บท
ตั้งค่า

My Husband 10 - ความสัมพันธ์หลังแต่งงาน

My Husband 10 - ความสัมพันธ์หลังแต่งงาน

ที่โต๊ะอาหาร

เต็มไปด้วยฝีมือของพี่ภีมม์ ทำให้ฉันรับรู้ได้อีกอย่างว่า นอกจากหน้าตาพี่ภีมม์จะหน้าตาดีมากแล้ว เขายังทำอาหารเก่งระดับน้องๆ เชฟอีกด้วย

“มีแต่อาหารน่าทานทั้งนั้นเลย ว่าแต่พี่ภีมม์ไปเรียนทำอาหารมาจากไหนเหรอคะ”

“เมื่อก่อนตอนพี่ไปเรียนที่บอสตันพี่เคยทำร้านอาหาร”

“โห ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยพี่ภีมม์นี่สู้ชีวิตมากเลย”

พี่ภีมม์ไม่ได้ตอบอะไร นอกจากพยักหน้าบอกให้ฉันรีบทาน คือฉันก็รู้แหละว่าเขาเป็นคนพูดน้อย แต่บางทีฉันก็ไม่รู้จะชวนคุยอะไรดีเหมือนกัน เอาแค่พี่ภีมม์เงยหน้ามามองตอนฉันตักข้าวเข้าปากฉันก็แอบรู้สึกเขินพี่ภีมม์ขึ้นมานิด ๆ ผู้ชายอะไรไม่รู้ตาคมเป็นบ้า

“แล้วพรุ่งนี้เราอยากให้พี่ไปส่งไหม”

“ไม่เป็นไรค่ะ ลีโอบอกว่าเป็นทางผ่านบ้านเขา เขาเลยจะแวะมารับ”

“ลีโอ?”

“เป็นบัดดี้ที่สอนงานน่ะค่ะ แต่นิสัยดีมาก ๆ เลย นี่เฟิร์นก็ได้ลีโอคอยแนะนำงานให้หลาย ๆ อย่าง เขาอธิบายงานได้ดีมาก ๆ”

“อ่อ...ครับ”

ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนเห็นแววตาพี่ภีมม์เหมือนไม่ค่อยพอใจแวบหนึ่งก่อนที่เขาจะก้มหน้าก้มตาตักอาหารใส่ปาก โดยไม่ชวนฉันคุยอะไรอีก แถมทานอาหารเสร็จก็ไม่ได้เข้านอนในทันที

หนำซ้ำพี่ภีมม์ยังไปนั่งทำงานต่อในห้องทำงานส่วนตัวของเขาอยู่จนดึก ส่วนฉันก็หลับไปก่อนที่พี่ภีมม์จะกลับมานอน

และเพราะตอนเย็นพี่ภีมม์เป็นฝ่ายทำอาหารเย็นให้ฉันทาน ตอนเช้าฉันเลยรีบตื่นเช้ากว่าปกตินิดหนึ่งเพื่อมาทำอาหารมื้อเช้าให้พี่ภีมม์ทานบ้างอย่างน้อยก็ตอบแทนที่เมื่อวานเขาทำอาหารเย็นรอไว้ให้ฉัน

ซึ่งโชคดีที่อาหารเช้าทำง่ายกว่าอาหารเย็น เพราะเป็นเมนูพื้น ๆ เช่นพวกไข่ดาวไส้กรอกอะไรประมาณนี้ทำให้ฉันไม่ต้องลำบากอะไรนัก

“ทำไมตื่นเช้านักละครับ”

เสียงพี่ภีมม์ที่กำลังตื่นนอนเดินใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวออกมาจากห้องมาที่ห้องครัวแถมยังเดินตรงมาที่ฉัน ให้ตายเถอะฉันไม่ค่อยชินเท่าไหร่กับสภาพชายหนุ่มหล่อหุ่นที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ แบบนี้เลย ฉันเผลอหันไปมองแค่แวบเดียวก่อนจะหันมาสนใจกับการทำอาหารตรงหน้า

“ทะ...ทำอาหารเช้าให้พี่ภีมม์บ้างไงคะ ก็เมื่อเย็นพี่ภีมม์โชว์ฝีมือทำอาหารให้เฟิร์นบ้างแล้ว คราวนี้เฟิร์นก็เลยตั้งใจว่ามื้อเช้าเฟิร์นจะทำอะไรให้พี่ภีมม์ทานบ้าง”

“ไหนทำอะไร ให้พี่ช่วยไหม”

พี่ภีมม์พูดพลางเดินช้อนเข้ามาจากด้านหลังของฉัน แถมยัง ชะโงกมามองสิ่งที่ฉันทำแบบไม่ทันตั้งตัว ทำเอาฉันตกใจจนเผลอหันไปประจันหน้ากับเขา พอตัวจะเอนตัวหลบ หลังก็เกือบโดนเตาที่มีกระทะร้อน ๆ พี่ภีมม์เลยรั้งเอวฉันเข้ามาจนชิดแนบตัวเขา

ตึก ตึก ตึก

เขาจะได้ยินเสียงหัวใจของฉันที่เต้นแรงขนาดนี้ไหมเนี้ย

“ขะ ขอบคุณค่ะ”

สภาพโคตรล่อแหลม เพราะหน้าของฉันอยู่ที่แผงอกเปล่า ๆ ของเขาแค่คืบ แถมพอฉันทำท่าจะผลักออกแต่ก็กลัวแผ่นหลังจะชนกับเตาเลยทำให้ขยับไปไหนไม่ได้ ซ้ำพี่ภีมม์ก็ไม่ยอมขยับตัวออก

“ซุ่มซ่ามเหมือนกันนะเนี่ยเรา”

“พี่ภีมม์นะแหละเดินเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง”

“แต่พี่ก็ทักเราตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วไม่ใช่หรือครับ”

คราวนี้ฉันเถียงไม่ออกเลยเพราะเป็นแบบที่พี่ภีมม์พูดจริง ๆ แต่ก็นั่นละ ฉันทั้งได้ยินทั้งเห็นว่าพี่ภีมม์เดินมา แต่ฉันแค่ไม่คุ้นชินกับการเห็นผู้ชายหล่อแบบนี้แล้วทำตัวแบบสบายเกินไปด้วยการใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวเดินไปเดินมาภายในบ้าน มันก็มีบ้างไหมที่วางตัวไม่ถูกนิดนึง

เข้าใจแหละว่าเราต้องปรับตัวเข้าหากันเพราะเราแต่งงานกันแล้ว แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำตัวแบบเป็นตัวของตัวเองมากไปหน่อย

แต่ยังไงแล้ว พี่ภีมม์ผิดก็อยู่ดีเพราะอยู่ ๆ ก็เข้ามาใกล้ชิดฉันขนาดนี้

“ก็เฟิร์นไม่ชินนี่คะ เวลาเห็นผู้ชายใส่แต่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเดินไปเดินมาแบบนี้” ฉันพูดออกไปตรง ๆ

“เมื่อก่อนตอนพี่อยู่คนเดียวพี่ไม่ใส่อะไรเดินด้วยซ้ำ” เขาพูดพลางโน้มตัวมากระซิบที่ข้างหูเล่นเอาฉันยิ่งรู้สึกเขินไปกันใหญ่ คือแหม....คนเราเพิ่งอยู่ด้วยกันไม่จำเป็นต้องแสดงตัวตนชัดเจนขนาดนี้เลยก็ได้ม้างงงง

“ฟะ เฟิร์นว่าพี่ภีมม์ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะ เดี๋ยวจะไปทำงานสายเจ้านายจะว่าเอา”

“เจ้านายพี่ใจดี”

“เห็นเขาใจดีก็ต้องยิ่งเกรงใจอย่าเอาเปรียบเขาสิคะ ไปอาบน้ำเถอะค่ะ เพราะนี่ใกล้เวลาลีโอจะมารับเฟิร์นไปทำงานแล้ว”

อยู่ ๆ ดีพี่ภีมม์ก็ปล่อยฉันจากอ้อมแขน แถมยังทำสีหน้าไม่พอใจเมื่อพูดเสร็จ หรืออาจจะตั้งแต่ฉันพูดชื่อลีโอ

“ที่ไม่อยากให้พี่ไปรับไปส่งเพราะอยากไปกับเพื่อนคนนั้นมากกว่า?”

“เปล่าเลยค่ะ เฟิร์นแค่เกรงใจพี่ภีมม์ กลัวพี่ภีมม์จะไปทำงานสาย ที่สำคัญเพื่อนมารับมาส่งก็ประหยัดดี”

“ทำไมต้องเกรง...”

ครืดดดด

“อุ้ย ลีโอน่าจะโทรมา สงสัยใกล้จะมาถึงแล้วเฟิร์นบอกเขาให้โทรบอกก่อนมาถึงยี่สิบนาที งั้นเดี๋ยวเฟิร์นไปเตรียมตัวก่อนนะคะ” ฉันเลี่ยงไปหยิบมือถือแล้วหันไปรับสายลีโอเพื่อนัดเวลา ก่อนจะวางสายแล้วหันมาตักอาหารใส่จานให้พี่ภีมม์ก่อนเอาไปวางไว้บนโต๊ะอาหาร

ส่วนพี่ภีมม์ก็ยังยืนมองด้วยสีหน้าที่ฉันเองก็คาดเดาไม่ถูก แต่ในเวลากระชั้นชิดที่ลีโอใกล้จะมาถึงแบบนี้ ทำให้ฉันไม่ทันได้ใส่ใจความรู้สึกของพี่ภีมม์มากนัก ฉันรีบถอดผ้ากันเปื้อนออกก่อนจะจัดเสื้อผ้าชุดทำงานให้เข้าที่ ดีว่าตั้งแต่ตอนตื่นนอนตอนเช้าฉันอาบน้ำมาแล้ว เลยไม่ค่อยแต่งตัวอะไรมากนักจึงทำเวลาได้ค่อนข้างไว

รู้ตัวอีกทีก็ออกจากห้อง โดยที่ไม่ทันสังเกตสีหน้าและความรู้สึกของพี่ภีมม์อีกเลย

และนับตั้งแต่วันนั้น ความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ภีมม์ถึงไม่ได้พัฒนามากขึ้น นอกจากเลิกงานพี่ภีมม์เตรียมอาหารเย็นเอาไว้ให้ ส่วนตอนเช้าฉันเป็นฝ่ายเตรียมให้เขา และนอกจากนั้นเราก็แทบจะไม่ค่อยได้คุยกัน เพราะพี่ภีมม์มักจะใช้เวลาส่วนตัวอยู่ในห้องทำงานของเขามากกว่า

แต่ก็นะ….ช่างมันเถอะ ความสัมพันธ์ของคนที่ไม่ได้รักกันมาแต่งงานกัน ก็คงจะเป็นเหมือน ๆ กันหมด

อย่างนี้สินะที่มีคนบอกไว้ ถ้าเราโชคดีในเรื่องงาน ก็อาจจะโชคไม่ดีเรื่องความรักก็เป็นได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel