INTRO / 1
'แม่จ๋า แม่อยู่ไหน ฮื่อ ๆ'
เสียงร้องเรียกหาแม่จากเด็กน้อยวัยเก้าขวบสามเดือนดังกึกก้องทั่วบริเวณทุ่งหญ้าลาดเตียน
'ฮื่อ ๆ อย่าเอาแม่หนูไป' เด็กคนเดิมร้องไห้แล้วร้องไห้อีก หยาดน้ำตาทั้งสองข้างไหลราวกับเขื่อนแตก
'ฮึก ฮืออออ' เธอนั่งลงบนพื้นหญ้าด้วยร่างกายที่อ่อนล้า
การเดินตามหาแม่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยและไม่รู้จักมันช่างยากลำบากสำหรับเด็กวัยนี้จริง ๆ
ติ๊ด!!
"ใครมาเปิดหนังปัญญาอ่อนร้องไห้ตามหาแม่ทิ้งไว้เนี่ย!"
เสียงแหลม ๆ เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสีแดงสด สายตาเฉี่ยวคมที่กรีดอายไลเนอร์อย่างคมกริบสอดส่ายมองหาต้นตอของคนเปิดโทรทัศน์เครื่องนี้
"อ้าว คุณผู้หญิงมาเหรอคะ" เสียงหญิงชราอายุห้าสิบปลาย ๆ เอ่ยถาม
เมื่อกี้เธอเดินไปเข้าห้องน้ำและเป็นคนเปิดหนังเรื่องนั้นไว้เอง
"นมมาเฝ้ายัยจีนตั้งแต่เช้าแบบนี้แล้วใครจะทำงานบ้าน" เสียงแหลมเอ่ยถามอย่างเอาเรื่อง "นมมีหน้าที่ดูแลคุณหนูจีน ส่วนงานบ้านก็มีคนที่บ้านทำอยู่แล้วนี่คะ"
'บัวผัน' แม่นมที่เลี้ยงจิรนันท์หรือจีนที่ถูกเอ่ยถึงตอบอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจคนตรงหน้า "ระวังนะนม ถือหางผิดคนจะไม่มีที่ซุกหัวนอนเอานะ"
บัวผันได้แต่เบะปากส่ายหน้าในใจ
อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปหมดตั้งแต่คุณท่านทั้งสองเสียไป แม่เลี้ยงใจร้ายที่เคยเห็นแต่ในทีวีละครหลังข่าวดันมายืนอยู่ตรงหน้าตัวเป็น ๆ ซะได้
"คุณมณีเองก็ควรสำรวมหน่อยนะคะ พินัยกรรมยังไม่เปิด มรดกทุกอย่างอาจไม่เป็นดั่งที่หวัง"
"ไม่มีทาง! พ่อยัยเด็กนี่หลงฉันคนนี้จะตาย ต้องทิ้งอะไรไว้ให้บ้างล่ะ ไม่แน่ อาจจะทั้งหมดเลยก็ได้"
บัวผันได้ยินแบบนั้นเธอถึงกับกำมือแน่น ในใจร่ำไห้แทนเจ้านายตัวน้อยที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบก็ต้องมาเผชิญชะตากรรมน่าเศร้า แถมต้องมาเข้าโรงพยาบาลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์อีก
"ฉันไม่เถียงกับนมต่อแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะสร้างภาพกับนักข่าว อย่าคิดว่าฉันจะมาเหยียบห้องนี้"
'มณี' ที่มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของคนที่นอนไม่ได้สติอยู่เอ่ยขึ้นอย่างไม่ถนอมน้ำใจคนฟังเลยสักนิด
ต๊อก แต่ก ต๊อก แต่ก
เสียงส้นสูงราวสามนิ้วเดินเข้าไปใกล้เตียงคนป่วย ก่อนใบหน้าสวยเฉี่ยวแม้อายุเกือบจะเลขสี่แล้วก็ยังมีความงดงามจากโบท็อกซ์ราคาแพงโน้มลงใกล้ใบหูคนที่หลับราวเจ้าหญิงนิทรามาเป็นเวลาเกือบสามวัน
"พ่อแม่แกรอแกอยู่บนสวรรค์ รักพวกนั้นมากไม่ใช่เหรอ ตามพ่อแม่แกไปสิ จะได้สมหวังสักที"
มณีกระซิบเบา ๆ ให้ได้ยินกันแค่เธอกับคนที่นอนหลับอยู่ ก่อนจะยิ้มร้ายแล้วผละใบหน้าขึ้นมาคุยกับอีกคน
"ฝากนมดูแลคุณหนูสุดที่รักนมด้วยล่ะ ดูแลดี ๆ นะ ไม่แน่ นี่อาจจะเป็นการปรนนิบัติครั้งสุดท้ายก็ได้"
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้จิตใจหยาบต่ำ ชั่วช้าได้ขนาดนี้กันนะ
ไม่รู้คุณท่านที่จากไปคว้าเอามาเป็นภรรยาคนที่สองหลังจากเสียภรรยาหลวงแม่ของคุณหนูจีนได้ยังไง
ปัง!!
เสียงประตูปิดลงอย่างไร้มารยาท ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง
ครูดดดด
เสียงลากเก้าอี้ให้ถอยห่างจากเตียงเพื่อให้ร่างอวบอ้วนของหญิงชราเข้าไปนั่งได้ดังขึ้น
"คุณหนูคะ" บัวผันจับมือน้อย ๆ ของคุณหนูที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจเพราะเลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออกด้วยหัวใจที่สงสารกับชะตากรรมที่เผชิญอยู่
"นมสงสารคุณหนูเหลือเกิน" พูดไปน้ำตาก็นองเต็มสองข้างแก้ม
"แต่นมสู้อะไรผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ถ้านมพูดรุนแรงไป นมอาจจะไม่ได้อยู่ดูแลคุณหนู นมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นค่ะ"
บัวผันรักจิรนันท์มาก รักราวกับลูกสาวแท้ ๆ เพราะความผูกพัน
"รีบ ๆ ฟื้นขึ้นมานะคะคนเก่งของนม คุณท่านทั้งสองช่วยคุ้มครองคุณหนูด้วยนะคะ" สิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ชัดแจ้ง แต่เป็นเครื่องชะโลมใจในยามคับขันในสถานการณ์ตอนนี้ได้ดีจริง ๆ
ฟิ้วววววว... สายลมพัดปลิวแรงระดับหนึ่งปะทะเข้ากับม่านหน้าต่างสีขาวที่ถูกแง้มทิ้งไว้เล็กน้อย ขนแขนบัวผันลุกเกรียวราวกับมีบางสิ่งบางอย่างมาสัมผัสตน
"คุณท่านทั้งสองรับรู้แล้วใช่ไหมคะ ช่วยคุณหนูจีนของพวกเราให้ฟื้นทีนะคะ"
น้ำตาหนึ่งหยดตกลงบนหลังมือน้อย ๆ ที่ไร้การเคลื่อนไหว
คุณหนูของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนที่ขับรถไปเรียน อาการทางสมองเช็กละเอียดถี่ถ้วนแล้วไม่มีอันตรายใด ๆ บาดแผลภายนอกก็ไม่ได้รุนแรงมากเพราะเธอคาดเข็มขัดนิรภัยและไม่ได้ขับรถในความเร็วสูง
แต่ทำไม... ทำไมร่างน้อย ๆ ถึงไม่ฟื้นขึ้นมาสักที