ตอนที่ 1
“ มึงจะรีบเดินไปไหนของมึงเนี้ยไอป่าน! “ เดลขมวดคิ้วถามเพื่อนสนิทด้วยความไม่เข้าใจ เพราะเพื่อนของเขาคนนี้เอาแต่ลากเขาให้ไปที่รถของตัวเองซึ่งจอดอยู่ในมหาลัยหลังจากที่เลิกเรียนเสร็จพอดี และยังไม่ทันที่เขาจะได้บอกลาเพื่อนสนิทที่เหลือ เขาก็ถูกไอเพื่อนตัวดีลากเอาๆจนเขาเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย
เดล นักศึกษาปี3คณะนิเทศศาสตร์ และแน่นอนว่าสถานภาพในเพศของเขาในตอนนี้ก็คือ เกย์นั่นเอง และเป็นเกย์ที่ออกสาวเสียด้วยแต่ไม่ได้สาวขนาดที่ว่าต้องแต่งหญิงแต่เพียงแค่จริตก้านของเขาจะมากกว่าผู้ชายทั่วไปเท่านั้นเอง ซึ่งเรื่องนี้คนทั้งมหาลัยต่างก็รู้ดี เพราะเดลนั้นเป็นถึงหัวหน้าลีดคณะและยังเป็นคนที่ป๊อบมากที่สุดเสียด้วย มีหนุ่มๆมากมายเข้ามาจีบไม่เว้นแต่ละวัน แต่เดลนั้นไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อยเพราะเขายังไม่เจอคนที่ใช่จริงๆเสียที ส่วนป่านนั้นก็คือเพื่อนผู้ชายอีกคนในกลุ่ม ซึ่งสถานะเพศก็คือเหมือนกันกับเขา แต่เพื่อนคนอื่นๆนั้นกลับเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงปกติ โดยเพื่อนทั้งหมดนั้นไม่มีใครรังเกียจหรือเลิกคบกับเขาเลยสักคน พอเขาถามเหตุผล พวกมันก็ตอบกลับมาเพียงแค่ว่า เรื่องของรสนิยมหรือความชอบมันเป็นเรื่องของบุคคล ไม่เกี่ยวกับการคบกันระหว่างเพื่อนอย่างพวกมัน ซึ่งเดลและป่านนั้นก็รู้สึกโชคดีเหลือเกินที่มีเพื่อนคอยซัพพอร์ทมากขนาดนี้
“ ป๊ากูจะกลับมาจากเมกาแล้ว กูก็ต้องรีบกลับสิวะ “ ป่านหันมาพูดกับเดลในขณะที่ลากเพื่อนสนิทให้รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่รถของตัวเอง
ซึ่งป่านนั้นก็มีเพียงแค่พ่อหรือเรียกอีกชื่อนึงก็คือป๊าเท่านั้นเพราะแม่ของป่านนั้นได้หนีตามไปกับชู้ของเธอตั้งแต่ป่านยังจำความไม่ได้ ทำให้ป๊าของป่านเป็นคนเลี้ยงลูกมาด้วยตัวคนเดียวตลอด โดยป๊าของป่านนั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับบ่อน้ำมันซึ่งค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงพอสมควรเหมือนกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนเดลนั้น พ่อกับแม่ของเขาก็ขายพวกอสังหาริมทรัพย์อยู่แถบๆอินโดนีเซีย นานๆทีจะกลับมาหาเขา ทำให้บางครั้งเดลเองก็รู้สึกเหงามากๆเหมือนกัน เพราะฉะนั้นบ้านของป่านจึงเป็นอีกสถานที่นึงที่เขาชอบเข้าไปนั่งเล่นและนอนข้างบ่อยๆ แต่ส่วนมากเดลก็จะมาในตอนที่ป๊าของป่านไม่อยู่
“ แล้วป๊ามึงเกี่ยวห่าอะไรกับกูเนี้ยไอป่าน “ เดลถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ ก็มึงเองไม่ใช่หรอที่อยากเจอป๊ากูอ่ะ “ ป่านหันไปเลิกคิ้วใส่เพื่อนสนิท เพราะเขานั้นเล่าถึงความใจดีและอบอุ่นของป๊าให้กับเดลได้ฟัง มันเลยทำให้เดลอยากเจอป๊าของเขามาก พอมีโอกาสเขาจึงอยากให้เพื่อนของเขาได้เจอกับป๊าของตัวเองสักครั้ง
“ เออว่ะ กูเคยพูดไว้นี่หว่า “ เดลพูดขึ้นอย่างนึกได้
เมื่อมาถึงรถเดลและป่านก็เข้าไปนั่งด้านในทันที
“ เดี๋ยวกูจะไปคอนโดมึงนะ แล้วเก็บกระเป๋ามานอนที่บ้านกู “ ป่านหันมาบอกเพื่อนตัวขาวที่นั่งอยู่ข้างๆและขับรถออกจากมหาลัยทันทีเพื่อตรงไปยังคอนโดของเพื่อนสนิท
“ นี่มึงกะจะให้กูย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านมึงตลอดเลยว่างั้นเถอะ “ เดลถามป่านขำๆ
“ มึงแหกตาดูตู้เสื้อผ้ากูด้วยว่ามันมีเสื้อผ้ามึงกี่ชุด แล้วไหนจะข้าวของเครื่องใช้ที่มึงเอามาไว้ที่บ้านกูอีก คอนโดมึงมีเหลืออยู่กี่ชิ้นเหอะ “ ป่านกรอกตามองบนใส่เดลเมื่อพูดจบ
“ กูก็เหงานี่ ถ้ากูไม่เหงากูจะไปนอนกับมึงทำห่าอะไร “ เดลเถียงเพื่อนสนิทกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
“ ก็กูรู้ไงครับเพื่อน กูก็เลยให้มึงไปเอาเสื้อผ้ามาเพิ่มที่บ้านกูนี่ไง “ ป่านบอก
“ แล้วป๊ามึงจะไม่ด่ากูหรอวะ ที่หอบผ้าหอบผ่อนมานอนกับลูกชายสุดหวงของเขาแบบนี้อ่ะ “ เดลถามด้วยความกังวลเล็กน้อย
“ โอ๊ยยยป๊ากูว่าอะไรละ มีแต่สนับสนุนหนะสิไม่ว่า ป๊ากูเขากลัวกูเหงาจะตายนี่ถ้ารู้ว่ากูมีมึงมานอนด้วยแล้วกูจะไม่เหงานะ เขาให้มึงย้ายมาอยู่กับกูถาวรเลยเหอะ “ ป่านพูดอย่างขำๆเมื่อนึกถึงป๊าตัวเอง
“ แต่กูก็แอบเกรงใจเหมือนกันวะ “ เดลขมวดคิ้วน้อยๆ
“ จ้าาเกรงใจจจจ นอนค้างกับกูเกือบทุกวัน ยังมีหน้ามาบอกว่าเกรงใจอีกเนี้ยนะไอเดล “ ป่านกรอกตามองบนอีกครั้งพร้อมกับส่ายหน้านิดๆด้วยความอ่อนใจ
“ มองทางหน่อยไอป่าน มัวแต่กรอกตาอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็ได้แต่กรอกตาที่โลกหน้าหรอกมึง “ เดลดุเพื่อนสนิทไม่จริงจังนัก
“ ตกลงเอาเสื้อผ้ามานอนค้างที่บ้านกูนะ “ ป่านถามเพื่อนสนิทอีกครั้ง
“ ข้างหน้าก็คอนโดกูแล้วมั้ย กูมีสิทธิจะปฎิเสธอะไรมึงได้อีกหรอครับเพื่อน “ เดลยิ้มหวานประชดเพื่อนสนิท
“ ดีมาก เพราะถึงยังไงมึงก็ปฎิเสธกูไม่ได้อยู่แล้ว “ ป่านหันไปยิ้มหวานให้เพื่อน พร้อมกับที่ป่านเลี้ยวรถเข้าไปในคอนโดของเพื่อนสนิทพอดี
“ ให้กูขึ้นไปช่วยปะ “ ป่านถาม
“ ไม่ต้องอะเสื้อผ้ากูมีแค่ไม่กี่ตัว กูขอเวลาไม่เกิน5นาทีเดี๋ยวกูลงมา “ เดลบอกพร้อมกับเปิดประตูรถลงไปทันที
เวลาผ่านไปสักพักเดลก็ลงมาพร้อมกระเป๋าใบเล็ก เขาเปิดประตูด้านหลังของฝั่งตัวเองแล้วเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปไว้ แล้วมานั่งประจำที่ของตัวเอง
“ ป๊ากูส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้วว่ะ รีบกลับเหอะ “ ป่านบอกเพื่อนยิ้มๆ
“ มึงจะดีใจตื่นเต้นอะไรของมึงนักหนาวะไอป่าน “ เดลส่ายหน้าน้อยๆด้วยความไม่เข้าใจกับท่าทางของเพื่อนสนิท
“ ก็กูอยากให้มึงเจอป๊ากูไวๆอ่ะ แล้วนี่มึงไม่ตื่นเต้นเหมือนกับกูเลยหรอวะ “ ป่านถามเพื่อนด้วยความสงสัย
“ ถ้าป๊ามึงมีปีกบินได้หรือมีกระเป๋าหน้าท้องเหมือนโดแรม่อนมึงค่อยให้กูตื่นเต้น “ เดลยิ้มใส่ป่านอย่างกวนๆ
“ มึงนี่ก็ “ ป่านมองขวางเดลน้อยๆ
“ รีบขับไปได้ละมึง กูเหนียวตัวอยากอาบน้ำฉิบหายละเนี้ย “ เดลพูดเร่ง
“ เออๆๆรู้แล้วหน่า อีกสิบนาทีก็ถึงบ้านกูละเนี้ย “ ป่านบอกพร้อมกับเร่งความเร็วเพิ่มอีกนิด
.
.
บ้านของป่าน
เมื่อรถจอดอยู่ที่โรงรถเรียบร้อยแล้ว เขาและป่านก็เปิดประตูลงมาด้วยท่าทีนิ่งๆแต่อาจจะมีแค่เขาคนเดียวก็ได้มั้งที่นิ่งกว่าปกติ
“ เชี้ยเดลหยิบกระเป๋าเร็วๆดิวะ! “ ป่านตะโกนบอกเดลเสียงดังลั่น ในขณะที่ตัวของเพื่อนสนิทนั้นเดินเข้าบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ ป๊ามึงมีปีกหรอวะถึงได้รีบนัก กลัวป๊ามึงบินหายรึไง “ เดลได้แต่บ่นอุบตามหลังเพื่อนสนิทไป เขาเปิดประตูหลังแล้วหยิบกระเป๋าของตัวเองออกมาพร้อมกับรีบเดินตามเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ได้เข้าไปด้านในเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ ไอป่านรอกูด้วยโว๊ยยยยยยย “ เดลตะโกนเรียกเพื่อนสนิทเหมือนเคยแต่ก็ต้องชะงักเท้าไปนิดเมื่อเห็นว่าตอนนี้เพื่อนสนิทได้นั่งอยู่บนตักแกร่งของใครบางคน
“ ไอเดล นี่ป๊ากูเอง “ ป่านยิ้มกว้างด้วยความภูมิใจที่ให้เพื่อนสนิทได้เจอกับป๊าที่แสนใจดีของเขา
ภาพแรกที่เดลเห็นคนตรงหน้าคือใบหน้าของคนที่เขาคิดว่าหล่อมากที่สุดเท่าที่เคยเจอมา สายตาที่นิ่งแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและใจดีได้ทอดมองมาที่เขา นั่นมันก็ยิ่งทำให้เดลรู้สึกใจสั่นจนแทบจะควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ สมองของเขาตอนนี้มันบอกออกมาได้คำเดียวว่า..อยากได้! และจะต้องได้ด้วย
“ อะ..ไอป่าน “ เสียงของเดลสั่นเล็กน้อย แต่ก็ยังพอจะควบคุมได้อยู่
ป่านขมวดคิ้วนิดๆเมื่อเห็นท่าทางแปลกของเพื่อนสนิท เขาจึงรีบเดินเข้ามาหาเดลทันที
“ มึงเป็นอะไรของมึงวะไอเดล อย่าบอกนะว่ามึงกลัวป๊ากูอ่ะ “ ป่านกระซิบถามเพื่อนสนิทด้วยความตกใจ เดลส่ายหน้าปฎิเสธรัวๆเพราะมันไม่ใช่เลยสักนิด เมื่อเห็นคำตอบของเพื่อนสนิทมันก็ยิ่งทำให้ป่านงงงวยหนักกว่าเดิม
“ แล้วมึงเป็นห่าอะไรของมึงเนี้ยไอเดล “ ป่านถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ ปะ..ป๊ามึง ป๊ามึงงง “ เดลเขย่าแขนเพื่อนสนิทไปมาอย่างแรง
“ กูอยากได้ กูจะเอา กู จะ เอา! “ เดลกัดฟันแล้วบีบแขนเพื่อนด้วยความตื่นเต้น ดวงตาหวานไม่กล้ามองไปที่พ่อของเพื่อนสนิทเท่าไหร่นัก
“ ไอเดล “ ป่านเรียกเพื่อนสนิทเสียงเรียบ เดลเบิกตากว้างมองเพื่อนสนิท
“ นั่นป๊ากูนะ มึงจะมาแดกป๊ากูไม่ได้!! “ ป่านรีบห้ามทันทีเพราะรู้ดีว่าสายตาแบบนี้ของเดลมันหมายความว่าอะไร เพราะมันเป็นสายตาเดียวกันกับที่เขาเคยเอาไว้มองผู้ชายที่เขาสนใจ
“ แต่ป๊ามึงน่าแดกไงไอป่าน! “ เดลพูดสวนขึ้นอย่างไม่ยอมเช่นกัน โดยที่ทั้งสองไม่รู้เลยว่าตอนนี้คนที่ทั้งคู่กำลังพูดถึงนั้น ได้เดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
“ เด็กๆ มีอะไรกับรึเปล่า “ เสียงทุ้มเอ่ยทักชายหนุ่มทั้งสองคน
“ เหี้ยยย!! “ เดลตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อเห็นใบหน้าของเทพบุตรในระยะประชิดแบบนี้
“ ป๊าเองครับเดล ไม่ใช่ตัวนั้นนะ “ เขาพูดกับเด็กหนุ่มยิ้มๆ ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนจนทำให้คนที่ตกใจเมื่อสักครู่มองจนตาค้าง
“ เอ่อ..พอดีเพื่อนป่านมันเอ๋อบ้าๆบอๆแบบนี้แหละป๊า ป๊าอย่าใส่ใจเลยนะ “ ป่านรีบพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มแห้งส่งไปให้บุพการีที่เคารพ
“ หึหึหึ ไม่เป็นไรหรอก ป๊าไม่ถือ เพื่อนป่านก็เหมือนลูกป๊านั่นแหละ “ เขายิ้มให้กับลูกชายด้วยความอ่อนโยน พลางลูบหัวเล็กของป่านเบาๆ
“ มันอยากเป็นเมียป๊าตางหากครับ ไม่ได้อยากเป็นลูก “ ป่านได้แต่คิดอยู่ในใจ
“ อะ..เอ่อ..สะ..สวัสดีครับ..คุณอา “ เดลเม้มปากยกมือไหว้พ่อของเพื่อนอย่างเขินอาย
“ จริต “ ป่านแกล้งพูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้ เดลหันไปมองขวางเพื่อนสนิททันที
“ ป่านครับ ไม่ว่าเพื่อนนะ “ เขาดุลูกชายไม่จริงจังมากนัก
“ เราชื่อเดลใช่หรือเปล่า “ เขาถามชายหนุ่มที่ยิ้มให้เขาอยู่ตรงหน้า
“ คุณอาจำชื่อเดลได้ด้วยหรอครับ! “ เดลเบิกตากว้างด้วยความดีใจอย่างไม่ปิดไม่มิด ป่านขยับเข้าไปใกล้เดลทันทีพร้อมกับกัดฟันกระซิบที่ข้างหูเพื่อนสนิท
“ ไอเดล..นั่นป๊ากู “
“ แต่กูอยากได้ป๊ามึง..เป็นผัวกู “ เดลกระซิบตอบกลับป่านไปยิ้มๆเช่นกัน และขยับออกห่างจากเพื่อนสนิททันที ทิ้งให้ป่านได้แต่จ้องเขม็งไปที่แผ่นหลังเพื่อนสนิทด้วยความโมโห
“ เราจะนอนค้างที่นี่หรอ “ เสียงทุ้มของร่างสูงตรงหน้าทำให้เดลรู้สึกเคลิ้มไปชั่วขณะ
“ หื้ม? “ เขาถามเด็กหนุ่มย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเพื่อนของลูกชายคนนี้เอาแต่จ้องหน้าเขา เดลสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายเลิกคิ้วถามเขา
“ อะ..อ๋อออครับ ใช่ครับ ยังไงผมขอฝากตัวกับคุณอาด้วยนะครับ “ เสียงหวานของเดลพูดขึ้นพร้อมกับขยับตัวเข้าไปใกล้กับร่างสูงตรงหน้าทันที
ป่านที่เห็นท่าทางของเพื่อนแบบนั้นก็ได้แต่มองด้วยความอึ้ง เพราะเขาไม่คิดว่าเพื่อนสนิทจะออกตัวแรงและดูแรดแบบนี้ เพราะปกติแล้วป่านไม่ค่อยเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้เท่าไหร่นัก นอกเสียจากคุยเล่นและแกล้งหยอดผู้ชายคนอื่นไปตามประสาเท่านั้น
“ ได้สิ อยากนอนที่นี่ตลอดก็ได้นะ ป่านเองก็จะได้มีเพื่อนด้วย “ เสียงทุ้มบอกอย่างใจดี
“ คุณอา..ใจดีอย่างที่ไอป่านบอกเดลจริงด้วย “ เดลเอื้อมมือไปจับที่แขนของร่างสูง ป่านอ้าปากค้างอีกครั้งด้วยความตกใจ เมื่อเขาเห็นสกิลการอ่อยและการแต๊ะอั๋งพ่อของเขาจากเพื่อนสนิท
“ หึหึหึ ขนาดนั้นเลยหรอ “ เขาลูบหัวเล็กด้วยความเอ็นดูเมื่อได้ยินคำพูดหวานจากปากของเพื่อนลูกชาย
“ ขนาดนั้นสิครับ “ เดลยิ้มกว้างให้กับร่างสูง เพราะเขารู้ว่านี่คือเสน่ห์ของเขาที่ทำให้ใครต่อใครต่างก็ตกหลุมพรางมานักต่อนักแล้ว
“ เบาได้เบาครับเดล “ ป่านพูดขึ้นพร้อมกับมองเพื่อนสนิทยิ้มๆ ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่เดลเองก็รู้ดีว่าเพื่อนสนิทพยามกลบเกลื่อนอารมณ์ที่อยากจะจิกหัวเขาให้ออกห่างจากพ่อของตัวเอง
“ เบาอะไรกันป่าน หื้ม? “ เขาหันไปถามลูกชายด้วยความสงสัย
“ ไม่มีอะไรหรอกครับคุณอา ป่านมันก็ชอบพูดเพ้อเจ้อแบบนี้แหละครับ อยู่ที่มอนะมันอ่ะชอบพูดจาไร้สาระตลอดเลยแล้วก็ชอบหาเรื่องคนอื่นด้วย เดลเองก็ต้องคอยห้ามมันอยู่เรื่อย “ เดลรีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน เพราะเขากลัวว่าเพื่อนสนิทจะเผลอทำหมาหลุดออกมาจากปากและเผาเขาต่อหน้าคนที่เขาสนใจ
ป่านได้แต่กรอกตามองบนด้วยความเอือมละอากับท่าทางที่เพื่อนสนิทของเขาพึ่งปั้นมันขึ้นมาได้เมื่อสักครู่ หึ อย่างเขานะหรือที่จะพูดจาเพ้อเจ้อ มีแต่เจ้าตัวนั่นแหละที่ชอบเล่านู่นเล่านี่และก็ชอบหาเรื่องคนอื่นเขาอยู่ร่ำไป จนต้องเป็นเขาที่เป็นฝ่ายเข้าไปห้ามทุกที แต่ก็เอาเถอะ เขาจะยอมให้มันสักครั้งก็แล้วกัน เพราะความจริงแล้วนิสัยของเดลก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก ถ้าคิดจะเข้ามาเป็นแม่เลี้ยงของเขาแล้วละก็..เขายอมให้มันผ่านก็ได้
“ แบบนั้นหรอป่าน “ เขาหันไปมองลูกชายอย่างดุดุ
ป่านมองหน้าพ่อตัวเองสลับกับใบหน้าของเพื่อนนิทที่ตอนนี้มันได้บอกเขาผ่านสายตาเป็นที่เรียร้อยแล้วว่าให้เขายอมรับเดี๋ยวนี้ เขาถอนหายใจออกมานิดๆเพราะต้อวตามใจไอเพื่อนตัวดีคนนี้อีกแล้ว
“ เอ่อก็..นิดหน่อยครับ “ ป่านยอมรับพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆให้กับบิดาของตัวเอง
“ ครั้งสุดท้ายนะครับป่าน อย่าให้ป๊าได้ยินอีกนะครับ “ เขาส่งยิ้มให้ลูกด้วยความอ่อนโยน
“ เดี๋ยวเดลดูแลป่านให้เองครับคุณอา คุณอาไม่ต้องกังวลนะครับ “ เดลส่งยิ้มหวานให้กับร่างสูง มือเล็กของเขาก็ยังคงคล้องไปที่แขนขอชายหนุ่มรุ่นพ่ออยู่แบบนั้น
“ บอกตัวเองดีกว่ามั้งง “ ป่านกัดฟันพูดขึ้นลอยๆ ซึ่งมันก็ทำให้เดลหันขวับมองหน้าเพื่อนสนิทดุดุ ป่านไหวไหล่เล็กน้อยและแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ แล้วนี่หิวกันหรือยังละ อยากทานอะไรมั้ยเดี๋ยวป๊าสั่งให้ “ เขาหันไปถามเด็กทั้งสองคน
“ ป่านหิวแล้วครับ “ ป่านบอกผู้เป็นพ่อยิ้มๆ
“ แล้วเดลละครับ หิวหรือยัง “ ร่างสูงกันไปถามคนตัวเล็กที่เกาะแขนของเขาอยู่
“ หิวนิดหน่อยครับ ปกติเดลไม่ใช่คนที่กินเยอะเท่าไหร่ “ เดลยกมือลูบท้องตัวเองปอยๆ
ป่านที่ได้ยินก็เอียงคอมองเพื่อนสนิทด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ แดกปานห่าลง เอาอะไรมานิดเดียววะ “ ป่านพูดกับตัวเองเบาๆอย่างงงๆ
“ งั้นเราเอาของขึ้นไปเก็บข้างบนก่อน เดี๋ยวป๊าสั่งอะไรให้ทานแล้วค่อยลงมา “ เขาบอกเด็กๆเสียงนุ่ม
“ ก็ได้ครับ งั้นเดี๋ยวเดลรีบลงมาหาคุณอานะครับ “ เดลบอกร่างสูงเสียงหวาน แล้วค่อยๆปล่อยมือออกจากแขนแกร่งอย่างนึกเสียดาย
“ กูมีเรื่องจะคุยกับมึงพอดีเลยว่ะเพื่อนรัก ปะ ไปคุยกับกูหน่อย “ ป่านรีบดึงแขนเพื่อนให้ออกห่างจากพ่อของเขาทันที และลากเดลขึ้นไปยังห้องนอนของเขา