EP 7 | เจ้าหมาขี้แกล้ง
ขบวนรถตู้เบนซ์สีดำสามคันเคลื่อนตัวออกจากสนามบินมุ่งหน้าไปยังห้องจัดเลี้ยงบนโรงแรมเซน ซึ่งเป็นสถานที่นัดหมายเพื่อทานมื้อกลางวันของทั้งสองครอบครัว
คันหน้าและหลังเป็นรถของบอดี้การ์ดส่วนคันตรงกลางซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นคันที่บรรยายกาศภายในรถเงียบสงัดมากที่สุดคือรถของทายาทมาเฟียทั้งสองกลุ่ม
เคทหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปิดเสียงแจ้งเตือนก่อนจะนั่งกำมันเอาไว้แน่น มือทั้งสองข้างชื้นไปด้วยเหงื่อ คิ้วเรียวสวยขมวดติดกันตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัวทำให้คนที่ลอบมองอยู่ข้างๆต้องเบนหน้าหันไปมองวิวนอกหน้าต่าง พยายามที่จะกลั้นยิ้มสุดฤทธิ์
“เฮือก! ทะ ทำอะไร”
คนตัวเล็กสะดุ้งขึ้นมาทันทีเพราะจู่ๆไบรซ์ก็เอนตัวเข้าไปหา เล่นเอาเธอแทบจะกระโดดหนีไปติดประตูรถอีกฝั่ง
“หยิบโทรศัพท์ เธอเป็นคนขวัญอ่อนตั้งแต่เมื่อไหร่”
ทั้งที่ตั้งใจแกล้งเธอแท้ๆแต่ไบรซ์ก็ยังคงตีสีหน้าเรียบนิ่งได้อย่างแนบเนียน มือใหญ่หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาโชว์ตรงหน้าเคทราวกับต้องการยืนยันว่าเขาหยิบโทรศัพท์จริงๆก่อนจะขยับกลับไปนั่งตามเดิม
เคทลอบมองปฏิกิริยาของไบรซ์ด้วยหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับเขาเลยแค่จะให้หมั้นกันเธอก็ลำบากใจจะแย่ แต่ถ้าเขาดันเป็นคนที่เธอชอบในโลกออนไลน์ด้วยล่ะ
‘เคทจะเครซี่ ฮืออออออออ’
“ฉันไม่ได้ขวัญอ่อน”
“เหรอ?”
ไบรซ์ถามกลับพลางกระตุกยิ้มมุมปากซึ่งมองดูเหมือนรอยยิ้มเยาะเย้ยมากกว่าเป็นมิตรในสายตาของหญิงสาว
ครืนนน
“อ๊ะ!”
เคทสะดุ้งขึ้นมาอีกครั้งเมื่อโทรศัพท์ของเธอสั่นเพื่อแจ้งเตือนว่ามีสายโทรเข้ามา ตอกย้ำให้คนตัวเล็กต้องยอมรับคำว่า ‘ขวัญอ่อน’ ไปโดยปริยาย
‘มีสติหน่อยโว้ยไอ้เคท’
“หึ”
ไบรซ์ยกมือขึ้นแกล้งไอเบาๆในลำคอทั้งที่ความจริงเขาอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมากับอาการลุกลี้ลุกลนของเจ้าแมวน้อยข้างๆ
‘ทำไมน่ารักจังวะ’
Rrrr Rrrr
สายเรียกเข้า ‘ปะป๊า’
“ค่ะป๊า”
“เจอไบรซ์แล้วใช่มั้ยลูก”
“ค่ะ อยู่บนรถแล้ว”
“โอเคๆ งั้นเจอกันที่โรงแรมเซนนะ”
“ห๊ะ? ไปที่โรงแรมทำไมคะ”
เคทเอ่ยถามพลางหันไปมองหน้าไบรซ์ ซึ่งตอนนี้เขากำลังก้มหน้าก้มตาดูโทรศัพท์ของตัวเองโดยไม่ได้สนใจว่าเธอกำลังคุยอะไรกับใคร
เพราะมัวแต่กังวลเรื่องไบรซ์และเจ้าหมาน้อยอาจจะเป็นคนเดียวกัน เคทจึงไม่ได้สังเกตว่าเส้นทางที่ตัวเองนั่งรถไปนั้นไม่ใช่เส้นทางที่จะกลับบ้านเธอหรือไปบ้านกลุ่มแอรีส
“ก็เรามีนัดทานข้าวกับกลุ่มแอรีสไงลูก”
คำตอบของเคเดนเหมือนเสียงฟ้าผ่าที่ดังลงมากลางศีรษะของหญิงสาวก่อนจะตามมาด้วยเสียงของผู้เป็นแม่ตะโกนเข้ามาในสายเพื่อขอโทษที่ลืมบอกเธอ
