Ep.4
" แต่ก็ไม่ได้ปล่อยทั้งหมดนี่.." เขาพูดอย่างหอบเหนื่อย ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆกับฉันบนเตียง...
จริงที่ฉันผลักเขาออกทันทีเขายังไม่เสร็จดี
แต่ฉันก็รู้สึกว่า..เขาแตกไปแล้วในตัวของฉัน..
ฉันรีบลุกนั่งและเดินไปล้างในห้องน้ำทันทีอย่างกังวลใจ
ในขณะที่ล้างเนื้อล้างตัวอยู่ในห้องน้ำ
จู่ๆ มอร์ฟินก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง..
" กินยาคุมฉุกเฉินเอาก็ได้มั้ง?" เขาพูดน่านิ่งๆ ก่อนจะเดินเข้ามาก้มล้างหน้าที่อ่างราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" ฉันใช้ห้องน้ำอยู่นะ" ฉันรีบดึงม่านในห้องอาบน้ำปิดทันที เพราะเสื้อผ้าไม่มีติดตัวเลยสักชิ้น
“ นี่เธอประสาทกลับรึเปล่า?" มอร์ฟินซับหน้าของตัวเองและหันมามองทางฉัน
" เธอแก้ผ้าโชว์ฉัน ยั่วจนฉัน "
" จนฉันพลาดเอากับเธอ " มอร์ฟินย้ำถึงเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้น
" ไม่ทราบว่า ต้องอายอะไรอีกหรอ? " เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจและเดินเปิดประตูออกไป...
ฉันเองก็รีบล้างเนื้อล้างตัวและเดินออกมาสวมใส่เสื้อผ้าตามเดิม
ซึ่งมอร์ฟินเองก็ยังคงนอนแผ่อยู่บนเตียงอย่างผ่อนคลายและไม่ได้ใส่ใจอะไรกับฉัน
แต่พอฉันจะเดินมาใส่รองเท้าส้นสูงและหยิบกระเป๋าคู่ใจเพื่อที่จะกลับไปบ้านของตัวเอง..
" เดี๋ยวก่อน" มอร์ฟินเรียกฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเปิดประตูห้องออกไป..
" เดี๋ยวฉันไปส่ง" เขาพูดขึ้นทั้งที่ยังหลับตาสนิท
" ไม่จำเป็น ฉันกลับเองได้ " ฉันตอบไปอย่างเสียงแข็ง
" ไปส่งซื้อยาคุมฉันเองจะได้มั่นใจว่าเธอไม่ได้คิดจะจับฉัน " เขาพูดขึ้นและมองฉันด้วยแววตาที่ดูถูกดูแคลน
" เธอนี้ก็แปลกนะ ทำตัวเหมือนเป็นคนละคนกับเมื่อกี้เลยอะ" มอร์ฟินลืมตาขึ้นก่อนจะลุกขึ้นมานั่งมองฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
" พอเสร็จ ก็ลืมหน้าผัวเลยหรอ? " เขาพูดออกมาและมองกลับไปบนเตียงที่เราสองคนเพิ่งจะร่วมกันทำสิ่งอุบาทว์นั่นไปฉันกำหมัดแน่นอย่างเจ็บในใจ ที่วันนี้พ่ายแพ้ให้กับด้านมืดของตัวเอง
" ผัว?? " ฉันทวนคำนั้นอย่างแสยะยิ้มใส่ทั้งที่ในใจยังเจ็บแปลบๆ
มอร์ฟินเองก็ชะงักนิ่งไปเหมือนกับว่าเขาเองเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา
" แค่นอนกับฉันครั้งเดียว หลงฉันจนยกให้เป็นเมียเลยหรอ?" ฉันสวนเขากลับไปอย่างตั้งใจปั่นหัวของเขา..
เขาหลบสายตาของฉันทันทีที่ฉันพูดออกไปอย่างแดกดัน
"เมียเนี่น มันมากกว่าแฟนจริงไหม? " ฉันพูดออกไปอย่างจงใจให้เขารู้ว่า
เขาไม่มีสิทธิ์พูด หรือเหยียดหยามอะไรฉันไปมากกว่านี้
เพราะว่าเรื่องทั้งหมดในคืนนี้ไม่ใช่ฉันคนเดียวที่พลาด เขาเองก็พลาดที่นอกกายคนที่เขารัก
"โทษทีที่ให้เกียรติ ผู้หญิงใจแตกอย่างเธอมากเกินไป " เขากัดริมฝีปากของตัวเองทันทีและจ้องมาที่ฉัน
ก่อนจะเดินมากระชากเปิดประตูห้องให้กับฉัน
" เราก็แค่นอนเอากัน เพราะเธอ เ-ยน และจงใจมาอ่อยฉันเท่านั้นเอง" เขายักไหล่พูดขึ้นอย่างไม่มียอมให้ฉัน
" จำไม่หรอว่าเธอร้องขออะไรจากฉัน " เขาพูดขึ้นด้วยแววตาที่สะใจ..
" จำได้ " ฉันตอบไปทั้งโกรธทั้งสั่น
แอ๊ดดด.. ทันทีที่ประตูเปิดออกมาเราก็เจอเข้ากับ
" มอร์ฟิน? " เสียงของแอลตัล เจ้าของงานวันเกิดในคืนนี้ ที่กำลังหิ้วปีกของ..
" อ้าว..แซมมี่” เอวาลีนชี้หน้าของฉัน แต่เมื่อว่าเธอจะดื่มหนักจนเมาและขาดสติไปแล้ว
เพราะว่าขนาดยืนเองยังไม่รอดเลย
“ พวกเธอสองคนมาทำอะไรในห้องเดียวกันอะ” เป็นเสียงของเอวาลีนที่พูดขึ้นและมองเราสองคนสลับกันด้วยแววตาที่ล่องลอยด้วยความมึนเมา เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวงอแง
" เออๆ มึงไม่ต้องไปยุ่งเรื่องคนอื่นหรอก แค่ทรงตัวยืนยังไม่ได้เลย" แอลตัลตัดบททันทีที่เห็นว่ามอร์ฟินนิ่งไป..
“ เดี๋ยวฉันดูแล เอวาลีนเอง” ฉันที่กำลังจะเอื้อมมือไปพยุงตัวของเอวาลีน
แต่แอลตัลส่ายหน้า
" เดี๋ยวฉันพาไปนอนเอง ไม่ต้องห่วง "
“ แต่ว่า...” ฉันแอบห่วงเอวาลีนตรงที่ว่า แอลตัลเป็นเสือผู้หญิงและเขาดูหน้ากลัวเกินกว่าที่จะปล่อยให้เอวาลีนอยู่กับเขา
“ยัยนี่เพื่อนฉันเหมือนกัน.....ฉันรับประกันว่าฉันไม่ทำอะไรมันแน่นอน” เขาพูดนิ่งๆและพยักหน้ากับมอร์ฟินเหมือนส่งซิกให้กัน
“ถ้าได้กับมัน..อี๋ฟ้าผ่าแน่ๆ..” เอวาลีนตอบกลับมาและหัวเราะลั่นอย่างเมาๆมึนๆ
“ ปากดี อย่างมึงเนี่ยกูก็ไม่เอาหรอก” สองคนนั้นเริ่มที่จะตีกันไปตีกันมา
" มึนหัวอะ " เอวาลีนทุบๆที่หัวของเธอจนแอลตัลต้องจับมือซุกซนของเธอเอาไว้
" ทุบเข้าไป สมองยิ่งไม่ค่อยจะมีอยู่เดี๋ยวก็บื้อกว่านี้หรอก" เขาถอนหายใจและบ่นกับเอวาลีนที่บ่นๆว่ามึนหัว ซึ่งเธอก็น่าจะดื่มหนักจริงๆเพราะทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า
" กินโง่ๆ มีใครเขากินไวน์ กินเหล้า กินเบียร์พร้อมๆกันบ้างวะ” แอลตัลบ่นใส่คนที่เขากำลังประคองอย่างหัวเสีย
" เราไปกันได้ละ " มอร์ฟินกระตุกดึงมือของฉันให้เดินตามเขาไป หลังจากที่ฉันยืนมองเอวาลีนกับแอลตัลอยู่สักพัก
" เออไอ้แอล....กูฝากเคลียร์กับเอวาด้วยนะ เรื่อง" เขาหันกลับมาทางฉันเล็กน้อย
“ เออๆ มันจำอะไรไม่ได้หรอก” แอลตัลพยักหน้ากับมอร์ฟินแต่เขาก็ไม่ได้มองหน้าฉันแต่อย่างไร
มอร์ฟินลากตัวของฉันกลับมาที่รถของเขา ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถสุดกว้างในคฤหาสน์หลังนี้
" ไอ้แอลนะมันไม่ทำอะไรเอวาหรอก ถ้ามันจะทำมันคงทำไปนานแล้ว " มอร์ฟินพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าฉันมองขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านอย่างกังวลใจ
สิ่งแรกคือ เอวาลีนคือคนหนึ่งที่ดีและมีพระคุณกับฉัน ไม่แปลกถ้าฉันจะตอบแทนเธอคืนไปบ้าง
" อื้อ " ฉันตอบไปสั้นๆ
มอร์ฟินและฉันขับรถตะเวนหา ร้านขายยาทุกหนทุกแห่ง
แต่ด้วยเวลานี้ทุกร้านก็ปิดไปหมดแล้ว จนสุดท้ายแล้วเขาก็มาส่งฉันจนถึงหน้าปากซอยทางเข้าบ้านของฉัน
" จอดตรงนี้แหละ ฉันจะเดินไปเอง " ฉันรีบแตะที่แขนของมอร์ฟินให้เขาจอดหน้าปากซอยบ้านแทน
"ทำไม?" เขาถามอย่างไม่เข้าใจ
"ฉันไม่อยากให้คนที่บ้านรู้ " ฉันตอบไปอย่างหลบสายตา
เอี๊ยยดดด..เสียงเบรคดังขึ้นและรถหยุดชะงักในทันที
" อื้ม " เขายอมจอดตามที่ฉันขอ..
" พรุ่งนี้เธอไปซื้อยาคุมกินด้วยนะ " เขายื่นเงินให้กับฉันทันทีที่ฉันกำลังจะก้าวลงจากรถ
" และ ไม่ต้องติดต่อมาอีก เจอก็ไม่ต้องทัก" เขาพูดขึ้นมาอย่างไร้เยื่อใยใดๆ
" ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะนั่นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ " ฉันฝืนยิ้มออกมา ก่อนจะดันเงินนั้นคืนให้เขา
“ฉันไม่ขายตัว..นายไม่ต้องจ่ายเงินอะไรให้ฉัน " ฉันเปิดประตูและลงจากรถสุดหรูของเขา
" ยาคุมนะฉันมีปัญญาจ่าย" ฉันปิดประตูรถของเขาทันที
และก้าวขาเดินกลับเข้าซอยบ้านทั้งที่ยังเจ็บตรง ท้องน้อยไปจนถึงร่องรักที่บวมจากการมีเซ็กส์จริงๆกับผู้ชายครั้งแรก
" อื้ออ" ฉันร้องขึ้นเบาๆอย่างเจ็บแสบแต่ก็กัดฟันสู้ และฝืนเดินจนมาถึงหน้าบ้าน ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
แสงไฟของรถมอร์ฟินยังคงส่องตรงมาที่ฉัน...ก่อนที่เขาจะกลับรถและขับออกไปทันทีที่ฉันปิดประตูรั้วบ้าน
......................
บ้านของฉัน
ไฟยังคงปิดสนิททุกดวง
ฉันเดินเข้ามาถึงโต๊ะกินข้าวเล็กๆ
ก่อนจะพบจดหมายจากพ่อของฉัน
" วันนี้ลูกกลับดึกจังเลยนะ "
" พรุ่งนี้พ่อไปคุมงานที่ต่างจังหวัดคงยุ่งทั้งวัน"
" พรุ่งนี้อย่าลืมแวะไปหาคุณหมอด้วยนะลูก"
" ด้วยรักจากพ่อ"
ฉันอ่านจดหมายของพ่อ ก่อนจะเจอเงินในซองกระดาษสีขาวถึง สี่หมื่นบาท
" ขอบคุณนะคะพ่อ " ฉันกอดแนบจดหมายนั้นไว้แนบอก
พ่อของฉันท่านเป็นวิศกร มือหนึ่งของบริษัทเลยละ
พ่อทำงานหนักทุกวันเพื่อฉัน
เพื่อฉันคนเดียวเลยจริงๆ
เพราะถ้าท่านไม่มีลูกสาวที่ป่วยเป็นโรคบ้าๆนี่
ป่านนี้พ่อก็คงมีบ้านหลังใหญ่ มีรถหรูๆ ไม่ต้องมาเสียเงินรักษาฉันอยู่แบบนี้ทุกๆอาทิตย์
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาชาร์จเพราะพ่อคงติดต่อฉันไม่ได้ตอนที่แบตหมดแน่ๆเลย
บนโต๊ะกินข้าวที่มีรูปคู่ของฉันกับพ่อในวัยเด็กนั้น
ฉันฟุ๊บใบหน้าลงกับโต๊ะและนอนมองมันอยู่แบบนั้น จนหลับไปคากับจดหมายของพ่อสุดที่รัก
____เช้าวันต่อมา___
" ขอซื้อยา คุมค่ะ” ฉันบากหน้าไปร้านขายยาตั้งแต่เช้าเพื่อซื้อยานั้น
เภสัชกรเงยหน้ามองฉันที่ ใส่แว่นตาใสและสวมหน้ากากอนามัย
" แบบแผงหรือฉุกเฉินค่ะ" เธอถามขึ้นเสียงเรียบ
" ฉุกเฉินค่ะ " ฉันตอบอย่างหลบสายตา
เธอวางแผงยาคุมไว้ตรงหน้าของฉัน
" รู้วิธีกินใช่ไหม? " เภสัชถามอย่างไม่ได้ว่าอะไร ทั้งที่ฉันละอายใจแบบสุดๆ
ฉันส่ายหน้าทันที
" ง่ายๆเลยนะคะ ทานหลังมีเพศสัมพันธ์ 24ชั่วโมง ป้องกันได้ 85%"
" ทานหลัง 72 ชั่วโมง ป้องกันได้ 75% " เธออธิบายอย่างละเอียดและชัดเจน
" ยามีสองเม็ดทานพร้อมกันได้เลย ตัวนี้ยาของอเมริกา " เภสัชที่กำลังออกใบเสร็จให้กับฉัน
"อาจจะมีคลื้นไส้อาเจียนนะ อาการข้างเคียง " เธอพูดก่อนจะยื่นบิลให้กับฉัน
ซึ่งฉันก็รีบจ่ายเงินและเก็บยาใส่กระเป๋าทันที
" ขอบคุณนะคะ " ฉันยกมือไหว้เธอทันที เพราะเธอดูเป็นรุ่นพี่ฉันหลายปี
" การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน เป็นเพียงแค่การไปลดโอกาสตั้งครรภ์ลงจากเดิม"
" เพศสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องต้องห้ามนะ แต่ควรจะศึกษาและเตรียมพร้อมให้ดีก่อน " เธอพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มและให้คำแนะนำอย่างใจเย็น
" ครั้งหน้าซื้อถุงยางอนามัย จะปลอดภัยกว่านะคะ " พี่เภสัชพูดทิ้งทายกับฉัน ก่อนที่ลูกค้าคนอื่นๆจะเริ่มเข้ามาในร้าน
หลังออกมาจากร้านขายยา
" 85% " ฉันกลืนยาลงไปและกระดกน้ำตามก่อนจะกลืนลงไปทันที
" มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก "ฉันกำหมัดแน่นอย่างเจ็บใจกับตัวเอง
แต่ฉันก็พยายามจะลืมมันไป ทั้งที่ภาพที่ฉันกับมอร์ฟินกำลังมีอะไรกันมันแล่นเข้ามาในหัวสมองของฉันอยู่ตลอดเวลา
ก่อนที่ฉันจะเร่งต่อแท็กซี่ตรงไปที่คลีนิคของคุณหมอประจำตัว
" เจ็บนิดเดียวนะคนเก่ง" คุณหมอทิ่มเข็มฉีดยาลดระดับฮอร์โมนให้กับฉันในทุก สามสัปดาห์
เพื่อลดระดับของฮอร์โมนให้กลับมาเท่าๆกับคนปกติทั่วๆไป
และยาตัวนี้แหละที่แพงถึงเข็มละสามหมื่น
อาหมอคนนี้เป็นหมอที่ดูแลฉันมาตั้งแต่เด็กๆ และช่วยบำบัดทั้งร่ายกายและสภาพจิตใจของฉัน
แน่นอนว่าโรคนี้ เป็นทางจิตและฮอร์โมนที่ผิดปกติ
" เธอเป็นแม่ของฉันเลยด้วยซ้ำ เพราะฉันไม่มีแม่มาตั้งแต่เกิด" ฉันมองหน้าอาหมอที่ใส่ใจฉันในทุกเรื่อง
ในหลายครั้งที่ฉันเคยอยากจะยอมแพ้และตายๆไปซะ
แต่พ่อก็พูดเสมอว่าท่านไม่อยากอยู่คนเดียว ท่านอยู่คนเดียวไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน
ท่านขอให้ฉันสู้กับตัวเอง สู้กับปีศาจร้ายในตัว
พ่อกับคุณหมอสองคนเท่านั้นที่เชื่อว่าฉันจะสามารถหายจากโรคบ้าๆนี่ได้
และมันทำให้ฉันมีแรงที่จะสู้และยอมรักษาอย่างสม่ำเสมอ
แต่แล้วฉันก็แพ้ให้มันอยู่ดี ฉันปล่อยให้มันควบคุมฉันและทำเรื่องทุเรศนั่น
ฉันไม่สามารถกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ฉันไม่ได้สามารถเอาความบริสุทธิ์ของวัยสาวกลับมาได้แม้ว่าจะรักษามันได้นานถึง สิบแปดปี
" วันนี้เงียบๆไปนะแซมมี่ " คุณหมอที่กำลังจดบันทึกลงประวัติการให้ยา ลงในแฟ้มเอกสารหน้าปึกของฉันเงยหน้าขึ้นมองฉันอย่าง
" อาหมอคะหนูอยากหายจากโรคบ้าๆนี่" ฉันพูดกับคุณหมอทั้งน้ำตา
เมื่อนึกถึงภาพททุเรศที่ตัวเองทำลงไป
" เมื่อไหร่หนูจะหายคะ? " ฉันถามไปอย่างรู้ซึ่งคำตอบ
"อาการของหนูยังดีกว่าหลายๆคนนะลูก หนูเก่งมากๆหนูดูแลตัวเองดีมากๆ" คุณอาหมอวางปากกาและเงยหน้ามองฉันทันที
และลุกจากเก้าอี้ของเธอและเดินเข้ามากอดฉันเอาไว้
แน่นอนว่าความรู้สึกที่แทบจะระเบิดนั้นได้พังทลายลงทันที
" ไม่เลยค่ะ " ฉันส่ายหน้าอย่างรุนแรงและเริ่มหลอนขึ้นมาทันที
"มีอะไรเล่าอยากเล่าให้อาฟังไหมลูก อาอยู่ตรงนี้นะ " เธอพูดขึ้นอย่างอบอุ่นและโอบกอดฉันเอาไว้
" หนูแพ้มันแล้วค่ะ " ฉันร้องไห้ออกมาและพูดระบายออกมาอย่างสุดกลั้น
" หนูทำไปโดยไม่รู้ตัวเลย ไม่รู้ตัวเลย" ฉันร้องสะอึกสะอื้นอย่างเจ็บปวดใจ
" เมื่อคืนมันเลวร้ายมาก หนูเจ็บ หนูปวดแต่หนูกลับ.." ฉันพูดไม่ออกเลยกับสิ่งที่ฉันทำกับมอร์ฟิน และภาพสารเลวต่างๆที่ฉันนึกและคิด ภาพที่ฉันคิดว่าตัวเองอยากนอนกับผู้ชายพวกนั้น อยากนอนมั่วไปหมด
" โอเคลูกๆ ค่อยๆระบายออกมาให้หมด อารับหนูฟังทุกอย่าง" อาหมอกอดฉันแน่นกว่าเดิมและรับฟังอย่างตั้งใจ
" หนูรู้สึกไม่ดีเลย หนูเกลียดตัวเองหนู...หนูเกลียดร่างกายตัวเอง " ฉันจุกจนแทบพูดอะไรไม่ออกเลย
ปากสั่นมือสั่นและหงิกเกร็งเพราะความเครียด
อาหมอค่อยๆบีบนวดที่ต้นคอของฉันเบาๆ และหนักขึ้นเพื่อให้ฉันรู้สึกคลาย
" ไม่เอาลูก ไม่โทษตัวเองแบบนั้น ไม่โทษตัวเองนะ" อาหมอยังคงใจเย็นและลูบต้นคอของฉัน และนวดคลึงอย่างปลอบโยน
ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้เข้ามานั่งตรงหน้าใกล้ๆกับฉัน
" ร่าน ก..รี่.." ฉันทวนคำพูดของมอร์ฟินที่ตะโกนด่าฉันอย่างเจ็บสุดใจ
" ไม่ๆ ไม่ต้องไปฟังใครอารู้จักหนูดี อารู้จักหนูดีกว่าใคร " อาหมอจับใบหน้าของฉันและปาดน้ำตาให้อย่างเบามือ
" สูบลมหายใจเข้าลึกๆ ผ่อนคลายลูก " อาหมอพยายามทำให้ฉันสงบลงจากอาการสติแตก
จนในที่สุดฉันก็เริ่มดีขึ้น และพยักหน้ากับเธอไป
" งั้นเรามานั่งจับเข่าปรึกษากันดีกว่านะ มาช่วยกันคิดแก้ปัญหานะลูก " อาหมอจับมือของฉันเอาไว้แน่นอย่างไม่ปล่อย
"หนูไม่กล้าจะสู้หน้าพ่อ หนูทำให้พ่อผิดหวัง " ฉันเอามือปาดน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุด
" ไม่ๆ พ่อของหนูจะเป็นคนที่เข้าใจและปกป้องหนูได้ดีที่สุดเชื่ออานะ " อาหมอหยิบผ้าเช็ดหน้าของเธอส่งให้ฉันอย่างอ่อนโยน
" พ่อเขารักหนูที่สุด หนูแค่ป่วยถ้าเรารักษากันไปเรื่อยๆวันหนึ่งหนูจะหายนะลูก " อาหมอพูดอย่างเอ็นดูและเมตตาต่อฉัน
" แล้วได้ป้องกันไหมลูก? " เธอรีบถามอย่างเป็นห่วง
ซึ่งฉันพยักหน้าตอบไปนิ่งๆ
" ถ้าแซมยังไม่บอกพ่อ อาสัญญาว่าเรื่องนี้จะรู้แค่เราสองคน " อาหมอย้ำอีกครั้งและมองตรงมาที่ฉัน
" แซมพอจำได้ไหมว่าเขาเป็นใคร เขาชื่ออะไร " อาหมอหันมาถามฉันนิ่งๆ
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะอ้าปากบอกกับอาหมอ เสียงของมอร์ฟินก็ดังเข้ามาโสตประสาทของฉันว่า..
-ไม่ต้องติดต่อมา เจอก็ไม่ต้องทัก-
" หนู ไม่รู้ค่ะ"
" ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร "