บทที่ 3 ยอม
-SPRITE TALK-
เมื่อคืนนี้ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน เฮียเฟยดูเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปจนน่ากลัว และเขาคงจะเกลียดฉันที่สุด ก็สมควรแล้ว ฉันทำกับเขาไว้เยอะเกินกว่าจะให้อภัยได้ ฉันทำอนาคตของเขาพังยับเยิน
“น้องปลายอิ่มแล้วค่าแม่ขา” ฉันหันกลับมาสนใจลูกสาวหลังจากที่เหม่อคิดถึงเรื่องเมื่อวานจนไม่เป็นอันทำอะไร
“ค่ะ อิ่มแล้วต้องทำยังไงคะ”
“เอาจานของตัวเองไปเก็บค่า”
“เก่งมากค่ะคนดี เดินระวังนะคะเดี๋ยวล้ม” ฉันร้องเตือนตามหลังลูกไป
“ค่าแม่ขา น้องปลายจะระวัง” น้องปลายฝันเอาจานข้าวของตัวเองไปเก็บ ฉันจึงลุกมาเตรียมกระเป๋านักเรียนให้เธอ
จากนั้นเราสองคนแม่ลูกออกมาทางด้านหลังบ้าน หน้าร้านยังไม่เปิดค่ะ ฉันต้องไปส่งลูกก่อนถึงจะมาเปิดร้าน
“อะไรกัน” ถึงกับอุทานเลยล่ะ รถฉันยางแบนทั้งสี่ล้อ เมื่อวานฉันก็ไม่ได้ไปเหยียบอะไรมา แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ไง หรือฉันดวงซวยเหรอ
“แม่ขา วันนี้ไม่ไปก็ได้ค่า” ปลายฝันเป็นเด็กฉลาดแม้จะอายุแค่เพียง 4 ขวบ แกค่อนข้างเข้าใจในหลาย ๆ เรื่อง
“ไม่ได้ค่ะ น้องปลายกำลังมีเพื่อนใหม่ กำลังปรับตัวกับโรงเรียนใหม่ ต้องขยันไปเรียนเพื่อนจะได้จำน้องปลายได้นะคะ”
“แต่ว่ารถ…” น้องปลายชี้ไปที่รถเก๋งของฉัน คันนี้ก็คุณวีซื้อให้ค่ะ เขาบอกว่าเอาไว้รับส่งน้องปลายพาน้องปลายไปเที่ยว จะได้สะดวกสบาย
“เดี๋ยวแม่ขาลองเดินออกไปดูรถสองแถวนะคะ วันนี้เราจะนั่งรถสองกันดีไหมเอ่ย” ตั้งแต่มาที่นี่ ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ฉันจะพาลูกสาวขึ้นรถสองแถว เมื่อก่อนฉันนั่งไปเรียนประจำ
“ดีค่า” น้องปลายฝันยิ้มหวาน ฉันจึงอุ้มลูกขึ้นมากอดไว้แล้วพาเธอเดินข้ามถนนมารอรถ
ปริ้น ปริ้น! ระหว่างที่กำลังจะเดินไปอีกฝั่งเสียงแตรรถก็ดังขึ้น อาการแพนิกเกิดขึ้นทันทีฉันหลับตาปี๋กอดลูกสาวไว้แน่น หัวใจเต้นแรง ตัวฉันสั่นเทิ้ม ภาพความทรงจำบางอย่างผุดเข้ามาในหัว
“ไปรท์ ไปรท์ สไปรท์” เสียงนี้มัน?
ด้วยเป็นน้ำเสียงที่จำได้ไม่เคยลืมเลือน ฉันจึงลืมตาขึ้นมองคนตรงหน้า
“เฮียเฟย…” เขา เขาจริง ๆ ด้วย เขามายืนตรงนี้ได้ไง แล้วทำไมยังเรียกฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนั้น ก็ฉันทำเลวกับเขาแล้วทำไม?
