บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

ฉันเผลอสตั๊นไปหลายนาทีเลยทีเดียว พอเห็นหน้าเหวอๆ ของฉันพี่เขาก็ถึงกับหัวเราะออกมาดังลั่น

“มุขนี้ของพี่จดลิขสิทธิ์ป่ะเนี่ย”

“มันดีใช่มั้ยล่ะ” พี่เขาถามยิ้มๆ ขณะเอื้อมมือมารับเหรียญจากฉันที่นับครบจำนวนค่าโดยสารแล้ว

“หนูขอยืมไปเล่นกับเพื่อนหน่อยนะ” แม้ว่าจะเก็ตมุขช้าไปหน่อยแต่ฉันก็ยอมรับมามันกวนดี ถ้าเอาไปเล่นกับคนที่ไม่สนิทคงมีเหตุการณ์เอาเท้าเสยปากกันบ้างแหละ

หลังจากที่จ่ายค่าโดยสารเสร็จฉันก็เปิดประตูเข้าบ้านของตัวเอง พี่วินมอเตอร์ไซค์เองก็ขับรถออกไปไกลแล้ว ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมฉันถึงกล้าเล่นกับคนแปลกหน้า เพราะนิสัยส่วนตัวของฉันค่อนข้างจะเข้ากับทุกคนได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กพึ่งเกิดยันศพที่นอนในโลง

พ่อเคยเล่าให้ฟัง ว่าท่านเคยพาฉันในตอนที่เป็นเด็กน้อยไปงานศพคนสนิท แล้วฉันดันเดินไปนั่งคุยกับโลงศพอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทุกคนในงานต่างพากันกลัว เพราะนึกว่าฉันเห็นผี แต่จริงๆ คือไม่ใช่หรอก ฉันแค่เหงาปาก อยากฝอย และตั้งแต่นั้นมาพ่อก็ไม่เคยพาฉันไปเหยียบงานศพใครอีกเลย

แต่ช่างเรื่องในอดีตของฉันดีกว่า เรื่องปัจจุบันแซ่บซี๊ดกว่าเยอะเลย

“คนสวยกลับมาแล้วจ้าาาาา~” เวลากลับถึงบ้านทีไรฉันมักจะพูดแบบนี้เสมอ

“เงียบๆ” แล้วก็จะโดนพี่แบล็คดุแบบนี้ประจำ พี่แบล็คก็คือพี่ชายของฉันเอง เป็นขาโหดประจำบ้านที่หน้าตาหล่อแบดบอย อีกทั้งยังเปิดร้านสักเป็นอาชีพเสริมในระหว่างเรียนมหา’ลัยด้วย

“อย่าดุน้อง น้องกลัว” ฉันแกล้งเบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้ ดวงตาคมของพี่แบล็คตวัดมามอง ก่อนที่พี่เขาจะส่ายหน้าไปมา

“อีกสองอาทิตย์มีสอบกลางภาคไม่ใช่เหรอ รีบขึ้นไปอ่านหนังสือสิ” นี่ไง เอะอะๆ ก็ไล่ให้ฉันไปอ่านแต่หนังสือ พี่แบล็คไม่รู้บ้างหรือไงว่าหนังสือเรียนก็เปรียบเสมือนยานอนหลับ ไม่เอาหรอก ฉันยังไม่อยากนอนตอนนี้

“ระดับนี้แล้วไม่ต้องอ่านให้เสียเวลาหรอกพี่แบล็ค”

“ทำไม? สอบผ่านแน่ๆ งั้นสิ” พี่แบล็คย้อนถาม พลางเลิกคิ้วขึ้นสูง นี่พี่เขาเป็นพี่ชายฉันจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย ทำไมช่างไม่รู้เลยว่าน้องสาวตัวเองเรียนเป็นยังไง

“ไม่ติดศูนย์ก็ให้มันรู้ไปสิ ฮ่าๆๆๆๆ” ฉันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น พี่แบล็คถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยใจ จริงๆ แล้วผลการเรียนของฉันถือว่าค่อนข้างเอนเอียงไปทางไม่เอาไหน

ฉันเป็นผู้หญิงประเภทสวยใสไร้สมอง เพื่อนหลายคนว่าฉันมาแบบนี้ แต่ฉันก็หน้าหนาพอที่จะไม่แคร์คำพูดเหล่านั้น เราโง่ก็โง่ที่ตัวเรา ไม่ได้ไปนั่งโง่บนหัวใครสักหน่อย

แม่นบ่ล่ะ?

“จริงจังบ้างนะไวท์ อยู่มอห้าแล้วนะ เดี๋ยวก็ขึ้นมอหกแล้ว ถ้ายังมัวแต่เล่นๆ เรียนๆ แบบนี้จะสอบเข้ามหา’ลัยติดได้ยังไง”

คำพูดของพี่แบล็คที่พูดออกมาอย่างยาวเหยียดทำให้ฉันแทบอยากจะวิ่งเข้าไปในครัวแล้วหยิบมีดมาแทงตัวเองซ้ำๆ มันจุกและเจ็บปวดไปถึงขั้วหัวใจทั้งห้องซ้ายและห้องขวา

แม้ว่าพี่แบล็คจะดูท่าทางไม่เอาไหน แต่พี่เขาก็ค่อนข้างเรียนเก่งมากเลยทีเดียว

“พูดมาซะขนาดนี้กระโดดถีบหน้าหนูเลยเถอะ” ฉันพูดประชดประชันเล่นๆ ไม่ได้จริงจัง แต่พี่แบล็คนี่สิ ตั้งท่าจะกระโดดเข้าหาฉันอยู่แล้ว

“น้องขอมางั้นพี่จัดให้”

“เดี๋ยว!! หนูพูดเล่น” ฉันรีบขยับถอยห่าง และร้องห้ามพี่แบล็คเสียงดัง รอยยิ้มร้ายกระตุกขึ้นที่มุมปากหนาของพี่เขา

“พี่ไปดูร้านละ ไวท์อย่ามัวแต่เล่น ทำตามที่พี่บอกซะไม่งั้นจะฟ้องพ่อ”

ได้ทีแล้วขู่ใหญ่เลยนะ ก็แค่พ่อ คิดว่าฉันกลัวเหรอ?

“จะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ใช่...ฉันกลัว พ่อของฉันเป็นบุคคลที่ไม่น่าเล่นด้วย ถ้าหือกับพ่อเมื่อไหร่ มีหวังวันดีคืนดีพ่อคงเอาตัวอะไรต่อมิอะไรมาปล่อยในห้องฉันแน่ๆ

มันเคยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอยู่ครั้งหนึ่ง ก็คือว่าพี่แบล็คชวนเพื่อนมากินเหล้าที่บ้านแล้วไม่ยอมเก็บอะไรให้เรียบร้อย พอทุกคนเมาก็พากันเข้าไปนอนสลบไสลอยู่ในห้องของพี่แบล็ค เมื่อพ่อกลับมาแล้วเห็นว่าสภาพบ้านตัวเองเละเทะพ่อก็จัดเลยให้เลย

ท่านเดินไปขอยืมงูที่บ้านข้างๆ เลี้ยงเอาไว้มาปล่อยในห้องของพี่แบล็ค คืนนั้นทั้งคืนทุกคนที่นอนอยู่ในห้องก็เลยถูกงูเลียปากกันถ้วนหน้า

แต่งูตัวนั้นไม่มีพิษหรอก มันน่าร๊ากกกก

“ดี ถ้าพ่อรู้ว่าไวท์ดื้อในห้องอาจจะไม่ได้มีแค่งู” พี่แบล็คพูดขู่ฉันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างสูงของพี่เขาจะเดินออกจากบ้านไป

ฉันรับปากไปอย่างนั้นแหละ แต่พอขึ้นมาบนห้องฉันก็นอนเล่นเกมอยู่ดี

ฉันเป็นคนที่ติดเกม และที่สำคัญคือติดผู้ชายด้วย เปิดไมค์วนไปค่ะ...

-หลายวันผ่านไป-

เมื่อไม่กี่วันที่แล้วฉันพึ่งจะสอบกลางภาคเสร็จ วันนี้ก็เป็นวันที่ผลคะแนนออกพอดี ฉันมายืนชะเง้อคอมองอยู่ตรงบอร์ดหน้าห้องประชุม ไม่ต้องมองไล่สายตาให้เสียเวลา เพราะยังไงอันดับของฉันมันก็อยู่เกือบสุดท้ายเหมือนเดิม

คนที่สอบได้คะแนนอันดับสุดท้ายก็คือลอเรียล ส่วนอันดับรองลงมาก็คือไวโอ ถือว่ายังโชคดีหน่อยที่อย่างน้อยฉันก็ได้รองอันดับสามของที่สุดท้าย

รู้ถึงไหนก็อายถึงนั่น

“ไปลงทะเบียนซ่อมกันเลยป่ะ” พวกเราทั้งสามคนเดินคอตกกันออกมา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความฉิบหายอยู่ที่นั่น ถึงแม้ว่าเราทั้งสามจะพากันอ่านหนังสือและติวกันแทบเป็นแทบตายแต่ยังไงผลมันก็ออกมาเป็นเหมือนเดิม

ทั้งกลุ่มของฉันไม่มีใครเรียนเก่ง มันก็เลยไม่แปลกที่จะเป็นแบบนี้ คนอื่นสุมหัวติวหนังสือเพื่อช่วยกันให้สอบผ่าน แต่สำหรับพวกเราสุมหัวติวเพื่อให้สอบตกเป็นเพื่อนกัน

บันเทิงจังเลยเนอะชีวิตพวกฉัน

“สอบตกอีกแล้วเหรอสโนว์ไวท์” เสียงพูดเยาะเย้ยถูกเปล่งออกมาจากปากบางของคู่อริฉัน เธอมีชื่อว่าโซเฟีย

“อืม” ฉันยอมรับออกไปง่ายๆ และนั่นมันก็ทำให้เธอหัวเราะเยาะฉันออกมาทันที

“เส้นตื้นเนอะ แค่นี้ก็ขำ” ไวโอพูดพลางเบะปากและกรอกตาไปมา เสียงหัวเราะของโซเฟียหยุดลง ดวงตากลมโตของเธอจ้องมาที่ฉันอย่างจิกกัด

“ก็แบบนี้แหละนะ วันๆ เอาแต่วิ่งไล่ตามผู้ชาย คะแนนสอบมันก็เลยออกมาแบบนี้แหละ!”

คนเรียนเก่งก็ใช่ว่าจะเพอร์เฟ็กต์ เพราะจากคำพูดคำจาของโซเฟียมันทำให้ฉันรู้ว่าคนเก่งก็มีสมองที่ต่ำช้าได้เหมือนกัน

เก่งแล้วโชว์เหนือ คอยเหยียบย่ำคนอื่นที่ด้อยกว่าจนจมดิน แบบนี้มันไม่ใช่พฤติกรรมที่ดีเท่าไหร่หรอกนะ

“แล้วฉันไปวิ่งตามผู้ชายบนหัวเธอเหรอ” ฉันย้อนถามกลับเสียงนิ่ง

“นี่เธอ!!”

“โอ้ยหนวกหู!!” พวกเราทั้งสามคนผสานเสียงกันออกมาอย่างพร้อมเพียง นิ้วชี้ทั้งสองข้างก็ยกขึ้นอุดหูของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะเดินชนไหล่ของโซเฟียเพื่อออกมาจากตรงนั้น

“สวยไม่เท่าอย่าเห่าดัง” แต่ก่อนจะไปฉันก็ได้หันไปแซะเธอเล็กน้อย โซเฟียอ้าปากพะงาบๆ เหมือนจะด่า แต่พวกฉันก็ชิ่งหนีออกมาจากตรงนั้นซะก่อน

หลังจากที่ลงทะเบียนซ่อมและจัดการอะไรเรียบร้อยพวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ฉันเดินเข้าบ้านมาด้วยอาการเหงาหงอย คอตกจนแทบจะชิดอยู่ที่อก

“ฉันนี้ไม่ตระโกนว่าคนสวยกลับมาแล้วหรือไง” พี่แบล็คที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่เอ่ยทักขึ้นมา

“ถ้าบอกอะไรไปจะโกรธหนูมั้ย” ฉันเดินเข้าไปนั่งข้างๆ พี่เขา พร้อมกับถามอย่างหยั่งเชิง

“โกรธ”

นี่ขนาดฉันยังไม่ทันพูดบอกอะไรเลยนะ วอนพี่แบล็คได้โปรดใจเย็นๆ

“ยังไม่ทันพูดเลย”

“ไวท์สอบตกใช่มั้ยล่ะ” พี่แบล็คย้อนกลับมาทันควัน พี่ชายฉันนี่ฉลาดใช่เล่นเลยนะ

“รู้ได้ไง” คิ้วของฉันขมวดเข้าหากันอย่างงงงวย

“สายรายงานมา” สายที่พี่แบล็คหมายถึงก็คงจะเป็นเด็กในโรงเรียนที่สนิทกับพี่แบล็คนี่แหละมั้ง หูตาไวยิ่งกว่าสับประรด

“หนูพยายามแล้วนะพี่แบล็ค แต่เรียนเท่าไหร่มันก็ไม่เคยเข้าหัวหนูเลย” ฉันโอดครวญอย่างน่าสงสาร เพราะมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเรียนไม่รู้เรื่องต่อให้อ่านหนังสือสอบแทบตายยังไงมันก็ไม่รู้เรื่อง

“งั้นเดี๋ยวพี่จะหาครูสอนพิเศษเก่งๆ ให้” แค่ได้ยินคำว่า ‘ครูสอนพิเศษ’ ฉันก็แทบจะเอาหัวโหม่งพื้นตายแล้ว

“ขอผู้ชายหล่อๆ นะ” ฉันบอกจุดประสงค์ของตัวเองให้พี่แบล็ครับรู้ ก่อนหน้านี้พ่อก็เคยหาครูสอนพิเศษมาให้ แต่แบบ...เป็นผู้ชายตัวแห้งๆ ใส่แว่นหนาเตอะ ผมนี่เรียบแปล้จนฉันสงสัยว่าวันๆ หนึ่ง เขาใช้เจลทาผมครั้งละกี่กระปุก

“เออ เดี๋ยวจัดให้”

ฉันไม่รู้ว่าพี่แบล็คพูดจริงหรือพูดเล่น แต่ถ้าได้ก็ดี…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel