4 จุดเริ่มต้นของเรา
โรงพยาบาลที่สามีครูมังคุดเข้ารับการรักษาอยู่ไกลมาก และต้องขับรถข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียว แต่สุดท้ายไพลอทก็ขับรถพาครูมังคุดเข้ามาเยี่ยม และฟังอาการของสามีเธอโดยสวัสดิภาพในท้ายที่สุด
"การผ่าตัดที่สมองอย่างไรก็มีความเสี่ยงนะครับ หมอไม่อาจจะการันตีผลได้ แต่จะทำให้ดีที่สุด"
"แต่ถ้าไม่ผ่าเนี่ยโอกาสรอดก็เท่ากับศูนย์เลยครับ" คำพูดของหมอทำเอาใจหาย
"อย่างนั้นผ่าเลยค่ะหมอ ผ่าเลย เสี่ยงแค่ไหนก็ยอมแล้ว" ครูมังคุดพยักหน้าทั้งน้ำตา หลังจากที่ได้ฟังอาการของสามีที่ถูกส่งเข้าห้องไอซียูแล้ว
"งั้นเดี๋ยวญาติคนไข้เซ็นเอกสารยินยอมให้ผ่านะครับ แล้วหลังจากผ่าตัดหมอจะมาแจ้งอาการให้อีกที"
"เคสนี้ประกันของทางบริษัทจ่ายให้เต็มจำนวนเลย ไม่ต้องห่วงนะครับ ทางโรงพยาบาลจะดูแลอย่างดีที่สุด" หมอพูดทิ้งท้ายเอาไว้เพียงแค่นั้น ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องไอซียูพร้อมกับทีมผ่าตัดชุดใหญ่
ในระหว่างที่นั่งรอการผ่าตัด หลังจากที่ครูมังคุดเริ่มตั้งสติได้มากขึ้น ท่านก็รีบหันมาหาเด็กนักเรียนทั้งสองคนทันที
"กลับกันไปเถอะลูก ดึกแล้วและที่นี่ก็ไกลจากกรุงเทพด้วย"
"ครูต้องขอบใจทั้งสองคนมากเลยนะ เพราะถ้าลำพังครูขับมาคนเดียวคงไม่ถึงแน่ ๆ เลย" เธอพูดพลางลูบที่อกด้านซ้ายบริเวณหัวใจของตัวเอง ด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
"ใจมันหวิว ๆ ไปหมดเลย"
"ไม่เป็นไรนะคะครู สามีครูต้องปลอดภัยค่ะ" เพียงฟ้าโผเข้ากอดคุณครูของเธอเอาไว้แน่น
"นี่ก็ดึกมากแล้ว พ่อแม่พวกหนูจะว่ารึเปล่าเนี่ย" ครูมังคุดก้มมองดูนาฬิกาข้อมือตัวเอง แล้วถอนหายใจอย่างเป็นห่วงลูกศิษย์ทั้งสองคนที่อุตส่าห์ขับรถพาเธอมาส่งถึงที่นี่เลย
"ผมไม่มีปัญหาเลยครับ" ไพลอทตอบกลับเสียงเรียบ
"ฟ้าก็ไม่มีปัญหาค่ะ ส่งข้อความขออนุญาตที่บ้านแล้วค่ะ" เพียงฟ้าบีบมือของครูเบา ๆ
"งั้นก็รีบกลับกันไปเถอะลูก เดี๋ยวมันจะดึกกว่านี้"
"ไพลอท ครูวานขับรถไปส่งฟ้าให้ครูทีนะ"
"ได้ครับ" ร่างสูงขานรับทันทีโดยไม่มีท่าทีลังเลใด ๆ
"....." เพียงฟ้าเหลือบไปมองทางเขาเล็กน้อย แต่ถ้าไม่กลับกับเขาก็ไม่มีรถกลับคอนโดแล้วเหมือนกัน
"ครูเชื่อใจไพลอทนะ ฝากเพียงฟ้าของครูด้วย"
"ไม่ต้องห่วงครับ"
"ฟ้าขอให้สามีคุณครูหายดีไว ๆ นะคะ แล้วครูก็หาเวลาพักบ้างนะคะ"
"จ้ะ ขอบใจนะ" ครูมังคุดเดินออกมาส่งเด็ก ๆ ถึงลานจอดรถ ก่อนจะรีบเดินกลับเข้าไปในโรงพยาบาลต่อทันที
บนรถของไพลอท
"รบกวนด้วยนะคะ" เพียงฟ้าเอ่ยขึ้นด้วยความเกรงใจ เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าบ้านของไพลอทอยู่แถวไหน และไกลจากที่คอนโดของเธอมากหรือเปล่า
"ไม่ต้องเกรงใจน่า ต่อให้บ้านฟ้าอยู่เชียงใหม่ พี่ก็ขับไปส่งฟ้าได้" เขาหันมาบอกกับเธอ พร้อมกับช่วยดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้
"เวอร์ไปค่ะ" เพียงฟ้าหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อยกับมุกของคนตรงหน้า
"....." ไพลอทมองดูรอยยิ้มของเธอแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้เช่นกัน
"แล้วบ้านเราอยู่ไหน"
"จริง ๆ บ้านฟ้าอยู่ชานเมืองน่ะค่ะ แต่ว่าคอนโดอยู่ในกรุงเทพ" เพียงฟ้าตอบพร้อมกับกดตั้งโลเคชันในโทรศัพท์ของเธอและยื่นให้กับเขา
"อ๋อครับ งั้นฟ้าส่งโลเคชันเข้าไลน์โทรศัพท์พี่ดีกว่านะ พี่จะได้เปิด GPS ในรถนำทางไปเลย" ไพลอทเปิดหน้าจอโทรศัพท์ของเขาเข้าไปใน
แอปพลิเคชันไลน์ทันที
"อ๋อ ได้ค่ะ ๆ" เพียงฟ้าก็พยักหน้ารับก่อนจะเปิด QR CODE ให้อีกฝ่ายสแกนเพื่อนแอดไลน์ (ช่องทางการติดต่อ) ของกันและกันไป
"โอเค แอดเป็นเพื่อนกันแล้วนะ งั้นพี่ขับรถไปส่งเราที่คอนโดตามนี้เลยนะ" ไพลอทพูดพร้อมกับปักหมุดมุ่งหน้าตรงไปที่คอนโดของเพียงฟ้า
"ค่ะ" เพียงฟ้าพยักหน้ารับอย่างยิ้ม ๆ
"ว่าแต่...ทำไมเราถึงย้ายออกมาอยู่คอนโดล่ะ" ไพลอทเริ่มชวนคุย
"พอดีว่าฟ้าต้องมาแคสติงงานแสดงงานถ่ายแบบในเมืองบ่อย ๆ แล้วคอนโดมันก็ใกล้กับโรงเรียนด้วย ที่บ้านฟ้าก็เลยให้มาอยู่คอนโดในเมืองดีกว่า จะได้ไม่ลำบากเรื่องการเดินทางค่ะ" เพียงฟ้าตอบคำถามของเขาไปตรง ๆ
"เราเนี่ยดูชอบการเป็นนักแสดง การเป็นดารามาก ๆ เลยนะ" ไพลอท
ค่อย ๆ ผ่อนคันเร่งและขับไปอย่างช้า ๆ ไม่ได้เร่งรีบเหมือนขามา
"....." คนตัวเล็กนิ่งไปสักพักเมื่อเขาพูดถึงเรื่องการแสดงของเธอ
เด็กสาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเหลือบมองไปทางนอกหน้าต่างรถ
"ฟ้าอยากเป็นนักแสดงค่ะ แต่ก็ยังทำไม่ได้ดีสักเท่าไรเลย" คนตัวเล็กตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่ว ๆ
ถึงแม้ว่าหน้าตาของเธอจะสวยเหมาะกับการเป็นนักแสดง แต่ด้วยความขี้อายและความอ่อนต่อโลกของเธอเอง ทำให้เธอไม่สามารถเข้าถึงตัวละครที่ได้รับเลือกให้เล่นได้เลยสักครั้ง
และนั่นทำให้โอกาสหลุดลอยไป...
"ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิดหรอกน่า... "
"พี่เชื่อว่าวันหนึ่งฟ้าจะต้องเป็นดารานักแสดงหญิงที่เก่งและดังมาก ๆ ได้อย่างแน่นอนเลยนะ" ร่างสูงหันมามองเด็กสาววัยย่างสิบเจ็ดปีที่นั่งข้าง ๆ และพูดขึ้นด้วยความจริงใจ
"....." เพียงฟ้านิ่งไปพักใหญ่ เพราะไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเธอมาก่อนเลย
"จริงค่ะ พี่เชื่อว่าวันหนึ่งพี่คงต้องวิ่งไล่ตามขอลายเซ็นจากดาราดังคนนี้แน่ ๆ " เขาพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปคล้ายจะลูบหัวของเธอ แต่แล้วก็หยุดความเคยตัวนั้นเอาไว้เสียก่อน
"ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ" คนตัวเล็กหันหน้ากลับมามองทางเขาอย่างยิ้ม ๆ
"พี่เชื่อว่าฟ้าทำได้นะคะ" เขาพูดพร้อมกับหันมามองเธอด้วยสายตาที่อ่อนละมุน
......
...
..
หลังจากที่เธอนั่งเงียบไปสักพัก จู่ ๆ เธอก็รู้สึกวางใจรุ่นพี่คนนี้มากขึ้น จนเริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเอง เพื่อชวนเขาคุยเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถมันเงียบมากจนเกินไป
"จริง ๆ แล้วการเป็นนักแสดง เป็นหนึ่งในความฝันที่สูงสุดของฟ้าเลยค่ะ"
"คุณยายที่เลี้ยงฟ้ามาตั้งแต่เกิด ตอนนี้ท่านป่วยเป็นอัลไซเมอร์น่ะค่ะ"
"พออาการกำเริบหนักมากขึ้น ๆ ทุกคนในบ้านก็จำต้องพาท่านย้ายไปพักรักษาตัวอยู่ที่ Nursing Home"
"และตอนนี้ท่านก็จำใครไม่ได้เลยค่ะ"
"แต่ว่าท่านดันจำนางเอกพระเอกละครในซีรีส์ต่าง ๆ ที่ทางพยาบาลเปิดให้ดูทางโทรทัศน์ได้เสียซะอย่างนั้น" คนตัวเล็กฝืนยิ้มทั้งน้ำตาคลอเบ้า
"ที่ฟ้าอยากเป็นดาราก็เพราะฟ้าอยากเล่นละคร อยากเป็นนางเอกในจอโทรทัศน์ที่คุณยายชอบดู"
"เพียงเพราะฟ้าหวังว่าวันหนึ่งท่านจะจำฟ้าได้ หรือไม่ก็นั่งดูละครที่ฟ้าเล่นทุกวันเลย" เพียงฟ้าเล่าไปก็ต้องกลั้นน้ำตาไปด้วย
"พี่เชื่อว่าวันหนึ่งคุณยายของฟ้าจะได้นั่งดูละครที่ฟ้าเล่นอย่างแน่นอน" ไพลอทหยิบผ้าเช็ดหน้าของเขาและซับน้ำตาให้เธออย่างปลอบโยน
"เอาเป็นว่าพี่จะช่วยเราซ้อมบทไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะแคสติงละครได้เลยดีไหม"