ตอนที่ 2 สวรรค์ของโนริน
ตอนที่ 2 สวรรค์ของโนริน
วันปฏิบัติธรรมมาถึง ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่เป็นวันหยุดพิเศษของโนริน เธอต้องรีบขับรถมายังวัดแถวชานเมืองที่เธอชอบมาถือศีลเป็นประจำ แต่เพราะวันนี้รถติดหนักทำให้เธอมาเกือบไม่ทันจะเข้าโบสถ์
โชคยังดีที่เธอลงทะเบียนแบบออนไลน์มาแล้วเลยเหลือแค่เอารถมาจอดที่ลานรับฝากรถ ก่อนที่เธอจะลงไปเอาเสื้อผ้าเป็นชุดขาวที่เตรียมมาอยู่ที่หลังรถไปเปลี่ยน
ความรีบร้อนผสมกับความซุ่มซ่าม ทำให้โนรินหอบข้าวของพะรุงพะรังอยู่ท้ายรถ เธอลนลานปิดฝากระโปรงท้าย แล้วรีบหันหลังไปความไม่ระวังทำให้เธอเผลอชนกับคนที่เพิ่งเดินผ่านมาจากด้านหลังเธอพอดี
ตุ๊บ!
“ว๊าย! ขอโทษค่ะ”
ข้าวของหล่นเกลื่อนกระจัดกระจาย โนรินรีบนั่งลงก้มหน้าก้มตารีบเก็บข้าวของรวมทั้งชุดขาวที่หล่นลงพื้น โดยที่คู่กรณีที่เธอชนก็ช่วยก้มลงมาเก็บของด้วย
เรียวนิ้วมือของคนตรงหน้าที่ยืนมือเข้ามาช่วยเธอเก็บของ ทำเอาสายตาของโนรินสะดุดกึก ผิวขาวเนียนละเอียดแทบไม่เห็นรูขุมขนของเขา บ่งบอกว่าคนตรงหน้าเป็นคนสุขภาพผิวเยี่ยม ถ้าไม่ติดว่าเธอสังเกตเห็นกล้ามเนื้อตามแบบฉบับของผู้ชาย เธอก็คงนึกว่าคนที่ช่วยเธอเก็บของเป็นผู้หญิงไปแล้ว
“ขอโทษครับ คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขอโทษทั้งที่โนรินเป็นฝ่ายไปชนเขาเองแท้ ๆ
แต่...
อา....เสียงเขาหล่อมาก ฟังซะลืมเจ็บ
โนรินค่อย ๆ เงยหน้าไปมองเจ้าของเสียงช้า ๆ ความหล่อของผู้ชายตรงหน้าหล่อบาดใจ จนทำให้โนรินรู้สึกเหมือนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง
อื้อ โคตรหล่อ
หล่อซะจนโนรินนึกว่าตัวเองเจอซุปตาร์ในดวงใจอย่างแจ็คสัน หวัง มายืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าขาวอยู่ดี ๆ ก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเองดื้อ ๆ ก่อนจะยกปอยผมขึ้นมาแนบที่หูอย่างเขินอาย
ดีนะยังไม่ได้ใส่ชุดขาวไม่งั้นเธอคงได้ศีลขาดเป็นแน่
โนรินเผลอจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเห็นเรียวคิ้วหนาของเขาเลิกขึ้น อ่า…เขาคงรอคำตอบที่เพิ่งถามออกมาเมื่อครู่อยู่สินะ เกือบลืม
“อ่อ เออไม่เจ็บค่ะ” โนรินยิ้มเขินแต่ก็พยายามเก็บอาการ
“คุณไม่เจ็บจริง ๆ เหรอครับ แต่หน้าผากคุณแดงมากเลยนะ”
“แหะ ๆ เล็กน้อยค่ะ แค่นี้เอง” โนรินยกมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือของคลำหน้าผากตัวเองป้อย ๆ เริ่มเจ็บมาขึ้นมาบ้างนิด ๆ แต่จำต้องรักษาฟอร์มเอาไว้
“อืม…ว่าแต่คุณมาถือศีลที่วัดนี้คนเดียวเหรอครับ ดีจังที่เห็นวัยรุ่นสมัยนี้ชอบเข้าวัดเข้าวา”
- วะ..วัยรุ่น หมอนี่บอกฉันเป็นวัยรุ่น คิดว่าฉันอายุเท่าไหร่กันแน่นะ ตามน้ำไปก่อนแล้วกันเขาจะได้ไม่หน้าแตก -
“อ่อค่ะ รินชอบมาถือศีลที่วัดนี้เป็นประจำแล้วคุณละคะเพิ่งมาถือศีลที่นี่ครั้งแรกเหรอคะ รินเพิ่งเคยเห็นหน้า”
“ใช่ครับ ผมเพิ่งมาถือศีลที่วัดนี้เป็นครั้งแรก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณริน เรียกผมว่าดินเฉย ๆ ก็ได้”
- งื้อพระเจ้า ริน - ดิน อะไรจะคล้องจองกันปานนี้ -
