My sister 04 เพื่อนใหม่
“ที่รักทางนี้” อมยิ้มโบกมือเรียกเพื่อนใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย นางสาวที่รักในชุดนักศึกษา กระโปรงทรงพลีทคลุมเข่า รองเท้าผ้าใบ หน้าสวยผิวขาวใสเรียกความสนใจจากหนุ่มได้มากมาย ทว่าว่าหญิงสาวไม่ได้สนใจใครนอกจากเพื่อนตัวเล็กที่กำลังโบกมือให้เธอ
“อมมานานยัง” เดินมาหยุดตรงหน้าเพื่อนสาวแล้วฉีกยิ้มหวาน
“ช่วยเอาคำว่ายิ้มตามท้ายด้วยค่ะไม่งั้นจะเรียกแกหมู”
“ง่า ที่รักขอโทษ นี่ ๆ ที่รักได้ขนมปังไส้ทะลักมาฝากด้วยนะ ห้ามโกรธน้า” ยื่นกล่องขนมปังที่เพื่อนเล่าว่าเป็นร้านโปรดให้ ร้านนี้อยู่ใกล้บ้านของที่รัก เธอจึงแวะซื้อติดมือมาให้เพื่อน
“ตั้งใจเอาขนมมาให้ฉันกิน เพื่อที่แกจะได้สวยกว่าฉันใช่ไหม” ปากพูดมือแกะกล่องขนมปังเพื่อหยิบมาชิม
“ใช่เลย นั่นน่ะสิ่งที่ชะนีหมูต้องการ เพราะงั้นแกเอาขนมปังมาให้ฉันกินแทนชะนีอม” เสียงเพื่อนสาวประเภทสองเพื่อนวัยเด็กตั้งแต่อนุบาลของที่รัก
“ลูกหมีใส่ร้ายที่รัก”
“ชะนีหมูแกช่วยเรียกชื่อใหม่ของฉันได้ไหมยะ”
“ก็ที่รักชินกับชื่อลูกหมีนี่ ให้เรียกมีมี่มันยังไงไม่รู้”
“ยังไงไม่รู้ไม่ได้ มีมี่ ต่อไปถ้าได้ยินลูกหมีอีกฉันจะ…” จะล้อเรื่องพี่สายฟ้าก็ไม่ได้แล้วสิ จู่ ๆ เพื่อนรักก็ห้ามพูดถึงเรื่องของผู้ชายที่แอบรักมาเป็นสิบปี ถ้าพูดจะโกรธจริง ๆ เห็นสีหน้าจริงจังของเพื่อน ลูกหมีก็เลยไม่กล้าจะพูด
“จะอะไร?” อมยิ้มถามเมื่อเพื่อนเงียบทำหน้าคิดไม่ออก
“จะให้เลี้ยงข้าวฉันสามมื้อเลยคอยดู”
“งั้นอมยิ้มขอเรียกมีมี่นะ เพราะมีมี่กินจุ อมยิ้มเลี้ยงไม่ไหว”
“พูดไม่ดูตัวเอง เคี้ยวตุ้ย ๆ ในปากคือไรยะชะนีอม” ที่รักมองเพื่อนที่จิกกัดกัน เรียนมหา’ลัยมาได้สองเดือนเพื่อนทั้งสองก็ยังคงหาเรื่องมาถกเถียงกันได้ทุกวัน
ใช่แล้วเหตุการณ์คืนนั้นจบลงที่ไม่มีใครพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น วันนั้นที่รักออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็นพี่ชายอีก ไม่เจอกันมาร่วม 6 เดือนได้ ความรู้สึกดี ๆ ถูกพับเก็บใส่กล่องปิดผนึกหลายต่อหลายชั้น กำแพงถูกสร้างขึ้นสูง 19 ปีที่รู้จักกันมาที่รักพยายามลืมทุกอย่าง บอกตัวเองว่าพี่ชายคนที่หลงรักได้ตายไปแล้ว ส่วนคนที่อยู่ไม่ใช่พี่สายฟ้าของเธอ
เวลานี้ใกล้แค่ไหนก็เหมือนไกล คนแปลกหน้าที่คุ้นเคย
“ไปรับน้องไม่เห็นจะสนุกเลย ความจริงไม่ต้องมีก็ได้” อมยิ้มหญิงสาวผู้ไม่ชอบผู้คน ชีวิตของเธอคือการสิงอยู่ในดงนิยาย สามีมโนคือสิ่งที่สร้างความสุข
