EP 4 | Come back
Magic date | bb
c-cat: นายจะกลับเมื่อไหร่
c-cat: ฉันคงไม่ต้องรอจนแก่หรอกนะ
c-cat: 55555555
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ประโยคของเคทที่พิมพ์มาทำให้เขารู้สึกอยากจะบินกลับเบคาเทียเสียตอนนี้เลย
Magic date | bb
bb: เธอกำลังแช่งให้ฉันไม่เรียนจบหรือไง
c-cat: 555555
c-cat: รู้ทันได้ยังไง
bb: หึหึ
bb: ถ้าเจอกันเธอต้องโดนลงโทษนะ
c-cat: จะทำไรด้ายยยยยยย
bb: ฉันจัดการยันเช้า
c-cat: อุ้ย!
c-cat: ต้องกลัวไว้ด้วยใช่มั้ยคะ
ไบรซ์กำโทรศัพท์แน่นรู้สึกมันเขี้ยวยัยตัวแสบจนแทบจนไม่ไหว ตอนเด็กก๋ากั่นยังไงโตขึ้นก็ไม่มีเปลี่ยนไปจากเดิมสักนิด
Magic date | bb
bb: หาแซมบัคไว้เลย
bb: ช้ำหมดทั้งตัวแน่
นี่ไม่ใช่คำขู่เพราะเขาตั้งใจจะรีบเรียนให้จบแล้วกลับไปจัดการเรื่องยัยตัวแสบจริงๆ แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาแทบไม่เคยแสดงตัวตนต่อหน้าเธอเลย บางทีเธออาจจะลืมผู้ชายชื่อไบรซ์ไปจากความทรงจำแล้วก็ได้
Magic date | bb
c-cat: นายสิจะช้ำ
c-cat: ค้างกัดฉันไว้หลายรอบแล้วนะ
bb: คิดว่าฉันยอมเหรอ
bb: เธอกัดตรงไหน ฉันก็กัดกลับตรงนั้น
c-cat: กล้ากัดฉันเหรอ
bb: มันเขี้ยว
c-cat: ที่ไหน กี่โมง
c-cat: มาตอนนี้สิ
c-cat: มาเลอออออออ
bb: เจอจริงๆ
bb: อย่าร้องไห้งอแงก็แล้วกัน
ไบรซ์ออกจากหน้าแชทสนทนา ก่อนที่นิ้วแกร่งจะเลื่อนไปกดโทรศัพท์หาบุคคลที่สามารถช่วยให้เขากลับเบคาเทียได้เร็วที่สุด
“เธอทำให้ฉันหมดความอดทนเองนะ ยัยแมวตัวแสบ”
สายโทรออก ‘Dad’
“ว่าไง”
บรู๊กกดรับสายลูกชายของเขาพลางคิดตงิดอยู่ในใจเพราะปกติไบรซ์แทบจะไม่โทรหาเขาเลยถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นจริงๆ ส่วนใหญ่เขาจะรู้ความเป็นอยู่ของลูกชายทั้งสองคนผ่านบอดี้การ์ดที่เขาแอบส่งไปสังเกตการณ์หรือผ่านมีอา ภรรยาสุดที่รักเพราะรายนั้นโทรหาลูกชายทุกสัปดาห์
“จบเทอมนี้ ผมอยากย้ายหน่วยกิตที่เหลือไปยูซีครับ”
ไบรซ์รีบบอกจุดประสงค์ของตัวเองไปทันที เขารู้ดีว่าพ่อของตัวเองจะมีคำถามอะไรกลับมาและตอนนี้เขาก็พร้อมที่จะตอบทุกคำถามอยู่แล้ว
“ทำไมถึงรีบกลับ”
“ผมมีเรื่องที่อยากกลับไปจัดการให้เรียบร้อย”
“หึ”
บรู๊กกระแทกเสียงในลำคอเบาๆ อย่างรู้ทันความคิดของลูกชาย ก็ไบรซ์เล่นเกิดมาเหมือนเขาทั้งหน้าตาและนิสัยราวกับถ่ายเอกสาร ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเรื่องที่ทำให้ลูกชายร้อนใจจนอยากกลับมาเรียนต่อที่บ้านเกิดคือเรื่องอะไร
“ถ้าพร้อมกลับมา แปลว่าพร้อมทำตามข้อตกลงของแอรีสและโดโนเวนนะ”
ไบรซ์ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย นั่นแหละคือสิ่งที่เขาต้องการเขาอยากจะให้กลุ่มโดโนเวนมาทวงสัญญาเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
กลุ่มแอรีสและโดโนเวนมีการเซ็นสนธิสัญญาร่วมกันในธุรกิจการผลิตอาวุธส่งออกให้กับรัฐบาลแต่ละประเทศ ซึ่งนอกจากโรงงานผลิตอาวุธทางโดโนเวนสนใจที่จะเข้าร่วมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับแอรีสด้วย
บรู๊กจึงยื่นข้อเสนอให้ทายาทของทั้งสองกลุ่มหมั้นกันถือเป็นสัญญาใจที่ไม่มีวันตัดขาด ซึ่งทางโดโนเวนไม่ได้ติดปัญหาอะไร
และนี่คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ไบรซ์เลือกเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาโยธาแล้วไล่พี่ชายไปเรียนวิศวะฯ คอมพิวเตอร์เพราะในข้อตกลงไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าเป็นลูกชายคนไหน การที่เขาเรียนสาขาโยธาจะทำให้เขากลายเป็นทายาทที่จะรับช่วงต่อด้านอสังหาริมทรัพย์โดยปริยาย
“เรื่องนั้น ผมคงต้องทำใจ”
น้ำเสียงที่ฟังเหมือนคนจำนนต่อข้อตกลงทั้งที่หัวใจด้านชากลับเต้นด้วยจังหวะที่เร็วขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ไบรซ์ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขามีความรู้สึกอย่างไรกับเคท แค่เบคล่วงรู้ความลับนี้คนเดียวก็มากเกินพอแล้ว
“พ่อจะจัดการให้”
“ขอบคุณครับ”
เมื่อได้สิ่งที่ต้องการมือหนายกโทรศัพท์ออกจากหูและกดวางสายทันที มุมปากกระตุกยิ้มขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเมื่อนึกถึงใบหน้าของเจ้าแมวตัวแสบที่กำลังจะได้เจอ
ทั้งที่คิดมาตลอดว่าตัวเองมีความอดทนสูงแต่เพราะเธอคนเดียวที่ทำให้เขาทนไม่ไหวยอมร่นระยะเวลาให้เร็วขึ้นมาตั้งสองปี
‘จะมีอิทธิพลกับใจฉันมากเกินไปแล้วนะเจ้าเคท’
เคล้ง!
ช้อนส้อมร่วงลงจากมือเรียวทันทีเมื่อได้ยินประโยคที่ผู้เป็นพ่อกำลังพูดกับเธอบนโต๊ะอาหาร
“ป๊าว่าไงนะคะ”
เคทแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองว่าสิ่งที่เธอได้ยินคือเรื่องจริง เธอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลยและตอนนั้นเธอก็ยังเด็กมากคิดว่าผู้ใหญ่คงจะพูดเล่นกัน ไม่ได้จริงจังอะไร
“ทำไมทำหน้าช็อกแบบนั้นล่ะลูกหรือหนูลืมไปแล้วว่าตัวเองมีว่าที่คู่หมั้น”
เทียร์เอ่ยถามลูกสาวพลางมองเธอด้วยสายตาเอ็นดู ความจริงเธอเองไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะเธอไม่ชอบครอบครัวของบรู๊กแต่เธออยากให้ลูกสาวได้แต่งงานกับคนที่รักที่ชอบมากกว่าการจับคู่ของผู้ใหญ่แบบนี้
แต่เพราะตอนนั้นลูกสาวตัวแสบของเธอกลับไม่คัดค้านอะไรแถมไบรซ์ก็ยังเป็นเพื่อนที่เคทเล่นด้วยมาตั้งแต่เด็กๆ เธอจึงรอให้ลูกสาวเป็นคนตัดสินใจเองจะดีกว่า
“ค่ะ หนูลืมไปแล้วอ่ะม้า! แล้วตอนนั้นหนูก็คิดว่าพูดเล่นกันซะอีก”
เคทสารภาพด้วยน้ำเสียงโอดครวญ จะให้เธอแต่งงานกับคนที่เธอจำหน้ายังไม่ได้ด้วยซ้ำเนี้ยนะ จำได้แค่ว่าเคยวิ่งเล่นกันตอนเด็กๆ แต่ตอนนี้ไม่มีความทรงจำของคนชื่อ ‘ไบรซ์’ อยู่ในระบบสมองเลยด้วยซ้ำ
“ใครจะเอาเรื่องความเกี่ยวดองของสองกลุ่มอิทธิพลมาล้อเล่นล่ะเคท”
เคเดนตอบกลับลูกสาวด้วยสีหน้าจริงจัง แม้จะแอบเอ็นดูลูกสาวคนเดียวของเขาแต่ถ้าเขาแสดงออกให้เธอรู้รับรองได้เลยว่าเคทจะต้องหาเรื่องงอแงใส่เขาแน่ๆ
“แต่หนูจำหน้าเขายังไม่ได้เลย เราแทบจะไม่รู้จักอะไรกันเลยนะคะมันเหมือนป๊ากับม้าจะให้หนูไปแต่งงานกับคนแปลกหน้าอ่ะ”
เคทเริ่มโวยวายเมื่อเห็นว่าพ่อกับแม่ของเธอน่าจะจริงจังกับเรื่องนี้มากและอีกหนึ่งคำถามที่แทรกขึ้นมาในสมองของเธอคือ
‘แล้วเจ้าโบ้ของเธอล่ะ?’
เธอไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่าเธอคิดจริงจังกับคนในโลกออนไลน์ที่ไม่เคยแม้แต่เห็นหน้าเขาสักครั้งเดียวมากขนาดนี้ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าถ้าพ่อบังคับให้เธอแต่งงานกับบีบีคงจะดีเสียกว่า
ถึงจะไม่เคยเห็นหน้าเขาแต่เธอก็รู้สึกสนิทใจมากกว่าคนที่ไม่ได้คุยกันมาสิบกว่าปี
“ยังไม่ได้จะให้แต่งงานตอนนี้เสียหน่อย ป๊าเค้าแค่บอกว่าไบรซ์จะกลับมาแล้ว เราก็มีเวลาได้ทำความรู้จักกัน ศึกษากันไง”
“ถ้าหนูคุยกับเค้าแล้วไม่โอเคล่ะคะ ม้าจะบังคับให้หนูแต่งงานมั้ย”
เคทถามเทียร์กลับไปทันทีและคำตอบที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มบางๆ จากผู้เป็นแม่
“ลองพยายามดูก่อน ถ้าตอนนั้นมันไม่ได้เราค่อยมาคุยกันดีมั้ย”
“แล้วถ้า...” หนูมีแฟนอยู่แล้ว
ประโยคหลังเป็นแค่คำถามที่อยู่ในใจของเธอเพราะนึกขึ้นถ้าว่าจริงๆ แล้วเธอกับบีบีก็คุยกันมาโดยไม่มีสถานะอะไรนี่นา จริงสิ! เธอลืมสนใจเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย
“ถ้า...อะไร”
เคเดนเอ่ยถามเมื่อจู่ๆ ลูกสาวของเขาก็เงียบไปพร้อมกับสีหน้าครุ่นคิด ในใจรู้สึกตงิดเหมือนลูกสาวของเขาอาจจะมีคนที่ชอบอยู่แต่บอดี้การ์ดที่เขาส่งไปคอยแอบตามคุ้มกันก็ไม่เคยมีใครรายงานว่าเคทสนิทกับผู้ชายคนไหน
“ไม่มีอะไรค่ะ หนูอิ่มแล้วขอขึ้นห้องก่อนเลยนะคะ”
เคทเลือกที่จะไม่ตอบอะไรกลับไป เธอรีบลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเองทันที วันนี้เธอจะคุยกับเจ้าหมาน้อยให้รู้เรื่องเสียก่อนถึงจะเดินหน้าตัดสินใจเรื่องอื่นๆ