บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 บังเอิญ

ผมขับรถมาตามทางที่กราฟบอกจนมาจอดสนิทอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง บ้านไม้สไตล์วินเทจสีขาวทั้งหลัง มีต้นดอกแก้วเจ้าจอมอยู่หน้าบ้านกำลังออกดอกสะพรั่งเลย ทันทีที่ผมลดกระจกลงกลิ่นหอมของดอกแก้วเจ้าจอมก็เตะจมูก จะว่าหอมก็หอมอยู่แต่ก็แอบหลอนเบา ๆ

"ขอบคุณนะคะ"

"ไม่เป็นไรครับ คุณกราฟครับ"

"คะ?"

"คือเรื่องเมื่อกี้ผมขอโทษนะครับ"

"อ๋อ… ไม่เป็นไรค่ะ ขับรถกลับบ้านดี ๆ นะคะ" เธอหันหลังเดินเข้าบ้านทันทีที่เอ่ยบอกผม ผมไม่อาจเดาได้เลยว่าเธอรู้สึกยังไง หรือเสียใจไหม โธ่เอ๊ย! ปวดหัวชะมัดเลยกู ทำเหี้ยอะไรลงไปวะเนี่ย แล้วผมก็สลัดภาพตอนอยู่บนรถออกไปไม่ได้ด้วยนะ ความรู้สึกและความนุ่มของริมฝีปากเธอยังติดอยู่ที่ริมฝีปากผม ให้ตายเถอะไอ้พีท!! ผมได้แต่สบถคำด่าตัวเองในใจ

สองวันต่อมา

วันนี้ผมมีเวรเช้าครับ ก่อนเข้างานก็แวะซื้อกาแฟหน่อย แต่พอเปิดประตูเข้ามาในร้านก็ต้องชะงัก กราฟยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์กำลังจะหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์จ่ายค่ากาแฟ มาถึงตอนนี้ก็กลับตัวไม่ทันแล้วไหมวะ

"อ้าวคุณกราฟ" ผมฉีกยิ้มกว้างสุดในชีวิตแล้วเดินไปหาเธอทำตัวปกติสุด ๆ

"สวัสดีค่ะหมอพีท วันนี้มีเวรเช้าเหรอคะ" เธอถามผมด้วยรอยยิ้มสดใจ เห็นกันตอนกลางวันมันก็แปลกไปอีก วันนี้ผมได้เห็นหน้าเธอแบบชัดแจ๋วแล้ว และเธอก็คงคิดเหมือนกันกับผม

"ครับ เลยแวะมาซื้อกาแฟหน่อย ไหน ๆ เจอกันแล้วผมขอเลี้ยงกาแฟคุณกราฟเลยแล้วกัน" ผมไวกว่าเธอ รีบยื่นเงินให้พนักงานพร้อมสั่งกาแฟของตนเองไปแก้วหนึ่ง

"เกรงใจค่ะ"

"ไม่ต้องเกรงใจครับ"

"งั้นกราฟ… ขอบคุณหมอพีทนะคะที่เลี้ยงกาแฟแต่เช้าเลย" ผมยิ้มให้กราฟเล็กน้อย

"จริง ๆ เรียกพีทเฉย ๆ ก็ได้นะครับ"

"ติดปากเรียกหมอพีทไปแล้วทำไงดีคะ" อา… รอยยิ้มนั้นหมายความว่ายังไงเนี่ย ผมพยักหน้าอนุญาตให้เธอเรียกแบบเดิม

"เอาที่คุณกราฟถนัดแล้วกัน งั้มขอตัวก่อนนะครับ" เมื่อได้กาแฟที่สั่งแล้วผมก็เดินออกมาจากคาเฟ่ ทันทีที่ตัวผมก้าวเข้ามานั่งในรถก็ถอนหายใจออกยาว ๆ ให้ตานสิวะ ใครจะไปลืมเรื่องวันนั้นได้ แม้เธอจะทำตัวปกติแต่ผมเนี่ยมันไม่ปกติเลย ยิ่งเห็นหน้ากราฟภาพวันนั้นก็ยิ่งฉายชัดในหัว ทั้งเสียงครางเธออีก "อา!! ไม่เอาแบบนี้" ผมเหลืบตามองแก้มกาแฟที่เพิ่งซื้อมาก่อนจะยกขึ้นมาจิบเล็กน้อยแล้วขับรถไปโรงพยาบาล วันนี้ผมมีคนไข้สองรายที่ต้องตรวจ พอช่วงบ่ายก็ว่างแต่เอกสาบางอย่างก็ต้องเคลียร์เยอะเหมือนกัน

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมที่กำลังขมวดคิ้วเป็นปมกับงานเอกสารรีบคลายสีหน้าแล้วเงยขึ้นมองคนที่เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงาน

"อ้าวพี่ ไม่ได้ออกไปกินข้าวกับหมอใหม่เหรอ"

"กูว่างมั้ง!" ผมกระแทกเสียงใส่ไอ้เบญ อยากตบกบาลมันสักทีสองที ครั้งที่ไปผับยังไม่ได้เคลียร์กับมันเลย หายหัวไปเลยไอ้น้องเวร!

"มองค้อนผมแบบนั้นหมายความว่า?"

"หมายความว่าหลังจากที่กูเคลียร์งานเสร็จมึงโดนกระทืบครับ"

"เอ้า… งั้นผมลา" ว่าจบมันก็ยกมือไหว้ผมแล้วใส่เกียร์หมาวิ่งหายไปเลย แม่! ไอ้น้องเวร ผมส่ายหน้าไปมาอย่างยิ้ม ๆ แล้วทำงานต่อแต่สายตากลับเหลือบเห็นแก้วกาแฟ จริงอย่างที่เขาบอก ของบางสิ่งบางอย่างมันสามารถทำให้ความรู้สึกและภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นกลับมาได้และผมเป็นอยู่ พอนึกถึงกราฟผมก็รีบยกมือขึ้นแตะริมฝีปาก

"อา! ให้ตายสิวะ" ลำพังงานก็ยุ่งพอแล้ว ในหัวยังจะคิดเรื่องทะลึ่งอีกนะไอ้พีท… ผมได้แค่พรูลมหายใจออกหนัก ๆ แล้วทำงานต่อจนเสร็จแล้วขึ้นตรวจคนไข้ต่อเลย เป็นหมอมีเงินเดือนเยอะก็จริง แต่จะตายก่อนใช้เงินไหมไม่รู้นะ มาเถอะครับ มาเป็นแฟนหมอเถอะเดี๋ยวพี่จะเปย์เอง

ผมตรวจคนไข้ของผมเสร็จก็เดินลงมาที่เคาน์เตอร์เพื่อเก็บแฟ้มงาน พยาบาลสาวสวยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้แต่ไม่ได้สนใจ ผมกลับไปที่ห้องพักแพทย์เพื่อจัดการกับแซนด์วิชทูน่าที่ซื้อติดมือมาเมื่อเช้านี้ ระหว่างที่ผมนั่งกัดแซนด์วิชอยู่ เสียงแจ้งเตือนไลน์ก็ดังขึ้น

"ใครวะ" ผมถามตัวเองก่อนจะเปิดอ่านข้อความนั้น แซนด์วิชในปากแทบพุ่งเมื่อเห็นโปรไฟล์คนคนนั้น "กราฟ! เฮ้ย… เอาจริงเหรอวะ" ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิ ว่าให้นามบัตรเธอไปมันเป็นเรื่องดี (?) ตอนนี้เธอแอดไลน์มาหาและส่งข้อความทักทายสั้น ๆ มาว่า

'สวัสดีค่ะหมอพีท'

ผมอ่านข้อความนั้นพลางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก่อนจะตอบกลับไปและกดเพิ่มเธอเป็นเพื่อนในไลน์ ปกติผมไม่ได้ให้นามบัตรใครง่าย ๆ หรอกครับถ้าไม่จำเป็น แต่ให้กราฟมันเป็นเรื่องจำเป็นเหรอวะ ตอนนี้เหมือนสมองซีกซ้ายและซีกขวากำลังทะเลาะกันเลย

"พี่!"

"ไอ้เหี้ย…" ผมตกใจไอ้เชี่ยเบญจนเผลอโยนโทรศัพท์ขึ้น ดีที่รับไว้ทัน "มีไรวะ มึงนี่นะ" ผมคาดโทษมันทางสายตาแล้วกดปิดหน้าจอ

"ผมจะชวนพี่ไปนั่งร้านหน่อยน่ะ ว่างแล้วหนิ" มันกวาดสายตามองห้องทำงานผมอย่างเสียมารยาท ถ้าเลิกคบมันผมก็ไม่มีเพื่อนแล้วครับ ไม่มีใครไว้ใจได้เท่ารุ่นน้องคนนี้แล้ว แต่เป็นประเภทแบบ… ด้วยรักและหักหลัง

"ไปดิ"

"อะไรเนี่ย นั่งกินแซนด์วิชโง่ ๆ นี้ได้ไง"

"ขอสักทีได้ไหม" ผมไม่รอช้าที่จะวาดฝ่ามือไปโบกกบาลไอ้เบญ "หมั่นไส้ว่ะ"

"อ๋อยพี่! ตบหัวผมทำไมเนี่ย"

"รำคาญ"

"พี่รู้ป่ะ วันนี้พี่กราฟมาโรงพยาบาลด้วยนะ"

"แล้วไงวะ"

"เอ้า! ก็เขามาหาหมอแหละพี่ เขาถามหาพี่ด้วยนะ"

"… เหรอวะ" จะไม่สนใจแล้วเชียว พอบอกว่าเธอถามถึงผมเท่านั้นแหละ เท้ามันหยุดชะงักเองอัตโนมัติเลย ผมเอียงคอมองไอ้เบญแต่ไม่ได้โฟกัสที่หน้ามันนะ โน้น… สายตาผมมองเลยไปด้านหลังมันโน้น

"พี่ พี่พีท ฮัลโหล… เฮ่!"

"เออ" ผมดึงสายตากลับมาโฟกัสที่หน้าไอ้เบญ

"เหม่ออะไรก่อน แค่บอกว่าพี่กราฟถามหาเอง แหม…"

"กูมีคำถาม"

"ว่ามา"

"ใครตั้งชื่อเล่นให้มึงวะ"

"พ่อแม่ผมไง"

"เบญ?"

"เออ ผมก็งงนะพี่ เบญ ทำไมต้องเบญ ทั้งที่ผมเป็นผู้ชาย" เออ! กูก็สงสัยไม่ต่างจากมึงหรอก

"แต่กูจะเปลี่ยนให้เอาไหม"

"เปลี่ยนว่า"

"ส้น…ีน"

"โห! แรงอะพี่พีท เดี๋ยวผมจะฟ้องสาว ๆ ว่าหมอพีทไม่อ่อนโยนอย่างที่เห็น" อยากจะขำให้ฟันร่วง ใครว่าหมอพีทอ่อนโยนวะ บุคลิกภายนอกอาจจะดูเป็นคนอ่อนโยนแต่ขอบอก ผมก็คนถ่อยคนหนึ่งเนี่ยแหละ ไม่ได้ดีเด่มาจากไหนหรอก อาจจะด้วยเวลางานต้องสำรวมและพูดคุยกับคนไข้อย่างสุภาพมั้ง เลยทำให้คนอื่นมองว่าผมอ่อนโยน

"พูดมากนะไอ้ส้น… ีน" ขออภัยที่ผมหยาบคาย มันน่าจริง ๆ ไอ้น้องคนนี้

"พี่~ ขอร้องล่ะ อย่าหาเรียกแบบนี้" ไอ้เบญมันเดินตามหลังผมต้อย ๆ เร่าหรือให้ผมหยุดเรียกมันแบบนั้น ผมรีบเดินออกมาให้ห่างจากไอ้เบญที่กระเง้ากระงอดเหมือนเด็ก เราสองคนตกลงกันไว้ว่าไปร้านที่ผมเสนอคือคาเฟ่ที่ลับซึ่งไม่ค่อยมีคนรู้จัก พอมาถึงสิ่งแรกที่น้องผมทำคือเช็กอิน แถมยังกอดคอผมไปถ่ายรูปอีก ประหนึ่งว่าผมเป็นรุ่นน้องมัน พอได้กาแฟที่สั่งแล้วผมกับเบญก็เดินไปหลังร้านที่เป็นสวนหย่อมเล็ก ๆ บรรยากาศร่มรื่นดีมากครับ

"อ้าวพี่กราฟ!" เสียงของเบญที่เอ่ยเรียกคนคนหนึ่งทำให้ผมที่สนใจต้นไม้ใบหญ้าอยู่รีบหันไปมอง

"คุณกราฟ…"

ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือพรหมลิขิต… ที่ทำให้ผมเจอเธออีกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel