EP05 สามีผู้ลึกลับ
"คืนนี้เราจะค้างกันที่นี่" เมื่อเธอกลับมานั่งที่โซฟากลางห้องโถง ผู้เป็นสามีก็เอ่ยขึ้นเสียงราบเรียบในทันที
"ค่ะ" เธอพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบคุ๊กกี้ที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกด้วยท่าทีเรียบเฉย
"หึ" เขากระตุกยิ้มมุมปากเพียงเท่านั้นแล้วเดินออกไป เห็นท่าทีนิ่งเฉยของเธอราวกับคนที่ไม่เคยเอากันมันน่าหงุดหงิด
ครืดด ครืดด
"เฟรยา" เธอพึมพำชื่อปลายสายด้วยความดีใจ ริมฝีปากเหยียดยิ้มด้วยความสุข ตั้งแต่เธอมาที่นี่เธอยังหาความสุขไม่เจอเลย เธอเครียดไปพักใหญ่จนลืมไปว่ายังมีเพื่อนคุยอยู่
"ว่าไง"
[ไม่มีอะไรหรอก คิดถึงนะ มีเพื่อนใหม่แต่ก็ยังคิดถึงลิเดียตลอดเวลาเลย อยากเล่าเรื่องมากมายที่ผ่านมาก็มีเพียงลิเดียคนเดียวที่เราจะคุยได้]
"สบายดีมั้ย คิดถึงเฟรย่าจัง ที่นี่เราไม่มีเพื่อนไม่รู้จักใครเลยสักคน" เธอพูดเสียงเศร้าสร้อย เธออยากกลับบ้านมากๆ แต่ก็ไม่มีบ้านให้กลับ ถึงได้กลับไปจริงๆ ก็ไม่รู้จะเอาตังค์ไหนใช้ จบมัธยมก็ใช่ว่าจะมีงานให้ทำได้ง่ายๆ
[อย่าเศร้าสิ เดี๋ยวเราจะขอป๊ะป๊าพาไปเยี่ยมนะ]
"โอเคจ้า อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ จัง" เธอพูดยิ้มๆ วันนี้เธอมีรอยยิ้มที่มีความสุขจริงๆ ครั้งแรกเลย
[เปิดกล้องหน่อยสิ อยากเห็นหน้าจัง คิดถึงมากๆๆ]
ยิ้มบางๆ แล้วเปิดกล้องคุยกับเพื่อนสนิทด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม อ่อ ลืมบอกไป ตั้งแต่เธอมาที่นี่สามีผู้ลึกลับของเธอก็เป็นคนจัดการเรื่องเอกสารและอะไรหลายๆ อย่างให้เธอ รวมถึงเรื่องโทรศัพท์ที่เธอกำลังใช้คุยกับเฟรย่าในตอนนี้ด้วย
"คิดถึงเหมือนกัน"
จากนั้นเธอก็เริ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิตกับเฟรย่าจนรู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปเป็นชั่วโมง
"แค่นี้ก่อนนะเฟรย่า" เธอเหลือบไปมองเห็นสามีหนุ่มกำลังเดินมาทางนี้กับคนสนิทของเขาด้วยใบหน้าเย็นชาและท่าทีน่าเกรงขาม
"คุยกับใคร?" เขากดเสียงต่ำปรายตามองมือถือของเธอแล้วยื่นมือไปหยิบมันมาจากเธอเพื่อเช็คดูว่าเธอคุยกับใครในระหว่างที่เขาไม่อยู่
"ขออนุญาตค่ะนายท่าน"
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกัน สาวใช้คนสนิทอย่างเดลเฟียก็เดินเข้ามาขัดจังหวะผู้เป็นนายด้วยท่าทีน้อมนอบและใสซื่อ
"มีอะไร" เขาเอ่ยถามเสียงราบเรียบในขณะที่สนใจแต่ใบหน้าหวานของภรรยาที่กำลังก้มหน้าหงุดราวกับกลัวเขานักหนา
"มาดามลอร่าเรียกไปพบค่ะ"
"พาลิเดียไปเดินเล่นก่อนไป" เขาออกคำสั่งก่อนจะปรายตามองภรรยาเพียงนิดแล้วเดินออกไป
"เชิญค่ะนายหญิง" เดลเฟียผายมือเพื่อบอกลิเดียว่าควรไปตรงไหนก่อนดี
เมื่ออยู่กันสองคนในสวนดอกไม้ขนาดใหญ่เธอก็เอ่ยปากพูดคุยกับเดลเฟียเพื่อทำความรู้จักกันมากกว่านี้
"เพิ่งรู้ว่าเธอตามมาที่นี่ด้วย ก็ดีเหมือนกันฉันจะได้มีเพื่อนคุยบ้าง" เธอตอบยิ้มๆ แต่สุดท้ายก็ยิ้มไม่ออกเพราะคำตอบของสาวใช้ตรงหน้าแปลกๆ จะว่าไปสาวใช้คนนี้ก็ดูไม่ค่อยจะเหมือนสาวใช้สักเท่าไหร่เพราะใบหน้าเธอนั้นน่ารักและผิวขาวผ่องราวกับลูกคุณหนู
"ค่ะ แต่ก่อนช่วงที่คุณไม่มา ดิฉันก็เป็นคนตามไปดูแลนายท่านทุกครั้งค่ะ" เธอตอบยิ้มๆ แผ่วเบา
"ดูแล?"
"แล้วเธอพอรู้มั้ยว่าเขาเป็นคนยังไง ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย" เธอตอบเสียงแผ่ว เอาจริงๆ เธอเหมือนหนีมาขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าซะมากกว่า
"ไม่แปลกหรอกค่ะ คุณเพิ่งมา เรื่องราวของนายท่านท่านเป็นคนปิดบังเก่ง คนสำคัญเท่านั้นที่จะรู้เรื่องราวของนางท่านลึกซึ้ง.." เธอพูดในขณะที่จ้องตาของลิเดียอย่างสื่ออะไรบางอย่าง
"อ๋อ จริงสิ ฉัน อายุ น้อยกว่า เธอนี่นา"
"ค่ะ แต่เรียกแบบนี้ถูกแล้วค่ะ คุณเป็นนายหญิงของพวกเรานี่คะ" เธอตอบ
"งั้นเขาบ้านเถอะ หิมะเริ่มตกหนักแล้ว" เธอเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน จุดมุ่งหมายคือห้องนอนที่เธอจะนอนค้างที่บ้านแม่สามีในคืนนี้
.
"มัมเรียกผมมามีไร?" เขาเอ่ยถามเสียงเรียบแล้วนั่งลงโซฟาตรงข้ามมารดา
"กินยาทุกวันสม่ำเสมอรึเปล่า"
มารดาถามออกมาแบบนี้เขาก็รับรู้ได้ในทันที
"นี่มัมกลัวว่าผมจะพลั้งมือฆ่าเมียตัวเองเหรอครับ หึ" เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ เพียงเท่านั้น
"แล้วนี่เรื่องแม่นั่นแกจะเอาไง อยากให้ให้หนูลิเดียเสียใจเด็ดขาด ถ้าแกนอกใจร้องเมื่อไหร่ มัมจะพรากน้องไปจากอ้อมอกแกเอง" มาดามลอร่าเอ่ยเสียงเย็น
"ครับ เดลเฟียยังมีประโยชน์กับผมอยู่ เรื่องนั้นลิเดียจะไม่มีวันรู้" เขาตอบโดยไม่คิดอะไรและไม่ระแวงว่าเรื่องจะหลุดออกไป
"หึ เรื่องแกมีเมียเก็บน่ะเหรอ เหอะ มั่นใจได้แค่ไหนหล่ะว่ายัยเด็กนั่นจะไม่ปากมากหัวสูง"
"ไม่หรอกครับ ผมไม่เก็บมันไว้นานหรอก งานผมเสร็จเมื่อไหร่ผมจะเก็บมันเอง"
"เหรอ เรื่องงานก็คืองาน ส่วนเรื่องบนเตียงไม่ต้อง อย่าให้ถึงมือฉันก็แล้วกัน" มาดามลอร่าจ้องมองลูกชายเขม็ง
"ครับ ผมแยกแยะออกว่าอะไรคืออะไร เมียกับของกินชั่วคราวผมรู้ว่าควรเลือกอะไร อีกอย่างผมก็ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนไหนที่ไม่ใช่เมียผมอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผมไม่ได้โง่ที่จะยกผู้หญิงคนนั้นสูงกว่าเมียผม" เขาตอบเสียงนิ่งๆ แล้วเดินออกไปดูเมียที่ขึ้นไปอาบน้ำบนห้องนอน
23 : 45 PM ตามเวลาท้องถิ่น กรุงมาดริด
แกร๊ก!
"ทำไมยังไม่นอน" เขาเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็พบว่าภรรยาสาวยังไม่นอนเลยทั้งที่มันดึกมากๆ แล้ว
"ลิเดียนอนไม่หลับน่ะค่ะ ไม่ชินเวลาเปลี่ยนที่นอน" จะเรียกว่าเจ็ทแล็ก (Jet lag) คืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายยังปรับจังหวะเวลาให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ที่มีเวลา (Time Zone) แตกต่างกันไม่ได้ เนื่องจากร่างกายยังเคยชินกับเวลาในสภาพแวดล้อมเดิมอยู่
"อืม เอาอะไรอุ่นๆ รึเปล่า เดี๋ยวไปเอามาให้ดื่มก่อนที่ฉันจะไปเคลียร์งานต่อ" เขานอนเกือบเช้านั่นเป็นเวลาประจำของเขาอยู่แล้ว นอนดึกตื่นเช้าแทบทุกวัน
"ค่ะ"
จากนั้นเขาก็อาสาไปหยิบนมอุ่นๆ มาให้เธอแล้วเดินออกไปที่ห้องทำงานเมื่อส่งภรรยาสาวเข้านอนแล้ว