บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เจอกันอีกครั้ง

บ้านหลังใหญ่ด้านในสุดของโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่มีพื้นที่มากถึง 1 ใน 3 ของโครงการ รถตู้สีดำคันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดภายรั้วหน้าบันไดทางขึ้นตัวบ้าน โดยมีชายเลยวัยกลางคนยืนรอพร้อมกับบรรดาแม่บ้านที่รออย่างใจจดใจจ่อ

"มากันแล้วค่ะ" ละมัยหลานสาวหัวหน้าแม่บ้านพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น ทันทีที่รถวิ่งเข้าประตูใหญ่มา

"จะน่ารักเหมือนในรูปมั้ยนะ" ป้าไพรหัวหน้าแม่บ้านว่ายิ้ม ๆ เพราะคุณหญิงว่านโฆษณานักหนาว่าหนูของขวัญน่ารัก ช่างพูด แต่ภาษาไทยน้องไม่ค่อยชัดนัก ต้องช่วยกันสอนแล้วจะมาอยู่ด้วยที่นี่ช่วงก่อนเปิดเทอมพวกเธอเลยตื่นเต้นกันใหญ่

"น่ารักสิ ป้าเค้าหลงจะตายนี่ถึงขั้นบินไปรับเองเชียว" ท่านภูษิตว่ายิ้ม ๆ มองตามรถคันใหญ่ที่กำลังวิ่งเข้ามาภายในบ้าน

และทันทีที่รถจอดประตูทั้ง 2 ด้านเปิดออกพร้อมกันก็ปรากฎร่างเล็ก ๆ บาง ๆ นั่งยิ้มอยู่ข้างในรถคันหรู

"Hello baby." คนเป็นลุงทักขึ้นมาก่อนทำให้เด็กสาวยิ้มจนตาหยีแล้วเอ่ยตอบ "hi."

"น้องขวัญ ภาษาไทยค่ะลูก" คนเป็นป้ากระซิบข้างหูยิ้ม ๆ เพราะขณะที่นั่งมาในรถเธอพยายามสอนหลานให้ใช้ภาษาไทยที่บ้าน เพราะคนในบ้านส่วนใหญ่ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ มันจะเป็นอุปสรรคเวลาสื่อสารกันและให้เหตุผลว่าเป็นคนไทยภาษาไทยต้องชัดนะคะ

"อุ่ย! สวัสดีค่ะคุณลุง" เสียงใส ๆ เอ่ยขึ้นพร้อมกับยกมือไหว้แล้วจับประตูรถเตรียมก้าวลง ท่านภูษิตรีบเดินเข้ามายื่นมือให้หลานตัวเล็กจับพยุงลงรถแล้วเอื้อมจับมือคุณหญิงว่านลงมาจากรถ

เด็กสาวร่างเพรียวบางในชุดเสื้อแขนยาวคอเต่าสีขาวกระโปรงยีนส์สีดำเสมอเข่า ตากลมโตรับกับขนตางอนยาวธรรมชาติของเธอ ปากนิด จมูกหน่อยบวกกับผิวขาวใสที่เห็นเส้นเลือดฝอยที่แก้มจาง ๆ ยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรส่งให้ทุกคนที่ยืนพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม จนเหล่าแม่บ้านและคนดูแลสวนตกใจรับไหว้กันแทบไม่ทัน "สวัสดีค่ะ น้องของขวัญนะคะ" เสียงหวาน ๆ เอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับยิ้มให้อย่างน่ารักจนผู้ใหญ่ต่างเอ็นดู

"เข้าบ้านกันก่อนเถอะลูก คุณปู่รอน้องขวัญอยู่ในบ้านนะคะ" คุณลุงษิตของหลานสาวเอ่ยชวนพร้อมกับลูบหัวหลานสาวอย่างเอ็นดู

"คุณปู่..." เด็กน้อยว่าอย่างตื่นเต้นเธอดีใจที่จะเจอคุณปู่ของเธอมากที่สุด เพราะคุณปู่ใจดีกับเธอเสมอและเป็นคุณปู่นี่แหละที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธออยากมาเมืองไทยสักครั้ง คุณปู่เล่าเรื่องประเทศไทยให้เธอฟังทุกครั้งที่ไปหา แล้วดูเหมือนคุณปู่จะมีเวลาให้เธอมากกว่าแด๊ดกับมี้ที่อยู่กับเธอทุกวัน แต่ก็ทำงานแทบจะตลอดเวลาแล้วให้เธออยู่กับพี่เลี้ยงต่างชาติมาตั้งแต่จำความได้เลยทำให้ภาษาไทยของเธอกระท่อนกระแท่นเหมือนทุกวันนี้

"สวัสดีของขวัญของปู่" ชายสูงวัยที่นั่งอยู่บนโซฟายาวในห้องนั่งเล่นเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างบาง ๆ คุ้นตาเดินเข้ามากับลูกชายและลูกสะใภ้ ทำให้คนที่นั่งร่วมห้องอยู่ก่อนขมวดคิ้วเข้าหากัน

"คุณปู่สวัสดีค่ะ" เด็กสาวยกมือไหว้อย่างน่ารักแล้ววิ่งเข้าหาอ้อมแขนอบอุ่นของชายสูงวัยพร้อมกับหอมแก้มอย่างแสนคิดถึง

"ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทยนะลูก เดินทางเหนื่อยมั้ย" คุณปู่ถามอย่างอบอุ่นพร้อมกับยกมือลูบผมเปียของเด็กสาวเบา ๆ

"น้องขวัญไม่เหนื่อยค่ะ" เงยหน้าขึ้นตอบพร้อมกับส่งยิ้มน่ารักให้

"อ้าว! คุณศิลากลับบ้านได้ด้วยหรือลูก" คุณหญิงว่านอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นลูกชายนั่งอยู่ที่โซฟาเดี่ยวข้างคุณปู่เพราะปกติลูกชายจะไม่ค่อยเข้าบ้านเวลานี้เท่าไหร่นัก

"ก็... (เหลือบตามองคุณปู่นิดนึง) คุณปู่บอกว่าแม่จะกลับให้มากินข้าวด้วยกันครับ" ชายหนุ่มตอบแม่แต่ตายังมองหลานสาวคุณป้าพรางขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด

"อ๋อ... งั้นก็ดีเลย น้องขวัญลูก นี่พี่ศิลานะคะ หนูสวัสดีพี่เขาก่อนค่ะลูก" คุณป้าบอกหลานสาวยิ้ม ๆ

"สวัสดี ศิลา" เด็กสาวเอ่ยทักพร้อมกับยกมือไหว้แล้วมองหน้าตากลมแป๋วรอให้ชายหนุ่มทักตอบ... แต่ก็เงียบ ~"เค้าชื่อของขวัญ เค้าอายุ 13 ปี เกรด 7" เสียงเล็ก ๆ แนะนำตัวเองแล้วเงียบรอฟังเสียงตอบกลับ ...?

"คุณป้าคะ ศิลาพูดได้มั้ยคะ" หันมาถามป้างง ๆ

"พี่ศิลาพูดได้ลูก" คุณหญิงว่านตอบอย่างเอ็นดู

"อ่อ... โอเค" พยักหน้าเข้าใจแล้วหันกลับไปซบอกอุ่น ๆ ของคุณปู่แล้วกระชับรอบเอวแน่นขึ้น ขณะที่คุณปู่ยกมือลูบหัวให้อย่างอ่อนโยน

"ไพรเอ้ย... เตรียมตั้งโต๊ะเย็นเลย" ประมุขของบ้านตะโกนสั่งหัวหน้าแม่บ้านแล้วหันไปคุยเรื่องการเดินทางของป้าและหลานตลอดจนกำหนดเปิดเรียนของเจ้าตัวเล็กที่นั่งคุกเข่าหน้าโซฟากอดเอวคุณปู่อยู่

"คุณพ่อครับ หลับแล้วนะนั่น" ท่านภูษิตบอกพ่ออย่าง

ขำ ๆ ที่ตอนนี้คนไม่เหนื่อยหลับไปแล้วเรียบร้อย

"อ้าว... ข้าวเย็นยังไม่ได้กินเลย ยังไงล่ะทีนี้เจ้าตัวเล็กเอ๊ยแล้วบอกไม่เหนื่อย" คุณปู่ว่ายิ้ม ๆ อย่างเอ็นดู

"งั้นเดี๋ยวผมพาหลานไปนอนก่อนครับพ่อ" ท่านภูษิตว่าพรางขยับจะลุกขึ้นมาอุ้มหลานสาว

"ผมอุ้มให้ก็ได้" คนที่นั่งเงียบคุกเข่าลงข้างโซฟาแล้วช้อนร่างเล็ก ๆ ไว้ในอ้อมแขนอย่างเบามือก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง "ไปห้องไหน"

"ห้องติดกับห้องเราน่ะลูก" คุณแม่เป็นคนตอบ ชายหนุ่มหมุนตัวอุ้มร่างเล็ก ๆ นั้นออกไปทันที ละมัยจึงวิ่งตามเพื่อไปเปิดประตูห้องให้ชายหนุ่มแทบไม่ทัน

"หึ! นึกว่าจะปล่อยให้พ่อมันอุ้ม" คุณปู่มองตามหลังหลานชายว่ายิ้ม ๆ

"แล้วทำไมพ่อลูกชายเข้าบ้านได้ล่ะคะ วันนี้ไม่พาแม่แมรี่ไปถลุงทรัพย์หรือไง" คุณหญิงว่านถามถึงลูกชายพร้อมกับแขวะไปถึงคู่ควงคนล่าสุดของลูกชายที่ขยันขอนั่นนี่เหลือเกิน ขอแม้แต่ให้พาเข้าบ้านซึ่งเป็นสิ่งเธอห้ามเด็ดขาด เพราะคนที่จะเข้าบ้านนี้ได้ต้องเป็นลูกสะใภ้จริง ๆ ของบ้านเท่านั้น

"ก็ให้มันไปสิ พ่อจะตัดบัตรเครดิตมันทุกใบ ยึดรถมันทุกคัน" ประมุขบ้านว่าขึ้น

"คอยดูต่อไปแล้วกันมันจะเป็นยังไง แล้วเจอหน้ากันกี่นาทีถึงได้เสนอตัวอุ้มน้องไปนั่น" คุณปู่พูดขึ้นอย่างขำ ๆ พร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างพอใจกับการเจอกันอีกครั้งในรอบ 13 ปี ของคนทั้งคู่

"แล้วทางนั้นเป็นไงล่ะ" ท่านภูษิตเอ่ยถามภรรยาถึงน้องรักที่กำลังประสบปัญหาทางธุรกิจโดนพี่ชายต่างมารดาโกงหลายร้อยล้านจนคู่ค้าฟ้องล้มละลายและยังทำเอกสารปลอมขายทรัพย์สินไปหลายรายการ แม้กระทั่งบ้านที่อาศัยอยู่ทุกวัน

"ว่านให้ทนายของเราช่วยจัดการอยู่ค่ะ แต่เรื่องที่คุณพ่อเสนอเนมไม่เอาค่ะคุณพ่อ เนมบอกว่าขอล้มแล้วตั้งต้นใหม่ดีกว่าไม่อยากเห็นแก่ตัวที่จะเอาลูกมาขายกินค่ะ เนมเขาเชื่อว่าถึงเขาจะไม่มีให้ลูกในอนาคต แต่น้องขวัญเธอจะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายของน้องขวัญ เนมเขาเก็บไว้ให้ทุกเดือนตั้งแต่เกิดเป็นชื่อของน้องขวัญเอง บัญชีนี้ไม่มีผลกระทบค่ะแล้วน่าจะพอใช้ไปจนกว่าจะจบปริญญาตรีแล้วกว่าน้องขวัญจะจบ เนมจะพยายามสร้างธุรกิจเล็ก ๆ ขึ้นมาใหม่ แต่ระหว่างนี้ต้องฝากเราดูแลน้องขวัญไปก่อนค่ะคุณพ่อ" ลูกสะใภ้เล่าให้ฟังหน้าเศร้าถึงการปฏิเสธข้อเสนอของน้องรักสามีที่คุณพ่อสามีเธอเสนอให้

"อืม... งั้นก็แล้วแต่วาสนาเถอะนะ เจ้าของขวัญของปู่ ปู่จะดูแลเจ้าเองงั้นเอาอย่างนี้ พ่อจะโอนหุ้นส่วนของพ่อแบ่งเป็น 2 ส่วนให้เจ้าศิลาครึ่งนึง น้องขวัญครึ่งนึง ส่วนสัญญาเดิมที่เคยสลักหลังกันไว้จะไม่เปลี่ยนแปลงจนกว่า ศิลาหรือน้องขวัญจะมีครอบครัวไปเราจะทำตามสัญญานั้น ลูก ๆ จะว่ายังไง" คุณปู่ปรึกษาลูก ๆ เพราะท่านก็ห่วงเด็กสาวอยู่มากเหมือนกัน

"ก็แล้วแต่คุณพ่อเถอะครับผมไม่มีปัญหา เนมก็ถือว่าเป็นน้องรักของผมครอบครัวเราผูกพันกันมานาน ผมก็อยากช่วยมันเหมือนกันเดี๋ยวผมคิดว่าคงต้องไปหามันเร็ว ๆ นี้แหละ" ลูกชายตอบผู้เป็นพ่ออย่างจริงจัง

"หรือจะเอาอย่างนี้ดี พ่อจะคุยกับศิลาเอง" คุณปู่อย่างตัดสินใจ

"ไม่ได้ค่ะคุณพ่อ เนมไม่ยอมค่ะ ว่านคุยแล้ว เนมไม่อยากให้เราบังคับศิลาค่ะทุกอย่างต้องอยู่ที่ใจไม่ใช่บังคับ เนมไม่อยากทำลายอนาคตศิลาเพื่อตัวเองค่ะแล้วอีกอย่างน้องขวัญก็เด็กมากถ้าผิดพลาดขึ้นมาลูกเราจะเจ็บกันทั้ง 2 ฝ่ายนะคะ แล้วเราจะมองหน้ากันไม่ได้ค่ะคุณพ่อ"

"เฮ้อ..." คุณปู่ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง

~~~~~~~~~~

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel