EPISODE – 01 / 5
Rrrrrrr
จังหวะที่กำลังคิดถึงเรื่องเก่าเพลินๆ โทรศัทพ์ของฉันก็ดังขึ้น ฉันรีบกดรับทันทีเพราะคิดว่าเป็นโซลโทรมาแน่ๆ
“ฮะโหล โซล...”
[แหม ชะนี คิดว่าผู้โทรมาเหรอยะ ตาอะแหกดูมั้ยเบอร์ใคร ชิ!] อ้าว! ไม่ใช่โซลเหรอ นี่เสียงยัยนุชชี่ เฮ้อ! ฉันเป่าปากระบายลมออกมาเซ็งๆ
“โทรมามีไรยะ วันนี้ไม่ไปกิน ผู้ ของแกเหรอ” ฉันแขวะเพื่อนรักเบาๆ
[ก็เนี่ย กำลังจะชวนไปกินด้วยกัน สนม๊ะ] นั่นไงว่าแล้วเชียว วันๆ ชวนแต่พวกฉันสองคนไปผับไปบาร์ เหล่หาเหยื่อทุกคืน
“วันนี้ฉันรู้สึกเพลียๆ น่ะ แกไปกับยัยเดียร์ได้ไหม”
ฉันรีบบอกปฏิเสธเพื่อนรักแทบจะไม่ต้องคิด ก็จะให้ฉันออกไปกับพวกมันสภาพแบบนี้เนี่ยนะ ไม่ไหวหรอก รอยที่โซลทิ้งไว้ที่คอเต็มไปหมดแบบนี้มีหวังพวกนั้นจับผิดฉันได้แหงๆ
[ไม่ได้!] นี่ไม่ใช่เสียงยัยนุชชี่ แต่เป็นเสียงยัยนาเดียร์
อะไรกัน นี่อยู่ด้วยกันแล้วเหรอ คือเตรียมพร้อมกันแล้วว่างั้น?
[ฉันให้เวลาแก 30 นาที ให้ไว ให้ว่อง ให้คล่องเหมือน...] นาเดียร์ยังพูดไม่ทันจบประโยคเสียงนุชชี่ก็แทรกขึ้นมา [ตุ๊ดว่าให้เวลามัน 10 นาทีก็เกินพอ ชะนีนางนั้นไม่แต่งอะไรหรอกคร่า] จบคำพูดถากถางของยัยตุ๊ดเพื่อนเลิฟ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก สะใจของพวกนางทั้งสองคนดังออกมาจากปลายสาย
“งั้นทำไม ไม่มารับเลยตอนนี้ล่ะยะ จะให้เวลาเพื่อ?”
[งั้นเปิดประตูด่วนค่ะเพื่อนสาว]
ห๊ะ! อะไรของยัยนุชชี่ มันบอกให้ฉันเปิดประตู อย่าบอกนะว่า…
แอ้ด~
“เซอไพร์” นั่นไงว่าแล้ว ยัยเพื่อนตัวดีสองคนนี้มันมาดักรอฉันที่หน้าห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วคุณนางทั้งสองจะโทรมาเพื่อ?
“แล้วพวกแกจะโทรมาให้เปลืองตังค์ทำไมไม่ทราบ” ว่าจะไม่กัดพวกหล่อนแล้วนะ แต่ปากมันดันไว อดไม่ได้จริงๆ
“ฉันรวย” เสียงเล็กแหลมทั้งสองดังประสานกันแบบไม่ได้นัดหมายตะโกนตอบฉันกลับมาจนปวดแก้วหูไปหมด
“แล้วคืนนี้แกจะลากฉันไปไหนอีกล่ะ ฉันเหนื่อยอะพวกแก” ฉันนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นของตัวเอง ทำตัวอ่อนแรงให้พวกนางสองคนสงสาร
แต่มันเหนื่อยจริงๆ นะ ฉันแค่เพิ่มแอคติ้งเข้าไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง
“เหนื่อยไรยะ ทำยังกะมีอะไรให้แกทำเหนื่อยงั้นแหละ” นุชชี่เบะปากเยาะเย้ยฉัน นางปรายตามองจิกๆ ใส่ด้วยนะเมื่อกี้
“เฮ้ย!! ตาเถรตกต้นมะยม เณรปีนระฆัง” ฉันสะดุ้งตกใจกับคำอุทานอันแปลกพิสดารของยัยตุ๊ดที่อยู่ๆ ก็ตะโกนดังลั่นห้องแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“อะไรยัยตุ๊ด” ยัยนาเดียร์ตะโกนถามลั่นสีหน้าตกใจกับเสียงที่ดังของเพื่อนตุ๊ดข้างๆ เธอ อย่าว่าแต่ยัยเดียร์ที่นั่งข้างนางเลย ฉันที่นั่งคนละฝั่งก็ตกใจเหมือนกัน
“นี่ชะนี อย่าแถนะว่าห้องแกมีมดเยอะ แล้วมันกัดตรงนี้ ตรงนั้น แล้วก็คันๆ เลยเกา” ยัยตุ๊ดไม่ว่าเปล่า รีบกระโดดมานั่งข้างๆ ฉัน พร้อมกับเอานิ้วป้อมๆ มาจิ้มที่คอฉันตรงนั้นที ตรงนี้ที
เห้ย! อย่าบอกนะว่า...
พอตั้งสติได้เลยรู้ตัวว่าตอนที่ฉันรีบออกไปเปิดประตูให้พวกนางสองคนที่มาเยือนแบบไม่บอกไม่กล่าว ตัวเองเอากิ๊ฟรวบผมขึ้นหมดแล้วหนีบรวบไว้ ทำให้ตอนนี้มันเผยคอขาวระหงได้อย่างเต็มตา
“ไหน... รอยอะไร มดกัดอะไรของแกยัยตุ๊ด” ยัยเดียร์รีบเดินมานั่งข้างฉันอีกฝั่ง ทำให้ตอนนี้ฉันโดนขนาบข้างทั้งซ้าย-ขวา
“หึ” ฉันได้ยินเสียงนาเดียร์หัวเราะในลำคอเบาๆ
“เล่ามาให้หมด ยัยแก้มใส” เสียงเรียกของนาเดียร์ทำให้ฉันถึงกับขนลุก ได้แต่ก้มหน้าหงุดไม่กล้ามองสบตาเพื่อนทั้งสองที่นั่งจับผิดอยู่ข้างๆ
หลังจากที่ฉันต้องจำใจเล่าทุกอย่างให้ทั้งสองนางฟังเป็นที่เรียบร้อยก็มีทั้งฟีดแบคที่ดีและไม่ดีตามมา ตามที่คาดการณ์ไว้เป๊ะๆ
“ใจง่าย” นาเดียร์ว่าให้ฉันสองพยางค์ แต่ได้ใจความแสบสะท้านถึงทรวงพร้อมกับเมินหน้าหนี แบบโกรธสุดๆ
ที่นาเดียร์ดูโกรธฉันมากๆ ตอนนี้เพราะว่า ตลอดเวลาที่ฉันคบกับโซลเธอมักจะบอกฉันตลอดว่าอย่าไว้ใจผู้ชายเด็ดขาด อย่าเผลอปล่อยตัวไปกับเขา
และครั้งนี้ฉันก็ผิดเอง ที่ลืมคำเตือนยัยนี่ไปเฉยเลย
“ฉัน เอ่อ... เดียร์” ฉันกำลังจะแก้ตัวกับยัยเดียร์ จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะและปรบมือดังขึ้นแทรกบรรยากาศที่กำลังอึมครึมๆ ของฉันกับยัยเดียร์
แปะ แปะ แปะ
“เลิศมากลูกสาว แบบนี่สิ ถึงจะสมที่เป็นลูกศิษย์นุชชี่”
ให้ตายสิ! ยัยนี่ก็นะ ไม่ดูบรรยากาศรอบตัวเอาซะเลย
“เออๆ ดี เข้าข้างกันดีนัก” นาเดียร์ข่มเสียงต่ำปรายหางตามองหน้านุชชี่
“แล้วนี่ ได้ป้องกันหรือเปล่า กินยาคุมยัง” เดียร์ถามด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนลง
แต่เอ๊ะ! ยาคุมงั้นเหรอ ลืมไปเลย ก็มัวแต่คิดถึงเรื่องโซลว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมติดต่อไม่ได้ จนลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย
แถมเมื่อคืนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาปะ... ป้องกันหรือเปล่า
“ตายๆ ตายแน่ๆ ยัยตุ๊ด ลูกสาวแกตายแน่” นาเดียร์ดูหัวเสียใหญ่
“-_- ชะนีหน้าโง่ รอนี่ล่ะ เดี๋ยวขุ่นแม่มา” ว่าจบนางก็เดินออกจากห้องไป
ยัยตุ๊ดจะไปไหนของหล่อน พอจะหันมาถามเพื่อนรักที่เหลืออยู่อีกคน ยัยเดียร์ก็เดินหนีฉันเข้าห้องครัวซะงั้น
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นุชชี่ก็กลับมาพร้อมกับโยนถุงอะไรสักอย่างลงตักฉัน พอลองหยิบมาดูจึงรู้ว่านั่นคือแผงยา
“นี่!! ทานค่ะชะนี จะนั่งมองให้ได้อะไรคะ หรืออยากมีภาระตามหลัง” น้ำเสียงประชดประชันของกระเทยร่างอวบที่นั่งเบ้หน้าหมั่นไส้ฉันอยู่ที่โซฟาตรงข้ามจิกกัดหัวใจฉันเบาๆ
ภาระงั้นเหรอ? ฉันตาโตทันทีที่นึกถึงเรื่องนี้ ถ้าหากมันเกิดขึ้นจริงๆ ถามว่าฉันพร้อมรับกับภาระใหญ่หลวงนี้ไหม บอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าฉันพร้อมเพราะพ่อของลูกฉันคือคนที่ ‘ฉันรัก’