“เดี๋ยวรถก็ชนหรอก ทำไมข้ามถนนแบบนี้ จะไปไหนเดี๋ยวไปส่ง” เฮียเฟยพูดกับฉันเหรอ ที่พูดอยู่หมายถึงฉันใช่ไหม
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปเองได้” ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเรียกเขาแบบเมื่อก่อน เพราะว่าฉันคือคนทำลายทุกอย่างด้วยตัวเอง
“แต่ไปรท์ตัวสั่น” ทำไมท่าทีของเฮียเฟยถึงได้แตกต่างจากเมื่อวานนัก เกิดอะไรขึ้น
“แค่ตกใจค่ะ ขอตัวนะคะ” ฉันก้มหัวให้เขาแล้วรีบข้ามถนนเมื่อรถว่าง ยืนรอรถสองแถวไปส่งลูกที่โรงเรียน อย่าได้ถามหาแท็กซี่ที่นี่ไม่มีค่ะ
“แม่ขา…เขาตามมาค่า” น้องปลายสะกิดให้ฉันมอง
ฉันหันมองตามที่ลูกชี้จึงได้เห็นว่าเฮียเฟยวนรถมาทางนี้และเปิดกระจกเรียก “ไปส่งลูกเหรอ ขึ้นรถสิเดี๋ยวเฮียไปส่ง มันสายแล้ว อยากให้ลูกไปสายเหรอ ไปเรียนสายไม่ดีนะ”
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ” ฉันตอบและรีบเดินมาขึ้นรถสองแถวที่จอดพอดี ทำไมเข้ามายุ่งกับผู้หญิงเลว ๆ อย่างฉัน เขาต้องการอะไรกัน เขาต้องมีเรื่องต้องการ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางมายุ่งกับคนเลวแบบฉัน
‘ถ้าเฮียแข่งนัดนี้ชนะ น้องไปรท์เป็นแฟนกับเฮียนะครับ’ พี่ชายของเพื่อนในชุดนักฟุตบอลกำลังยืนมองหน้าฉันที่เป็นรุ่นน้องถึงสามปี
เป็นแฟนกับผู้ชายที่แอบรักมานานอย่างนั้นเหรอ นี่ฉันฝันไปไหมนะ เขาที่เป็นขวัญใจของใครหลายคนกำลังขอฉันเป็นแฟน
‘หรือข่าวที่ว่าน้องไปรท์ชอบคนในทีมของเฮียจะเป็นเรื่องจริง ๆ งั้นเหรอครับ ใครครับ บอกเฮียได้ไหม’ หน้าเฮียเฟยสลดลงเมื่อคิดว่าข่าวลือที่ว่าหมายถึงคนอื่น
‘ไม่ว่าวันนี้ผลจะออกมายังไง ไปรท์รอเป็นแฟนเฮียเฟยอยู่นะคะ’ นี่คือคำตอบของฉัน
‘…’ และก็สร้างรอยยิ้มให้กับนักฟุตบอลสุดหล่อตรงหน้า
‘สู้ ๆ นะคะเฮีย ไปรท์เป็นกำลังใจให้’
‘ครับ แข่งเสร็จรอเฮีย เดี๋ยวเฮียไปส่งบ้าน’
‘ค่ะ’ จากนั้นเฮียเฟยวิ่งกลับเข้าไปในทีม พร้อมตะโกนเสียงดังลั่นสนามฟุตบอล
‘กูมีแฟนแล้วโว้ย น้องไปรท์ชอบกูพวกมึง พวกมึงได้ยินไหมเขาชอบกู’
เสียงโห่แซวของพวกเพื่อนเฮียเฟยดังลั่นไปหมด ทุกคู่สายตามองมาที่ฉัน ซึ่งฉันก็อายมากค่ะ
‘สมหวังสักทีนะมึง แอบชอบเฮียกูมาตั้งนาน กูจะติดต่อให้ก็ห้าม’ พลอยใสที่แอบฟังอยู่กับคะนิ้งออกมาจากที่ซุ่ม
‘ติดต่อให้แบบนั้นได้ไง พี่ชายแกเขาสนใจแต่ฟุตบอล ขืนแกติดต่อให้ฉันก็แห้วสิ นี่ไม่คิดไม่ฝันเลยนะว่าเฮียแกจะมาสนใจฉัน’
คือฉันแอบชอบเฮียเฟยมานานมาก ๆ เขาเป็นหนุ่มฮอตที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองฮอต เขาเป็นผู้ชายที่สนใจแต่กีฬา แต่อยู่มาวันหนึ่งเฮียเฟยพี่ชายของพลอยใสก็เริ่มเข้ามาในชีวิตของฉันแบบที่ฉันไม่คิดไม่ฝัน มันเป็นอะไรที่ดี และทำให้ฉันมีความสุขมาก ๆ
‘คนจะคู่กันอะเนอะ’ คะนิ้งทำท่าเขินอาย
‘แกต้องให้สัญญานะไปรท์ แกห้ามทิ้งเฮียฉันเด็ดขาด แกเป็นแฟนคนแรกของเฮียเฟยเลยนะ’
“ไม่ทิ้ง ฉันสัญญาเลย ฉันไม่มีวันทิ้งเฮียเฟย รักแรกของฉัน ฉันจะรักษาไว้ให้ดีที่สุด”
แต่สุดท้ายฉันก็ทิ้งเขาอยู่ดี ทิ้งมาอย่างเลือดเย็นและเลวทราม