บทที่ 2 ร่านให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
ทัพไทมองต่ำลงมาตรงเนินสามเหลี่ยมที่ปิดสนิทมีคราบเลือดจาง ๆ ติดอยู่ นั่นทำให้เขารู้สึกผิดในใจที่ไม่ได้อ่อนโยนกับเธอ
“ ก็ใครมันจะไปรู้วะว่าแม่นี่ยังซิง” เขาให้เหตุผลแก้ตัวกับตัวเอง
“ ใครเสร็จฉันหมดอารมณ์ต่างหาก อย่างฉันทำทั้งคืนยังไหวถ้าผู้หญิงน่าเอากว่านี้อ่ะนะ ” เธอถลึงตาโต ๆ ใส่เมื่อคำพูดร้ายกาจนั่นถูกพ่นออกมา
“ ต๊าย ตาย!ไอ้คนเถื่อนนี่แกหาว่าฉันไม่น่าเอารึไงวะ ไอ้ขี้โม้ฉันว่าแกน่ะไม่มีน้ำยาซะมากกว่าหล่อซะเปล่า เชอะ ” ดวงยี่หวาหัวร้อนขึ้นทันทีกับคำพูดดูถูกของอีกฝ่าย
แบบนี้มันยอมได้ที่ไหนกันเล่า ทัพไทกระชากร่างบางของคนปากดีเข้าหา ดวงยี่หวาปลิวหวือลงไปนอนทาบทับอยู่บนตัวเขาในทันที
“ เดี๋ยวจะเอาให้คลานลงจากเตียงไม่ได้เลย เธอท้าฉันเองนะถ้าเดินขาถ่างล่ะก็อย่ามาโทษก็แล้วกัน ”
มือใหญ่คว้าลำคอระหงรั้งเข้าไปหาพร้อมกับฉกริมฝีปากร้อนรุ่มไล้เลียกลีบปากล่างของเธอก่อนจะแทรกเรียวลิ้นเข้าไปควานชิมความหวานภายในโพลงปาก ลิ้นสากดูดรัดเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กของเธอราวกับจะดูดวิญญาณของเธอเข้าไปด้วย กระแสความเสียวซ่านวิ่งพล่านไปทั่วร่างเล็กอีกครั้งเมื่อทัพไทลูบไล้ฝ่ามือไปที่แผ่นหลังแล้วเลื่อนลงไปที่ก้นงอนงามก่อนจะใช้ปลายนิ้วแทรกผ่านบั้นท้ายเข้าไปสะกิดบดบี้ตุ่มไตกลางเนื้อนวล
“ อ๊ะ อืม… ” ดวงยี่หวาครวญครางเมื่อปากเป็นอิสระ เขาจับร่างเธอนอนราบลงบนเตียงแล้วจับเรียวขาทั้งสองของเธอแยกกว้างตั้งชันขึ้น คนตัวโตคุกเข่าลงตรงกลางระหว่างขาเธอแล้วก้มลงดูดดื่มสองเต้าทรวงอวบใหญ่สลับกันไปมา มืออีกข้างก็จับอกอวบขยำขยี้ อีกข้างก็เลื้อยลงไปลูบไล้เนินนวลพร้อมกับแทรกปลายนิ้วเข้าไปบดบี้ตุ่มไตไวต่อความรู้สึก ดวงยี่หวาเสียวจนตัวสั่นทั้งข้างบนข้างล่าง แอ่นร่างเข้าหามือและปากเขาอย่างลืมอาย น้ำหวานในกายไหลออกมาจนฉ่ำแฉะ ก่อนที่เขาจะจับประคองแก่นกายใหญ่โตเข้าสู่ความคับแคบนุ่มหยุ่นของเธอ คราวนี้มันคลายความเจ็บปวดไปอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เหลือไว้เพียงความซาบซ่านหฤหรรษ์ที่เขามอบให้เธอตลอดทั้งคืน….
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง
เสียงโทรศัพท์มือถือดังปลุกผู้เป็นเจ้าของที่กำลังปรือเปลือกตาขึ้นด้วยความงัวเงีย ทัพไทลืมตาขึ้นแล้วเอื้อมมือไปคว้ามือถือที่อยู่บนโต๊ะเตี้ยข้างหัวเตียงขึ้นมา กดรับสายเมื่อมองหน้าจอว่าเป็นสายเรียกเข้าจากแม่ตัวเอง
“ โทรมาแต่เช้าจังแม่ ” ถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย หลับตาลงอีกครั้ง เขาเพลียเหลือเกิน กว่าจะได้นอนก็เกือบย่ำรุ่ง
“ แต่เช้าอะไรกันเจ้าทัพ นี่มันเก้าโมงครึ่งแล้วนะ แกจะกลับวันไหนนี่ นังนวลมันลาออกไปแล้วนะเมื่อวาน แม่ไม่มีคนคอยดูแล แกรีบกลับมาหาคนให้แม่ที ” เสียงแหบพร่าจากผู้เป็นแม่ที่ป่วยเป็นโรคประจำตัวคนแก่ เบาหวาน ความดัน ไขมันอุดตันเส้นเลือด แต่โรคที่หาคนดูแลยากที่สุดเห็นจะเป็นโรคจู้จี้ขี้บ่นเจ้าระเบียบ แถมขี้เหงาเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจอีกด้วย
“ ตายห่า ! นี่เก้าโมงแล้วรึ ผมจองเที่ยวบินสิบเอ็ดโมงไว้ครับแม่งั้นแค่นี้ก่อนนะ เรื่องนั้นเอาไว้คุยกันที่บ้านก็แล้วกันขอไปอาบน้ำเตรียมตัวก่อนนะครับ ” เขากดวางสายแล้วดีดตัวขึ้นนั่งบนเตียง ยกมือขึ้นลูบหน้าเสยผมให้หายจากอาการสะลึม สะลือ ความทรงจำซาบซ่านเมื่อคืนกลับมาอีกครั้งทว่าบนเตียงกลับว่างเปล่า ไม่มีร่างบอบบางของผู้หญิงนิรนามที่ร่วมรักกับเขาอย่างดุเดือดแทบจะทั้งคืน
“ กลับไปตอนไหนวะ ลืมถามชื่อซะด้วยสิ ” เข้าพึมพำพร้อมกับสลัดศีรษะไปมาทิ้งความคิดเกี่ยวกับผู้หญิงวันไนท์สแตนต์ไปอย่างเช่นทุกครั้งที่ทำ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
ร่างสูงใหญ่กำยำของทัพไทยืนอยู่หน้ากระจกเงาโต๊ะเครื่องแป้ง เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มพอดีตัวเก็บชายเสื้อไว้ในกางเกงยีนสีเข้ม หยิบหวีขึ้นมาหวีผมหยักศกสีดำขลับตัดสั้นให้เข้ารูป ก่อนจะวางมันลงไว้ที่เดิมบนโต๊ะ เขาเป็นชายหนุ่มวัยสามสิบหกที่มีทั้งทรัพย์สมบัติและรูปสมบัติเพียบพร้อม เป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สืบทอดมาจากพ่อแม่ เขามีทุกอย่างยกเว้นเมีย
