว” พยาบาลพิเศษรีบบอกเหตุผลของเธอออกไปเพราะกลัวจะโดนดุที่ไม่ดูแลคนไข้ให้ดี

“พ่อใจเย็นๆ นะคะ มีอะไรบอกนับนะ” หญิงสาวยื่นมือไปลูบเบาๆ ที่ต้นแขนทั้งสองข้างของผู้เป็นพ่อ

ความอาฆาตแค้นยังปรากฏอยู่ในแววตา เบนหน้ากลับมามองลูกสาวที่กำลังนั่งคลุกเข่าอยู่ตรงหน้า ชั่วแวบหนึ่งแววตาทอประกายความสมเพชแต่ก็เลือนลางไปอย่างรวดเร็ว

“นับว่าพ่อไปพักผ่อนก่อนนะคะ เดี๋ยวนับพาไปนะ” ร่างบางพูดพลางลุกขึ้นเดินอ้อมไปข้างหลังวีลแชร์ พาผู้เป็นเพ่อตรงไปยังห้องนอน

“พักผ่อนนะคะ หลังจากนี้นับจะดูแลพ่อเอง นับเรียน...”

“นับดาว” เสียงของความเหนื่อยล้าเล่นเอาหัวใจของลูกสาวถึงกับกระตุกวูบ

“คะพ่อ”

“วันไหนที่พ่อไม่อยู่แล้ว นับต้องดูแลตัวเองดีๆ นะลูก” มือเหี่ยวย่นจนเห็นกระดูกยกขึ้นลูบศีรษะคนตรงหน้าอย่างเบามือ

“ไม่พูดแบบนั้นนะคะ พ่อยังแข็งแรงดี ต้องอยู่กับนับไปอีกนานเลย” หยดน้ำใสเริ่มเอ่อล้นที่ขอบตา แต่ก็ต้องพยายามสกัดกลั้นเอาไว้เพราะผู้เป็นพ่อสอนว่าอย่าอ่อนแอและเขาไม่ชอบน้ำตาของเธอ

นับดาวนั่งรออยู่ข้างเตียงนอนจนผู้เป็นพ่อหลับไป เธอจึงเดินออกจากห้องนอนแล้วตรงไปในห้องครัว

“ยินดีด้วยนะคะคุณนับดาว”

ฮันน่า พยาบาลพิเศษที่คอยดูแลคุณพ่อมาเกือบสิบปี จนเป็นเหมือนญาติคนสนิทของนับดาวไปด้วย

"ขอบคุณค่ะป้าฮันน่า" ร่างบางปั้นหน้ายิ้มอย่างยากลำบาก อุตส่าห์คิดเอาไว้ว่าวันนี้จะเป็นวันที่ดีของเธอ จะได้ฉลองเรียนจบกับผู้เป็นพ่อ

“คุณโจนส์คงมีเรื่องเครียดค่ะ”

“นับไม่เป็นไรค่ะป้าฮันน่า แค่วันธรรมดาวันนึงนั่นแหละค่ะ”

“ถ้างั้นกินอะไรหน่อยนะคะ ป้าเตรียมไว้ให้เยอะเลย”

“ขอบคุณนะคะ”