โนรินตาลอย เกือบเคลิ้มไปกับใบหน้าหล่อ ๆ ไหนจะเสียงหล่อ ๆ ที่ยิ่งกว่ายากล่อมประสาทเสียอีก
-อึก!! ตายแล้วนี่ฉันจะมาอ๊อยผู้ชายในวัดแบบนี้ไม่ได้นะ มันจะบาป -
โนรินเรียกสติของตัวเองที่กำลังกระเจิดกระเจิงไป เพราะชายหนุ่มหน้าตาหล่อระดับเทพตรงหน้า จนลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ตรงหน้าทางเข้าประตูวัด
เอิ่ม….รู้สึกเหมือนขาตัวเองข้างหนึ่งกำลังก้าวเข้าไปสู่ประตูสวรรค์ แต่อีกข้างกำลังจะก้าวลงนรกยังไงยังงั้น
ไม่สิ...อาจจะเป็นสวรรค์เหมือนกันก็ได้ เพียงแต่เป็นสวรรค์คนละชั้น
และนี่ก็คงเป็นสวรรค์ชั้นเจ็ดแหละ ^ ^
โนรินฉีกยิ้มน้อย ๆ ไม่ลืมที่จะรักษาความเป็นกุลสตรีที่เหลือน้อยนิดของตัวเองเอาไว้
“เออ งั้นรินของตัวก่อนนะคะ พอดีต้องรีบไปเปลี่ยนชุดขาว จวนได้เวลารวมตัวแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะคะ”
นี่ถ้าไม่ติดว่าตัวเองกำลังจะไปถือศีลแปดละก็นะโนรินละอยากจะยืมคำศัพท์ฮิตมาจากในกูเกิ้ลมาใช้ แล้วท่องอะหังสัมมาสัมพุทโทร 0992456XXX ไปให้
-แต่ไม่ได้สิโนริน เธอมาถือศีล ไม่ได้มาหาผู้ชายนะ!-
“ครับ ไว้เจอกับใหม่นะครับคุณริน”
เขาโน้มศีรษะน้อย ๆ เพื่อขอตัวก่อนจะเดินไปอีกทาง ทิ้งโนรินให้มองตาค้างเพราะกำลังเคลิบเคลิ้มไปอีกรอบเพราะความหล่อ
พุทโธ ธัมโม สังโม
โนรินเอ๊ย นี่เธอจะมาแพ้คนหล่อในเวลานี้ไม่ด้ายยยยย
เธอสะบัดหน้าไปมา เรียกสติที่กำลักระเจิดกระเจิงกลับมาใหม่เป็นรอบที่ล้านแปด ก่อนจะหยุดยืนแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เป็นการสงบสติอารมณ์ของตัวเอง เพราะขาของเธอกำลังจะก้าวขาผ่านประตูวัด
อืม…ยุบหนอ พองหนอ
อาการระดี้กระด้าเมื่อครู่ หากแต่เมื่อโนรินก้าวเข้ามาในรั้วประตูวัดเธอก็สำรวมกิริยาของตัวเองไม่ให้ว่อกแว่กได้อย่างดี
อาจจะมีบ้างที่สายตาของเธอเผลอมองไปเห็นผู้ชายหล่อโอปป้าคนที่เพิ่งเจอตอนอยู่ทางเข้าวัดอยู่ไม่ไกล แต่กระนั้นเธอก็สามารถดึงสติของตัวเองให้อยู่ในศีลแปดอย่างที่ตั้งใจมาถือศีลไม่ด่างพร้อย
โนรินเธอมักจะยกข้ออ้างบอกกับเพื่อนว่า การที่เธอมาถือศีลปฏิบัติธรรมของเธอว่าเป็นการบวชแก้บนเวลาที่เธอถูกหวยบ่อยๆ เท่านั้นเอง แต่ทว่าในส่วนลึกของโนรินแล้ว หากคนเราไม่ชอบเรื่องในศีลในธรรมจริง คงจะไม่มาถือศีลปฏิบัติธรรมบ่อยมากเท่ากับเธอ
เธอก็แค่ชอบความสงบเวลาที่พาตัวเองมาอยู่ในวัด และต้องเป็นวัดที่เป็นสายปฏิบัติอย่างแท้จริงไม่ใช่วัดที่เป็นสายธุรกิจเพื่อการพาณิชย์
เธอชอบที่ได้อยู่กับตัวเองอย่างเงียบ ๆ ทบทวนตัวเอง ตัดชีวิตของเธอออกจากความวุ่นวายและเรื่องน่าปวดหัวในแต่ละวันไม่ว่าจากการทำงานหรือการดำรงชีวิต
อืม...เงียบ…สงบ…พุทโธ…
.....
การปฏิบัติธรรมในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ผ่านไปด้วยดี จวบจนวันสุดท้ายที่เธอลาสิกขาศีลแปดเป็นที่เรียบร้อย และอาจเป็นเพราะพอได้ถือศีลจนจิตใจสงบมาแล้ว โนรินเลยไม่ค่อยว่อกแว่กเรื่องอื่นเท่าไหร่นัก เธอขับรถกลับบ้านไปโดยแทบจะลืมไปว่าตัวเองเจอผู้ชายหล่อคนนั้น กว่าจะนึกขึ้นได้ก็ดันขับรถกลับมาได้ครึ่งทางซะแล้ว
อื้อ...ลืมขอเบอร์เลย ว๊า..แย่จัง