ตอนที่ 1 C Friend
การแอบชอบใครสักคนที่ทำให้เรามีความสุข เพราะอย่างน้อยแค่เผลอยิ้มตามเขาไปโดยไม่รู้ตัวแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ในบางครั้งเธอก็รู้สึกเช่นนั้น มองรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ของเขาแล้วก็แอบยิ้มตาม แต่เมื่อรู้ตัวอีกที รอยยิ้มนั้นก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว เพราะรอยยิ้มของเขา จอมพล รัตนภาส มีเพียงสำหรับผู้หญิงคนอื่นเท่านั้น ที่ไม่ใช่เธอ
กวาง หรือ กวินนา ศิริวิไล สาวสวยมาดเท่ ที่ไม่เคยถูกมองว่าเป็นผู้หญิงสักครั้งโดยเฉพาะในกลุ่มเพื่อนเรียนสถาปัตย์
บางครั้งพวกมันก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
"ไอ้กวางสรุปมึงเป็นทอมหรือเปล่าวะ จนป่านนี้กูยังไม่เคยเห็นมึงมีแฟน"
เพราะล่วงเลยมาถึงวัย 27 ปีแล้ว ก็ไม่แปลกใจที่พวกมันจะคิดแบบนั้น
...รวมถึงเขาด้วย
เขาไม่รักก็ว่าเจ็บ แต่มันเจ็บยิ่งกว่าเมื่อต้องแกล้งบอกว่าไม่รัก
จนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในค่ำคืนที่เขาเมาอย่างหนัก เพราะความเสียใจหลังจากที่เลิกรากับแฟนสาวคนสวย ถึงขนาดโทรสั่งเพื่อนให้หาเด็กมาให้
เธอที่ต้องกินเหล้าเป็นเพื่อนคนเมาหลังจากฟังมันพร่ำเพ้อมาเกือบครึ่งคืน ก็ยังต้องมีหน้าที่ขับรถไปส่งคนเมาถึงคอนโด จับมันโยนลงเตียงได้ ก็คิดจะรีบกลับ แต่ยังไม่ทันจะเดินออกจากห้องนอน ก็ถูกคนเมากระชากลงบนเตียง
พร้อมความเข้าใจผิดที่ว่าเธอคือ...เด็กที่ถูกส่งมา
❤️❤️❤️????
คำเตือน นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมด้านพฤติกรรม ความรุนแรง เพศ และการใช้ภาษา ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ
ตอนที่ 1
C Friend
ภายในห้องประชุมของบริษัท C Friend รับสร้างบ้าน
จอมพล รัตนภาส หุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท และยังดำรงตำแหน่งประธานบริหาร
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาวจัด กำลังยืนอยู่หน้าจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ในห้องประชุม แม้ภาพจากเครื่องฉายจะส่องทับใบหน้าหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นแต่งมาอย่างลำเอียง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของคนที่ยืนอธิบายความคืบหน้าของโครงการใหญ่ดูลดน้อยลงสักนิด
เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกพับแขนถลกขึ้นมาจนถึงข้อศอก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่เรียงมัดสวยอย่างคนที่ออกกำลังกายมาอย่างดี เส้นเลือดสีเขียวจางๆ ภายใต้ผิวหนังปูนขึ้นมาอย่างเด่นชัด ยิ่งทำให้เจ้าของเรือนร่างสูงดูเซ็กซี่อย่าน่าค้นหา นึกอยากรู้ว่าไอ้เส้นเลือดสีเขียวจางๆ ที่หายเข้าไปด้านในแขนเสื้อมันจะเป็นอย่างไร
กวินนา กวาดสายตามองไปจนถึงฝ่ามือใหญ่ข้อนิ้วชัดแต่ก็ไม่ทำให้นิ้วยาวเรียวของเขาดูน่าเกลียดสักนิด ปลายนิ้วมืออมชมพูอย่างคนสุขภาพดีจรดปากการาคาแพงชี้ไปที่จอภาพขนาดใหญ่ตรงหน้า และแน่นอนปากกาด้ามนั้นเป็นด้ามที่เธอเคยซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเขาเมื่อปีที่แล้ว
น้ำเสียงทุ้มหนักแน่นเอ่ยอธิบายถึงความคืบหน้าของโครงการกว่าร้อยล้าน ทุกสายตาของผู้เข้าร่วมประชุมต่างจับจ้องไปที่คนด้านหน้าจอใหญ่
ริมฝีปากหยักได้รูปขยับยิ้มเพียงนิด ตอนที่เอ่ยอธิบายจนจบ ก่อนรอยยิ้มนั้นจะกว้างขึ้นเมื่อหันไปสบตาสาวสวยเจ้าของโครงการอย่างคุณแอม
"ถือว่าคืบหน้าไปมากเลยนะคะ จะเป็นไปได้ไหมคะ ถ้าแอมอยากให้โครงการนี้เสร็จก่อนที่เราตกลงกันไว้สักสองเดือนน่ะค่ะ"
จอมพลเม้มปากลงนิดหนึ่งอย่างคนที่ใช้ความคิด ก่อนจะหันไปถามผู้ช่วยที่ดูแลโครงการนี้
"ว่าไงครับ คุณกวาง"
"..."
