บทย่อ
“พี่บุรินใจร้าย” เหลือบมองเห็นคนเมาเริ่มตาปรือคล้ายจะหลับแต่ยังฝืนเอาไว้ “เนตรชอบพี่ พี่ไม่รู้เหรอ” ผมว่าเธอเริ่มจะอยู่ในโลกส่วนตัวโดยที่ลืมไปแล้วมั้งว่าผมอยู่ตรงนี้ “เนตรไม่เลิกหรอก เนตรจะตามตื๊อพี่” ตาเธอหลับแต่ปากยังขยับพูด “พี่บุริน คนใจร้าย” เสียงเธอเริ่มแผ่ว “ใช่ครับ พี่เป็นคนใจร้าย” รถจอดสนิทข้างทางอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ คนที่หลับสนิท น้ำลายก้อนใหญ่ ๆ ถูกกลืนลงคอ ก่อนที่ความอุ่นวาบจะจรดลง บนริมฝีปากคนตัวเล็กที่หลับไม่รู้ตัว “เป็นผู้หญิง อย่าให้ท่าจูบผู้ชายก่อนอีกนะครับ”
ตื๊อครั้งที่ 1
ช่างเป็นเช้าที่สดใส แสงแดดอ่อน ๆ สายลมปลิวไสวเย็น ๆ กลิ่นไอน้ำค้างสูดดมแล้วสดชื่น
“วันที่ 15” มองปฏิทินที่ตั้งอยู่โต๊ะข้างเตียงนอน เห็นวงกลมสีแดงที่วงไว้หัวใจก็เต้นตุบตับขึ้นมาทันที
วันที่รอคอยมาถึงแล้ว แต่หกโมงเช้าแบบนี้ ‘เขา’ คงยังไม่มา รีบพาตัวเองลุกจากที่นอน เดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อรื้อชุดที่คิดว่าใส่แล้วต้องสะดุดตาใครต่อใคร แต่รื้อเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจสักชุด เดินกลับมาหยิบมือถือเพื่อต่อสายหาเพื่อนรักที่คิดว่าเธอต้องช่วยได้
[ขี้ไม่ออกหรือไงยะ โทร.มาแต่ตะวันแยงตูด]
เสียงเล็กแหลมของสาวประเพศสองที่เพิ่มบนเฉือนล่างออกหมดแล้วดังเข้าโสตประสาท
“ลำไส้ฉันดีย่ะ แกช่วยฉันอย่างสิ” คำแรกประชดคืน คำสองออดอ้อนด้วยเสียงที่ไพเราะเพราะพริ้ง
[ช่วยสวนก้นให้อะนะ ใสเจีย เสียใจ ฉันตัดทิ้งไปแล้ว]
โอเค ‘เนตรน้ำทิพย์’ แกต้องฮึบไว้นะ อย่าเพิ่งปรี้ดแตกกับยัย ‘นัทจี้’ เดี๋ยวนางจะไม่ช่วยเอา
“นัทจี้จ๋า~” เพื่อของที่อยากได้ฉันต้องพูดเพราะ ๆ กับนาง
[อย่ามาแหล จะให้ช่วยอะไรอีกล่ะ]
พูดแบบนี้แสดงว่ายอมแล้วสินะ
“ขอยืมชุดหน่อย”
[ชุดอะไรของชะนีมิทราบ]
“ชุดที่นัทจี้คิดว่าเพื่อนคนนี้ใส่แล้วผู้เห็นต้องมองตาไม่กะพริบอะ”
เพื่อนฉันคนนี้นางเก่งเรื่องแต่งองค์ทรงเครื่อง เสื้อผ้าตามแฟชั่นตลอดเพราะอาชีพพริตตี้พันล้านของนางค้ำคออยู่
[จีสตริงเอาปะ?]