“ที่รักก็ไม่ชอบ” แต่ถ้าไม่ไปรุ่นพี่ก็จะเพ่งเล็ง พ่อจัดการเคลียร์ให้ได้ ทว่าเธอไม่อยากเป็นจุดสนใจ ไม่อยากถูกพูดว่าเป็นลูกคนรวย เงินซื้อได้ทุกอย่าง
“อย่าหาว่า พวกชะนีไร้ความรู้สึก ที่ไป ๆ น่ะอาหารตาทั้งน้าน หาดีกว่านี้ไม่ได้แล้วจ้า” คนที่มีความสุขกับการรับน้องนอกสถานที่วันนี้ดูเหมือนจะเป็นลูกหมีเพียงคนเดียวที่ยินดีจะลุย
“อมยิ้ม” เสียงใครบางคนเรียกชื่ออมยิ้มจากทางด้านหลัง
“อีพี่แม็กซ์ มาจีบเพื่อนเค้าอีกแล้วใช่ไหม” อมยิ้มหันไปทำหน้าเบื่อหน่ายที่พี่ชายข้างบ้านขยันมาขายขนมจีบให้เพื่อนใหม่ของเธอ
“ฮือ พูดไปเรื่อยนะเราอะ” พี่แม็กซ์สายรหัสของที่รักสายหน้าใส่อมยิ้มแล้วหันมาพูดกับที่รัก “น้องที่รักครับ รถบัสมันไม่สะดวก น้องที่รักกับเพื่อนไปรถพวกพี่นะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ที่รักไปรสบัสได้” ส่งยิ้มให้พี่สายรหัสก่อนจะเดินขึ้นรถบัสแล้วหาที่นั่งทันที อะไรก็ตามที่มองแล้วคล้ายจะเหนือกว่าคนอื่นเธอจะไม่ทำ หลีกเลี่ยงทุกทางเพื่อไม่ให้พ่อเสือมาที่มหาวิทยาลัย ด้วยแม่เคยเล่าว่าพ่อเคยสั่งให้เพื่อนในห้องเรียนของแม่กราบเท้าแม่เพราะพูดจาไม่ดีใส่ แค่นึกภาพตามที่แม่เล่าที่รักก็ขนลุกแล้ว พ่อใจดีก็จริง แต่เวลาดุขึ้นมาก็ดุเอาเรื่อง
“ไปไหนอมยิ้ม” พี่แม็กซ์ถามเนื่องจากอมยิ้มกำลังหันหลังก้าวขาจะขึ้นรถบัส
“ขึ้นรถไง หรือจะไม่ไปดีนะ อยากกลับบ้านแล้วสิ อีพี่แม็กซ์เค้าขอป่วยได้ไหมอะ ตัวช่วยเค้าหน่อยได้ไหม” กะพริบตาทำหน้าอ้อน ให้ไปเจอคนหมู่มากอมยิ้มทำใจไม่ได้จริง ๆ
“ไม่ได้ มากับพี่เลย รถบัสเต็มแล้ว มาครับน้องมีมี่” มือข้างหนึ่งดึงกระเป๋าของอมยิ้มไปสะพาย อีกข้างจูงมือ ในขณะที่ลูกหมีดี๊ด๊าเพราะรถคันที่จะไปนั่งมีแต่ผู้ชายหุ่นแน่น ๆ ทั้งนั้น
ที่นั่งเบาะสุดท้ายที่รักเป็นคนได้ เธอไม่ได้สนใจเพื่อนที่นั่งเบาะข้าง จัดแจงที่นั่งเรียบร้อยที่รักก็กดหูฟังเปิดเพลง สวมแว่นดำ สวมหมวกแล้วปรับเบาะนอน ระยะทางกว่าจะไปถึงสถานที่รับน้องใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงเผื่อรถติด จอดแวะปั๊ม เมื่อคืนอมยิ้มเล่านิยายเรื่องโปรดให้ฟังทางโทรศัพท์จนไม่ได้หลับ ทำให้เช้านี้ที่รักเพลียมาก
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าที่รถขับเคลื่อนออกจากรั้วมหาวิทยาลัย เพื่อนที่นั่งข้างกายที่รักเปลี่ยนท่ามานั่งเอามือค้ำคางศอกค้ำต้นขาแล้วหันมองหน้าขาวใสไร้รูขุมขน กลีบปากสีชมพู นั่งมองคนหลับไม่รู้เรื่องอยู่นานกระทั่งยื่นมือไปจับที่ฝ่ามือเล็กแล้วประสานไว้ครู่หนึ่งก่อนจะยกขึ้นมาสูดดมหลังมือ