บท
ตั้งค่า

ตอนที่13 XI

ผมกับอัลเทียร์เราเดินไปยังร้านอาหารสุดหรูซึ่งเธอบอกว่าเป็นร้านอาหารของกิลด์เธอเอง ที่เลือกร้านอาหารแห่งนี้ก็เพราะเธอต้องการความเป็นส่วนตัว และความคุมสถานการณ์ต่างๆได้หากมีอะไรเกิดขึ้น แต่การที่มีราชันย์สองคนมาเดินเพ่นพ่านอยู่ข้างนอกแบบนี้มันเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ เพราะปกติแล้วพวกที่มีตำแหน่งสูงระดับนี้จะไม่ค่อยแสดงตัวให้เป็นจุดสนใจมากนัก ซึ่งทำให้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นกับการได้เห็นราชันย์มาเดินเที่ยวเล่นสบายใจแบบนี้ แต่ผมกับอัลเทียร์ก็ไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้เท่าไหร่นัก

“ให้ตายเถอะ ถึงซักที ไม่ชอบสายตาแบบนั้นเลยแฮะ” ผมพูดอย่างเบื่อหน่ายหลังจากที่ทนเดินมาถึงร้านอาหารสุดหรู เป็นร้านอาหารสไตล์ยุโรปขนาดใหญ่ มีการ์ดคุมประตูอยู่ 2 คน ทั้งสองคนมีสัญลักษณ์กิลด์ชัดเจนบ่งบอกว่าเป็นผู้เล่น

“ก็นะ มีที่ไหนกันที่ราชันย์จะบ้าออกมาเดินเล่นกันสองคนแบบนี้อะ คิคิ” เธอหัวเราะเล็กน้อย

“เข้าไปกันเถอะ”

“ยินดีต้อนรับครับนายหญิง” การ์ดเฝ้าประตูทั้งสองคนโค้งให้อัลเทียร์อย่างนอบน้อม

“น..นี่มัน! ราชันย์ แด...........” การ์ดสองคนตกใจจนอุทานชื่อราชันย์แดงออกมา แต่อัลเทียร์บอกให้เงียบไปซะก่อน จากนั้นพวกเราก็เข้าไปข้างในทันที เธอได้จองห้อง VIP เอาไว้แล้ว

“จะกินไรก็สั่งนะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” เธอพูดจบก็เรียกให้พนักงานให้เข้ามาทันที ผมสั่งอะไรเล็กน้อยตามมารยาทเท่านั้น ไม่นานเกินรออาหารที่สั่งทั้งหมดก็ถูกนำมาเสิร์ฟ

“ไม่คิดจะถอดหมวกเลยรึไงคะพ่อคุณ ไม่ต้องกลัวใครเห็นหน้าหรอก ห้อง VIP เป็นห้องส่วนตัว คนภายนอกไม่สามารถตวรจสอบได้หรอกนะ” อัลเทียร์บอกกับผม ผมได้ยินดังนั้นจึงยอมเปิดหน้าต่างระบบเพื่อถอดหมวกเหล็กออกทันที เผยให้เห็นใบหน้าบ้านๆแต่มีเสน่ห์ชวนหลงใหลไปอีกแบบ

“ท่าทางนายดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะ ชักจะหลงแล้วสิ” เธอพูดหยอกผมเล็กน้อย

“แหะๆ” ผมยิ้มอย่างเนือยๆ หลังจากกินอาหารกันเสร็จเราก็เริ่มคุยกันทันที

“เธอสร้างกิลด์แล้วหรอ?”

“ใช่แล้ว มาอยู่ด้วยกันมั้ยล่ะ?”

“ม่ายยย ตอนนี้ผมอยากมีอิสระมากกว่าน่ะ” ผมตอบตามตรง เพราะผมยังอยากใช้ชีวิตอิสระอีกซักหน่อย ส่วนเรื่องเข้ากิลด์ผมก็มีคิดๆว่าเหมือนกัน เผลอๆบางทีผมอาจจะสร้างกิลด์มาเองเลยก็ได้

“คิคิ ก็รู้อยู่แล้วล่ะนะว่านายคงไม่เข้า ระดับนายคงสร้างกิลด์ให้ยิ่งใหญ่ระดับแนวหน้าได้อยู่แล้วล่ะ”

“เหอะๆ ไว้ก่อนเถอะ ว่าแต่เธอรู้ข่าวเกี่ยวกับคนที่ปลอมตัวเป็นผมที่อาณาจักรอัคคีบ้างมั้ย?”

“ก็เคยได้ยินอยู่นะ เท่าที่ฉันรู้ คนที่ปลอมตัวเป็นนายมันเป็นหัวหน้ากิล Punishment รู้สึกว่ามันจะชื่อสุซาคุ นะ จะไปจัดการมันหรอ?” เธอบอกเท่าที่เธอรู้มาทันที ผมได้แต่นั่งนิ่งไม่พูดอะไร เธอจึงเริ่มพูดต่อ

“มันไม่ยาก แต่มันก็ไม่ง่ายหรอกนะ ภาคิน กิลด์ของมันเป็นกิลอันดับ 19 เชียวนะ ทั้งยังเป็นพันธมิตรกับกิลด์ อันดับ 1 อย่างกิลด์ Negative ซึ่งหัวหน้ากิลด์ก็ยังเป็น 1 ในพวกเราอีกด้วยนะ”

“ 1 ในพวกเรา ? ” ผมถามอย่างสงสัย

“คริส ราชันย์แห่งแสงไงล่ะ ว่ากันว่าเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดแล้วล่ะตอนนี้” อัลเทียร์ตอบผมพร้อมยกน้ำมาดื่มแก้กระหายหลังจากที่พูดเยอะไปหน่อย

“งั้นหรอ พวกที่ขึ้นมาแย่งตำแหน่งมาจากราชันย์คนก่อนสินะ ผมพอจะรู้เรื่องของพวกราชันย์จากข้อมูลที่หามาก่อนแล้วล่ะ คงยังไม่ไปหาเรื่องเร็วๆนี้หรอก ” ผมตอบด้วยสีหน้านิ่ง เธอได้แต่ยิ้มกับท่าทีที่ใจเย็นผิดปกติของผม เพราะหากเป็นผมเมื่อก่อนคงจะวิ่งเข้าหาเท้าโดยไม่สนเหนือสนใต้ไปแล้วตอนนี้

“แล้วนายคิดจะทำไรต่อ?” เธอถามผมขึ้นมา ผมครุ่นคิดอยู่ซักพักแล้วตอบเธอไป

“ก็คงจะไปทำภารกิจเลื่อนคลาสล่ะมั้ง เป็นถึงราชันย์แท้ๆแต่ระดับกลับน้อยกว่าผู้เล่นทั่วไปเยอะเลย ฮ่าๆๆๆๆ” ผมตอบพร้อมหัวเราะออกมา

“แหม๋ๆ ระดับน้อยก็ใช่ว่านายจะเก่งน้อยกว่าคนอื่นนะ ดูของที่นายมีสิโกงขนาดนั้น ไอเทมระดับ SSS มีคนได้ไม่มากหรอกนะตอนนี้อ่ะ อาจจะมีแค่ไม่กี่พันคนด้วยซ้ำจากคนเป็นล้าน” เธอพูดตามความจริงเพราะถึงแม้ว่าเกมจะเปิดมานานแต่ไอเทม ระดับ SSS ก็นับว่าหายากมากๆ และยิ่งเป็นไอเทมระดับ L คงไม่ต้องพูดถึงเลย อาจจะมีไม่ถึง 100 คนด้วยซ้ำที่มีไอเทมระดับนี้

“เอาน่า ระดับก็สำคัญใช่มั้ยล่ะ!?” ผมยิ้มอย่างร่าเริงไม่สนสิ่งที่อัลเทียร์พูดออกมา

“นายก็เป็นแบบนี้เสมอเลยนะ”

พวกเราพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆมากมาย รวมถึงรายละเอียดของพวกราชันย์คนเก่า และใหม่ที่ลึกยิ่งกว่าเดิม จึงทำให้รู้ว่า ราชันย์ในยุคนี้ไม่ได้รักใคร่ปรองดองกันแบบสมัยก่อนแล้ว เหลือเพียงแค่การแย่งชิงอำนาจกันเพียงเท่านั้น

“เอาล่ะ ผมไปก่อนนะ ไว้พบกันใหม่นะครับ” ผมพูดขึ้นพร้อมลุกออกห่างจากโต๊ะกินข้าว

“มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ เจอกันนะจ๊ะ” อัลเทียร์พูดขึ้นพร้อมโบกมือลา

“ขอบคุณสำหรับอาหารนะ” ผมพูดจบใช้สกิล ‘Wind walk’ และเปิดระเบียงข้างหลังพุ่งออกไปออกไปอย่างรวดเร็ว

“ตัวป่วนอย่างนายกลับเข้ามาเล่นอีกครั้งคงมีอะไรที่น่าสนุกแน่ๆ” อัลเทียร์ยิ้มมองตามแผ่นหลังผมที่กระโดดออกนอกหน้าต่างไป

ตอนนี้ผมกำลังมุ่งหน้าไปยังอาคารภารกิจเพื่อรับภารกิจเลื่อนคลาสโดยไม่ลืมที่จะเปลี่ยนชุดเป็นชุดเกราะระดับ A ครบเซตดังเดิม อาคารรับภารกิจเป็นอาคารขนาดใหญ่คล้ายบาร์เหล้า มีผู้คนสัญจรเข้าออกกันอยู่ตลอดเวลา ผู้คนคุยกันอย่างออกรสเสียงดัง บ้างก็มีเรื่องกันบ้างเป็นเรื่อธรรมดา ผมเดินเข้าไปอย่างปกติพยายามไม่ให้เป็นจุดเด่น จากนั้นจึงเดินตรงไปด้านหน้าเคาน์เตอร์ มีพนักงานสาวสวยยืนยิ้มอย่างสดใสคอยตอนรับผู้เล่นอยู่

“เอ่อ ขอโทษนะครับ พอดีมาติดต่อเรื่องภารกิจเลื่อนระดับน่ะครับ” ผมเอ่ยถามพนักงานสาวทันที

“ค่ะ ดิฉันขออนุญาตตรวจสอบข้อมูลของผู้เล่นซักพักนะคะ” เธอพูดยิ้มแย้ม จากนั้นเธอพลันกดอะไรบ้างอย่างตรงหน้าของเธอ คาดว่าคงกำลังตรวจสอบข้อมูลของผมอยู่ ผมรอเธอได้ไม่นาน

หลังจากเธอตรวจสอบข้อมูลเสร็จก็เงยหน้ามาคุยกับผมต่อ “ขอโทษที่ให้รอค่ะ เงื่อนไขของผู้เล่น ภาคิน ครบถ้วนค่ะ โปรดตรวจสอบรายละเอียดการทำภารกิจได้ที่หน้าต่างภารกิจได้เลยนะคะ”

ตึ้งงง...

พนักงานสาวพูดจบก็เกิดเสียงเตือนจากระบบดังขึ้นในหัวผม ผมไม่รอช้าเปิดหน้าต่างภารกิจขึ้นมาตรวจสอบทันที

ผู้เล่นได้รับภารกิจเลื่อนระดับคลาส 8 ค่ะ

ผู้เล่นถูกเชิญไปยังมิติพิเศษเพื่อทำภารกิจค่ะ

เมื่อพร้อมแล้วผู้เล่นสามารถวาปไปยังมิติพิเศษได้ที่หน้าต่างภารกิจทันทีค่ะ

(สามารถลงเป็นปาร์ตี้ได้ เจ้าของภารกิจห้ามตายโดยเด็ดขาด หากตายจะต้องลงใหม่อีกครั้งเท่านั้น)

‘หืม จะยากรึป่าวนะ ไม่มีข้อมูลด้วยสิ’ ผมคิดในใจพร้อมมองไปยังหน้าพนักงานสาวที่ยิ้มอย่างร่าเริง ผมเลยลองถามข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจเลื่อนคลาสดู “เอ่อ ไม่ทราบว่าภารกิจเลื่อนคลาสในมิติพิเศษนี้ยากรึป่าวครับ?”

“ก็ยากพอควรนะคะ มอนสเตอร์ข้างในจะปรากฏตัวออกมาเป็นเวฟ มีทั้งหมด 4 เวฟโดยแต่ละเวฟจะสุ่มมอนสเตอร์ออกมาให้กำจัดค่ะ ส่วนมากจะลงเป็นปาร์ตี้เพื่อง่ายต่อการเคลียร์ แต่หากคนลงด้วยยิ่งเยอะยิ่งทำให้มอนสเตอร์ที่ปรากฏออกมาจะแข็งแกร่งขึ้นตามจำนวนคนที่ลงนะคะ” พนักงานสาวตอบอย่างไม่ปิดบัง เพราะภารกิจเลื่อนคลาสจะคล้ายกันหมด ข้อมูลพวกนี้ผู้เล่นจึงนำมาแชร์กันอยู่ตลอดเวลา

“ขอบคุณนะครับ” ผมยิ้มขอบคุณให้กับพนักงานสาวที่ยอมเสียเวลาตอบคำถามของผม เธอยิ้มตอบพร้อมโค้งตัวให้ผมเล็กน้อย

ผมเดินออกมาจากอาคารรับภารกิจ จากนั้นตรงไปที่ธนาคารเพื่อเอาของใช้ที่จำเป็นรวมถึงชุดเกราะระดับที่สูงกว่านี้ที่ฝากไว้กับธนาคาร

(ส่วนใหญ่ผู้เล่นจะนิยมฝากของที่จำเป็นไว้ที่คลังของธนาคาร เพราะลดความเสี่ยงจากการตายที่จะสูญเสียของบางส่วน)

หากยังใช้ชุดเกราะระดับ A ลงทำภารกิจเลื่อนคลาสเกรงว่าจะใช้เวลานานเกินไป ผมจึงอยากหาชุดเกราะอย่างน้อยก็ระดับ S มาใช้ จะได้ลงดันได้สบายมากขึ้น ผมไม่อยากพึ่งพาของที่ผมมีอยู่ตอนนี้มากเนื่องจากมันจะโกงเกินไป ผมอยากจะพัฒนาฝีมือโดยไม่พึ่งพาของมากนัก หากภายภาคหน้าหากไร้ซึ่งของระดับสูงแล้ว ถึงตอนนั้นผมคงยืนด้วยตัวเองไม่ได้

ธนาคารแห่งนี้เป็นตึกสูงเกือบ 10 ชั้น มีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับคนจำนวนมากๆได้อย่างทันท่วงที ผมเดินเข้าไปหาพนักงานตอนรับสาวสวยที่ประจำอยู่ตรงเคาท์เตอร์ทันที

“เออ.....สวัสดีครับ ผมขอเข้าห้องคลังส่วนตัวของผมได้มั้ยครับ?” ผมเอ่ยถามพนักงานด้วยความสุภาพ

“ออค่ะ รอซักครู่นะคะ ดิฉันของตรวจดูข้อมูลของคุณก่อน” เธอพูดพร้อมก้มเช็คอะไรบางอย่างก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาคุยกับผมต่อ

“เรียบร้อยนะคะ ไม่ทราบว่าคุณผู้เล่นต้องการที่จะอัพเดทระบบคลังเพื่อง่ายต่อการใช้งานรึป่าวคะ?” พนักงานสาวสวยพูดอย่างยิ้มแย้ม “เนื่องจากแพทใหม่ทำให้ผู้เล่นสามารถพกกุญแจมิติคลังเก็บของได้โดยที่กุญแจมิติจะผูกมัดกับตัวของผู้เล่น เพื่อให้สะดวกต่อผู้เล่นค่ะ ไม่ทราบว่าผู้เล่นต้องการอัพเกรดรึเปล่าคะ?”

“ได้ครับ รบกวนด้วยนะ ขอบคุณครับ” ผมตอบตกลง เธอใช้เวลาไม่นานก่อนจะยื่นกุญแจมิติที่ใช้เปิดคลังเก็บของให้ทันที หลังจากนั้นผมเดินออกมาจากธนาคาร และไม่รอช้าผมเริ่มใช้กุญแจมิติวาปเข้าไปในคลังอย่างรวดเร็ว

วูบบบบ...

ผมถูกวาปเข้าไปในคลังมิติ ภายในเป็นห้องโถงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มีชั้นวางของรอบห้องเพื่อวางไอเทมให้เป็นระเบียบเรียงลำดับตามระดับของไอเทมโดยแบ่งเป็นโซนๆไป ผมเดินไปยังโซนเก็บไอเทมระดับ S มีไอเทมจำนวนไม่น้อยวางอยู่บนชั้นวาง ผมเดินดูไอเทมต่างๆอยู่พักหนึ่งไม่นานก็เลือกได้ ชุดที่ผลเลือกคือชุดเซตปีศาจเพลิงทมิฬ+10 พร้อมคันธนูเพลิงนิลกาฬ+10 และสวมใส่มันทันที

ผมในตอนนี้อยู่ในชุดเซตปีศาจเพลิงทมิฬ+10 มีออร่าเป็นเอฟเฟคที่เป็นผลมาจากการอัพเกรดถึง+10 ซึ่งเอฟเฟคนี้จะมีเฉพาะไอเทมชุดเซตระดับ S ขึ้นไปเท่านั้น ชุดเกราะของผมมีออร่าสีดำแผ่ออกมาอ่อนๆแล้วค่อยๆขยายความเข้มไปเรื่อยๆ และลดลงมาสลับกันอยู่ตลอด ทำให้ผมในตอนนี้ดูน่ากลัวเป็นพิเศษดุจมัจจุราชจากขุมนรกก็ไม่ปาน ผมเดินเลือกของใช้จิปาถะที่จำเป็นออกมาอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นจึงวาปกลับออกไปข้างนอกทันที

วูบบบ....!!!

ผมกลับมายืนอยู่หน้าธนาคารซึ่งเป็นที่ที่ผมวาปเข้าไปในคลังมิติ ผู้เล่นรอบข้างต่างตกใจกับการปรากฏตัวของผมอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และเมื่อผมกวาดสายตามองโดยรอบอย่างช้าๆ ยิ่งสร้างความน่าหวั่นเกรงยิ่งขึ้นไปอีก

“เห้ยแก ดูผู้ชายคนนั้นสิ สวมชุดหน้ากลัวเป็นบ้าเลย”

“คงเป็นผู้เล่นระดับสูงแน่เลยอะแก อย่าไปยุ่งเลยเดี๋ยวก็ถูกฆ่าเอาหรอก”

“ไอ่หมอนี่มันเป็นใคร สังกัดกิลด์ไหนกันนะ ทำไมไม่คุ้นเลย”

“หูยย ใครอะแก เท่เป็นบ้าเลย”

“บลาๆๆๆ”

.

.

สารพัดคำสนทนาที่ผมได้ยินจนผมเอือมละอา ผมไม่อยากตกเป็นเป้าสายตานานจึงรีบใช้ทักษะล่องหนพร้อมเดินออกไปให้พ้นจากที่นี่ไปทันทีท่ามกลางความตกใจของผู้พบเห็น

“เฮ้อออ เซงเป็นบ้า ไม่น่าเลือกชุดที่ตกเป็นเป้าสายตาแบบนี้มาเลย” ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาขณะที่นั่งห้อยขาอยู่บนกำแพงเมือง

“รีบทำภารกิจให้จบๆไปดีกว่า จะได้มีเวลาทำอย่างอื่นบ้าง” ผมพูดลอยๆออกมา พร้อมกดหน้าต่างภารกิจ และกดวาปไปยังมิติพิเศษทันที

วูบบบ....!!

ผมถูกวาปมายังสถานที่อันหนาวเหน็บ มือทั้งสองถูกันไปมาเพื่อเพิ่มความอบอุ่นพร้อมหันมองดูพื้นที่โดยรอบ รอบตัวผมเป็นพื้นที่โล่งกว้างมีหิมะปกคลุมอยู่หนาพอสมควร มีหิมะเม็ดเล็กๆตกอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศรอบตัวหนาวเย็นมาก ผมถึงกับต้องเร่งออร่าธาตุไฟเล็กน้อยให้ปกคลุมทั่วร่างเพื่อเพิ่มความอบอุ่นแก่ตนเอง

ท่านได้เข้าสู่มิติพิเศษสำหรับการทำภารกิจเลื่อนคลาสที่ 8 แล้วค่ะ

ตอนนี้เวฟที่ 1 กำลังจะเริ่มขึ้น ขอให้ผู้เล่นเตรียมตัวด้วยค่ะ

10

9

8

.

.

3

2

1

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel