ตอนที่8.ขอโทษ
เพียะ!
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน ฝ่ามือของบิดาก็ฟาดลงบนใบหน้าสวยเต็มแรง ร่างบางถลาลงพื้นดีที่มารดากับคนใช้รับเอาไว้ทัน
“คุณคะ ค่อยๆพูดกับลูกสิคะ” คุณนวลปรางร้องห้าม เมื่อสามีทำท่าจะฟาดซ้ำลงมาอีก เมริสากุมซีกหน้าข้างที่โดนบิดาตบ หญิงสาวไม่พูดอะไรเพราะรู้ว่าพ่อคงโกรธมากที่เห็นข่าวเมื่อวาน
“งามหน้านักนะ! ทำอะไรทำไมไม่คิดถึงหน้าพ่อกับแม่บ้าง” คุณพรเทพชี้หน้าด่าลูกสาว อับอายกับสิ่งที่เมริสาทำเอาไว้ บุกไปงานแต่งเพื่อประกาศตัวว่าเป็นแฟนเจ้าบ่าว โดยไม่นึกถึงชื่อเสียงของตระกูลเลยสักนิด น่าอับอายที่สุด
“การศึกษาก็มี ร่ำเรียนมาก็สูง ทำไมทำอะไรไม่คิด” คุณพรเทพยังต่อว่า เมื่อเห็นลูกไม่ตอบโต้ก็รู้สึกสงสารขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านลงมือกับลูก ที่ผ่านมาต่อให้เมริสาดื้อรั้นสักเพียงได ท่านก็ไม่เคยต่อว่าเลยสักคำ แต่ครั้งนี้เมริสาทำเกินไปคุณพรเทพจึงทนไม่ไหว ก่อเรื่องเอาไว้แล้วหายไปทั้งคืน ทำให้ท่านและภรรยาเป็นห่วงจนไม่เป็นอันทำอะไร
“เมกราบขอโทษค่ะ” เมริสาประนมมือไหว้ เรื่องนี้เธอผิดจริงๆ สมควรแล้วที่พ่อจะโกรธและทำโทษ
“ลุกขึ้นก่อนลูก คุณพ่อเขาเป็นห่วงน่ะถึงได้ทำแบบนี้” คุณนวลปรางปลอบใจ เพราะไม่อยากให้ลูกเสียใจ
“เมเข้าใจค่ะแม่ เมขอโทษนะคะที่ทำอะไรไม่คิด จนทำให้คุณพ่อคุณแม่อับอาย เมกราบค่ะ” เมริสาหันมาไหว้มารดา เพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว เราคงกลับไปแก้ไข้อะไรไม่ได้ เมไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ไปพักผ่อนเถอะลูก” คุณนวลปรางตัดบทเพราะอยากกันพ่อลูกออกจากกัน คุณพรเทพยังอารมณ์เสียอยู่ นางจึงอยากให้ลูกสาวหลบออกไปก่อน
“คุณพ่อคะเมกราบ” แต่แทนที่เมริสาจะขึ้นชั้นบนไปตามคำสั่งมารดา เธอกลับก้มลงกราบที่เท้าของคุณพรเทพ คนเป็นพ่อตัวชาเมื่อเห็นการกระทำของลูก เกิดอะไรขึ้นทำไมเมริสาที่เย่อหยิ่งของเขาถึงได้ดูอิดโรยและอ่อนล้าแบบนี้ ปกติลูกสาวจะเป็นคนที่ไม่ยอมคนและสู้
หัวชนฝาเสมอ
“ไปพักเถอะ” คุณพรเทพพูดขึ้น พร้อมกับก้มลงมาโอบที่ไหล่ของลูกแล้วพยุงเธอขึ้นมา ถึงแม้จะโกรธและอับอาย แต่เมื่อลูกขอโทษแล้วก็แล้วกัน สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไปแก้ไขไม่ได้ก็จริง แต่เราสามารถทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่าได้ คงต้องให้ลูกตั้งโต๊ะแถลงข่าวขอโทษทางฝ่ายโน้น คนที่ทำผิดแล้วยอมรับผิดสังคมคงให้อภัย
“พ่อจะให้แถลงข่าวขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทำได้ไหม” คุณพรเทพถาม
“ได้ค่ะพ่อ” เมริสารับคำเธอก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าคงต้องแถลงข่าวขอโทษ อ้างว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเธอขาดสติ จึงทำให้งานแต่งของพัลลพกับเกษรินทร์วุ่นวาย เธอพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ขึ้นข้างบนเถอะ เดี๋ยวแม่ให้เด็กยกสำรับขึ้นไปให้ พักผ่อนนะลูก"คุณนวลปรางบอกก่อนจะเดินมาเข้ามาหาเมริสาอีกคน ลูกคงเสียใจมากที่ถูกคนรักสวมเขา เป็นใครก็ต้องเจ็บทั้งนั้น
....................................................................................
“ดูสิคะพี่เกื้อ นางเมนี่มันร้ายจริงๆ” เกษรินทร์ฟ้องพร้อมกับชี้ให้เกื้อดูบาดแผลบนหน้าสามี ที่หมอปิดผ้าพันแผลจนไม่เหลือชิ้นดี เกื้อมองหน้าน้องเขยหมาดๆด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก แต่กลับทำให้พัลลพหลบตา เมื่อเห็นอะไรบางอย่างในแววตาของพี่เขย
“พี่เกื้อต้องจัดการมันให้เกษนะคะ” เกษรินทร์ยังพูดต่อโดยที่ไม่ได้สังเกตสีหน้าของสองหนุ่มเลยสักนิด ที่อีกคนจ้องเขม็งอย่างรู้ทัน ในขณะที่อีกคนกลับก้มหน้างุด
“ผมว่าชั่งมันเถอะนะเกษ ผมไม่อยากทำให้เกษไม่สบายใจ มีเรื่องกันไปก็เท่านั้น ในเมื่อผมบอกเลิกเธอไปแล้วผมก็ไม่อยากเจอกับเมริสาอีก” พัลลพอธิบายให้เกษรินทร์ฟัง อยู่ๆก็ไม่อยากเอาเรื่องเมริสาขึ้นมา เพราะดูจากสายตาที่เกื้อมองเขา เหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น หรือว่าเกื้อจะรู้อะไรมา แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเรื่องที่เขาส่งข้อความไปหาเมริสานั้น มีแค่เขากับเธอรู้กันแค่สองคนเท่านั้น
“แต่มันทำร้ายลพนะคะ เกษไม่ยอมหรอก” เกษรินทร์เถียง เธอไม่ยอมให้สามีเจ็บตัวฟรีๆแน่นอน
“ผมว่าเราอโหสิให้เขาไปเถอะครับ เกษกำลังท้องผมไม่อยากให้เกษต้องมาคิดมากกับเรื่องแบบนี้ ชั่งมันนะครับ” พัลลพยังคงหว่านล้อม เกื้ออยากจะกลอกตาให้กับการแสดงของพัลลพ ที่แสดงได้สมจริงจนดาราบางคนต้องอาย
“ก็ได้ค่ะ” เกษรินทร์รับปากด้วยใบหน้าบูดบึ้ง พัลลพประจบด้วยการกุมมือเธอเอาไว้ เกื้อเดินออกไปเมื่อไม่อยากมองภาพตรงหน้า พัลลพมีอะไรดีเกษรินทร์ถึงได้หลงจนหัวปักหัวปำ เรื่องที่เมริสาพูดก็คงเป็นจริง เขาคงล่ามเธอไว้ด้วยคำว่ารัก เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เกื้อก็นึกถึงเมริสาขึ้นมา ป่านนี้เธอคงตื่นและกลับบ้านไปแล้ว จะเป็นยังไงนะถ้าเธอเห็นเงินที่เขาวางไว้ให้ มุมปากหยักยกยิ้ม เมื่อคิดว่าเธอก็คงจะอาละวาดชุดใหญ่
