ตอนที่ 3
มะลิเรียก หากมีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมาหล่อนจอดรถจักรยานพิงไว้กับต้นไม้ใหญ่ใกล้ที่พักคนงาน จากนั้นก็เดินอ้อมมาทางด้านหลัง แต่ก็ไม่เห็นใคร
มะลิตัดสินใจเดินกลับมาเคาะประตูตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกดัดแปลงสภาพเป็นห้องพัก แต่ก็ไม่มีใครอยู่
ทว่าในระหว่างที่ยืนรั้งรออยู่ครู่สั้นๆ กำลังตัดสินใจว่าจะกลับ พรุ่งนี้เช้าค่อยมาใหม่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงผิวปาก ดังแว่วออกมาจากแผ่นสังกะสีที่ถูกตีโอบเป็นห้องน้ำ
มะลิตัดสินใจก้าวไปตามทิศทางที่มาของเสียงผิวปาก เท้าเล็กๆ ก้าวย่างออกไปตามถนนโรยกรวดเส้นเล็กๆ ตรงหน้า รู้สึกได้ถึงเม็ดกรวดทรายจากการก่อสร้างที่เสียดสีอยู่ใต้พื้นรองเท้า กระทั่งถึงที่หมาย
มะลิหยุดฟังเสียงซึ่งคล้ายกับว่ามีใครสักคนกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่เบื้องหลังแผ่นสังกะสี
และด้วยความอยากรู้ มะลิตัดสินใจชะโงกใบหน้าเข้ามาระหว่างรอยห่างของแผ่นสังกะสีเก่าคร่ำ
ครั้นแล้วก็ต้องตกใจแทบช็อก กับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า เมื่อพบว่ามีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ สีผิวน้ำตาลเข้มอาบเลื่อมไปด้วยฟองสบู่ เนื้อตัวของเขาเปลือยเปล่าล่อนจ้อน
‘โอ้ว… นายเดช’
มะลิรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร ภาพเรือนร่างกำยำไปด้วยมัดกล้ามของนายเดช สะดุดตาหล่อนอย่างแรง ผู้ชายคนนี้เซ็กซี่นัก ที่แผงอกของนายเดชปกคลุมไปด้วยเสียขนสีดำเป็นแพกว้าง เลื้อยลามเป็นแนวลงมาที่กล้ามท้องเป็นลูกลอนซิกแพ็ค และตอนที่เขาเอี้ยวกายเอาขันตักน้ำในแกลอนมาราดศีรษะ ทำให้มะลิเห็นอวัยวะเพศยาวใหญ่ เหวี่ยงไหวลงมาถึงต้นขา
‘โอ้แม่เจ้า… ’
‘ใหญ่มาก’ มะลิอุทานอยู่ในความคิด ความเป็นชายของนายเดช ทำเอาหล่อนตกใจแทบช็อก สิ่งที่เคยคิดว่าจะมีอยู่แค่ในบรรดาพระเอกหนังโป๊เท่านั้น วันนี้ได้มาเห็นของจริงเต็มตา… ใหญ่ยังกับแขนเด็ก
‘คุณพระ… ’
สิ่งที่เห็นทำเอามะลิยกมือขึ้นทาบอก นายเดชกำลังเอาสบู่มาลูบไล้ขัดถูจรวดดุ้นใหญ่ หงายอุ้งมือ ลูบล้วงเข้ามาที่หว่างขา ตะล่อมพวงเพศอลังการของตัวเอง เอามาขัดถูด้วยสบู่
มะลิตกใจ ใจเต้นแรง เหงื่อซึมออกมาจากมือที่กำแน่น หากก็มองตาไม่กะพริบ เห็นแก่นกายสีน้ำตาลคล้ำ ดุจเดียวกับสีผิวของนายเดช กำลังเหวี่ยงไหว ส่าย สั่น ตามจังหวะเอี้ยวตัวเพื่อตักน้ำในแกลอนสีดำใบใหญ่ รดราดลงบนเรือนกายกำยำไปด้วยมัดกล้าม
นายเดชผิวปากหวือ ยังคงอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่ง… กำลังจับจ้องดูเขาอาบน้ำด้วยหัวใจเต้นระทึก
มะลิรู้สึกได้ว่าใบหน้าของหล่อนจู่ๆ ก็เกิดอาการร้อนวูบวาบ แก้มร้อนผะผ่าวกับภาพที่เห็น
ครั้นแล้วในนาทีที่ตัดสินใจว่าจะวิ่งกลับออกมาตามทางเดินเล็กๆ ด้วยความรู้สึกอับอายที่เผลอมองจนนายเดชอาบน้ำเสร็จ
ทว่าจู่ๆ เสียงเรียกที่ดังลั่นมาพร้อมกับประตูสังกะสีที่ถูกผลักออกมา
“คุณมะลิ…”
เจ้าของเรือนกายที่เกือบเปลือยเปล่า เพราะมีเพียงผ้าขาวม้าปิดบังส่วนที่ต่ำลงไปจากสะดือเอาไว้ นายเดชตกใจเช่นกัน ที่เห็นว่าเป็นหล่อน
“ฉัน… เอ่อ… ”
มะลิอ้ำอึ้ง หล่อนพูดอะไรไม่ออก ตกใจจนไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ไม่อาจซ่อนอาการใบหน้าแดงซ่านจากสายตาของไอ้เดช มันหรี่ตามองหล่อนด้วยความสงสัย เดาว่ามะลิน่าจะเห็นของดีเข้าแล้ว
“คุณมะลิมาทำอะไรแถวนี้ครับ”
ไอ้เดชถามเสียงหวาน มะลิอึกอัก
“ฉัน… เอ่อ… ”
มะลิสูดหายใจแรง สิ่งที่เห็นเมื่อครู่ ทำเอาหล่อนลืมไปเลยว่าจะมาทำอะไร กระทั่งนึกได้จึงรีบบอก
“เสี่ยสั่งให้ฉันมาจ่ายค่าแรง… ก็เห็นว่าไม่มีใคร เลยเดินอ้อมมาทางด้านหลัง”
มะลิรีบบอกธุระของหล่อน สีหน้ากังวลว่านายเข้มจะรู้ว่าหล่อนแอบดู
“งั้นเชิญข้างในครับ”
นายเดชผายมือไปยังตู้คอนเทนเนอร์ เหลือบมองเมฆฝนกลุ่มใหญ่ที่เริ่มโปรยเม็ดลงมา
“ข้างใน… ทำไมต้องเข้าไปข้างใน”
“ก็จะได้นั่งคุยกันสะดวกครับ… ฝนกำลังจะตกแล้วด้วย เข้ามาหลบฝนก่อนนะครับ”
“คุย… เอ่อฉันไม่มีอะไรจะคุย”
มะลิกลัว
“แต่ผมมีบางอย่างสงสัยเกี่ยวกับงาน”
ไอ้เดชไม่ยอมปล่อยให้หล่อนกลับง่ายๆ
“ไว้รอถามเสี่ยดีกว่า… เรื่องงานของผู้ชายฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
มะลิรีบปฏิเสธ
“โถ… ผมน่ากลัวขนาดนั้นเชียวหรือ… ทำไมคุณมะลิกลัวผม?”
ไอ้เดชหันมามองมะลิ หล่อนมองสู้ตา เกิดอาการท้าทายกันอยู่ในที
“ทำไมฉันจะต้องกลัวนาย”
มะลิเชิดหน้าถาม
“ถ้าไม่กลัว… งั้นก็เข้ามาสิครับ”
ไอ้เดชผลักประตู เดินนำเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ ไม่รู้อะไรดลใจให้มะลิก้าวตามเข้าไป
“นั่งก่อนสิครับ”
นายเดชผายมือไปยังโซฟา มะลิทรุดร่างลงนั่งบนโซฟาตามคำเชิญ