บทที่ 7
ธัญญ์วางแก้วเหล้าราคาแพงไว้บนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างเชื่องช้า โดยที่สายตาไม่ได้ละจากการมองสาวน้อยที่มองอย่างไรก็น่าจะอ่อนกว่าเขาเกินหนึ่งรอบ พอเหลือแค่ปราการชิ้นสุดท้ายเบื้องล่าง เขาก็ขยับตัวขึ้นไปบนฟูกหนานุ่ม พร้อมกับเอ่ยเรียกสาวหน้าหวานที่กำลังยืนงงอยู่ให้ตามขึ้นมา
“มาสิแก้มหวาน” พอเขาออกคำสั่ง เธอก็รีบทำตามอย่างว่าง่าย ปัณณิกาค่อย ๆ คลานขึ้นเตียงและทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมายของธัญญ์ไปมาก
เจ้าของดวงหน้าสวยหวานคลานเข่าขึ้นคร่อมต้นขาแข็งแรง ก่อนจะค่อย ๆ ถอดเสื้อตัวหลวมออกอย่างช้า ๆ ปรากฏว่านั่นคือเสื้อผ้าท่อนบนชิ้นเดียวที่เธอสวมอยู่ แขนเรียวกอดอกตัวเองอย่างไม่มั่นใจอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ทว่าสายตาเร่าร้อนของคนรอบวกกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เธอลืมอาย ขยับตัวเข้าไปใกล้จน ‘คุณ’ เลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นสูง เผยรอยยิ้มแต้มมุมปากที่บอกชัดว่ากำลังพอใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า
ธัญญ์หยิบแก้วเหล้ามากระดกรวดเดียวจนหมด ก่อนจะฝังจมูกลงบนสองเต้าอวบที่ท้าทายสายตา แสงสว่างในห้องนอนเผยให้เห็นรอยจาง ๆ ที่เขาฝากเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน และเมื่อเขาสบตากับสาวสวยตรงหน้า เธอก็รีบแก้ตัวอย่างรีบร้อนทันที
“ฝีมือของคุณนะคะ แก้มไม่ได้ยุ่งกับใครที่ไหนจริง ๆ” ปัณณิกาไม่ได้พูดต่อ เพราะเนื้ออ่อน ๆ ของเธอถูกฝากรอยหวามเพิ่มเติมเสียแล้ว
ริมฝีปากหยักประทับลงบนยอดสีสวย เรียกเสียงครางของคนไร้ประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี แต่พอถูกขบเม้มดูดดึงรุนแรงมากเข้า ปัณณิกาก็เริ่มที่จะขยับตัวออกห่าง เพราะความรู้สึกเร่าร้อนพุ่งสูงเกินกว่าที่เธอจะรับมือได้ไหว
คนที่ชำนาญเรื่องบนเตียงมากกว่าอาศัยจังหวะนั้นใช้นิ้วเกี่ยวกางเกงขาสั้นและแพนตี้ลงไปกองที่ข้อเท้าเล็ก ๆ ขยับอีกนิดเดียว ทั้งปัณณิกาและตัวเขาก็เปลือยเปล่าไม่ต่างกัน
“จำที่ทำวันนั้นได้ไหม”
“จำได้ค่ะ” ปัณณิกาเสมองไปทางอื่น เธอเคยสัมผัสความใหญ่โตของเขาแล้ว แต่พอเห็นชัด ๆ กลับทำใจมองไม่ได้
ทว่าธัญญ์กลับไม่ยอมให้แม่สาวหน้าหวานมองไปทางอื่น เขาจับคางของเธอให้หันมาเผชิญหน้ากัน ก่อนจะกระซิบบอกด้วยประโยคที่ฟังแล้วร้อนรุ่มหัวใจสาวเป็นที่สุด
“ฉันชอบแบบคืนนั้น” สิ้นเสียงกระซิบของธัญญ์ มือน้อย ๆ ก็กลับมาทำหน้าที่อย่างที่ควรจะทำตั้งแต่แรกทันที
เธอปล่อยให้เขาประทับรอยทั่วร่าง เว้นแต่ริมฝีปากเท่านั้นที่ไม่ได้ถูกจับจอง มือใหญ่บีบเคล้นสะโพกสวยที่เขาตั้งใจเอาไว้ว่าจะขอให้เธอหันหลังเพื่อที่จะมองมันชัด ๆ ให้สมใจ
“ทำช้า ๆ หน่อย” ในขณะที่พูดแบบนั้น เขาก็ส่งนิ้วสากเข้าสำรวจช่องทางสวาท เธอสะดุ้งไม่ต่างจากครั้งแรก ทว่าคราวนี้ชุ่มฉ่ำจนเขาไม่อยากจะเสียเวลารออะไรอีก
“หันหลัง”
“อะไรนะคะ?” ปัณณิกาละมือจากสิ่งที่กำลังทำอยู่อย่างไม่เข้าใจนัก
“ทำตามที่ฉันสั่งสิแก้มหวาน” พอเธอหันหลังให้ ธัญญ์ก็รีบเปิดลิ้นชักข้างหัวเตียงและหยิบอุปกรณ์ป้องกันมาสวมอย่างรวดเร็ว ถึงใบรับรองแพทย์จะยืนยันว่าเธอสะอาด ทว่าเขาก็ไม่เคยคิดที่จะเสี่ยง
มือหนาฟาดลงบนบั้นท้ายอวบเบา ๆ เรียกเสียงร้องของสาวสวยที่ยังไม่รู้เรื่องราวว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นได้เป็นอย่างดี
“คุณจะให้แก้มทำต่อเลยไหมคะ”
เธอถามเสียงสั่น ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกสั่งให้นั่งเฉย ๆ ทว่าพอมือหนาจับสะโพกเธอยกขึ้นสูง ปัณณิกาก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเขาคิดจะทำอะไร
ทว่าเธอยังไม่ทันจะได้ร้องห้าม บั้นท้ายสวยก็ถูกกดลงจนสุดความยาวใหญ่ในเสี้ยววินาที!
เสียงกรีดร้องเบา ๆ หลุดจากปากของปัณณิกา น้ำตาของเธอไหลพรากเพราะความเจ็บที่ถูกมอบให้อย่างกะทันหัน ส่วนอีกฝ่ายนั้นกำลังพอใจกับความคับแน่นที่ตอดรัดเบื้องล่าง จนถึงขั้นส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ
“ขยับหน่อยสิแก้มหวาน”
“ค่ะ” เสียงสั่นเครือของปัณณิกาทำให้คนฟังรู้สึกสงสัยอยู่ในใจลึก ๆ แต่ก็สรุปเอาเองว่าเธอคงจะแค่จุกเพราะถูกรุกหนักโดยไม่ทันตั้งตัว ทว่าพอบั้นท้ายงามงอนนั่นไม่ยอมขยับ ธัญญ์ก็จะเริ่มที่จะหงุดหงิดเพราะเขาเองก็ต้องการจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว
“แก้มหวาน ทำไมเธอยังไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเองอีก”
“แก้ม…”
“อะไรอีก!” เขาไม่ซ่อนความรำคาญ ไม่ชำนาญเขาไม่เคยว่า แต่ถ้าปล่อยให้อารมณ์ค้างแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
“แก้มเจ็บค่ะ…”
“ทำไมยังเจ็บอยู่อีก”
