ตอนที่7 เพื่อนพี่ชาย
เฟลมที่พึ่งแยกกับซินเซียได้ไม่นานก็รู้สึกว่ายังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ มือเล็กความหาโทรศัพท์เครื่องหรูจากกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมที่วางอยู่เบาะข้าง ๆ ก่อนจะกดเบอร์พี่ชายและโทรไปหาด้วยความคิดถึง
“อยู่ไหน ยุ่งเปล่า?” ทันทีที่ปลายสายตอบรับ เฟลมก็รีบชิงถามก่อนที่อีกฝ่ายจะได้พูดอะไรออกมา!!
(กำลังจะไปกินเหล้าบ้านลีออน มีไรคิดถึงเหรอ?)
“อื้อ ไปหาได้เปล่าวันนี้เฟลมอารมณ์ไม่ดี” ความจริงก็แค่เบื่อและยังไม่อยากกลับบ้าน
เพลิงตอบกลับแทนจะในทันที (มาดิ่ เดี๋ยวแชร์โลไปให้) น้องสาวคนเดียวเขาดูแลได้อยู่แล้ว!!
“โอเคค่ะ เจอกันจุ๊บ” พอได้รับคำตอบที่น่าพอใจ เฟลมก็รีบวางสายทันที
แม้จะถามออกไปแบบนั้นแต่ก็พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะเรื่องอะไร พี่เพลิงก็แทบจะไม่เคยขัดใจน้องสาวอย่างเธอเลยสักครั้ง
เฟลมขับรถไปตามพิกัดที่พี่ชายแชร์มาให้ในทันที ก่อนจะเข้าไปยังคฤหาสน์หลังงามที่มีรถหรูจอดอยู่เต็มไปหมด
เพื่อน ๆ ของพี่เพลิงก็ใช่ว่าเฟลมจะไม่รู้จัก ทุกคนล้วนนิสัย (เกือบจะ) ดี และเอ็นดูเธอราวกับเป็นน้องสาวคนหนึ่ง
“มาเร็วกว่าที่คิดอีกนะ พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าขับรถเร็ว” เพลิงเดินออกมารับทันทีที่เห็นรถของน้องสาวสุดที่รักขับเข้ามาจอด ก่อนจะบ่นด้วยน้ำเสียงดุ ๆ ที่ไม่จริงจังนัก
เรียวปากสวยคว่ำลงพร้อมกับกลอกตามองบน “เจอหน้าน้องก็บ่นเลยนะ” ยังไม่ทันจะได้ลงจากรถเลย
เพลิงนับว่ามีนิสัยคล้ายแม่มาก ถึงภายนอกเขาจะดูดุดันน่าเกรงขาม แต่กับน้องสาวเพียงคนเดียวเขากลับอ่อนโยนราวเธอเป็นตุ๊กตาตัวน้อยที่แสนจะบอบบางของเขา
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องใบหน้าความหล่อของเพลิงนับว่าได้พ่อมาแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาสีดำประกายเทาดูลุ่มลึกน่าค้นหา เรียวปากหยักได้รูปรับกับใบหน้าคมสไตล์ลูกครึ่ง
ถ้าบอกว่าเพลิงเป็นรูปปั้นชิ้นเอกของพระเจ้าก็คงไม่ผิด!!
ต่างจากเฟลมเพราะแม้จะได้ดวงตาดุคมของพ่อมา แต่นัยน์ตาสีน้ำตาลกลับได้แม่มาแบบเต็ม ๆ
ถ้าดูผ่าน ๆ ก็อาจจะคมคายคล้าย ๆ กับพ่อ แต่ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นความบ้องแบ๊วบนใบหน้าที่แม่ได้แอบซุกซ่อนเอาไว้อยู่เหมือนกัน
“เป็นห่วงน่ะถึงบ่น พี่มีน้องสาวคนเดียวนะ” เพลิงพูดพร้อมกับโยกหัวน้องสาวจอมดื้อด้วยความเอ็นดู
“รีบมีเมียสักที จะได้ไปห่วงเมียแทนน้องบ้าง” เสียงหวานค่อนขอดพี่ชาย ก่อนจะสวมกอดด้วยความคิดถึง
ตั้งแต่ที่เพลิงเข้ามารับตำแหน่งแทนพ่อที่ได้วางมือไป เขาก็ยุ่งจนแทบจะไม่มีเวลาได้กลับบ้านเลย!!
ทั้งสองเดินเข้าไปยังห้องรับแขกหรูที่ถูกตกแต่งเป็นบาร์ มันมีไว้เพื่อปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ที่บ้านโดยเฉพาะ
“น้องเฟลม พี่คิดถึงน้องเฟลมมากเลย” เรนเดลทักขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้ามาทำท่าจะกอดเธอ
ปั้ก!!
เรียวขาที่แข็งแกร่งของเพลิง ยกขึ้นถีบเพื่อนสนิทเต็มแรง ก่อนที่มันจะเข้ามาถึงตัวน้องสาวเขา!!
“ไอ้เชี่ยเพลิง!! บั้นเด้ากูหักหมดแล้วมั้ง” เรนเดลบ่นอุบ พร้อมกับลูบสะโพกที่เพลิงได้ฝากฝังรอยเท้าไว้ให้เป็นที่ระลึก
“เห้ออ! มึงก็รู้ว่ามันหวงน้อง ยังจะไปกวนบาทามันอีก” อาเธอร์ที่นั่งอยู่ตรงบาร์เครื่องดื่มพูดพลางส่ายหัวเบา ๆ ให้กับความกวนประสาทของเพื่อน
“กูไม่ได้หวงน้อง แต่สันดานแบบมึงมันไม่น่าไว้ใจ” เพลิงปฏิเสธเสียงแข็ง
“นั่นแหละเขาเรียกว่าหวง!!” ออสตินผู้เป็นเจ้าของบ้าน พูดพลางวางอาหารที่มือลงบนโต๊ะ
ทั้งสามคนเป็นเพื่อนสนิทของพี่เพลิงที่ร่วมกันทำธุรกิจสีเทามาด้วยกัน ถ้าเท่าที่รู้ก็พวกคลับบาร์สนามแข่งอะไรทำนองนี้ พี่เพลิงไม่เคยเล่าให้ฟังอย่างจริงจังและเธอเองก็ไม่ได้สนใจอะไร
เฟลมทักทายและนั่งดื่มกับพวกพี่ ๆ ด้วยท่าทีที่สนิทสนม ถึงจะไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนักแต่ก็รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เพราะเมื่อก่อนเพื่อน ๆ ของพี่เพลิงมักจะไปนอนค้างที่บ้านบ่อย ๆ
“หวงขนาดนี้ผู้ชายที่ไหนจะกล้ามาจีบน้องมึงวะไอ้เพลิง” เรนเดลเอ่ยถาม เพราะตั้งแต่สมัยเรียน ผู้ชายที่เข้ามาเกาะแกะเฟลมก็สลบคาตีนของเพลิงไปซะทุกราย
“ถ้าเจอคนดี ๆ ก็ไม่ได้หวง กูแค่ไม่อยากให้เฟลมต้องเสียใจเพราะเจอคนเหี้ย” เขาตวัดสายตาไปมองหน้าเรนเดล “แบบมึง”
“จะให้น้องมึงมีผัวเป็นพระเหรอ?” ออสตินถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไอ้ติน!! ปากมึงยื่นเข้าประตูนรกแล้ว” อาเธอร์ผู้เคร่งศาสนารีบพูดขึ้นมาทันที
“อย่าว่าแต่เฟลมเลย พี่เพลิงไม่คิดจะมีสาวบ้างรึไง?” หลังจากที่ฟังบทสนทนาของพี่ ๆ อยู่นาน เฟลมก็หันไปถามพี่ชายตัวเองด้วยความสงสัย
“ใครว่ามันไม่มี ไอ้นี่มันซุ่ม” เรนเดลพูดขึ้น ทำเอาเพลิงตวัดสายตาดุไปมองอย่างคาดโทษ
“แหม!! ไม่พามาเปิดตัวบ้างเลยนะเฮีย” ใบหน้าสวยยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “ตระกูลอัครเดช ใกล้จะมีทายาทไว้สืบสกุลแล้วเหรอ”
“เพ้อเจ้อ ไม่มีโว้ย!!” เพลิงรีบยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหาย เมื่อโดนสายตาจับผิดของน้องสาวคาดคั้น
คิดจะโกหกใครก็โกหกไป แต่กับน้องสาวที่คลานตามกันมาอย่างเธอไม่มีทางที่จะดูไม่ออก เฟลมที่เห็นพี่ชายเสียอาการจนใบแดงฉานลามไปยันลำคอเลยไม่อยากจะถามอะไรต่อ
เพราะเมื่อถึงเวลาก็คงจะพามาเปิดตัวเอง!!