“ค่ะป๊า”
เคทกดวางสายโทรศัพท์ด้วยหัวใจห่อเหี่ยวเต็มที เธอยังไม่พร้อมจะรับมือกับอะไรเลยสักเรื่องแต่ดูเหมือนเรื่องทุกอย่างจะพร้อมใจกันเข้ามาเสียเหลือเกิน ไหนจะเรื่องคู่หมั้น เรื่องเจ้าหมาน้อย เรื่องระแวงไบรซ์แล้วนี่ต้องไปกินข้าวกับครอบครัวเขาทันทีอีกด้วย
ดวงตากลมโตเหลือบมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ของคนข้างๆเมื่อเห็นว่าเขากดเข้าแอปพลิเคชัน Magic Date เธอก็รู้สึกเหมือนหัวใจดวงน้อยหยุดเต้นไปชั่วขณะ
Magic date | bb
bb: ทำไมอ่านไม่ตอบ
bb: หรือรู้ว่าฉันอยู่เบคาเทียแล้ว
bb: เธอป๊อด?
ชัดเจน!
แจ่มแจ้ง!!
แดงแจ๋!!!
บีบีคือไบรซ์ ไบรซ์คือบีบี
เขาคือเจ้าหมาน้อย!
‘ใครก็ได้เรียกกู้ภัยมาเก็บศพฉันโหน่ยยยยย~’
ไบรซ์พิมพ์ส่งข้อความเสร็จก็หันหน้าไปมองคนข้างๆและสบตากับเธอเข้าพอดี เคทสะดุ้งรีบหันหน้าไปอีกทางพลางหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาแนบหูก่อนจะพูดออกมาราวกับเธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่จริงๆ
“เออแกมีเรื่องด่วนหรือเปล่า ฉันไม่ว่างตอบอ่ะ ยุ่งๆอยู่ไว้กลับบ้านแล้วฉันทักหานะเว้ย”
คุยจบเป็นตุเป็นตะเคทก็กดวางสายโทรศัพท์แต่ไม่กล้าหันหน้าไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆกันอีกเลยตลอดทาง
@Zen Hotel เปโดร
เทียร์และมีอากำลังนั่งเม้ามอยกันอย่างออกรสออกชาติบนโต๊ะอาหารในห้องจัดเลี้ยงแบบไพรเวตระหว่างรอทายาทของสองกลุ่มเดินทางมาถึง
ส่วนเคเดนและบรู๊กเลือกที่นั่งจะฟังภรรยาสุดที่รักมากกว่าคุยกันเองเพราะพวกเขาเจอกันบ่อยทั้งในเรื่องธุรกิจและประชุมภาคี
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
บอดี้การ์ดเคาะประตูห้องจัดเลี้ยงก่อนจะเปิดประตูและหลีกทางให้ไบรซ์เดินนำเข้าไปข้างใน
“ไบรซ์ครับบบ~”
มีอารีบลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปกอดลูกชายของตัวเองด้วยความคิดถึงเพราะปกติจะเจอกันแค่ปีละไม่กี่ครั้ง ลูกชายบินกลับมาบ้าง คุณบรู๊กและเธอบินไปหาเองบ้าง
“คิดถึงจังเลย”
“คิดถึงแม่เหมือนกันครับ”
เสียงตอบกลับอย่างอ่อนโยนของไบรซ์ทำให้คนตัวเล็กที่เดินตามมาข้างหลังชะงักเล็กน้อยเพราะน้ำเสียงแตกต่างจากที่พูดกับเธอเสียเหลือเกิน
“อะแฮ่ม”
เสียงกระแอมไอของบรู๊กทำให้มีอาถอนหายใจออกมาต่างจากไบรซ์ที่หัวเราะในลำคอเบาๆกับอาการขี้หวงภรรยาสุดที่รักของผู้เป็นพ่อ ขนาดเขากับเบคเป็นลูกชายแท้ๆพ่อก็ยังไม่เว้น
เคเดนและเทียร์หันมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเช่นกัน เทียร์กวักมือเรียกลูกสาวของตัวเองมานั่งลงข้างๆ
“ทำไมหน้าบูดขนาดนี้ล่ะเคท”
เทียร์โน้มตัวเข้าไปกระซิบถามลูกสาวคนสวยที่ตอนนี้คิ้วก็ยังผูกกันเป็นปมไม่หาย
“หิวมั่งคะ”
