Episode - 01 / 1
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา , Anunt Casino
ตอนนี้ฉันยืนอยู่ที่หน้าสถานที่ที่เรียกว่าอโคจรน่าจะไม่ผิด สองมือกำเข้าหากันแน่น สายตาจดจ้องไปยังป้ายชื่อสถานที่ที่เป็นตัวหนังสือแกะจากแผ่นอะคริลิกสีทอง Anunt Casino ถ้าอ่านไม่ผิดน่าจะเป็น 'อนันต์กาสิโน' สถานที่ที่ทำให้พ่อเลี้ยงฉันหอบหนี้ก้อนโตกลับไป
ผลัก!
"โอ๊ย!"
"โทษที ๆ"
มัวแต่ยืนเหม่อมองป้ายชื่อกาสิโนตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย จนถูกใครก็ไม่รู้เดินมาชนจนฉันกระเด็นไปสองก้าว พอตั้งสติได้จึงเงยหน้าขึ้นมอง เป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารักสูงราว ๆ ร้อยเจ็ดสิบผมสีส้มสว่างมัดรวบตึงเป็นหางม้า สวมเสื้อยืดตัวโคร่งสีขาวมีลายหัวกะโหลกสกรีนอยู่ด้านหน้า
"ไม่เป็นไรค่ะ" เมื่อกี้เธอขอโทษฉันไปแล้วถ้าไม่โต้ตอบกลับคงเสียมารยาทเกินไป "จะเข้าข้างในเหรอ" เธอคนเดิมที่ดูแมน ๆ ห้าว ๆ คล้ายทอมถามขึ้น
"คือ..." จะบอกว่าอยากเข้าไปก็ไม่เชิง
หมับ!
"อ๊ะ! คุณ..." จู่ ๆ ผู้หญิงคนเดิมก็เดินมากอดคอฉันราวกับเราสนิทสนมกัน ก่อนจะออกแรงกึ่งบังคับให้ฉันเดินเข้าไปในกาสิโนตรงหน้า
"สวัสดีครับเจ๊" เสียงพนักงานที่เฝ้าประตูทักทาย คงเป็นคำทักทายเธออีกคนที่ไม่ใช่ฉันล้านเปอร์เซ็นต์เพราะฉันเพิ่งมาเยือนที่แห่งนี้ครั้งนี้ครั้งแรก
"แหม วันนี้พาสาวสวยมาอีกแล้วนะครับน้องเอม" เสียงค่อนข้างทะเล้นเอ่ยขึ้นหลังจากที่เราสองคนผ่านด่านแรกมาแล้ว
"สวยป้ะ?" คนถูกทักถามกลับ แถมยังมีหน้ามาฉีกยิ้มขยิบตาหวานใส่ฉันอีก
ข้าวฟ่างขนลุก...
ถึงจะไม่รังเกียจรักร่วมเพศ แต่ฉันก็ไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นมันเลยกระอักกระอ่วนใจหน่อย ๆ "สวยครับ แต่คนนี้มีเจ้าของแล้ว"
เสียงแหบพร่าที่คุ้นหูเอ่ยขึ้น ฉันรีบหันขวับไปทางต้นเสียงนั้น
เป็นเขาจริง ๆ ด้วย..
ผู้ชายที่เข้าไปข่มขู่พ่อเลี้ยงฉันที่โรงพยาบาลเมื่อสัปดาห์ก่อนไงล่ะ
"หมายความว่าไงวะไอ้ไจ๋" ผู้ชายที่ทักคนข้าง ๆ ฉันในตอนแรกกันไปถามอีกคนที่เพิ่งเดินมา "นี่คุณข้าวฟ่าง ว่าที่เด็กเฮีย"
ตาฉันเบิกกว้างทันทีที่ชื่อตัวเองหลุดออกมาจากปากผู้ชายที่เคยเจอกันแค่ครั้งเดียว เขารู้ชื่อเล่นฉัน...
ถ้าจำไม่ผิด ตอนที่อยู่โรงพยาบาลแม่กับลุงสงบเรียกฉันแค่ 'ข้าว' คำเดียว ไม่ใช่หรือไง แล้วผู้ชายคนนี้รู้ได้ยังไงว่าชื่อเล่นเต็ม ๆ ฉันคือข้าวฟ่าง
"อะไรวะ ทำไมคนสวย ๆ ไอ้เฮียถึงเก็บเรียบไปหมด"
มือเรียวบางที่กอดคอฉันไม่ยอมปล่อยตั้งแต่เจอกันคลายออกทันที น้ำเสียงเธอดูเซ็ง ๆ ไม่ชอบใจยังไงไม่รู้
"ถ้าคุณเอมไม่รังเกียจ รอรับความเมตตาต่อจากเฮียผมก็ได้นะครับ"
"โอ๊ย ไม่เอาอะ เด็กไอ้เฮียแต่ละคนกลับมาสภาพเดิมที่ไหน ไม่ช้ำก็เละ"
กึก! ได้ยินคำบอกเล่านั้นจบขนฉันลุกซู่ ข้างในใจหวาดหวั่นจนอยากจะก้าวหนีจากพื้นที่ตรงนี้เสียตอนนี้เลย
"คุณเอมก็พูดเกินไป ดูสิครับ คุณข้าวฟ่างหน้าซีดหมดแล้ว" คนที่ชื่อไจ๋แซวจนใบหน้าฉันยิ้มขำ "แล้วนี่ไอ้เฮียอยู่ไหนอะ" ผู้หญิงที่มาพร้อมฉันถามขึ้น
ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าของกาสิโนแห่งนี้จะหน้าตาเป็นแบบไหน
เป็นคนแก่เหมือนเจ้าพ่อมาเฟียในหนัง หรือว่าหน้าตาดุ มีแผลเต็มไปหมดจนดูน่ากลัว "เฮียอยู่ดาดฟ้า กำลังรับลมเย็น ๆ ครับ"
รับลมเย็น ๆ ตอนสิบโมงเช้าบนดาดฟ้าเนี่ยนะ เขายังเป็นมนุษย์เดินดินอยู่หรือเปล่า แค่ฉันเดินตากแดดไม่กี่นาทีก็ผิวแทบไหม้เกรียมอยู่แล้ว
อา... แต่ถ้าเป็นคนมีอายุที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะแล้วก็อาจจะทนทานต่อแดดเมืองไทย "ไป คนสวย เดี๋ยวเจ๊พาขึ้นไปหาไอ้เฮียเอง"
ข้อมือฉันถูกคว้าไว้อีกครั้งอย่างถือวิสาสะจากผู้หญิงแมน ๆ ที่ชื่อเอม
"อ้ะ ๆ ไม่ได้นะครับคุณเอม งานนี้คุณเอมไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่ง"
"อ้ะ!" มืออีกข้างถูกคว้าด้วยมือหนาที่ค่อนข้างติดสากเล็กน้อย
กลายเป็นว่าตอนนี้ฉันกำลังถูกคนสองคนจับมือไว้คนละข้างและดูท่าทางแล้วอีกไม่นานฉันจะต้องถูกยื้อแย่งจนเจ็บตัวแน่ ๆ
"ปล่อยนะ!" ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าตะโกนออกไปแล้วสะบัดมือเต็มแรงจนหลุดจากมือผู้หญิงที่ชื่อเอม
ทำไมถึงไม่หลุดออกจากมือนายไจ๋อะไรนี่ด้วยนะ คนหรือตุ๊กแก เหนียวชะมัด ขนาดสะบัดทีเผลอยังไม่หลุดเลย
"คิดว่ามือผมเป็นตุ๊กแกอยู่เหรอครับคุณข้าวฟ่าง"
อ้ะ อะไรของหมอนี่ เดาใจแม่นเกินไปแล้วนะ
"พอดีผมมีประสบการณ์มาก่อน ครั้งนี้คงสะบัดผมหลุดยากหน่อยนะครับ"
ชิ! เขาคงจะหมายถึงครั้งแรกที่เราเจอกันตอนที่อยู่โรงพยาบาล
"นี่ก็เสียเวลาไปหลายนาทีแล้ว ผมขอตัวพาเด็กใหม่ไปพบเฮียก่อนนะครับคุณคมสันต์ คุณเอมิกา"
สิ้นสุดประโยคที่ฟังดูมีมารยาทนั้น ร่างกายฉันก็ถูกคนตัวโตดันไหล่จากด้านหลังให้เดินไปทางมุมหนึ่งของห้องที่ยืนอยู่ ตรงนั้นมีลิฟต์ตัวหนึ่ง นายไจ๋ยื่นมือไปกดปุ่มเปิด ดันแผ่นหลังฉันเข้าไปด้านใน
"ผมดีใจนะครับที่คุณข้าวฟ่างรีบตัดสินใจมาที่นี่ ไม่อยากจะบอกเลยว่าถ้าเลยวันนี้ไปความปลอดภัยพ่อเลี้ยงคุณคงไม่สวยแน่"
"อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ!"
รีบกระชากเสียงกลับในใจห่วงความปลอดภัยของแม่และลุงสงบ
ทำไมฉันต้องห่วงแม่ด้วย ก็เพราะช่วงนี้ท่านมักตัวติดกันตั้งแต่พ่อเลี้ยงฉันออกจากโรงพยาบาลยังไงล่ะ ถ้าเกิดคนพวกนี้จะเล่นงานพ่อเลี้ยงฉันอย่างที่พูดจริง แม่ก็ตกอยู่ในอันตรายด้วยเหมือนกัน
"ผมบอกว่า 'ถ้าวันนี้' คุณข้าวฟ่างไม่มาต่างหาก อย่าวิตกเกินไปสิครับ ในเมื่อวันนี้คุณมายืนอยู่ที่นี่แล้ว พ่อเลี้ยงคุณก็ไม่เดือดร้อน"
รอยยิ้มขำขันเวลาเห็นคนอื่นหวาดกลัวผุดขึ้นอีกครั้ง
ลูกน้องยังร้ายกาจขนาดนี้ ไม่อยากจะนึกถึงนิสัยใจคอเจ้านายของเขาเลยว่าจะโหดกว่าขนาดไหน