"คุณกวาง" คนเรียกกดเสียงต่ำลงอีกนิด ทำให้หลายๆ คนที่รอฟังคำตอบ หันหน้ามาทางคนที่ถูกเรียกว่า…คุณกวาง
"คะ ว่ายังไงนะคะ ขอโทษทีค่ะ"
"คุณแอมถามว่า เราจะจบโครงการนี้ก่อนกำหนดสักสองเดือนได้ไหม"
"เอ่อ...ค่ะ...ได้ค่ะ"
แม้เมื่อครู่จะไม่ทันฟังประโยคคำถาม เพราะสายตาที่จับจ้องคนด้านหน้าอยู่เพลินจนเมื่อเขาอธิบายจบ และหันไปยิ้มกับสาวสวยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทำให้เธอละสายตาหันมาสนใจอ่านรายงานในกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้า
แต่คำตอบนั้น ก็ได้คิดและประมวลผลอย่างไตร่ตรอง ก่อนที่จะเอ่ยตอบแล้ว
"ไอ้กวาง ไอ้เหี้ยเอ๊ย มึงไปรับปากอย่างนั้นได้ไงวะ เดี๋ยวก็ฉิบหายส่งงานไม่ทัน ซวยหรอกมึง"
เสียงโวยวายของศรัณดังลั่นห้อง ทันทีที่ผู้ช่วยโครงการเดินเข้ามาในห้องทำงานของผู้บริหาร
"อ้าวไอ้รัณ แล้วมึงจะให้กูตอบว่าไง ก็เจ้านายมึงเสือกถามกูขึ้นมาแบบนั้น ให้กูหักหน้าบอกว่าไม่ได้ แต่จะขอต่อเวลาอีกสองเดือนงี้หรือ เจ้านายมึงได้แดกหัวกบาลกูซิ"
"พวกมึงทำไม่ได้หรือ ไอ้กวางมันยังทำได้เลย" เจ้าของห้องที่เดินตามเอ่ยขึ้น ได้ยินเสียงสองคนที่เถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
"มึงกะไม่เผื่อเหตุฉุกเฉิน เผื่อพม่ากลับบ้านบ้างเลยหรือไงวะ" ศรัณยังคงหาเหตุผลมาให้
"กูมั่นใจว่าไอ้กวางทำได้" จอมพลยืนยันเสียงเข้ม แล้วก็เดินไปทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงาน
"มึงก็สงสารมันหน่อย อย่าใช้งานมันหนักนัก อย่างน้อยมันก็เป็นผู้หญิงนะโว้ย" ยศกรที่เดินตามเข้ามาคนสุดท้าย เอ่ยขึ้น ทำให้ทุกสายตาหันไปมองผู้หญิงของห้องเพียงคนเดียว
มองอย่างที่ทุกคนเกือบจะลืมไปแล้วว่าเธอก็คือ ผู้หญิง
"มองเหี้ยอะไรกันแบบนั้น กูคิดว่าทำได้ เพราะงานเราตอนนี้มันเร็วกว่าแพลนที่วางไว้พอสมควร ถ้าทำไม่ได้ ไอ้จอมมันคงไม่หันมาถามกูหรอก มันคงตอบเขาไปแล้ว"
กวินนาเอ่ยถามเสียงเข้มก่อนจะจบประโยคด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงเมื่อนึกถึงเรื่องงานที่กำลังจะหนักหน่วง
ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มเพียงบางเบาราวกับหน้าสด กวาดสายตามองชายหนุ่มอีกสามคนในห้อง ริมฝีปากอิ่มมีเพียงลิปกลอสสีชมพูอ่อนเคลือบไว้ ผมยาวเลยไหล่เพียงนิดถูกรวบไว้อย่างลวกๆ แถวท้ายทอย ก่อนจะย้ายเรือนร่างสูงโปร่งหนึ่งร้อยหกสิบแปดเซนติเมตรหลบสายตาพวกมันไปยืนพิงโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของผู้บริหาร