บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 กฎบริษัท

“ตอนนี้ ผมใส่คอนแท็กเลนส์อยู่”

“อ่าค่ะ”

ฟุ่บ!

ชายที่ไปนั่งพรินต์กระดาษ โยนอะไรบางอย่างมาให้เพื่อนของเขา

ขวับ!

คนรับ นอกจากคว้าเสื้อนอกมาได้ ยังลุกยืนตรงหน้าพร้อมสวมใส่แล้วหมุนตัวไปมาเพื่อให้เห็นตัวหนังสือด้านหลังที่สกรีนยาวสองบรรทัดด้วยฟอนต์ภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่

TECH DEVELOPMENT

D E P A R T M E N T

เพราะใส่บ่อยจนชีวันไม่สามารถนึกถึงคนอื่นได้ นอกจาก...

“เสื้อ...นะ…นะ…นายเหรอ…เอ๊ะ…ใช่เหรอ”

“ฮ่า ๆ ทำไงก็ไม่เชื่อ แสดงว่าตอนอยู่ออฟฟิศนายคงแย่มากเลยใช่มั้ย” ชายที่ดูเป็นคนละมุนพูดด้วยความอารมณ์ดี เขาขำเสียจนน้ำตาเล็ด

พ่อหนุ่มสุดเชยที่พูดไม่รู้เรื่องสักเท่าไร

พ่อหนุ่มที่ชอบแอบเอาน้ำเอาขนมมาวางให้เธอที่โต๊ะ

และพ่อหนุ่มที่ระยะหลัง ๆ ชอบบังเอิญเจอกันที่สวนสาธารณะ

“จริงเหรอคะ คือน้องไอทีที่บริษัทเหรอ”

“หรือจะให้เรียกพี่ก็ได้นะ…พี่ชีวัน” เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่ชีวันไม่เคยได้ยินมาก่อน มันชวนให้ใจสั่น หวามไหว และอยากพ่ายแพ้ให้กับทุกอย่างที่เขาหยิบยื่นมาให้

“ตัดสินใจยัง…ทำงานด้วยกันมั้ย” เขานั่งยอง ๆ หน้าชีวัน ทำท่าเหมือนลูกหมามาขออาหาร แต่สายตาแบบนั้นชีวันไม่เข้าใจว่า เธอคือคนที่เขาเลือกไว้แต่แรก และเลือกมานานแล้ว แค่รอให้โอกาสมาถึงเท่านั้นเอง

“เอ่อ…แต่มันก็แปลก ๆ เพราะฉันไม่รู้จักพวกคุณ”

“เราไปเริ่มงานที่ใหม่ ก็ไม่ได้รู้จักทุกคนนี่ครับ แต่ตอนนี้คุณรู้จักผมแล้วนี่” เด็กไอทีลุกยืน เขาถอดเสื้อนอก จังหวะรูดผ้าออกจากแขน ชายเสื้อเลิกขึ้นจนเห็นกล้ามท้องแน่นเป็นลอน ชีวันคิดภาพถ้าคนที่ออฟฟิศรู้ว่า น้องที่คอยมาซ่อมPrinter หรือ Wifi งานดีขนาดนี้ บริษัทคงปั่นป่วนแน่ ๆ

หน้าตาพวกเขาขายได้จริง ๆ แหละ

บ้าเอ๊ย แล้วเจ้าเด็กนี่ ทำไมมันต่างกันขนาดนั้น

ทรงผมเหรอ แว่นเหรอ หรือเพราะเสื้อบ้า ๆ นี่

“เอ่อ ขอสอบถามเพิ่มได้มั้ยคะ เกี่ยวกับเนื้องาน” ชีวันพยายามดึงสติของเธอให้หยุดสนใจรูปลักษณ์ของสามคนนี้

“อันนี้ราคาที่พวกเรากำหนดขึ้น” ชายคนที่ดูจะโตที่สุด เขาเดินมาพร้อมยื่นกระดาษที่เพิ่งถูกพิมพ์ให้

“เรทการ์ดเหรอคะ” เธออ่านแล้วจึงถาม พวกนั้นพยักหน้ารับ

แล้วจากนั้นชีวันก็ถามตอบกับพวกเขาอย่างเมามัน

“ดื่มเหล้าในร้าน ดริงก์ละ 500 ขั้นต่ำที่ 10 ดริงก์ ต่อ 2 ชั่วโมง

รายชื่อร้านเหล้าที่กำหนด

ทานอาหาร ในร้านที่กำหนด

มื้อกลางวัน 5000 ต่อ 2 ชั่วโมง

มื้อเย็น 10000 ต่อ 2 ชั่วโมง

ดูหนัง หรือกิจกรรมพักผ่อนอื่น ๆ ในที่เหมาะสม พร้อมลิสต์รายชื่อที่กำหนดเท่านั้น 2 ชั่วโมง 5000 บาท

“เพิ่งรู้ว่านัดกลางวันก็มีด้วย”

“มีครับ แต่ตอนนี้ให้ตอบลูกค้าว่า คิวกลางวันเต็มหมดแล้ว”

“อ้าว” ชีวันร้อง

“พวกเราติดงานประจำกันทุกคน”

“ก็ปิดไปสิคะ เปิดบริการนี้ทำไม เอาแค่ช่วงเย็นก็พอ”

“ไม่ครับ พวกเราต้องการข้อมูลว่ามีคนสนใจมื้อกลางวันมากน้อยแค่ไหน” น้องไอทีตอบ

“เอ่อ...แล้ว บริการนี่ คือทำอะไรบ้างคะ”

“เราจะเป็นแค่เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว คู่เดตได้ แต่มากกว่านั้นไม่ได้เราเทคแคร์ครับ สุภาพบุรุษ ใส่ใจ ไม่มีอย่างอื่นซ่อนเร้นทั้งสิ้น”

“แล้วถ้าแบบว่า...ยอมจ่ายล่ะคะ”

“ก็ไม่ได้ครับ แบบนั้นให้แม่มาสู่ขอดีกว่า”

“ถ้าเขาอยากทำล่ะคะ”

“เขาจะไม่ได้เป็นลูกค้าอีกครับ”

“หืม...แค่ค่าเทคแคร์ก็สองสามหมื่นเลยเหรอคะ”

“ธุรกิจครับ”

“โอเคค่ะ”

“ช่องทางการรับเงิน เป็นชื่อบริษัท”

แววตาครุ่นคิด ชั่งใจ ทำเอาสามหนุ่มลุ้นเหลือเกิน เขาต้องการคนมาช่วยงานเต็มแก่แล้ว

“ต้องทำงานกี่เดือนเนี่ย ถึงจะได้ไป” ชีวันโพล่งออกมา

“ไปไหนครับ” หนุ่มไอทีอดีตเพื่อนร่วมงานที่บริษัทเอ่ยถามทันที

“เป็นพนักงานใช้บริการไม่ได้นะ” คนโตที่สุดรีบบอก

“ทำไมล่ะคะ ถ้ามีเงินก็ไม่ได้เหรอคะ” ชีวันถามต่อเช่นกัน

“ไม่ได้ ลองคิดดูว่า ลูกค้าจะรู้สึกอย่างไร เขาจะคิดว่า เราจัดคิวกันเองหรือเปล่า มีนอกมีในมั้ย

แล้วถ้าเกิดคุณชีวันใช้บริการแล้วเกิดติดใจ จนไม่เป็นอันทำงานอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมล่ะ พวกเรา 3 คนก็จะแตกคอกัน เพราะเรื่องไร้สาระ เราจึงตั้งกฎบริษัทขึ้นมาครับ ห้ามพนักงานใช้บริการ และ ห้ามมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันด้วย”

“สรุปทำมั้ย หรืออยากใช้บริการ”

หนุ่มเนิร์ดจากออฟฟิศที่ตอนนี้หน้าตาห่างไกลคำว่าเนิร์ดมามากแล้ว เขาถามด้วยแววตาหยอกเย้า

ชีวันใจเต้นแรงเต้นรัว นิ้วมืออ่อนไร้เรี่ยวแรง มุมปากก็ชอบเผลอยกยิ้มอยู่ตลอด เธอต้องพยายามอย่างมากที่จะสะกดใจตัวเองให้จดจ่อกับสาระ

“แล้วใครเป็นคนสั่งงานฉันคะ” ชีวันถาม

“ทุกคนสามารถสั่งได้เลย แต่คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจสูงสุด คือ เจ้านี่” คนที่ละมุนละไม พูดพลางชี้นิ้วมาหาหนุ่มไอทีซัพพอร์ต

“โอเค” ชีวันพยักหน้า

“โอเคเพราะ” หนุ่มไอทีถาม

“ฉันสนิทกับคุณที่สุดนี่”

“ออ นึกว่า ใจมันเทไปหมดแล้ว” เขาแซว แล้วยกยิ้ม

“คนเดียวกับที่เจอที่ออฟฟิศใช่มั้ย” ชีวันก็เริ่มสบายใจขึ้นแล้ว เป็นความรู้สึกยามได้คุยกับหนุ่มไอทีคนนั้น

“คนละคนครับ รับน้ำเพิ่มมั้ย” หนุ่มไอทีซัพพอร์ตส่งยิ้มอรุ่มเจ๊าะมาหาหญิงสาว

“ไม่ค่ะ ตอนนี้น้ำเยอะเกินไปแล้ว” ชีวันเผลอตอบไปตามที่ใจคิด

“ถือว่าคุณตอบตกลงร่วมงานกันแล้วนะ” คนที่โตที่สุดพูด

“อ่า ค่ะ” ชีวันตื่นเต้นขึ้นมาเลย เธออยากรู้จักชื่อเจ้านายใหม่ทั้งสามคนจัง...เรื่องงานนะ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวจริงจริ้ง

“งั้นวันนี้เท่านี้พอ ถ้าถึงวันเริ่มงาน พวกเราจะแนะนำตัวและเริ่มสอนงานให้ทันที อันนี้เผื่อระหว่างสัปดาห์คุณเกิดเปลี่ยนใจ จะได้ไม่เอาเรื่องส่วนตัวของพวกเราติดหูไปด้วย”

“อ้าว...โอเคค่ะ”

อดเลยแฮะ!

----

@ บริษัท สวีตดริงก์ เซอร์วิส จำกัด

การตัดสินใจไม่ยากเท่าไร แม้จะเงินเดือนแค่หมื่นแปด แต่ใกล้หอพัก งานก็ง่าย เข้าออฟฟิศแค่ 2 วันต่อสัปดาห์ แถมมีเจ้านายหล่อ ๆ แบบนี้ มันคุ้มเกินคุ้ม

ชีวันเริ่มเข้าออฟฟิศมาจัดตารางคิวงาน มีใช้กรุปไลน์เพื่อใช้คุยงานด้วยกัน หญิงสาวได้รับนามบัตรของทั้งสามคน แต่ไม่ได้ช่วยให้เธอรู้จักพวกเขาได้ดีขึ้น แต่เพราะยังไม่ใช่เวลาที่ต้องสนใจ เพราะสิ่งที่ต้องเรียนรู้อย่างมาก คือ หน้าเว็บที่หนุ่มไอทีให้กรอกข้อมูลการนัดหมาย ชีวันนึกว่ากรอกใส่ โปรแกรม excel ในตารางธรรมดา แต่อันนี้จริงจังมาก เพราะมันเป็นหน้าเว็บที่ปรับโหมดให้ใช้ได้ทั้งกับคอมและโทรศัพท์ เรียกว่าเธอทำงานจากที่ไหนก็ได้จริง ๆ

“เอาล่ะ เชิญมานั่งตรงนี้ครับ”

ถ้าบอกว่า สภาพแวดล้อมการทำงานที่นี่ดีสุด ๆ ก็คงจริงเพราะเจ้านายสามคนหล่อแบบตะโกน แต่ที่ไม่ชอบที่สุดก็คงเป็นออฟฟิศ

เธอถูกจับให้มานั่งที่โซฟาไม้แข็ง ๆ และพวกเขาลากเก้าอี้สำหรับนั่งทำงานกับโต๊ะคอมมานั่งล้อมวงคุยกัน

“บริษัทเรามีแค่นี้ สี่คน” คนโตที่สุดพูด

“แล้วคุณลุงคุณป้าล่ะคะ”

“นั่นพ่อแม่ผม ท่านมาช่วยเฝ้าบ้านให้เวลาไม่มีใครอยู่” เด็กไอทีตอบเธอ

“อ่อ ต่อไปก็เป็นฉันเฝ้าสินะ” ชีวันพูด แล้วทุกคนก็ยกยิ้ม

“เริ่มจากผม คุณรู้อยู่แล้วว่าผมทำงานที่ OASIS TECH COMPANY บริษัทเก่าที่คุณทำ ดังนั้นผมคือพนักงานออฟฟิศห้าวันต่อสัปดาห์

อ้อ! เราตกลงกันว่าจะเรียกฉายา เป็นชื่อในวงการครับ เราใช้ตั้งแต่อยู่ร้านเก่าแล้ว เป็นการแทนการเรียกชื่อจริง ๆ เพื่อไม่ให้ติดปากตอนติดต่อลูกค้า คุณชีวันเรียกผมว่า ทิวไผ่ ได้เลย”

“ฉายานาย ทิวไผ่เหรอ”

“ครับ” เขาหัวเราะเบา ๆ

“ผม เป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนกัน แต่งานผมไม่เป็นเวลา เรียกผมว่า ไม้สน ครับ”

“ไม้สนเหรอคะ” ชีวันจำต้องจดชื่อทุกคนจริง ๆ

“ครับ ไม้สน ผมเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ อยู่กับผมเหมือนนั่งชิลล์ที่ริมทะเล”

หืม...น่าไปนั่งนะคะ ชีวันคิดไปยิ้มไป มือก็จดไปด้วย

“แล้ว...” เธอหันไปหาคนที่ดูเงียบขรึมที่สุด

“ผมทำงานออฟฟิศแถวนี้เหมือนกัน เรียกผม แคคตัส ครับ ผมชอบรับฟัง ลูกค้าประจำส่วนใหญ่ เขาคงชอบที่ผมไม่เถียงอะไรเขาเลยน่ะ”

“ถึงจะบอกว่าแคคตัสชอบรับฟัง แต่เพราะลึก ๆ ก็คือไม่ชอบพูดนั่นแหละ คนติดกับภาพลักษณ์นิ่ง ๆ น่าค้นหานั่น ฮ่า ๆ เอาเป็นว่า เฮียเขามีโควตาพูดน้อย” ทิวไผ่รีบจัดแจง อธิบายข้อเท็จจริงให้

“ค่ะ แคคตัสนะคะ” ชีวันจดชื่อลงสมุด

“ว่าแต่ ทำไมตั้งฉายาว่าทิวไผ่คะ” เธอหันมาถามหนุ่มไอที

“ผมแค่คิดว่าของผมประมาณไผ่”

“หือ!?!?!?”

คำตอบนั้นทำชีวันหน้าสะบัดเลยทีเดียว

“ลำไผ่น่ะครับ”

“หือ!?!?”

คนถนัดค้นข้อมูล เปิดเว็บเซิร์ชทันที

“ส่วนใหญ่ลำไผ่จะมีรูปทรงกระบอกเรียวไปทางปลายยอด โดยทั่วไปลำไผ่ จะเกลี้ยงหรือมีขนเล็กน้อย ๆ หน่อไผ่แตกหน่อ แทงขึ้น...” ไม่แค่ค้นหา แต่เธออ่านออกเสียงจนสามหนุ่มเสหน้าหันไปมองทางอื่น ขำกับท่าทีตอบสนองของหญิงสาว

“เอ่อ ใจเย็น ผมหมายถึง ผมเหมือนต้นไผ่ อดทน อยู่ได้ทุกที่”

แต่สายตาชีวันยังมองที่เป้าอยู่อย่างไม่ลดละ

ไม่เคยโดนมองด้วยแววตาเหมือนกำลังศึกษาชีววิทยา ตอนอาณาจักรพืช ชายหนุ่มเขินจนต้องขอนั่งไขว่ห้าง

“ทิวไผ่ ไม้สน แคคตัส” ชีวันทวนชื่อพวกเขา

หลังจากนั้น แต่ละคน แนะนำลูกค้าประจำที่อาจติดต่อเข้ามา พร้อมบอกรายละเอียดพิเศษ

“ถ้าคนนี้โทรมา ให้ถามด้วยครับ ว่าผมต้องผูกไทไปมั้ย” ทิวไผ่พูด แต่ ชีวันคิดดีไม่ได้เลย

“บางทีเขาชอบชวนไปงานแต่ง งานปาร์ตี้ ผมอยากแต่งตัวให้เหมาะกับงานเขา” เขาอธิบายต่อ

“อ่อ” ชีวันทำหน้าตาเชื่อไปอย่างนั้น

“ส่วนของผม ไม่ว่าใครโทรมา ให้ถามว่า มีเอาต์ดอร์ด้วยมั้ย” แคคตัสพูดนิ่ง ๆ ให้รู้ว่าไม่ได้พูดเล่น

“เอาต์ดอร์เลยเหรอคะ” เป็นพนักงานสาวเสียอีกที่ทำเสียงเหมือนกำลังแอดเวนเจอร์อยู่ในป่า

“ครับ พวกไปรูฟทอปหรือชวนไปดูหนัง ดูกีฬาด้วย ผมไม่ชอบที่คนเยอะ ๆ ผมจะได้เตรียมตัวไปถูก” แคคตัสพูด

“อ่อ” ชีวันพยักหน้ารับ

“ส่วนของผม ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ตารางชีวิตผมค่อนข้างแปรปรวน ผมทำงานด้านอีเวนต์น่ะ” ไม้สนบอก

“เข้าใจแล้วค่ะ”

.

.

.

‘ทิวไผ่ ไม้สน แคคตัส อ๊ากกก หล่อระเบิด!!!’

-บันทึกของชีวัน-

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel