INTRO
"พรุ่งนี้เช้ารีบอาบน้ำแต่งตัวสวยๆ แล้วออกไปทานข้าวกับคุณลีอันโดรได้แล้ว อย่าให้เขารอนานมันดูไม่ดี" ทว่าเมื่อปลายเท้าสวยก้าวเข้ามาในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่ที่เธออยู่ ก็พบเข้ากับผู้เป็นบิดาที่นั่งออกคำสั่งอยู่บนโซฟา
"ค่ะ" เธอพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินกลับไปที่บ้านตัวเองด้วยท่าทีเหม่อลอย
เข้าเรื่องครอบครัวเธอดีกว่า สาเหตุที่พ่อเกลียดเธอน่ะเหรอ เหอะ ตอนแม่เธอคลอดท่านก็ตกเลือดเสียชีวิต นั่นจึงทำให้เขาเกลียดเธอและพร่ำบอกว่าเธอเป็นต้นเหตุทำให้แม่ตาย แต่ใช่ว่าจะเหมือนในละครไปหมดทุกอย่าง แม่ของพี่ชายเธอก็คือน้องสาวแม่เธอ พ่อเธอมีภรรยาสองคนน่ะ ตั้งแต่เธอเกิดมาเธอก็กินนมแม่ของพี่ชายเธอเพราะท่านคลอดพี่ชายเธอได้เดือนกว่าๆ ก่อนที่แม่เธอจะเสียชีวิต
เธอมีค่าแค่ออกไปแต่งงานเท่านั้นแหละ พ่อเธอไม่ชอบหน้าเธอขนาดนั้นแม้กระทั่งเธอจนต้องย้ายออกไปอยู่บ้านอีกหลังนู้นแหละ เธอช่วยเรื่องธุรกิจอะไรไม่ได้สักอย่างเหมือนพี่ชายเธอที่เก่งทุกรอบด้าน
"อ้าว ทำไมไม่บอกพี่ไปรับหล่ะ ไม่เห็นต้องนั่งแท็กซี่มาเองเลย ผู้หญิงคนเดียวมันอันตราย" พี่ชายของเธอมีนามว่า ธันวา หรือว่า ธัน เขาใจดีกับเธอเหมือนแม่ของเขานั่นแหละ ระหว่างทางที่เธอกลับบ้านพี่ชายก็เดินมาจากหลังบ้านพอดี
"ไม่เป็นไรค่ะ เดียขอตัว" เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะถอยห่างทำให้มือหนาของธันวาชะงักนิ่งไปเพราะเขาหมายจะยีผมเธอเหมือนตอนเด็กๆ ทว่าเธอกลับถอยห่าง
"คิดมากเหรอหื้ม ป๊าก็พูดไปแบบนั้นแหละ อย่าคิดมากเลย ใครจะไม่รักลูกตัวเอง แล้วนี่เราจะแต่งงานจริงๆ เหรอ เดี๋ยวพี่พูดกับป๊าให้เอามั้ย?" ธันวาเอ่ยด้วยความหวังดีเพราะตั้งแต่เกิดมาลิเดียไม่เคยมีความสุขเลยแม้แต่น้อย ต้องทำทุกอย่างภายใต้ความกดดัน
วันนั้นมีปากเสียงกันทำให้ผู้เป็นบิดาต่อว่าเธอว่าเธอมันเป็นตัวซวยทำให้แม่ตาย และเขายังไม่ให้เธอสนิทสนมกับพี่ชายเธออีกเพราะเธอจะเป็นต้นเหตุทำให้พี่ชายซวยไปด้วย
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ บางครั้งแต่งงานไปมันอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิดก็ได้" เธอหวังไว้แบบนั้นแหละ ชีวิตเธอก็ไม่ได้มีค่าอะไรอยู่แล้วหนิ ไม่แต่งกับคนนี้วันหน้าก็ต้องแต่งกับคนอื่นอยู่ดี
สู้ให้แต่งๆ ไปเถอะ พอเธอออกไปพวกเขาก็ไม่คิดจะสนใจเธอหรอก ต่อให้ตายเขาก็มีแต่จะสาปแช่ง เพื่อนๆ ในโรงเรียนต่างก็อิจฉาชีวิตเธอกันทั้งนั้น แต่ใครจะไปรู้ว่าความจริงมันนรกต่างหาก พ่อเธอก็ดีกับเธอแค่เวลาสร้างภาพเท่านั้นแหละ
"เฮ่อ ป๊านะป๊า" ธันวาพึมพำเบาๆ มองตามน้องสาวด้วยแววตาเป็นห่วงเพราะเขาเองก็พอจะรู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังผู้ชายคนนี้มันเป็นยังไง มันไม่ได้ดีอย่างที่เห็นในข่าวหรอก เป็นคุณหมอก็จริง แต่หมอที่เป็นสิงโตเหมือนชื่อแต่ถูกหุ้มด้วยหนังแกะที่เป็นเป็นชุดกาวน์
.
"น่าสงสารน้องนะครับ น้องไม่มีความสุขเลยสักนิด ป๊าบังคับน้องแต่งเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ตอนนี้เราก็ยังมีสิทธิ์ในตัวน้องแต่เมื่อไหร่ที่น้องแต่งงานเราก็ทำอะไรไม่ได้" ธันวามาบ่นกับมารดาในห้องด้วยความเป็นห่วง
"ลูกก็รู้ว่าเราขัดอะไรป๊าไม่ได้หรอก ไม่รู้จะโกรธจะเกลียดอะไรนักหนากัน" ผู้เป็นมารดาได้แต่บ่นด้วยความไม่ชอบใจ
.
เปรี้ยง!! ในคืนที่ฝนตกหนักฟ้าร้องคำรามไปทั่วท้องฟ้าในช่วงฤดูฝน ทำให้มีร่างเล็กที่นั่งโดดเดี่ยวกอดตัวเองอยู่มุมห้องร้องไห้จนตัวสั่นเพราะเธอกลัวเสียงฟ้าร้อง
"ฮรึก"
เปรี้ยง!!
"ฮรึก ฮือ ลิเดียกลัว" เธอก้มหน้าปิดหูตัวเองแน่นเพราะไม่อยากได้ยินเสียงแบบนี้ในตอนที่อยู่คนเดียวปราศจากคนปกป้อง
แกร๊ก!
"น้อง!" เธอเงยหน้าขึ้นมาทั้งน้ำตาเมื่อมีเสียงเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนปรากฏว่าเป็นพี่ชายเธอที่เปิดเข้ามา คิดได้ดังนั้นก็รีบโผล่ตัวเข้าไปกอดในทันทีทั้งน้ำตา
หมับ!
"ฮรึก เดียกลัว" เธอร้องไห้ตัวสั่นในอ้อมกอดของพี่ชายทั้งน้ำตา เธอไม่คิดว่าเขาจะมาที่นี่ซะอีก ต่อหน้าคนอื่นเธอทำเป็นเข้มแข็งแต่ทว่าข้างในจิตใจจริงๆ ของเธอนั้นอ่อนแอและขี้กลัวมากขนาดไหน
"ไม่ต้องกลัว พี่อยู่ตรงนี้" มือหนาลูบศรีษะเล็กเพื่อปลอบประโลม ส่วนอีกข้างลูบแผ่นหลังบางเบาๆ เขากอดปลอบเธอจนกว่าฝนจะซาลง
ถ้าเขาไม่ตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะเสียงฟ้าร้องเขาคงไม่รู้ว่ายัยตัวเล็กกลัวมากขนาดนี้ เธอเข้มแข็งมากที่ผ่านมาได้นานถึง 19 ปี เขาเป็นห่วงจึงลงมาดูก็ต้องตกใจเพราะลิเดียนั่งกอดตัวเองอยู่มุมห้องทั้งน้ำตาด้วยความกลัว
ลิเดียร้องไห้จนหลับไปในอ้อมกอดพี่ชาย รู้ตัวอีกทีเธอก็ตื่นเช้ามาอีกวัน และตอนนี้ก็นั่งรอว่าที่เจ้าบ่าวอยู่ในห้องอาหารพร้อมพี่ชายและภรรยาของป๊าเธอ
"ป๊าบังคับน้องทำไมเนี่ย ป๊าทำให้น้องไม่มีความสุขรู้ตัวรึเปล่า" ธันวาเตือนสติบิดาเพราะกลัวว่าบิดาจะอคติจนบังตาไปหมด
"แกต้องแต่ง! ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อแกทั้งนั้น!" ชายวัยกลางคนตวาดใส่ไม่แรงนักเพราะไม่อยากให้ลีอันโดรมาได้ยิน
"ป๊าต้องการไล่หนูออกไปให้พ้นตาต่างหา.."
เพี๊ยะ!
"นี่แกกล้าเถียงฉันเหรอ นังเด็กเนรคุณ" รู้ตัวอีกทีก็เผลอตบหน้าลิเดียท่ามกลางความตกใจของภรรยาและลูกชาย
"อึก!" ใบหน้าหวานก้มหงุด เธอแอบร้องไห้แต่ไม่ได้ส่งเสียงสะอึ้นออกมา มีเพียงน้ำตาที่หยดลงและรอยแดงบนแก้มนวลเพียงเท่านั้นที่ประดับอยู่บนใบหน้า
"ป๊า! ทำอะไรเนี่ย เห็นมั้ยน้องแก้มแดงไปหมดแล้ว" ธันวาต่อว่าผู้เป็นพ่ออย่างเหลืออดก่อนจะช้อนใบหน้าน้องสาวขึ้นมาดูด้วยความเป็นห่วงทว่าเธอตอบกลับเสียงแผ่วแล้วหันหน้ากลับ
"มะไม่เป็นไรค่ะ" ไม่ใช่ไรหรอก เธอเจ็บจนชินแล้วต่างหากหล่ะ แค่นี้มันธรรมดามากสำหรับเธอ
"แต่.."
"มันไม่เป็นไรหรอก ขนาดมันทำแม่มันตายมันยังไม่รู้สึกอะไรเลย" เจ้าสัวบุรินทร์เอ่ยเสียงเข้ม ตามจริงก็แอบตกใจไม่น้อยที่พลั้งมือตบหน้าเด็กนั่นด้วยความโมโห
"เด็กไม่รู้เรื่องอะไรหรอกค่ะ คุณก็รู้ว่าร่างกายพี่สาวฉันอ่อนแอมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อคติบังตา" คราวนี้ผู้เป็นภรรยาต่อว่าบ้าง
"เหอะ! จะยังไงก็ช่าง ให้มันแต่งงานไปน่ะดีแล้ว อยู่ไปฉันก็เบื่อหน่ายมัน"