เขตล่ามรัก พื้นที่ 6 : ชีวิตในวัย 29ปี
“...พวกเหี้-” เสียงทุ้มพึมพำเบา ๆ ก่อนจะคีบบุหรี่ขึ้นสูบ
หายไป หนีไปไหน ต้องตามอีกแล้ว นี่แหละคือสิ่งที่เขาไม่ชอบเอาซะเลย มันน่ารำคาญแล้วยังชวนเสียเวลา ยิ่งยอดหนี้สูงมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งต้องการตัวอีกฝ่ายมากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะชดใช้ด้วยวิธีไหน ยังไงเขาก็จะเอาเงินของตัวเองคืนครบทุกบาท ทุกสตางค์
“แต่ยังมีทรัพย์สินอีกชิ้นที่เหลืออยู่ ในชื่อของมายูมิ นากาโนะคือ รถBMWS1000RR ราคาตลาดในตอนนี้อยู่ที่สามสิบห้าล้านเยนครับ” สามสิบห้าล้านเยน...ลดหนี้ลงไปก็เหลือ หนึ่งร้อยหกสิบห้าล้านเยน ก็ยังเหลือเยอะอยู่ดี
“ผู้หญิงตัวแค่นี้ขับรถแบบนั้น ไม่ใช่ว่าเป็นของสามีเธอหรือเปล่า จะได้ลากตัวมาช่วยใช้หนี้ ยังไงก็ถือว่าเป็นคนคนเดียวกัน” ก็ไม่ได้หากันง่ายนะ ที่ผู้หญิงจะขับรถตัวนี้แล้วเอาอยู่
“รถของเธอเองครับ แล้วเธอก็โสด จากที่สืบก็ไม่เคยคบใครด้วย แล้วทั้งตัวเธอกับรถคือปัญหาที่เรายังตามไม่เจอ”
“ก็รีบไปหาซะสิ ให้เวลาสามวัน” เวลาบีบรัดเหมือนยากระตุ้น ให้ลูกน้องทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
“ครับ เจ้านาย”
(มิกุ)
ณ แมนชั่นของริกะ เวลา 22.30 น.
ง่ำ ง่ำ ง่ำ ~
ปากเล็กกัดโคร็อกเกะเต็มปาก แล้วเคี้ยวจนแก้มป่องทั้งสองข้าง ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าของเพื่อน อีกฝ่ายก็กำลังจ้องมองมาเช่นกัน ที่นี่คือ แมนชั่นของริกะกับสามี ที่ทั้งสองเช่าอยู่ร่วมกันตั้งแต่แต่งงาน
ตอนนี้ฉันขอเข้ามาอาศัยร่วมชั่วคราว ในช่วงที่สามีของเพื่อนเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศเป็นเวลา 1 อาทิตย์ ระหว่างนี้ก็จะหางานและที่พักใหม่ด้วยเช่นกัน
“น้ำหนักลงไปกี่กิโลเนี่ย แกผอมมากเลยมิกุ”
ริกะมองฉันด้วยแววตาเป็นห่วง เราเจอกันช่วงงานศพของพ่อ แล้วจากนั้นฉันก็หายไปจัดการเรื่องของตัวเองเป็นเวลาเกือบ 2 อาทิตย์ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีอาหารตกถึงท้อง ก็ไม่แปลกที่น้ำหนักจะลงอย่างรวดเร็ว จนใบหน้าซูบแล้วยังซีดจนเห็นได้ชัด
“เกือบเจ็ดกิโลได้มั้ง ก็กินอะไรไม่ลงเลยตั้งแต่พ่อเสีย กินแต่น้ำ”
“แต่นมไม่ยุบลงเลยย่ะ เอานี่กุญแจรถ” ริกะล้วงหยิบเอาของที่ฉัน รบกวนให้เธอหาคนไปขนออกจากบ้านมาให้ ก่อนจะถูกพวกบรรดาญาติผู้หิวโหยเอาไป
“ขอบใจนะที่จัดการธุระให้” มือเล็กเอื้อมไปรอรับของจากเธอ กุญแจรถ BMW S1000RR ของฉัน ฮือ! แม่อยากจะกอดหนูเอาไว้ให้นานที่สุดเลยลูกรัก แต่คงทำไม่ได้แล้ว
ตอนนี้ของที่เอาออกมาได้มีเพียงของ ๆ ตัวเองเท่านั้น ทุกอย่างที่เป็นชื่อของพ่อถูกธนาคารอายัดเอาไว้หมด แต่ใช่ว่าฉันจะรอดแล้วสามารถเริ่มชีวิตใหม่ได้หรอกนะ ยังมีพวกหนี้นอกระบบอีกหลายคนที่ต้องการเจอตัวอยู่
“กระเป๋ากับเสื้อผ้าแบนด์เนมของแกทั้งหมด ฉันจะให้น้องสาวจัดการขายให้ตามที่บอก จะได้มีเงินสักก้อนมาไว้ในมือ แกต้องเก็บตัวให้เงียบที่สุดก่อนช่วงนี้” ริกะที่พยายามช่วยสุดความสามารถ แต่ฉันก็ไม่อยากเอาตัวเองเข้ามาอยู่ใกล้เธอไปมากกว่านี้ ยังไงก็ต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนพวกยากูซ่าหรือเจ้าหนี้รายใหญ่จะตามมา
“พรุ่งนี้ฉันจะไปหาห้องเช่า แล้วก็สมัครงานด้วย” เงินเก็บของตัวเองก็นำไปจัดการหนี้บางส่วน เพื่อจะได้ลดการถูกตามตัว ฉันที่หมดตัวแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
“เรื่องงานจัดการให้แล้ว สามีฉันเช็นรับแกเข้าเป็นพนักงานเรียบร้อย” ริกะพูดด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ
“อำนาจผู้จัดการสาขา” ฉันกะพริบตามองเพื่อนปริบ ๆ
“เออน่ามันจำเป็น แต่ช่างเถอะอย่าไปพูดถึง”
“ฉันทำหน้าที่อะไรเหรอ”
“ส่วนหน้าที่งานของแกคือผู้ช่วยของฉันอีกที แกจะต้องไปตรวจร้านขายอุปกรณ์ตามห้างและโซนเมือง ซึ่งเดี๋ยวฉันจะสอนทีหลัง ตอนนี้ต้องพักผ่อนและทำให้ตัวเองกลับมาเป็นคนปกติให้ไว”
“บริษัทแกขายพวก” ถ้าจำไม่ผิด...
“เซ็กซ์ทอย ของเล่นผู้ใหญ่ อุปกรณ์ตัวช่วยต่าง ๆ แล้วก็พวกชุดอะไรแบบนี้ แกใช้ชีวิตกับเรื่องเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก ฉันมั่นใจว่าแกจะต้องรู้จักของทุกชิ้นเป็นอย่างดี ในฐานะลูกสาวเจ้าของค่ายหนังผู้ใหญ่อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น”
“ตอนนี้ไม่อยู่ในมือแล้วไง พ่อก็ เฮ้อ...” ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เอาน่า อย่าไปโทษใครเลย คุณพ่อก็ถูกหลอกจากพวกญาติเลว ๆ นั่นอีก ทั้งเรื่องเงินและเรื่องบริษัท ค่อยแก้ไปทีล่ะเรื่องดีกว่า ตอนนี้กินเข้าไปเยอะ ๆ แล้วก็ไปอาบน้ำ หน้าแกโทรมมากฉันรับไม่ได้ ~” ริกะทำหน้าสยดสยองใส่ สภาพตอนนี้มันแย่มากเลยสินะ
“เอ่อ ริกะ” ฉันเรียกเพื่อนตัวเอง ในขณะที่เธอกำลังลุกขึ้นยืน
“อะไร”
“ฝากหาที่รับซื้อรถฉันหน่อยนะ ขอราคาดีนิดหนึ่งจะเอาไปเคลียร์หนี้ให้ได้เยอะที่สุด”
“อย่าหาว่าฉันไล่แกเลยนะ ขายรถเอาเงินมาไว้...แล้วออกไปจากญี่ปุ่นดีมั้ย รายใหญ่ของแกก็ปาไปสองร้อยล้านเยนแล้วนะ”
“แกว่า...คนที่สามารถปล่อยเงินกู้ได้ยอดขนาดนั้น เขาจะไม่มีปัญญาตามฉันเหรอ”
“ก็ถึงบอกว่า ให้หนีไง”
“ไม่รอด ลางสังหรณ์ของฉันมันบอกแบบนั้น แล้วเมื่อเช้าก็ดูไพ่แล้วด้วย”
“ดูดวงอีกแล้ว ยัยมิกุบ้าบอ”
“แต่แกอย่าลืมที่เคยเล่าให้ฟังสิ ทุกอย่างมันตรงที่แม่หมอคนนั้นเตือนเลย”
“แต่แกก็อย่าลืมสิ ก่อนทุกอย่างจะเกิดขึ้น เราไปตามหาเธอที่เกาหลีกันมาสองปีแล้วและคนละแวกนั้นก็ไม่มีใครเคยเจอเธอ ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียววันว่า ที่โซลไม่มีโต๊ะดูดวงตรงนั้น เราไปตามทุกที่แล้วมิกุ”
“แต่ฉันเจอเธอจริง ๆ นะ แล้ว...” เรื่องคำเตือนสุดท้าย ฉันยังจำได้ขึ้นใจเพียงแค่ไม่เคยพูดให้ใครฟัง แม้กระทั่งริกะเอง
“แกก็เมาด้วยนิดหน่อย ถึงแกจะคอแข็งแต่วันนั้นเราดื่มเยอะทั้งคู่ อย่าโกรธฉันเลยนะมิกุ แต่บางทีมันก็อาจจะเป็นเพียงความฝัน”
“....” ความฝันอะไร ทำไมตรงขนาดนี้
“หยุดทำหน้าซึม ฉันไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อที่แกพูดนะ แต่อยากให้แกเลิกคิดถึงเรื่องหมอดูนั่นสักที ตอนนี้เราต้องมีชีวิตต่อ...ฉันจะไปเตรียมน้ำอุ่นให้”
“อือ” เสียงขานรับแผ่วเบา สายตามองตามร่างบางของเพื่อนที่เดินหายไปยังห้องน้อง
ฉันไม่ได้รู้สึกว่านั่นคือความฝัน ฉันรอเจอผู้ชายที่แม่หมอพูดถึง...ผู้ชายที่ไม่ใช่คนในประเทศบ้านเกิด
เขาจะเข้ามาช่วยเหลือฉันหรือเปล่านะ....