EP 08 | ผมเป็นมาเฟีย
“ค่ำแล้วเหรอเนี้ย”
วันนี้ฉันนอนทั้งวันไปเลยสินะ แล้วหายไปทั้งวันแบบนี้ไม่รู้ว่าที่ร้านจะไปยังไงบ้าง
ฉันลุกขึ้นนั่งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ไม่มีสายโทรเข้าเลยสักmiss call น่าจะไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั่ง
ลองออกไปสำรวจข้างนอกดูหน่อยดีกว่า เคเดนบอกว่าพาฉันมาที่บ้าน เขาอยู่บ้านกับใครนะ
“O_O”
เปิดประตูห้องนอนออกมาก็ต้องตะลึงเลยค่ะ บ้านหลังใหญ่มากฉันเดินลงไปแล้วจะกลับขึ้นมาถูกไหมเนี้ย
ภายในบ้านโทนสีขาวให้ความรู้สึกสบายตา เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในบ้านถูกคัดสรรมาอย่างดีการตกแต่งโดยรวมทุกอย่างดูเข้ากันไปหมด
แต่บ้านเงียบมาก เงียบเหมือนทั้งบ้านมีฉันอยู่คนเดียวอย่างนั้นแหละ จนฉันเดินลงมาถึงข้างล่างมีแม่บ้านสองคนรีบวิ่งเข้ามาหาแถมยังนั่งแทบเท้าจนฉันต้องย่อตัวนั่งตามแทบไม่ทัน
“ยะ...อย่านั่งเลยค่ะลุกขึ้นมายืนคุยกันดีกว่า”
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณผู้หญิงลุกขึ้นยืนดีๆ เถอะนะคะ”
แม่บ้านคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยสีหน้าลำบากใจ แล้วเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงเลยเหรอ ฟังดูไม่ชินหูเลยแฮะ
“เรียกเทียร์เฉยๆ ดีกว่าค่ะ”
“ค่ะ คุณเทียร์”
เออ คุณก็คุณ เอาที่สบายใจเลยแล้วกัน (-_-’)
“คุณเทียร์จะรับอาหารเย็นเลยมั้ยคะ เดี๋ยวดิฉันจะตั้งโต๊ะให้ค่ะ”
“เทียร์ยังไม่หิวเลยค่ะ ว่าแต่คุณเคเดนไปไหนเหรอคะ”
“คุณเคเดนออกไปทำงานค่ะ”
ทำงาน?
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเวลาที่หน้าจออีกครั้ง ทำงานตอนสองทุ่มเนี้ยนะ ไปที่ห้างเหรอ
“เอ่อ...แล้วคนอื่นๆ ไม่อยู่เหรอคะ”
“บ้านนี้มีแค่คุณเคเดนแล้วก็คุณเทียร์ค่ะ”
อยู่บ้านหลังเบอเริ่มนี่คนเดียวเนี้ยนะ!
วันนึงเดินรอบหรือเปล่ายังไม่รู้เลย
“พี่ๆ ไปพักเถอะค่ะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยเดี๋ยวเทียร์เรียกนะ”
“ได้ค่ะคุณเทียร์”
ทั้งสองคนพูดขึ้นมาพร้อมกันก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป ส่วนฉันก็เดินสำรวจบ้านไปเรื่อยๆ จนเดินออกมาถึงหน้าบ้าน
แม่เจ้า!
บอดี้การ์ดชุดดำยืนล้อมอยู่ข้างนอกเยอะมาก อย่างกับหนังมาเฟียฮ่องกง
มาเฟีย?
ใช่แล้ว! ฉันมัวแต่รีบทำชุดแต่งงานให้ลูกค้าจนลืมไปสืบเรื่องนี้เลย แต่บอดี้การ์ดรอบบ้านแบบนี้เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
“โทรหาฟลินต์หน่อยดีกว่า”
กดโทรศัพท์โทรออกไม่นานปลายสายก็รับด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริงสุดๆ
[ฮายยย~ เฟรนด์]
“แกยังอยู่เปโดรหรือเปล่า”
[ยังอยู่สิยะ! ฉันกำลังจะเซ็นสัญญาเช่าที่เปิดร้านใหม่แล้วนะ ช่วงนี้งานยุ่งๆ ก็เลยไม่ได้โทรไปเมาส์]
ฉันเดินไปนั่งลงที่อาร์มแชร์ตัวใหญ่ในห้องโถงก่อนจะยกขาขึ้นไขว่ห้างด้วยท่าทางราวกับเป็นคุณผู้หญิงของบ้าน ฮ่าๆ
“ฉันก็มีเรื่องจะเมาส์เหมือนกัน”
[ว่ามาค่ะพี่จี้] น้ำเสียงตอแหลมาก
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้านของเคเดน”
[กรี๊ดดดดดด! เฟียสกีเวอร์] ศัพท์อะไรของมันวะ - -*
“แต่เค้าอยู่ที่บ้านนี้คนเดียวนะแกและที่สำคัญคือบอดี้การ์ดเต็มบ้านเลยอ่ะ”
[ฉันว่าต้องใช่ เค้าต้องเป็นมาเฟียแน่ๆ]
“ฉันก็คิดเหมือนกัน เดี๋ยวรอเค้ากลับมาฉันจะลองถามดู”
[แล้วเรื่องมันเป็นมายังไงเค้าถึงยอมให้แกเข้าบ้านได้ค่ะสาว]
“เมื่อวานฉันเป็นลมแล้วเขาบังเอิญไปเจอพอดีก็เลยพาฉันกลับมาที่บ้านน่าจะเพราะไม่รู้จักห้องฉันด้วยแหละ”
[ก็ดีนะแปลว่าเขาก็ยังอาวรณ์แกอยู่]
“แกก็คิดงั้นใช่มั้ย”
[เหมือนเห็นแสงเทียนที่ปลายอุโมงค์]
ถ้าเขายังคิดเหมือนกันอยู่จริงๆ ก็คงจะดี ฉันอยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นให้เขาฟังทั้งหมด
[แล้วจะยังไงต่อ ปล้ำเลยมั้ย”
“ปล้ำเลยเหรอ!”
ยกมือปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน ฉันพูดขึ้นมาเสียงดังจนบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่หน้าบ้านหันหน้าเข้ามามอง
[ก็ต้องแล้วมั้ยคะ บอกแล้วว่ารอนานมดลูกแห้ง]
“จะไม่ให้เราคุยกันก่อนเลยหรือไง”
[นอนคุยจะเข้าอกเข้าใจเข้าได้ลึกกว่า]
“โยกเองคงลึกสุด ว้าย! ฉันไม่คุยเรื่องนี้กับแกแล้ว”
[แหม~ แม่นางกุลสตรี]
“ฮ่าๆ”
[แค่นี้ก่อน ฉันมีธุระต่อ]
“โอเคบายย”
[ขอให้ใหญ่ ขอให้ยาว]
“กรี๊ด! นังฟลินต์”
ไม่ทันแล้วค่ะ นางชิงวางสายไปเสียก่อน
พูดถึงเรื่องนั้นแล้วฉันดันเผลอนึกถึงความฝันแสนสยิวที่ฉันฝันเมื่อวันก่อน แค่คิดก็หน้าร้อนผ่าวเลยค่ะ
ฉันได้ยินเสียงรถหลายคันเคลื่อนตัวเข้ามาจอดก็เลยรีบลุกขึ้นเดินออกไปที่ประตูหน้าบ้าน ภาพที่เห็นคือบอดี้การ์ดหลายสิบคนรีบวิ่งลงจากรถมายืนเรียงกันข้างหน้า
ก่อนที่ประตูรถคันตรงหน้าฉันจะถูกเปิดออกพร้อมเคเดนที่ก้าวขาลงมา
“เฮือก! OoO”
เลือด!
เลือดเต็มตัวเขาไปหมดเลย ไหนแม่บ้านบอกว่าเขาออกไปทำงานทำไมถึงกลับมาเลือดเต็มตัวขนาดนี้ล่ะ
“เคเดน! คุณเป็นอะไรหรือเปล่า เลือดเต็มตัวขนาดนี้ทำไมไม่ไปโรงพยาบาลคะ”
เคเดนเห็นมามองหน้าฉันพลางขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ทำเพียงแค่จับมือฉันเดินกลับเข้าไปในบ้านเท่านั้น
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า ตอบฉันหน่อยสิ”
ทำไมยังเดินหน้านิ่งอยู่ได้ทั้งที่เลือดเต็มตัวขนาดนี้ เขาความรู้สึกตายด้านไปแล้วหรือไง
ส่วนฉันมือไม้สั่นไปหมดเวลาเห็นเลือดแล้วใจคอไม่ค่อยดีพาลนึกถึงเรื่องในอดีตเสียทุกครั้ง
“เป็นห่วงเหรอ”
เขาถามในขณะที่จับมือฉันเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะปิดประตูแล้วหันกลับมามองหน้าฉันอีกครั้ง
“เป็นห่วงสิ คุณเป็นแผลตรงไหนขอฉันดูหน่อยได้มั้ย ที่นี่มีอุปกรณ์ทำแผลมั้ยคะ”
ฉันขยับเข้าไปช่วยเขาถอดเสื้อสูทก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดจนเผยให้เห็นกล้ามหน้าอกสีขาวและก้อนซิกแพ็คลอนสวย
แต่เมื่อฉันสำรวจรอบๆ ตัวเขาแล้วกลับไม่มีแผลเลยสักนิด แม้แต่รอยขีดข่วนก็ไม่มีด้วยซ้ำ
แล้วเลือด?
หรือว่าจะไม่ใช่เลือดของเขา
“ไม่ใช่เลือดคุณเหรอคะ”
“อืม”
“แล้วทำไมไม่บอก ปล่อยให้ฉันเป็นห่วงอยู่ได้”
ฉันเชิดหน้าขึ้นถามอย่างเอาเรื่อง กลับบ้านมาเลือดเต็มตัวขนาดนี้ใครจะไม่ตกใจบ้าง
“อยากเห็นคุณเป็นห่วง”
เคเดนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ที่ไม่ปกติน่าจะเป็นหัวใจของฉันตอนนี้ เต้นรัวเสียจนฉันกลัวมันจะระเบิด
ฉันไม่กล้าสบตาเขาก็เลยหลบสายตาลงมองข้างล่างปะทะกับแผงอกขาวๆ ที่เพิ่งสังเกตว่ามันยั่วยวนมากแค่ไหน
เมื่อกี้มัวแต่ตกใจเลือดจนไม่ได้สนใจกล้ามแน่นๆ ของเขาเลย
อุ้ย! อยากลองลูบดูจัง
>///<
“คิดอะไร”
“เปล่านะ ฉันไม่ได้อยากจับเลย อุ้ย!”
นังเทียร์! หลุดพูดออกไปได้ยังไงเนี้ย
แบบนี้เขาก็รู้หมดน่ะสิว่าแกจ้องจะกินเขาอยู่น่ะยัยคนหื่น
“ฉันถามได้มั้ยคะว่าเลือดใคร”
เขาปรับสีหน้าเรียบนิ่งอีกครั้ง สายตาว่างเปล่าก้มลงมองเสื้อที่ถูกถอดทิ้งเอาไว้ที่พื้น
“แก๊งอันธพาล”
“จริงๆ แล้วคุณเป็นมาเฟียเหรอคะ”
ฉันตัดสินใจถามสิ่งที่ค้างคาใจออกไปตรงๆ รู้จากปากของเขาก็ยังดีกว่าไปฟังจากปากคนอื่น
“ใช่ ผมเป็นมาเฟียกลุ่มโดโนแวน”
โดโนแวน!
กลุ่มมาเฟียที่ปกครองเมืองเลออน จริงๆ แล้วเขาคือลูกชายแท้ๆ ของคุณครูซและคุณหญิงเคลร่า ลูกชายเจ้าของห้างดีเอ็นเวน
เมื่อก่อนฉันรู้นะว่าเขาเป็นลูกคนรวยแต่ก็ไม่คิดว่าจะรวยและมีอิทธิพลขนาดนี้
"รู้แบบนี้แล้วกลัวรึเปล่า”
“...”
เขาถามพร้อมค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉันก่อนที่มือหนาเชยคางฉันขึ้นเพื่อให้สบตากับเขา
“ผมเป็นมาเฟีย สามารถจะฆ่าใครเมื่อไหร่ก็ได้”
ฉันถึงกลับเผลอกลืนน้ำลาย ไม่รู้ว่าที่เขาพูดออกมาแบบนี้เพราะต้องการอะไร
“ถ้ากลัว จะหายไปเหมือนเมื่อก่อนอีกก็ได้นะ”
มันไม่ใช่คำขู่ แต่ฟังเหมือนประโยคตัดพ้อเสียมากกว่า ทั้งน้ำเสียงและแววตาที่เขาพูดกับฉัน มันแฝงไปด้วยความกังวล
เหมือนเขากำลังกลัวว่าฉันจะหายไปอีกครั้ง
“ฉัน...ไม่กลัว”
ในเมื่อฉันตัดสินใจแล้วว่าจะเต็มที่กับความรักครั้งนี้ของฉัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะไม่เสียใจที่ได้ทำมัน