บทย่อ
" เมื่อคุณมีปีศาจร้ายแฝงอยู่ภายใน ถ้าควบคุมมันไม่ได้ ชีวิตก็จะพังแบบที่ฉันกำลังเผชิญ ปีศาจร้ายที่มีชื่อว่า...นิมโฟมาเนีย " เมื่อฉันป่วยเป็นโรคขาดการมีเซ็กส์ไม่ได้ และเขาคือคนเดียวที่อาจจะหยุดความต้องการทางเพศนี้ได้ ..มอร์ฟิน
Ep.1
ปลายนิ้วมือจิกเข้าที่ต้นขาอย่างสั่นสายตาเริ่มพล่ามัวและหายใจหอบถี่ ร่างกายเพิ่มร้อนระอุทั้งที่อยู่ภายในห้องแอร์
ฉันรับรู้ทันทีว่า ปีศาจร้าจภายในตัวกำลังจะปรากฎออกมา...
“ กระเป๋า” ฉันล้วงมือหยิบกล่องยาจากกระเป๋าแบรนด์หรู ที่เพิ่งได้จากการถ่ายแบบมา..
แกร๊กกก...ฉันเปิดกล่องใส่ยาที่เหลือเพียงเม็ดสุดท้ายเท่านั้น ฉันหยิบมันขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทาก่อนจะยัดมันใส่ปากและกลืนทั้งที่ไม่มีน้ำแม้สักหยด..
เพื่อที่จะ..หยุดมัน...
“แซมมี่...” เสียงของใครบางคนเรียกฉันขณะที่ฉันยังกำชายกระโปรงและจิกเอาไว้แน่นอย่างเก็บอาการ ก่อนจะค่อยๆหันไปทางเธอ
“..ไม่สบายหรอ?” เอวาลีนเพื่อนในวงการนางแบบเอ่ยทักฉันด้วยสีหน้าที่ห่วงใยและมองกล่องยาในกำมือของฉัน
“ เปล่า..คงตื่นงานไปหน่อย” ฉันตอบเสียงสั่นๆ แต่พยายามให้มันเป็นปกติ
แม้แต่ขาที่เริ่มที่สั่นจนแทบจะยืนไม่ไหว...
เธอคนนั้นมองตามมือของฉันที่ถือกล่องใส่ยาเอาไว้ และนิ่งไป
“ ยาลดความอ้วนนะ” ฉันตอบก่อนจะเก็บกล่องยาลงในกระเป๋าหลุยส์วิตตองใบใหญ่ของตัวเอง
“ เห้ย..ยูไม่อ้วนเลยนะแซม” เอวาลีนเดินเข้ามาขนาบข้างฉันอย่างเฟรนลี่
“ อย่ากินเลย..กินเยอะใจสั่นเอานะ มันอันตรายมากๆด้วย” เอวาลีนส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย
“อื้ม” ฉันก็พยักหน้ารับไป
“ เราเข้าไปแต่งตัวกันเถอะ” เธอเดินจูงแขนของฉันเข้ามาภายในห้องแต่งหน้าแต่งตัวสำหรับงานเดินแบบ
จริงๆเอวาลีนกับฉันรู้จักกันเพราะว่า เราเคยประกวดเดินแบบเวทีเดียวกันและอยู่ทีมเดียวกัน
แต่ว่าเอวาลีนสละสิทธิ์ทันทีที่เธอรู้ว่า มีคนจะใช้เส้นและทำให้เธอชนะ
และการสละสิทธิ์นั่นเลยทำให้ฉันได้ที่หนึ่งนั้นมา อย่างที่ฉันไม่เคยคาดคิด
เอวาลีนค่อนข้างเฟรนลี่ แต่ไม่ได้เฟคและเธอก็ดีกับฉันมากเช่นกัน
“แซมกินไหม เดี๋ยวแบ่งครึ่งให้?” เอวาลีนที่นั่งแต่งหน้าอยู่ข้างๆเอ่ยถามฉัน ขณะที่เราสองคนกำลังคิวขึ้นเวทีเดินแบบในอีกไม่นานนี่เอง
“ ไม่ล่ะ” ฉันส่ายหน้าอย่างยิ้มๆให้เธอไปทั้งที่ตายังเหลือบมองไปที่ขนมปังแซนด์วิชในมือของเธออย่างกลืนน้ำไหลเบาๆ
“ ฉันกลัวว่าจะใส่ชุดเดินแบบไม่ได้” ฉันลูบหน้าท้องแบนราบของตัวเองอย่างกังวลนิดๆ
ทุกโอกาสในชีวิตทุกๆย่างก้าวมันสำคัญต่ออนาคตของฉันมากๆและฉันอยากทำมันออกมาให้ดีที่สุด เพราะว่าฉันไม่เคยได้อะไรมาง่ายๆ....
“ แซมมี่ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้นะ เธอหุ่นดีและมีวินัยออกกำลังขนาดนี้ รูปร่างก็โคตรจะเพอร์เฟค แทบไม่มีไขมันเลย” เอวาลีนเคี้ยวไปชมฉันไปอย่างร่าเริง
“ ดูพุงกับเหนียงฉันสิ เป็นชั้นๆฉันยังกินไม่หยุดปากเลย” เอวาลีนหัวเราะร่าและบีบจับพุงของตัวเองเล่นๆ จริงๆ เธอเองก็หุ่นดีเหมือนกันแม้ว่าจะอวบกว่าฉันเพียงเล็กน้อย เอวาลีนดูความสุขกับการกิน และทุกๆอย่างจริงๆ เธอเหมือนไม่ได้จริงจังและซีเรียสไปกับทุกเรื่อง ปล่อยมันไปแบบชิลๆ
ซึ่ง..ต่างจากฉันมาก
“ ไม่ละฉันไม่หิวจริงๆ” ฉันยิ้มๆไปทางเอวาลีนทั้งที่แสบหน้าท้องไปหมดแต่ก็ฝืนทนเอาไว้
เพราะแน่นอนว่าต่อให้เอวาลีนจะอวบกว่าฉัน หรือจะตามใจปากมากแค่ไหน
สุดท้ายแล้วเธอก็ได้สวมใส่ชุดฟินนาเล่และก็เป็นตัวเด่นของเวทีนี้อยู่ดี
เพราะจริงๆแล้ว..ตำแหน่งจากการแข่งขันนั้นมันไม่ได้สำคัญเท่ากับว่า เอวาลีนเป็นลูกสาวของใคร..และเธอนามสกุลอะไร..
ฉันเหลือบมองไปที่ชุดของตัวเองที่แขวนข้างๆกับชุดของเธอ
แน่นอนว่าฉันไม่ได้อิจฉาเพื่อนอย่างเอวาลีนหรอก.. เพราะคนเราเกิดมาวาสนาไม่ได้เท่ากัน
แต่การที่ฉันผลักดันตัวเองมาจนถึงจุดนี้..ฉันว่ามันก็คุ้มค่าและขอบคุณโชคชะตามากๆแล้ว
“ คุณเอวาลีน ดอกไม้ค่ะ” เสียงของออแกนไนท์เดินถือช่อดอกไม้ใหญ่สะดุดตาจนคนทั้งงานแอบหันไปมองทางเธอ
“จากใคร” เอวาลีนขมวดคิ้วและหยิบการ์ดขึ้นมาอ่านทันที
“คืนนี้มีวันเกิดฉันนะไม่ลืมใช่ไหม?...แอลตัล” เอวาลีนอ่านโน้ตนั่นและแบะปากเล็กน้อย
“แฟนส่งมาหรอ?” ฉันถามไปเชิงแซวเจ้าตัว
เอวาลีนนิ่งไปสักพัก
“เพื่อนน่ะ ....ถ้าได้มันเป็นแฟนนะอกแตกตายแน่ๆ” เอวาลีนยิ้มเมื่อพูดถึงใครคนนั้นและแบะปากเล็กน้อยก่อนจะวางช่อดอกไม้ไว้บนเก้าอี้
“อันนี้ชุดฟินนาเล่ของคุณเอวาลีนค่ะ” พนักงานถึงสองคนช่วยกันหอบชุดฟินนาเล่มาพรีเซนต่อหน้าเอวาลีนที่เพิ่งจะใช้ทิชชู่เช็ดคราบแซนวิชที่ขอบปากของเธอ และคว้าดื่มน้ำแร่ที่อยู่บนโต๊ะตรงหน้านั้น..
ส่วนทางฉันก็ได้รับชุดสีครีมเนื้อบางที่เป็นคอลเลกชั่นใหม่จาก ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ลุกไปลอง
“ นี่ ออแกไนซ์เซอร์งานนี้จัดงานเป็นจริงๆรึเปล่าอะ?” เอวาลีนลุกขึ้นจากเก้าอี้และหยิบชุดของเธอมาถือไว้ทันที
“ คะ?” พวกพนักงานเริ่มทำหน้างงและตกใจที่อยู่ดีๆ เอวาลีนก็ลุกขึ้นชักสีหน้า ฉันเป็นแค่นางแบบโนเนม ประกวดก็ไม่ได้ตำแหน่งอะไรแต่ได้ใส่ฟินนาเล่ ?” เธอทวนย้ำและชี้ไปที่ชุดนั้น
“ แต่เพื่อนของฉันได้ที่หนึ่ง..เพิ่งได้มาหมาดๆ เลยนะ..แต่เธอกลับให้เขาใส่ชุดธรรมดาๆเนี้ยนะ” เอวาลีนมองมาที่ฉัน ก่อนจะดึงชุดจากมือของฉันไปทันที
“ ไม่เอาน่าเอวา ดีไซเนอร์อาจจะเห็นว่ามันเหมาะกับเธอ..ชุดฉันก็สวยดี” ฉันพยายามจะช่วยพูดให้เรื่องมันจบๆไป
“มันไม่แฟร์กับเธอแซมมี่ และก็ไม่แฟร์กับฉันด้วย” เอวาลีนยัดเอาชุดฟินาเล่นั่นให้กับฉัน
“งานนี้เป็นงานที่เธอจะได้เฉิดฉายให้สมกับตำแหน่งที่เธอได้ ที่เธอพยายามอย่างหนักเพื่อมัน” เอวาลีนพูดอย่างเสียงแข็ง
“ ฉันไม่ต้องการเอาเปรียบเธอ..และเธอก็เป็นเพื่อนของฉัน”
“ ทุกคนเข้าใจตรงกันนะ ...” เอวาลีนพูดอย่างชัดเจนจนออแกนไนท์ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“และถ้าผู้ใหญ่คนไหนในงานมีปัญหา บอกไปว่าฉันต้องการจะใส่ชุดนี้” เธอพูดอย่างเด็กเอาแต่ใจซึ่งก็ไม่มีพนักงานคนไหนกล้าขัด และพวกเขาก็รีบจับเราทั้งสองแยกไปแต่งชุด เพื่อเตรียมขึ้นเดินแบบทันที
ถึงฉันจะไม่ค่อยสนิทกับเอวาลีนมากเท่าไหร่ แต่ฉันก็...รู้สึกว่าเธอนิสัยดีแต่เอาแต่ใจนะ..
และฉันไม่คิดเลยว่าคนรวยระดับเธอจะนับว่าฉันเป็นเพื่อนของเธอด้วย
งานเดินแบบผ่านไปได้ด้วยดี เกินกว่าที่คาดคิด
กล้องจากทั่วทุกทิศส่องตรงมาที่ฉัน ...ดีไซเนอร์ชื่อดังท่านนั้นเดินออกมาพร้อมกับพรีเซนต์ชุดสุดท้ายที่อยู่บนเรือนร่างของฉันและเธอหยุดยืนข้างๆฉัน
เสียงปรบมือดังสนั่น ทำเอาฉันเองตื่นเต้นจนแทบไม่อยากจะเชื่อว่า
“งานเพอร์เฟคมากจ่ะ เธอเหมาะกับชุดนี้มากๆเลย” ดีไซเนอร์ห้องเสื้อชื่อดังหันมาพูดกับฉันก่อนที่เธอจะเดินจิกรองเท้าส้นสูงลงจากเวทีไปอย่างสง่างาม
และทิ้งให้เหล่านางแบบรวมถึงฉันที่ยืนเด่น ได้ให้สื่อมวลชนได้เข้ามาถ่ายรูปเก็บภาพไปทำข่าวกันเต็มที่
“ มองกล้องนี้ด้วยครับ” เสียงของตากล้องที่ตะโกนเรียกเพื่อของถ่ายภาพเดียวดังขึ้นเป็นคนแรก
ก่อนที่กล้องอีกหลายๆตัวจะหันตามๆกันมา
แชะ แชะ แชะ แชะ.....
...............................
“ ยังไงค่ะนางแบบสุดฮอต..ฉันต้องขอลายเซ็นต์เอาไว้ล่วงหน้าเลยดีไหม?” เสียงของเอวาลีนที่เปลี่ยนชุดเสร็จสรรพ และเดินมารอแซวฉัน ที่เพิ่งแยกตัวไปสัมภาษณ์ และถ่ายรูปเสร็จ
“ ขอบคุณเอวา” ฉันก้มหัวให้กับเพื่อนในวัยเดียวกันอย่างซึ้งใจและขอบคุณสำหรับโอกาสที่เธอสละให้
“ ขอบคุณทำไมกัน?” เอวาลีนส่ายหน้าอย่างขี้เล่น
“ งั้นฉันต้องขอบคุณเธอเหมือนกันที่ทำให้ฉันไม่ต้องเดินในชุดยาวและยากแบบนั้น ไม่งั้นนะมีหวังสะดุดหัวทิ่มพื้นแน่ๆ” เธอพูดอย่างขำๆแต่ฉันก็ยังขอบคุณเธออยู่ดี
“ งั้นฉันไปก่อนนะ” ไม่นานเอวาลีนก็โบกมือลา
ฉันก็เดินเข้ามาเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมที่จะกลับบ้าน
————————————
“ อ้าวเอวา?” ฉันเดินออกมารอขึ้นแท็กซี่ก็เจอเอวาลีนที่กำลังยืนอยู่หน้ารถสุดหรูของเธอเหมือนกำลังรอใครสักคน
เอวาลีนขยิบตาข้างหนึ่ง และในขณะที่เธอยืนกอดอก พิงรถคันหรูอย่างมาดเท่
“ฉันแค่คิดว่าอยากจะลองชวนเธอไปงานงานหนึ่งต่อในคืนนี้” เธอพูดขึ้นก่อนจะโชว์นามบัตรที่แนบมากับการ์ดช่อดอกไม้ของเธอที่ฉันเห็นในงาน
“ งานวันเกิดเพื่อนฉันเองน่ะ” เธอพูดขึ้นเหมือนเห็นว่าฉันเงียบและฟัง
“ คือฉัน...” ฉันกำลังจะตอบปฎิเสธไป
“ ถ้าเธออยากรู้จักกับพี่เฮเลนโมเดลลิ่ง เธอควรจะไปงานนี้” จู่ๆเอวาลีนก็พูดขึ้นและมองมาที่ฉัน
“ พี่เฮเลน” ฉันถามเอวาลีนย้ำอีกครั้ง
ใช่ไม่มีนางแบบคนไหนไม่รู้จักพี่เฮเลนโมเดิลลิ่ง
“ โอกาสเจอพี่เฮเลนนะไม่ง่ายนะ..ฉันเลยคิดว่าเผื่อเธอจะสนใจ” เอวาลีนยักคิ้วและยิ้มแย้ม
พี่เฮเลน คือโมเดลลิ่งมือหนึ่งที่ปั้นนางแบบโดยเฉพาะ
มีงานทั้งในและต่างประเทศ และแบรนด์หรูๆทั้งนั้น
ซึ่งถ้าฉันได้เจอกับพี่เฮเลน สาวประเภทสองมือหนึ่งเรื่องวงการนางแบบคนนี้. หนทางในการเป็นนางแบบมืออาชีพคงง่ายมากขึ้นและคงจะสร้างรายได้ได้มากกว่าตำแหน่งที่เพิ่งได้มาด้วยซ้ำ
“เอาไงดี?” เอวาลีนเอียงคอถามฉันเล็กน้อยและมองนาฬิกาข้อมือของเธอ
“ ไปสิ ต้องไปแน่นอน” ฉันพยักหน้ารับทันที
ซึ่งชื่อของพี่เฮเลนนั่นทำให้ฉัน ไม่ลังเลเลยที่จะคว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้
“ แต่งานปาร์ตี้ก็จะ..มั่วๆหน่อยนะเธอคงไม่ถือใช่ไหม?”เธอพูดก่อนจะเดินไปขึ้นรถอีกฝั่งและยังกดรีโมทเปิดประตูให้กับฉันอีกด้วย
“ มั่ว?” ฉันหันไปถามกับเอวาลีนที่กำลังตั้งใจขับรถพาฉันไปงานปาร์ตี้ที่หนึ่ง
“ ใช่ วงการนางแบบนะมันไม่ได้มีแค่ด้านขาวสะอาดนี่ เด็กบางส่วนของพี่เฮเลนก็ยินดีและเสนอตัวที่จะเป็นของเล่นพวกหนุ่มไฮโซทั่วๆไป” เอวาลีนเล่าไปขับรถไป
“อย่างเช่นเพื่อนสนิทฉันที่ชอบกินนางแบบเป็นที่สุด” เธอพูดขึ้นเบาๆ และส่ายหน้าก่อนจะเหยียบคันเร่งขึ้นไปเรื่อยๆ
“ ฉันเห็นเธอตั้งใจมากๆมาตั้งแต่ตอนแข่งขันแล้วละ” เอวาลีนพูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจังมากกว่าทุกครั้ง
“ เชื่อไหมว่าฉัน...ไม่เคยมีความฝันหรือความตั้งใจต่ออะไรจริงๆเลยสักอย่าง” เธอพูดไปสยายผมไปอย่างชิลๆ
“ฉันไม่ได้อยากเป็นนางแบบ ไม่ได้อยากเป็นคนมีชื่อเสียง” เอวาลีนส่ายหน้าอย่างไม่ใส่ใจ
“แต่ฉันยินดีเป็นสะพานให้เธอก้าวไปถึงฝันนะ แซมมี่” เอวาลีนพูดและยิ้มด้วยแววตาหยอกล้อ
“ เพราะเธอตั้งใจและพยายาม จนฉันนับถือจริงๆ” เธอยักคิ้วก่อนจะเลี้ยวเข้าไปจอดภายในบ้านหลังใหญ่แห่งหนึ่ง
“ บ้านคุณแอลตัล คนหื่นกามระดับประเทศ” เธอแนะนำทันทีที่เราจอดรถในลานจอดรถสุดกว้างแห่งนี้
ทั้งงานถูกตกแต่งอย่างหรูหรามีไฟประดับประดาไปทั้งบ้าน
แน่นอนว่ามันทำให้ฉันรู้สึกประหม่าไม่น้อยที่จะได้มาร่วมงานวันเกิดของเพื่อนสนิทเอวาลีน ที่ดูมีฐานะมากขนาดนี้
“ เราเข้าไปด้านในกันเถอะ” เอวาลีนพูดก่อนจะหยิบเอากล่องของขวัญขนาดใหญ่ภายในรถของเธอออกมาถือและเดินเข้ามาในงานพร้อมๆกับฉัน
ภายในงานเป็นงานปาร์ตี้ที่หรูหรา ถูกจัดกลางลานน้ำพุที่อากาศค่อนข้างเย็นในยามกลางคืน
อาหารและเครื่องดื่มที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้มากกว่าคนในงานซะอีก
แต่จังหวะที่กำลังจะเดินผ่านห้องโถงรับแขกที่เชื่อมกับทางเดินไปสระว่ายน้ำ ด้านนอกกนั้น
“ เอวาลีน!!!!!” เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่มีสาวสวยนั่งตักอยู่ตะโกนเรียกมาทางฉันกับเอวาลีน ที่เดินเข้ามาในงาน ที่ถูกจัดอยู่ริมสระว่ายน้ำ และยาวไปถึงลานน้ำพุภายในบ้าน
เอวาลีนหยุดมองไปที่ชายคนนั้น ซึ่งเขาก็น่าจะเป็นเจ้าของงานนี้ เธอเดินตรงเข้าไปหาเขา ทั้งที่มีสาวคนหนึ่ง ...และนั่นมัน...
“ ผิงผิง” ฉันนึกชื่อของผู้หญิงที่นั่งกอดนัวๆอยู่กับเจ้าของวันเกิดขึ้นมาได้
เธอคือคนที่ประกวดเวทีเดียวกันกับฉันและได้ที่สอง
ซึ่งฉันกับเธอก็มีคะแนนที่สูสีกันเอามากๆเลย
“ ของขวัญ !” เอวาลีนยื่นของขวัญของเธอให้กับแอลตัล ซึ่งนั่นทำให้เขาคลายมือที่โอบเอวผิงๆออกและหันมารับของขวัญจากเอวาลีนทันที
“ ไม่คิดว่าจะเจอเอวาลีน กับ แซมมี่ที่นี้เลย” ผิงๆหันมามองเอวาลีนกับฉันนิดๆ
ฟุ๊บบ จู่ๆเอวาลีนก็ทิ้งตัวนั่งลงตักอีกข้างของแอลตัล
“ ก็ฉันเป็นคนสำคัญของแอลตัลนี่” เธอพูดก่อนจะ..
ฟ๊อดดด หอมเข้าที่แก้มของเขาอย่างเสียงดัง
“ happy birthday” เอวาลีนพูดขึ้นแต่ใบหน้าเธอมองไปที่ผิงๆและยิ้ม ก่อนจะลุกจากตักแอลตัลและเดินหันกลับมาทางฉัน
แอลตัลแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา และกัดริมฝีปากมองมาทางเอวาลีน
“ กล่องนี้อะไรอะ?” เขาเขย่ากล่องของขวัญและถามทางเอวาลีนราวกับว่างานนี้มีแค่เขาสองคนเท่านั้น ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้อะไร มีแต่ผิงผิงที่หน้าเริ่มไม่ค่อยโอเคที่นั่งอยู่กับตักแท้ๆแต่ดูเหมือนเป็นส่วนเกิน
“ ถุงยางอะ ซื้อมา365ชิ้น ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ปลอดภัยจากโรคนะมึง!!!” เอวาลีนพูดอย่างยิ้มแย้มและน้ำเสียงกวนๆ แต่แอลตัลกลับไม่ได้ชักสีหน้าหรือโกรธอะไรเธอ แต่กลับกอดกล่องของขวัญไว้แนบกาย
“ กูไปหาเจ๊เฮเลนดีกว่า อย่าลืมใช้ของขวัญกูด้วยละ!” เอวาลีนตัดบททันที เมื่อเห็นว่าของขวัญกวนๆของเธอทำอะไรแอลตัลไม่ได้
“ เฮ้ยเอวา!! แล้วมึงรู้ไซส์...ของกูด้วยหรอว่ะ??” แอลตัลถามขึ้นเสียงดัง
“ ไม่ยากนี่ กูก็ซื้อไซส์ที่เล็กที่สุดนั่นแหละ” เอวาลีนก็ตอบกลับทันควัน
“ พูดแบบนี้ก็สวยดิวะ มึงเดินกลับมาจับก่อนเลยๆ!!” แอลตัลเถียงกลับอย่างไม่ยอม
“ ไปแล้วไอ้บ้า!!!” เอวาลีนเดินมาจับแขนของฉันให้ออกมาจากตรงนั้น
“ แต่ยังไงซะ เวลากูใช้ของขวัญกูจะคิดถึงคนให้ก็แล้วกันนะ” และนั่นคือเสียงของแอลตัลที่ตะโกนไล่หลังพวกเราออกมา
“ เมาและพูดจาเลอะเทอะ ไอ้เพื่อนบ้า” เอวาลีนบ่นๆ ก่อนจะพาฉันออกมาจากห้องนั้น
และทางที่ฉันกำลังเดินออกมายังสระว่ายน้ำ ฉันก็สวนเข้ากับ...
“ มอร์ฟิน..” ฉันเหลือบมองไปทางเขานิดเพราะว่าเขาคือเพื่อนร่วมชั้นเรียนของฉันนั้นเอง ซึ่งทั้งงานนี้คงเป็นผู้ชายคนเดียวที่ฉันรู้จัก มีผู้ชายวัยรุ่นอีกมากมายในงานที่นัวเนียกับพวกสาวๆ นางแบบ รูปร่างสวยๆเต็มไปหมดจริงๆ อย่างที่เอวาลีนบอกฉันเอาไว้
“ พี่เฮเลนขาาาาา” เอวาลีนนำร่องด้วยการพาฉันเข้าไปหา พี่เฮเลน สาวสวยประเภทสอง ที่สวยราวกับเป็นผู้หญิงแท้ๆ
“ ว๊ายย ลูกสาวของขุ่นแม่” เธอเอ่ยทักเอวาลีนและพุ่งเข้ามากอดทันที
“ พาเพื่อนมาแนะนำให้รู้จักนะคะ” เอวาลีนเลี่ยงตัวหลบมาทางฉัน
“ สวัสดีค่ะ พี่เฮเลน” ฉันยกมือไหว้เธอทันที
“ ซุปเปอร์โมเดลhot hit ปีนี้ และยังเพิ่งลงจากเวที Born to be model ss2 ดีไซเนอร์ชื่อดัง มาเมื่อสักครู่นี่เอง” พี่เฮเลนเอ่ยทักทายและยื่นมือมารับไหว้ฉันอย่างยิ้มแย้ม
“ พี่รู้จักหนูด้วยหรอคะ?” ฉันยิ้มรับและหันไปมองทางเอวาลีนเล็กน้อย
“ แซมมี่ ใครไม่รู้จักหนูก็เชยมากละ” พี่เฮเลนหัวเราะกลับมาอย่างอารมณ์ดี เธอเองก็มีกลิ่นจางๆของแอลกอฮอร์
“ บลูฮาวาย์สักแก้วไหม?” เอวาลีนส่งเครื่องดื่มที่ผสมด้วยแอลกอฮอล์มาทางฉัน กับพี่เฮเลน ซึ่งเธอก็จิบดื่มและทานขนมภายในงานไปพลางๆ
“ ไม่ละ” ฉันเลือกที่จะปฏิเสธแต่ว่า
“ ดื่มกับพี่สักแก้วสิ แซมเราจะได้คุยกันคล่องคอมากขึ้น” แต่พอพี่เฮเลนเปิดประเด็นมาแบบนั้นฉันเลยจำเป็นต้องฝืนใจ ดื่มแอลกอฮอล์แก้วนั้นไปทั้งทีไม่อยากจะดื่มมันเลย
“ บ้านหลังนี้ห้องนอนเยอะนะ ถ้าเมาก็ไม่ต้องกลับไว้กลับตอนเช้าเอาปาร์ตี้สไตล์ฝรั่งๆหน่อยนะ” เอวาลีนกระซิบบอกกับฉัน ก่อนที่เธอจะเดินหายไปทักทาย พวกเพื่อนแก๊งไฮโซๆ ของเธออีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นพวกผู้ชาย รวมถึงมอร์ฟินที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วย
“ เรานะ มีสังกัดหรือโม ไหนมาทาบทามบางรึยัง?” พี่เฮเลนวางแก้วของเธอและมองสำรวจร่างกายของฉันไปพลางๆ
“ ยังเลยค่ะ แซมรอเจอพี่เฮเลนก่อนใครเลย” ฉันพูดอย่างเย่อยอเธอและรู้งาน
“ เก๋กู๊ดลูกสาว” พี่เฮเลนยิ้มออกมา เธอวางมือลงที่เอวคอดของฉัน ก่อนจะดูรูปร่าง และผิวหน้าชัดๆ
“ พรุ่งนี้ ไปแคสที่สตูนะ พี่มีงานจะให้ทำและก็....เซ็นสัญญาใต้สังกัดโมพี่” พี่เฮเลนพูดก่อนจะตีก้นของฉันอย่างหยอกล้อ และยื่นนามบัตรสีม่วงประกายวิ้งวับให้กับฉัน
“ เจอกันนะลูก แม่จะรอ” เธอพูดและยื่นค๊อกเทลอีกแก้วให้ฉัน ก่อนจะชน และดื่มอีกรอบ
ฉันเริ่มเดินไปรอบๆงาน อย่างเกร็งๆ เพราะในงานมีแต่นางแบบที่มีทั้ง ชื่อดัง และนางแบบหน้าใหม่ เต็มไปหมด รวมถึงพวกไฮโซลูกท่านหลานเธอเต็มงาน
ภาพปาร์ตี้ที่สุดเหวี่ยง และชุดบิกินิ ชุดวาบหวิวเดินกันไปทั่วงาน เสียงดนตรี และภาพของหญิงชายที่นัวเนียกันราวกับคู่รัก นางแบบชื่อดังที่กำลังจูบอย่างดูดดื่มกับชายหนุ่มหน้าหล่อกลางสระว่ายน้ำอย่างไม่สนใจสายตาใดๆ หน้าอกตู้มที่แนบเข้าแผ่นอกของเขา ฝีปากที่บดขยี้ทำให้ฉัน...เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี...
บวกกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่กระตุ้นอะไรบ้างอย่างในตัวของฉัน...
“ ห้องน้ำ” ฉันรีบเดินเข้าไปในตัวบ้าน เพื่อหาห้องน้ำ
“ เออนี่เธอ” เสียงของแอลตัลที่เดินเมาๆตรงเข้ามาทางฉัน และเขาเปลื่อยท่อนบนเอาไว้
“ เห็นเอวาลีนปะ?” เขายื่นหน้าเข้ามาถามฉันในระยะประชิด
“ ไม่ “ ฉันตอบไปอย่างใจสั่นๆ
“ อ่อ นี่ถ้าเมาก็ขึ้นไปนอนได้นะ มีหลายห้องนอนเลยเลือกเอา” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินลงบันไดออกไป
เพียงไม่นานฉันก็สวนกับ ผิงผิงที่เดินตามแอลตัลลงมาด้วยสภาพที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด และไม่ทักทายใดๆแต่เดินสวนกับฉันไปเลย
ภาพของเขาทั้งสองคนถูกสร้างจินตนาการบางอย่างภายในหัวของฉันอย่างไม่สามารถจะหยุดมันได้เลย...
ฉันเดินหาห้องน้ำ แต่กลับเจอเข้ากับห้องนอนที่ว่างอยู่ เลยเลือกที่จะเดินเข้าไปในนั้น
ก่อนจะเทกระเป๋าออกมาเพื่อหาสิ่งที่ฉันต้องการ
ยาในกล่องเพิ่งจะหมดไปที่งานนั้น...
และฉันไม่ได้พกเข็มฉีดยามาอีกด้วย
เพราะคิดแค่ว่ามาทำงานแล้วจะกลับบ้านเลย...
แกร็ก!! ฉันกดล็อกประตูห้องทันทีเมื่อเข้ามาแล้วพบว่าไม่มีใคร
ฉันหันมองใบหน้าของตัวเองผ่านในกระจกนั้น
เนื้อตัวเริ่มสั่นอย่างเร่าร้อน ภาพสิ่งเร้าในงานเริ่มประติดประต่ออย่างไม่อาจจะหยุดมันได้
ฉันค่อยๆเอามือสอดเข้าไปภายใต้ชุดราตรีรัดรูปสีดำนั้น ก่อนจะดันปลายนิ้วเข้าไปสัมผัสกับ น้ำที่ไหลออกมาจากร่องสวาทของตัวเอง
ฉันหลับตาสนิท และกำหมัดแน่น เมื่อรับรู้แล้วว่า
ปีศาจร้ายในตัวกำลังจะออกมา...
ฉันทิ้งตัวนอนลงบนเตียงกว้างใหญ่
ก่อนจะชันขาทั้งสองข้างขึ้น เช่นทุกๆครั้งที่เคยทำมา
ในวันที่ขาดยาระงับ และเข็มฉีดยาลดระดับฮอร์โมนนั้น
ฉันสอดนิ้วลงไปด้านในร่องสวาทของตัวเองที่เต็มไปด้วยน้ำที่แสดงถึงความต้องการทางเพศและมืออีกข้างที่บีบหน้าอกของตัวเอง ที่คัดเต้าราวกับจะแตกออกมา
ร่องสวาทกลีบกุหลาบที่ร้อนระอุ และต้องการที่จะเสียดสีกับบางสิ่งและใช่ค่ะ..
“ และเรื่องเลวร้ายที่ติดตัวฉันมาตั้งแต่เกิด...มันมีชื่อว่า...นิมโฟมาเนีย...”
“อื้ออออ...” ฉันครางออกมาอย่างไม่สามารถระงับความต้องการทางร่างกายนั้นได้
ก่อนที่ฉันกำลังจะกลาย...เป็นใครอีกคน.