ใครจะบ้าโทร.มายืมจีสตริง
“เร็ว ๆ เลยนะ ก่อนแปดโมงฉันต้องได้ชุดที่เลิศที่สุด”
[จ้าเจ้าแม่เอาแต่ใจ หม่อมฉันน้อมรับคำสั่งเพคะ]
ฉันกดวางสายทันทีโดยไม่สนใจนางว่าจะน้อยใจหรือไม่ เพราะคบกันมาตั้งแต่อายุสิบสี่จนตอนนี้ก็ยี่สิบห้าแล้ว รู้ไส้รู้พุงกันหมด งอนจริงแกล้งโกรธพวกเรารู้ได้
“อาบน้ำดีกว่า” จากนี้ก็แค่รอให้เพื่อนรักเอาชุดมาเสิร์ฟให้ถึงห้อง
ว่าแต่... คืนนี้ต้องหารางวัลดี ๆ ตกถึงท้องนางแล้วแหละ
“โอ๊ยยย เลิศ หุ่นสแลนเดอร์มากเพื่อนฉัน”
“ยัยนัทอย่าไปชมนางมาก เดี๋ยวก็ได้ใจ” นี่เสียงยัยนิ หรือนิรมลเพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคน
“อิจฉาเนตรเหรอคะนิรมล” ฉันแกล้งทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่เจ้าของคลินิกเสริมความงามที่มีหลายสาขาทุกภูมิภาค
“อิจฉาความสวย แต่นิสัยเอาแต่ใจเพลาได้ก็เพลานะเพื่อนรัก เห็นไหม ฉันต้องถูกยัยนัทไปปลุกถึงห้องตอนหกโมงสี่สิบ แล้วต้องถ่อสังขารมาช่วยแกแต่งตัวเพื่อผู้ตอนเจ็ดโมงครึ่งอีก ร่างจะพัง ตีนกาขึ้นแล้วมั้ง”
นิรมลคือคู่ปรับฉันยิ่งกว่านัทจี้เสียอีก รายนี้เวลาพูดคือร่ายยาว แต่เวลาไม่พูดคือนิ่งเหมือนเป่าสาก
“เดี๋ยวถ้าวันนี้แกทำฉันเด็ด เผ็ด แซ่บ! จนคนนั้นตะลึง คืนนี้จะพาไปแดนซ์ให้ลืมตีนกาไปเลย”
รีบเข้าไปออดอ้อนเพื่อนรักด้วยการนั่งตรงกลางแล้วโอบกอดพวกนางซ้ายขวา
“คิดว่ารวยแล้วเอาเงินฟาด?” นัทจี้แซะ
“เปล่า อย่างแกต้องฟาดด้วยผู้” ขยิบตาหวานอย่างรู้ใจใส่เธอ
“อร้ายยย ถูกใจนัทจี้ที่สุด คืนนี้ขอ 3P นะแก”
สามพงสามพีอะไรของนางฉันไม่ถนัดเรื่องนี้
“กลับไปอ่านโดจินแกเถอะ” ยัยนิรีบเบรกก่อนจะล้มตึงลงนอนบนที่นอนฉัน
“นางหลับจริง?” นัทจี้มองอย่างทึ่งความสามารถของยัยนิที่หัวถึงหมอนปุ๊บหลับไม่สนใจรอบข้าง
“แกยังไม่ชิน?” ฉันว่าควรชินนิสัยนี้ของเพื่อนตัวเองได้แล้ว
“งั้นฝากศพนางไว้ที่นี่แล้วกัน แกก็ไปส่งนางด้วยเพราะนางไม่มีรถ”
“อ้าว แกจะไปไหน”
“ฉันมีงานตอนเก้าโมงเช้า”
“แล้วไม่บอกฉันล่ะ” รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่โทร.ไปปลุกนางให้เอาชุดมาให้แบบนี้
“สำนึกผิดเลยค่ะ สำนึกเยอะ ๆ ฉันไปละ คืนนี้ค่อยออกล่าเหยื่อกัน”
เห็นเพื่อนยิ้มให้แบบนี้ก็รู้แล้วแหละว่านางเต็มใจที่จะทำให้
“ขับรถดี ๆ นะแก”
“ไปรอผู้แกเถอะ อย่าหน้างอเดี๋ยวไม่สวย”
นัทจี้ขยิบตายิ้มหวานให้ก่อนโบกมือลา ส่วนฉันก็แค่รอเวลาให้คนที่รอคอยมาหลายปีมาที่บ้านในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
นิ้วน้อย ๆ เคาะประตูห้องนอนส่วนตัวที่อยู่ตรงข้ามกับฉันอย่างรัว ๆ
“พี่น่าน ตื่นยังคะ” เคาะก็แล้ว ตะโกนถามก็แล้ว ไม่เห็นเจ้าของห้องตอบกลับมาสักนิด
“พี่น่าน ถ้าไม่ตอบเนตรบุกนะ” ขู่เสียงแข็ง
“คุณน่านไม่อยู่หรอกค่ะ” สาวใช้คนหนึ่งเดินผ่านมาพอดีเอ่ยขึ้น
“ไม่อยู่? ไปไหน”
นาฬิกาเรือนหรูสีเงินถูกยกขึ้นมาดูเวลา เก้าโมงสิบนาที เวลานี้คนที่ฉันเคาะเรียกรวมถึงคนที่ฉันเฝ้ารอต้องอยู่ที่ห้องโถงแล้ว แต่กลับไม่มีใครโผล่มาสักคน
“คุณน่านออกไปบริษัทตั้งแต่ตีห้าแล้วค่ะ”
ตีห้า!
“พี่น่านไม่อยู่บ้านตั้งแต่ตีห้า!?”
“ค่ะ เห็นบอกไปรับเพื่อนที่สนามบิน”
ต้องเป็นเขาแน่ ๆ “พี่น่านนะพี่น่าน!”
ปากบ่นให้คนที่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ก่อนจะก้าวขายาว ๆ ที่อยู่ใต้ชุดเดรสยาวสีแดงเดินด้วยอารมณ์บูดบึ้งกลับห้องตัวเอง
“ยัยนิ ตื่น!” กลับมาอีกครั้งเพื่อนฉันก็ยังไม่ตื่น
ปลุกวิธีธรรมดาไม่ได้ผลกับนิรมลคนงามหรอกนอกจาก...
“น้องข่ายมา~”
“น้องข่าย น้องข่ายแม่มา”
หึ วิธีนี้ได้ผลจริง ๆ นิรมลรีบลุกขึ้นหันซ้ายหันขวาใบหน้าแตกตื่นมองหาคนที่ฉันหลอกนาง
“ยัยเนตร!” พอรู้ตัวว่าถูกฉันหลอกเธอก็ทำหน้าบึ้งจะกินหัวฉันขึ้นมา
“แกปลุกฉันที่กำลังจะได้เปลี่ยนสถานะจากแม่ยกเป็นเมียน้องข่ายหมด” แล้วดูนางทำหน้าเหมือนโลกจะถล่มที่ไม่ได้กินเด็กในความฝัน
“แกเลิกมโนได้แล้ว ป่านนี้น้องข่ายแกมีลูกมีเมียไปแล้ว”
น้องข่ายที่เพื่อนนิฉันพร่ำเพ้อคือน้องสมัยเรียนมหาลัยตอนพวกฉันอยู่ปีสุดท้าย น้องเขาน่ารักนะ เหมือนดาราต่างประเทศเลย ผิวขาว ใบหน้าหวานบวกหล่อคม แถมเวลายิ้มออกมาสาวละลายกองแทบเท้า แล้วมีอยู่วันหนึ่ง น้องข่ายเดินมาบอกว่าสเปกที่ชอบคือเพื่อนนิรมลของฉัน ตั้งแต่นั้นมา พวกเขาก็กุ๊กกิ๊ก กระหนุงกระหนิงกันจนน้องเขาบินกลับไปอยู่กับพ่อที่เมืองนอกเพราะพ่อแม่หย่ากัน
เฮ้อ! พูดมาแล้วก็สงสารเพื่อนฉันนะ เกือบจะได้เคี้ยวเด็กกลายเป็นอมตะแล้วเชียว