ตอนที่5 .3.
ท่านพบบอส มิโนทอร์
Class 4 Lv. 492 ค่ะ
“เอิ่มมมม ไงพวก หวัดดี.......” ผมยิ้มให้บอสมิโนทอร์อย่างกวนๆ ราวกับมันรู้ความหมายที่ผมสื่อ มันเหวี่ยงขวานยักษ์เป็นเส้นตรงฟาดผ่านตัวผมลงลงมา ผมเห็นดังนั้นก็เบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อหลบมัน จากนั้นใช้ดาบกระแทกขวานยักษ์ของมันกลับไป สำหรับผมแล้ว บอสมิโนทอร์ตัวนี้ไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่นัก แต่ที่ผมต้องสู้อย่างระวังก็เพราะดาบของผมกำลังจะพังแล้วน่ะสิ ผมเบี่ยงตัวหลบการโจมตีของมันเนื่องจากไม่อยากเอาดาบรับตรงๆ เมื่อเบี่ยงระยะการทำลายของขวานมันได้ ผมจึงเหวี่ยงดาบยักษ์ของผมใส่ที่คอของมันทันที แต่ทว่าแทนที่คอของมันจะขาด ดาบของผมกลับทนพลังโจมตีที่ผมส่งผ่านดาบไปไม่ไหว และดันพังก่อนถึงคอของบอสมิโนเทอร์ไปซะได้
เพล๊ง!!!.....
ผมถึงกับสบถถ้อยคำออกมาดัง Whatttt!!! มิโนทอร์มันเห็นผมยืนนิ่งอยู่แบบนั้นจึงอาศัยจังหวะที่ผมตกใจกับดาบที่พึ่งจะพังคามือไปไม่หาย มันเริ่มเหวี่ยงขวานเป็นแนวขวางเข้ามาทางด้านซ้าย ซึ่งผมไม่คิดจะหลบอยู่แล้วเพราะกำลังจะโชว์เทพวัดกับมันด้วยพลังกายดูซักหน่อย
แต่เอาจริงๆก็เป็นเพราะผมหัวเสียที่ไม่มีอาวุธให้ใช้อีกนั่นแหละ จะเอาอาวุธหลักมาใช้ก็จะเด่นเกินไปอีก จึงอยากจะซัดมันตรงๆก็เท่านั้นเอง แต่เหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าข้าง เพราะทันใดนั้นเองผมได้มองเห็นแสงอะไรแว๊บๆพุ่งมาจากทางด้านขวาของผมอย่างรวดเร็ว เมื่อระยะใกล้เข้ามาจึงรู้ว่าเป็นสาวสวย Guardian พุ่งผ่านหน้าผมไป ผมสีแดงอ่อนของเธอลอยปลิวไสวผ่านหน้าผมอย่างสวยงาม พร้อมกับกลิ่นหอมที่ลอยโชยมาแตะจมูกก่อนที่โล่ของเธอจะปะทะกับขวานของบอสมิโนทอร์เข้าอย่างจัง จากนั้นเธอก็ใช้ดาบในมือขวาฟันลงไปที่หน้าท้องของมันเป็นทางยาว และปิดท้ายด้วยการใช้สกิลโล่กระแทกบอสให้กระเด็นออกไปไกลพอสมควร
“เป็นอะไรมั้ยคะ!?” เธอหันมายิ้ม และพูดกับผมอย่างเป็นมิตร ผมยังคงมองใบหน้าเธอ และยังคงตะลึงกับความสวยน่ารักที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน แถมเธอยังมีท่าทีแข็งแรงดุดันอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนผู้หญิงคนไหนอีกด้วย
“เอ่อ...คุณคะ เป็นอะไรมั้ยคะ?” เธอย้ำถามอีกรอบเมื่อไม่ได้คำตอบจากบุคคลตรงหน้า ผมตกใจ และรีบออกจากภวังค์ความคิดของตัวเองทันที
“อ่อ ขอโทษครับ ผมไม่เป็นไร ขอบคุณที่มาช่วยนะครับ” ผมยิ้มตอบตามน้ำไป และโค้งให้เธอหนึ่งทีตามมารยาท ส่วนเธอก็โค้งตอบกลับมาเช่นกัน
“ไว้ผมจะตอบแทนการช่วยครั้งนี้ให้ทีหลังนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันช่วยด้วยความเต็มใจ ไม่ได้หวังอะไรซักหน่อยนี่คะ” เธอตอบด้วยหน้าเล่นทีจริง
“เถอะน่า ผมไม่ชอบติดหนี้ใคร แต่ก่อนอื่นช่วยกันกำจัดเจ้าบอสนั่นก่อนเถอะ” ผมพูดตัดบทไปทั้งแบบนั้น และเธอเองก็เห็นด้วยที่ต้องจัดการเจ้าบอสนั่นก่อนเป็นอับดับแรก
ผมพลางค้นดาบในคลังเพิ่มเติมเพราะพึ่งนึกได้ว่าตัวเองก็ฆ่ามอนสเตอร์ไปตั้งเยอะมันก็ต้องมีของบ้างอะไรดรอปมาบ้างสิ และแล้วผมก็เลือกดาบ Katana ระดับ B มาได้2เล่ม ที่ผมไม่เลือกคันธนูอาวุธคู่อาชีพของผมออกมาก็เพราะว่ากลัวพลังที่ผมปล่อยออกมามันจะ OP เกินไป แม้จะเป็นธนูระดับต่ำก็ตามที เมื่อเลือกอาวุธได้แล้ว ผมก็รีบเดินไปขนาบด้านข้างของเธออย่างเนียนๆ
“ลุยกันเถอะค่ะ ฉันไม่อยากเสียเวลาตรงนี้มากนัก เพราะตอนนี้มอนสเตอร์ได้พังประตูเข้าไปในเมืองได้เป็นบางส่วนแล้ว เดี๋ยวจะไปช่วยไม่ทันการ” เธอพูดขึ้น ผมก็พยักหน้าตอบรับคำทันที
ผมพลันพุ่งเข้าหาบอสอย่างรวดเร็วจนทำให้เธอคนนั้นทำสีหน้าตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นความเร็วของผม เธอปัดความคิดอื่นออกจากหัว และพุ่งตามผมไปติดๆ เมื่อถึงตัวบอส ผมเริ่มฟันดาบเข้าที่ท้องของมันเป็นรูปกากบาท และกระโดดถอยออกมาอย่างรวดเร็ว มันไม่อาจตามความเร็วของผมได้ทันจึงโดนเล่นงานเอาง่ายๆแบบนี้ มิโนทอร์ร้องคำรามอย่างเดือดดานด้วยความเจ็บปวด และโมโหได้ไม่นาน มันส่ายหัวของมันไปมาก่อนจะวิ่งเข้าไปหาศัตรูของมันด้วยความเร็วเต็มกำลังทันที แต่ทางด้านสาว Guardian นั้นเตรียมตัวไว้เรียบร้อยแล้ว เธอเล็งจังหวะอย่างเหมาะสมก่อนจะพุ่งสวนเข้าปะทะกับบอสด้วยโล่ของเธอทันที
เกร๊ง!!!
“Reflective shield” เธอเรียกใช้ทักษะที่ทำให้สะท้อนการโจมตีของเป้าหมายเป็นเท่าตัว บอสมิโนทอร์ที่พึ่งได้รับผลจากทักษะต้องกระเด็นไปข้างหลังอย่างช่วยไม่ได้ มันโซซัดโซเซไปมาราวกับหมดเรี่ยวแรง ผมไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไป จึงพุ่งเข้าจัดการดับชีวิตของมันลงด้วยการโจมตีที่หนักหน่วง และรวดเร็วทันที
ฉิ้ง...ฉัวะๆๆ.....!!
“คุณเก่งจังเลยนะคะ บอสระดับขนาดนั้น ยังฟันแบบไม่ใช้สกิลอะไรเลยแต่กลับฆ่ามันได้อย่างไม่ยากเย็นนัก คงเป็นผู้เล่นระดับสูงจากทวีปหลักสินะคะ?” เธอยิ้มถามอยากสงสัย แม้บอสมิโนทอร์จะระดับไม่สูงมาก แต่เพราะมันอยู่ในทวีปเริ่มต้น จึงเป็นเรื่องยากในการจะหาใครที่สามารถสังหารมันลงได้อย่างง่ายดายแบบนี้ แม้กระทั่งตัวเธอเอง
ผมยิ้มแห้งๆกลับไปเท่านั้น และเริ่มถามคำถามด้วยท่าทางเขิลๆพร้อมกับหวังในคำตอบนั้น “ก็นะครับ ว่าแต่คุณชื่ออะไรหรอครับ?”
“ฉันชื่อ ลูน่า ค่ะ เป็นหัวกิลด์ ปักษาสวรรค์ แล้วคุณล่ะ?” เธอยิ้มตอบอย่างเป็นกันเอง
“ผม ภาคิน ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ไว้ผมจะหาทางตอบแทนคุณนะครับ” ผมยิ้มตอบกลับไป เธอก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน
“ก็ได้ค่ะ งั้นฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ ลูกกิลด์รายงานมาว่ามอสเตอร์เริ่มเข้าไปในเมืองเป็นจำนวนมากแล้ว คุณสนใจจะมาด้วยกันไหม ถ้ามีผู้เล่นระดับสูงแบบคุณมาช่วยคงจะช่วยได้เยอะเลย” เธอกล่าวคำชวนอย่างเรียบง่าย ผมเพียงยิ้มและพยักหน้าตอบแค่นั้น จากนั้นเราทั้งสองก็เริ่มสู้ และกำจัดมอนสเตอร์เป็นจำนวนมาก ทำให้เราเริ่มรู้จักกันดีขึ้นผ่านการต่อสู้
ตลอดระหว่างทางจากการต่อสู้ครั้งนี้ผมใช้ทั้งดาบคู่ ขวาน ดาบยักษ์ Katana บลาๆ ผมต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆเพราะดาบของผมทนทานพลังของผมไม่ไหว อีกทั้งยังไม่ได้ตีบวกเสริมพลังจึงทำให้พังง่าย ทางลูน่าเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่าผมมีอาชีพอะไรกันแน่ ถึงได้เปลี่ยนไปใช้อาวุธอื่นไปทั่ว แต่เธอก็ไม่ได้ถามออกมาแต่อย่างใด เพราะคิดว่าทุกคนคงมีเหตุผลของตัวเองอยู่เสมอ
เราทั้งสองรวมถึงผู้เล่น และทหาร NPC คนอื่นๆ สู้กับฝูงมอนสเตอร์เป็นหมื่นตัวนานกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว ซึ่งพวกมอนสเตอร์ก็ออกมาเรื่อยๆไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงเช่นกัน ทุกๆคนเริ่มเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนก็ยังไม่ยอมถอย ยังมีใจสู้กันตลอด เพราะมีหัวใจหลักของสงครามคือ ลูน่า เธอคอยช่วยเหลือ สั่งการ วางแผนต่างๆ ให้พวกเราได้เปรียบ ผู้คนในเมืองนี้จึงศรัทธา และเคารพรักในตัวผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างมาก รวมถึงตัวผมด้วย
และไม่นานเกินรอ สิ่งที่ทุกคนต่างกลัวก็มาถึงเมื่อจู่ๆบนท้องฟ้ากลับมืดครึ้ม แผ่นดินเริ่มสั่นไหว ผู้คนเริ่มสัมผัสถึงกลิ่นไอพลังที่เข้มข้นเป็นอย่างมาก แรงกดดันเริ่มเข้าถาโถมเหล่าผู้เล่นจนชวนอึดอัดหายใจลำบาก และทันในนั้นเองต้นไม้ในป่าข้างหน้าเมืองก็ ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามารวมตัวกัน มันเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างคล้ายกับคน และขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนใหญ่เท่ายักษ์ตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้
บอส Golems (ธาตุพืช) (Class 6) Lv.689ปรากฏตัวแล้วค่ะ