เคทไม่รู้จะตอบแม่ไปว่าอะไร ให้บอกความจริงก็กลัวว่าแม่ของเธอจะหัวใจวายเสียก่อนถ้ารู้ว่าลูกสาวของตัวเองไปขอผู้ชายมีความสัมพันธ์แบบ FWB การมีเซ็กแบบไม่ผูกมัดทั้งที่ยังไม่เคยเจอหน้า
และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือเขาดันเป็นคนเดียวกับว่าที่คู่หมั้นของเธออีกด้วย
‘จะบ้าตายรายวัน’
เมื่อบนโต๊ะอาหารนั่งกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาเรียบร้อย บรู๊กจึงส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดเรียกพนักงานเข้ามาเสิร์ฟอาหารได้
ไบรซ์นั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างซึ่งขวามือของเขาคือเคทส่วนซ้ายมือคือมีอา ถัดไปเป็นบรู๊ก เคเดนและเทียร์เวียนเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกา
“สบายดีนะไบรซ์”
เคเดนเอ่ยทักทายว่าที่ลูกเขยหลังจากที่เห็นว่าไบรซ์คุยกับมีอาเสร็จแล้ว เขาเห็นไบรซ์มาตั้งแต่เด็กๆและก็ดูออกว่าไบรซ์คิดอะไรกับลูกสาวของเขา เพียงแต่ตอนนี้เขาก็ไม่แน่ใจว่าวันเวลาที่ผันเปลี่ยนไปนั้นทำให้ความรู้สึกของไบรซ์เปลี่ยนไปแล้วหรือยัง
“ครับ คุณอาทั้งสองสบายดีนะครับ”
ไบรซ์ตอบกลับพร้อมเอ่ยถามตามมารยาท หางตาคมเหลือบเห็นว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆแอบแบนปากใส่เขา
“สบายดีจ้ะ แล้วทำไมเราถึงขอกลับมาเรียนต่อที่นี่ล่ะ ที่นิวยอร์กไม่ดีเหรอลูก”
เทียร์เอ่ยถามด้วยความสงสัย เธอแปลกใจไม่น้อยเมื่อมีอาเล่าให้ฟังว่าไบรซ์ขอกลับมาเรียนต่อหน่วยกิตที่ยังเหลืออยู่ในเบคาเทียแทน ทั้งที่เขาก็ไปเรียนอยู่ที่นิวยอร์กตั้งแต่สิบขวบ
อีกอย่างเทียร์เพิ่งส่งคาลอสลูกชายคนเล็กไปเรียนต่อปริญญาที่นั่นด้วย กลัวว่าลูกชายของตัวเองอาจจะมีปัญหาอะไรที่นิวยอร์ก
“ที่นั่นดีครับอาเทียร์ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องคาลอสเลยแต่ที่ผมรีบกลับเพราะโครงการคอนโดใหม่ของพ่อค่อนข้างยุ่ง ก็เลยต้องกลับมาช่วยครับ”
ไบรซ์เรียนวิศวะโยธาฯเหตุผลที่เขายกขึ้นมาตอบนั้นจึงไม่แปลกสำหรับคนนอกแต่คนในครอบครัวที่ถูกกล่าวถึงอย่างบรู๊กหันไปมองหน้าลูกชายอย่างรู้ทัน
ส่วนมีอาหันมองหน้าพ่อลูกสลับกัน เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ของสามีจะยุ่งถึงขนาดที่ต้องเรียกลูกชายคนกลางกลับมาช่วยงานและย้ายที่เรียนกลางคัน
“หึ พูดแล้วทำด้วยล่ะ”
บรู๊กถือโอกาสมัดมือชกลูกชายตัวเองทันที เกิดเป็นทายาทมาเฟียต้องรักษาคำพูดของตัวเองในเมื่อเสนอตัวขึ้นมาแล้วก็จัดการให้รับผิดชอบคำพูดของตัวเองเสียเลย
ไบรซ์หันมองหน้าผู้เป็นพ่อแต่ไม่ได้พูดอะไรกลับไป เขารู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องช่วยงานพ่อ แค่พ่อไม่เฉลยเหตุผลจริงๆของเขาออกไปตอนนี้ก็ถือว่าดีแล้ว