EP 2 | ตำนานรัก
@นิวยอร์ก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องทำให้มือหนาที่กำลังจับด้ามดินสอวาดรูปหยุดชะงัก ดวงตาคู่คมค่อยๆ หลับตาลงพยายามข่มอารมณ์ให้ใจเย็นเพราะเขาไม่ชอบมากๆ สำหรับการโดนรบกวนในเวลาพักผ่อนของตัวเอง
ซึ่งการพักผ่อนของเขาก็คือการนั่งวาดรูปผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ติดอยู่ในสมองของเขาตลอดเวลา
ร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าของไบรซ์ ออเดรย์ ไมเนอร์ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้องนอนของตัวเองด้วยใบหน้าเฉยชาติดไปทางไม่พอใจเล็กน้อยแตกต่างจากเบคพี่ชายร่วมสายเลือดที่กำลังยืนยิ้มอยู่หน้าประตู
“มีไร”
“มีเรื่อง...”
“ไม่!”
ไบรซ์ปฏิเสธทันควันไม่รอให้พี่ชายของตัวเองพูดจบแถมยังเตรียมปิดประตูห้องนอนจนคนที่ความสูงไล่เลี่ยกันรีบเอาตัวดันประตูเอาไว้
“เฮ้ยๆๆ เดี๋ยวดิ”
“...”
“มึงฟังให้จบก่อนดิวะ มันไม่ใช่เรื่องยากเลย”
ไบรซ์กลอกตามองบนพลางถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย พี่ชายของเขามักจะมีเรื่องไร้สาระมาขอให้เขาช่วยอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่มันก็รู้ว่าเขาไม่เต็มใจ เขาชอบอยู่ในความสงบ อยู่เงียบๆ คนเดียวมากกว่า
“ว่ามา”
“แอปพลิเคชันที่กูทำกับไอ้ตินอ่ะ ใช้ได้แล้วนะเว้ย”
“แล้ว”
เบคค่อยๆ แทรกตัวเข้ามาในห้องนอนของน้องชายตัวเอง เขารู้ดีว่าประโยคถัดไปของเขาอาจจะทำให้ไอ้น้องชายผู้เก็บตัว รักสงบและไม่ชอบความวุ่นวายปิดประตูใส่หน้าเขาอีกครั้ง
“มึงช่วยโหลด...”
“ไม่!”
ไบรซ์ปฏิเสธเสียงแข็ง จะให้เขาโหลดแอปพลิเคชันหาคู่เดทและทดลองใช้งานคุยกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้เนี้ยนะ ขนาดผู้หญิงที่มีตัวตนเดินเข้ามาหาเขาแบบตัวเป็นๆ เขายังไม่เคยจะคุยด้วยเลย
“มึงฟังกูให้จบสักครั้งเถอะ”
เบคบ่นในขณะที่สายตาคมเหลือบไปเห็นกระดานวาดรูปของน้องชาย ถึงตอนนี้จะเป็นแค่โครงร่างที่ยังมองไม่ออกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครแต่เขาก็สามารถเดาได้โดยทันที ความคิดชั่วร้ายปรากฏขึ้นมาในสมองของเบคอย่างรวดเร็ว
“เอางี้ ถ้ามึงยอมโหลดแอปนี้มาใช้เดี๋ยวกูจะให้ไอ้ตินจับแมทช์กับคนที่มึงชอบ”
“ใคร”
“แหม่ๆๆ ไม่น่าถามก็ใครล่ะที่ถีบมึงจนหน้าหงายในวันนั้นจนประทับตราตรึงในใจมาถึงวันนี้”
เบคพูดพร้อมชี้ไปที่กระดานวาดรูปด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ ใครๆ ก็บอกว่าเขามีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนพ่อแต่มีนิสัยเหมือนแม่ แตกต่างจากไบรซ์ที่นอกจากจะมีใบหน้าเคร่งขรึมเหมือนพ่อแล้วมันยังได้นิสัยนิ่งเงียบ ไม่ชอบความวุ่นวายเหมือนพ่อไปเต็มๆ อีกด้วย
“เคทโหลดแอปนี้แล้วเมื่อกี้ ไอ้ตินพิมพ์มาบอกกู”
ประโยคของเบคทำให้หัวใจที่ด้านชากระตุกวูบเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อของหญิงสาวที่เฝ้ารบกวนอยู่ในสมองของเขาตลอดเวลา
14 ปีที่แล้ว
“วิ่งเล่นกันดีๆ นะเด็กๆ”
เสียงของเทียร์ตะโกนบอกเด็กๆ ทั้งห้าคนที่วิ่งเล่นอยู่ในสนามหญ้า ซึ่งประกอบด้วย
เบคเด็กชายวัยห้าขวบ ไบรซ์เด็กชายวัยสี่ขวบ เคทเด็กหญิงวัยห้าขวบ คาลอสเด็กชายวัยสามขวบและมาร์ตินเด็กชายวัยห้าขวบ
เบคและไบรซ์เป็นลูกชายของบรู๊กและมีอาวันนี้พวกเขาเข้ามาคุยธุระกับเคเดนที่บ้าน จึงพาเด็กๆ มาเล่นด้วยกันซึ่งนอกจากสองหนุ่มแล้วมีอายังมีลูกสาววัยหนึ่งขวบอีกหนึ่งคนชื่อว่า ‘เบลล่า’ กำลังนั่งเคี้ยวขนมตุ้ยๆ อยู่บนตักของเธอ
เคทหรือแคทเธอรีนและคาลอสเป็นลูกของเคเดนและเทียร์นั่นเอง เมื่อได้ลูกสาวและลูกชายสมใจทั้งคู่จึงตกลงจะมีลูกแค่สองคนโดยเคเดนเป็นฝ่ายทำหมันเอง
คนสุดท้ายมาร์ตินลูกชายสุดแสบของเมริกและไอริน ซึ่งตอนนี้ไอรินกำลังท้องลูกสาวใกล้คลอดเต็มที แถมคุณพ่ออย่างเมริกยังตั้งชื่อเอาไว้แล้วด้วยว่า ‘มิรา’
เพราะฉะนั้นตอนนี้ในกลุ่มเด็กๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ห้าคน เคทเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวแต่พลังความแสบไม่แพ้ใครเลยจริงๆ
“แกล้งเคทหน่อยดีกว่า ฮ่าๆๆ”
เสียงคุยของเบคกับมาร์ตินทำให้ไบรซ์ที่นั่งเล่นรถบังคับอยู่คนเดียวหันไปมอง ภาพที่เห็นคือเบคกำลังจะเดินเข้าไปแกล้งเปิดประโปรงของเด็กสาว เขาจึงรีบทิ้งรถบังคับในมือแล้ววิ่งเข้าไปช่วยเธอ
“โอ๊ย!”
และเพราะไบรซ์ยืนอยู่ใกล้เธอมากที่สุดจึงทำให้เด็กสาวเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนเปิดกระโปรงของเธอเสียอย่างนั้น
“หม่าม้าครับ! เจ๊เคทถีบพี่ไบรซ์หน้าหงายเลยครับ”
ถีบหน้าหงาย!
ประโยคของคาลอสทำให้เทียร์รีบลุกขึ้นวิ่งไปทันที ภาพที่เห็นคือไบรซ์กำลังนั่งอยู่ที่พื้นโดยมีเบคนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ ส่วนลูกสาวของเธอกำลังเท้าสะเอวยืนมองคู่กรณีอยู่
“เกิดอะไรขึ้นเคท ไปทำไบรซ์แบบนั้นได้ยังไงลูก”
“ไบรซ์เปิดกระโปรงดูจิมิหนูค่ะหม่าม้า!”
คำบอกเล่าของเด็กสาวเล่นเอาบรรดาแม่ๆ จะเป็นลม มีอาที่อุ้มเบลล่าเดินตามมาถึงกับกุมขมับ
“ไบรซ์ลูก...ทำหรือเปล่า”
มีอาเดินเข้าไปถามลูกชายด้วยน้ำเสียงปกติไม่ได้ทำให้ลูกชายรู้สึกว่ากำลังโดนดุ
“ผมไม่ได้ทำ”
ไบรซ์หันมามองหน้าแม่ของตัวเองแล้วตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง เล่นเอาเคทที่ยืนเท้าสะเอวอยู่แทบจะควันออกหู
“ทำแล้วทำไมไม่ยอมรับ เอากระโปรงฉันไปใส่ไป๊”
“เคททท~”
เทียร์เรียกลูกสาวด้วยน้ำเสียงตำหนิเล็กน้อยแต่เด็กสาวไม่ได้มีท่าทางเกรงกลัวเลยสักนิด
“ยังไงครับเบค”
เมื่อคนหนึ่งไม่ยอมอีกคนก็ปฏิเสธ มีอาจึงหันไปถามเหตุการณ์จากลูกชายคนโตและนั่นก็ทำให้เบคหน้าเจื่อนลงทันที
“ผะ...ผมทำเองครับแม่”
เบคยอมรับออกไปอย่างจำใจ เขาแค่อยากจะแกล้งยัยตัวแสบสักหน่อยไม่คิดว่าเธอจะถึงขั้นหันมาถีบกันหน้าหงายขนาดนี้
“ผมแค่อยากแกล้งเคทครับแต่ไบรซ์เข้ามาห้ามแล้วเคทหันมาพอดีก็เลยถีบเข้ากลางอกน้องเลยครับ”
คำสารภาพของเบคยิ่งทำให้เคทหน้าหดเหลือสองนิ้ว ก็ใครจะไปรู้ล่ะหันกลับมาก็ยืนอยู่แล้วนี่
ไบรซ์ลุกขึ้นยืนพลางปัดเสื้อตัวเองที่เป็นรอยรองเท้าอยู่กลางหน้าอก เด็กผู้หญิงอะไรตีนหนักชะมัด!
“เบครู้ใช่มั้ยครับว่าต้องทำยังไง”
มีอาเอ่ยถามลูกชายพลางปรายตาไปมองทางเด็กผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม
“ขอโทษนะเคท”
เบคเดินเข้าไปยืนตรงหน้าเคทพร้อมกับเอ่ยคำขอโทษออกมาก่อนจะหันหลังกลับมามองน้องชายแล้วเอ่ยคำขอโทษเช่นกัน
“ขอโทษนะไบรซ์”
คราวนี้เทียร์นั่งลงข้างลูกสาวตัวแสบพร้อมมองเธอด้วยสายตากดดันแม้เธอจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แต่ก็ทนแรงกดดันจากแม่ไม่ไหว
“ขอโทษ!”
“เคท”
“ขอโทษค่าาาาา”
เมื่อได้ยินแม่เรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงดุๆ อีกครั้งเด็กสาวจึงเดินเข้าไปยืนตรงหน้าไบรซ์และขอโทษเขาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อย
เมื่อสถานการณ์คลี่คลายผู้ใหญ่จึงเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะปล่อยให้เด็กๆ วิ่งเล่นกันเหมือนเดิม
“เจ๊ถีบไม่ดูคนเลย-_-”
“เงียบไปคาลอส”
เคทหันไปดุน้องชายของตัวเองก่อนจะหันกลับไปมองเด็กผู้ชายที่ชอบปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียว ส่วนใหญ่เธอจะวิ่งเล่นกับเบคและมาร์ตินที่อายุเท่ากันโดยมีคาลอสติดสอยห้อยตามมาบ้าง
ส่วนไบรซ์จะชอบแยกไปนั่งอยู่คนเดียวแต่จู่ๆ มายืนอยู่ข้างเธอตอนกระโปรงโดนเปิดใครจะไปรู้ล่ะว่ามาช่วย
“ถูกถีบทีเดียวซึมเป็นหมาหงอยเลย”
มาร์ตินเข้ามาพูดสมทบด้วยอีกคน ความจริงเขาแค่อยากแกล้งให้เคทรู้สึกผิดเท่านั้นเพราะปกติไบรซ์ก็นั่งเงียบไม่ค่อยคุยกับใครอยู่แล้ว
“ถ้าพวกนายยังพูดมากฉันจะหยิกไข่แน่!”
“ผมจะฟ้องม้า!”
คาลอสรีบวิ่งหนีพี่สาวทันทีเพราะเขารู้ว่าเธอทำจริงแน่ๆ ส่วนมาร์ตินถึงกับส่ายหน้าให้ความแสบของเคท
เป็นเด็กผู้หญิงแท้ๆ พูดคำว่า ‘หยิกไข่’ ออกมาได้ไม่อายปาก ถ้าป้าเทียร์มาได้ยินต้องเป็นลมไปแน่ๆ