บทที่ 12
ความอ่อนเพลียจากการทำงานและพิษไข้ทำให้ปัณณิกานอนกระสับกระส่ายตลอดคืน กว่าจะได้หลับจริง ๆ ก็ใกล้จะฟ้าสางแล้ว พอตื่นขึ้นมาก็รีบตรวจแบบฝึกหัดที่นาราส่งกลับมาและส่งข้อสอบชุดใหม่ให้ลองทำเพิ่มเติม
ปัณณิกายุ่งอยู่กับการจัดเตรียมบทเรียนและไม่ได้ตรวจดูโทรศัพท์มือถือของตัวเองจนกระทั่งเกือบหกโมงเย็น
ปาณัฐโทร. มาเกือบยี่สิบสายและก่อนที่เธอจะติดต่อกลับได้ทัน หน้าจอก็ปรากฏชื่อของเขาอีกครั้งหนึ่ง
“แก้ม! ทำไมเพิ่งจะรับสาย ลงมาข้างล่างเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ปาณัฐโมโหหนัก เขารออยู่ข้างมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ในเมื่อไม่รู้ว่าพี่สาวอยู่ห้องใดในคอนโดมิเนียมหรู เขาจึงทำได้เพียงติดต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเธอรับสาย
“โปรดว่ายังไงนะ!” พอได้ยินว่าน้องชายอยู่ข้างล่างล็อบบีของคอนโดมิเนียม ปัณณิกาก็รีบวางมือจากงานทุกอย่าง ลงไปหาคนที่กำลังรออยู่ทันที
ปาณัฐสวมกางเกงยีนขาด ๆ และเสื้อยืดสีเทา รูปร่างสูงใหญ่กว่าร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรเรียกสายตาคนมองได้เป็นอย่างดี หากไม่มีหมวกและแว่นตากันแดด เขาก็คงจะถูกสาว ๆ ที่เดินผ่านไปมารุมขอถ่ายรูปด้วยแล้ว
“โปรดมาที่นี่ได้ยังไง!” ปัณณิกาถามเสียงดังและลดเสียงทันทีน้องชายทำมือทำไม้บอกให้เงียบ
“ก็แก้มไม่สบาย แถมโทร. มาก็ไม่ยอมรับสาย โปรดเลยตามพิกัดในแอปพลิเคชันมาเนี่ย!” ปาณัฐขอให้พี่สาวต่างมารดาพาไปคุยในที่ที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้ ปัณณิกาจึงเลือกร้านกาแฟร้านเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดมิเนียมนัก เธอถือวิสาสะสั่งนมชมพูให้กับน้องชาย ส่วนตัวเองเลือกเอาช็อกโกแลตปั่นตามความชอบ
“แก้มไม่เป็นอะไรแล้ว” มือหนาทาบลงบนหน้าผากของพี่สาว ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว แต่เรื่องแม่อ่ะ โปรดรู้แล้วนะว่าแม่ตีแก้ม”
“นานเป็นเดือนแล้วล่ะ แก้มไม่เป็นอะไรแล้ว”
“แล้วทำไมไม่บอก นี่ถ้าพ่อยังอยู่นะ โปรดคงถูกพ่อตีตายโทษฐานไม่ดูแลพี่แก้ม”
“แหม ทีนี้ล่ะมาเรียกพี่ สงสัยจะต้องทำตัวให้น่าเป็นห่วงบ่อย ๆ ละ”
“ตลก! เรียกครั้งเดียวนี่แหละ แล้วนี่แก้มอยู่กับใคร อย่าบอกนะว่าอยู่กับเพื่อน เพราะเพื่อนของแก้มทุกคน โปรดโทร. ตามหมดแล้ว”
ปัณณิกามีเพื่อนแค่สองสามคนและไม่ได้สนิทอะไรมาก เรื่องจะให้ไปขอความช่วยเหลือกันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
“คือ… แก้มอยู่กับเพื่อนของพี่ลิตาน่ะ”
“แก้มโกหกไม่เนียนอีกละ” ปาณัฐส่ายหน้า ก่อนจะถอดแว่นกันแดดจ้องตาจับผิดพี่สาวของตัวเอง
“โปรด… แก้มอยู่กับแฟน แต่แก้มไม่กล้าบอก แก้มกลัวถูกแม่ด่าน่ะ”
“จริงเหรอแก้ม… แล้วเขาดีกับแก้มไหม”
“โปรดไม่โกรธแก้มเหรอ”
“แก้มแก่แล้วนะ สมควรจะมีแฟนได้ตั้งนานแล้ว โปรดแค่ห่วงว่าเขาจะดูแลแก้มไม่ดี ส่วนเรื่องแม่แก้มไม่ต้องห่วงนะ เพราะโปรดไม่มีทางบอกแม่แน่ ๆ” ปาณัฐต้องกลับไปถ่ายงานต่อที่ภูเก็ต เขารู้สึกสบายใจที่อย่างน้อยพี่สาวก็ไม่ต้องถูกแม่ทำร้ายร่างกายเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก
“นี่กล้าหลอกด่าแก้มว่าแก่เหรอ เดี๋ยวจะโดนดี!”
“ตัวเท่าลูกหมาทำเป็นเก่ง! เอาเป็นว่าดูแลตัวเองดี ๆ นะ แล้วก็หัดรับโทรศัพท์บ้าง เทคโนโลยีการสื่อสารน่ะรู้จักไหม”
“พอเลย ๆ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ”
“ล้อเล่นนิดเดียวทำหน้าอย่างกับยักษ์วัดแจ้ง แก้มลุกเถอะเดี๋ยวโปรดจะไปส่งกลับห้อง แล้วนี่ปวดเอวหรืออะไร ทำไมเดินแปลก ๆ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
“นั่งทำงานนานไปหน่อย เดี๋ยวยืดเส้นยืดสายก็หายแล้วล่ะ” ปัณณิกาขยับหมวกของน้องชายเพื่อซ่อนความหล่อไม่ให้คนจับได้ว่าเขาเป็นใคร ก่อนจะเดินนำกลับคอนโดมิเนียมที่เธอโกหกว่าเป็นของแฟนทันที
“ถ้ามีปัญหาอะไร แก้มรีบโทร. หาโปรดเลยนะ”
“รู้แล้วน่า พูดซ้ำ ๆ อยู่ได้ นี่ถ้ายังไม่หยุดพูด แก้มจะปิดแอปพลิเคชันไม่ให้ตามตัวได้แล้วนะ” ปัณณิกามองน้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขากดนู่นกดนี่อยู่ไม่ถึงนาที เงินก้อนหนึ่งก็เด้งเข้าบัญชีของเธอทันที
“โปรดโอนมาทำไมเยอะแยะ”
“แค่สองหมื่นไม่เยอะหรอก เอาไปซื้อของบำรุงตัวเองเยอะ ๆ นะ ดูสภาพแล้วอย่างกับซากผีเดินได้ นี่ถ้ายังไม่รู้จักดูแลตัวเอง โปรดตัดออกจากกองมรดกไม่รู้ด้วย” ปาณัฐดึงร่างบอบบางเข้าไปกอดแน่น
